คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 5
เอกขมวดคิ้วยุ่งมองต้นไม้ที่ขึ้นเป็นรอยกรงเล็บข่วน มันก็อยู่ของมันดีๆไปทำให้มันมีตำหนิทำไมกัน จะว่าอยากก่อกวนมันก็ไร้มารยาทไปสักหน่อย
เขาลูบมือลงบนต้นไม้นั้นอย่างอ่อนโยน ทำเอาคนที่มองอยู่รู้สึกเคลิ้มไปด้วยเลย…
“พี่เอก...”
“หือ?”
“...” เรียกแล้ว จะพูดก็ไม่กล้าพูด
“ผมขอโทษที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง”
“ไม่หรอก ถึงตอนนั้นจะไม่ใช่นายที่โดนมันก็ไม่ต่างกันอยู่ดี สิ่งสำคัญคือนายยังมีชีวิตอยู่ต่างหาก” กล้าสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนในคำพูดนั้น แต่ดวงตาของพี่เอกก็ดูเหม่อเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่...มันดูไกลแสนไกล
รู้สึกแปลกๆในใจเล็กๆแฮะ
.
.
.
เจมส์กำลังนั่งทำหน้าเศร้าดูหงอยๆ ทำให้ทั้งบ้านรู้สึกหดหู่ไปด้วย เหตุเพราะเจ้าแมวที่ปกติทั้งดื้อทั้งซนเอาแต่กำหมัด...มันป่วย ทำให้เจ้าของมันดูเหมือนจะป่วยตามไปด้วย
“ไม่เป็นไรน้าๆ” โปเต้เดินไปนั่งข้างๆเพื่อนก่อนจะลูบหัวปลอบและคนโดนลูบก็เอนหัวพิงทำตัวเหลวๆไม่มีแรงแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
“เดี๋ยวผมพามิ้งกับเจมส์ไปหาหมอเอง” โปเต้อาสา เพราะคงปล่อยเพื่อนของเขาไปเองไม่ไหวแน่ ทุกคนก็เห็นด้วยกัน และอีกอย่างจะไปกันหมดก็ใช่เหตุ เนื่องจากกล้าไม่ควรออกไปช่วงนี้ด้วย
สองเพื่อนสนิทคนนึงซึมๆถือกล่องแมวเดินตามเพื่อนมาที่รถ อีกคนก็อาสาขับรถไปให้ ตลอดทางก็ต้องนั่งปลอบใจกันไปตลอด เจมส์ก็มีมุมน่ารักๆแบบนี้เหมือนกัน ไม่ได้เห็นบ่อยๆด้วย...ต่างกับตอนเด็กน่ะนะ
พอมาถึงโรงพยาบาลสัตว์ก็พาเจ้ามิ้งไปให้เขาตรวจดู
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เชื่อสิ มันแข็งแรงจะตาย” โปเต้พูด เจมส์พยักหน้ารับแต่ก็ยังเป็นห่วงเจ้าแมวอยู่ดี
โปเต้ยังคงลูบหัวปลอบเพื่อนไป มันนานแล้วจริงๆที่ไม่ค่อยได้ทำแบบนี้ ทำเอาคิดถึงช่วงตอนเด็กๆที่อีกฝ่ายนั้นชอบงอแงจนต้องให้คอยปลอบอยู่เสมอ
ปลอบเพื่อนไปก็เล่าเรื่องตลกๆไปด้วย มีขำบ้างแป้กบ้าง แต่ก็ช่วยให้สบายใจขึ้น และไม่กี่ชม.ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ออกมาแจ้ง
“มันไม่สบายนิดหน่อยค่ะ ให้พักที่นี่สักวันสองวัน มันก็น่าจะดีขึ้นแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” เป็นรอยยิ้มที่สดใสที่สุดของวันเลย จนเจมส์ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร
โปเต้กอดเพื่อนแล้วลูบหลังให้ยิ้มๆ ดีจริงๆ...เพราะถ้าเป็นอะไรขึ้นมา เขาก็ไม่อยากให้รอยยิ้มของเจ้าหมีน้อยนี่หายไปเท่าไหร่นัก :)
.
.
.
สถานการณ์ที่บ้านตอนนี้ เหมือนจะเริ่มมีการก่อกวนหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง… หากแต่ถ้าเกิดมากกว่านี้อาจจะมีเรื่องจริงๆก็ได้
วันนี้ก็เป็นวันที่เจมส์กับเต้ออกไปรับเจ้ามิ้งแล้ว เหลือก็แต่เอกกล้าแล้วก็พีที่อยู่บ้าน แม้จริงๆวันนี้เอกจะต้องออกไปที่บริษัทเพื่อทำงานก็ตาม...แต่แค่พีคนเดียวคงรับมือกับเจ้าพวกบ้านั่นไม่ไหว สงสัยเขาอาจจะต้องทำตามที่พ่อกับแม่บอกให้คนมาคอยคุ้มกันจริงๆซะแล้ว
กล้ากำลังนั่งเล่นเกมของเขาไปอย่างไม่คิดอะไร ตอนนั้นก็มีคนโทรเข้ามาพอดี
“ฮัลโหล?”
“สวัสดี อยู่สบายดีรึเปล่า” เหมือนไม่ใช่คำถามทั่วๆไปเมื่อฟังจากน้ำเสียงแล้ว
“คงสงสัยว่าฉันคือใคร นายคิดว่านายเคยอยู่เขตของใครล่ะ? อีกอย่างนะ...อย่าลืมครอบครัวไว้สิ หึๆ” ทำไมต้องหัวเราะหึๆวะ กลัวไม่รู้เหรอไงว่าเป็นตัวร้ายน่ะ แต่ถึงอย่างนั้นกล้าก็เริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆ รู้สึกตัวเองทำพลาดไป
“มาหาฉันสิ ค่ำวันพรุ่งนี้ เจอกันในป่าที่ๆนายเคยโดนล่า”
“แล้วก็...อย่าบอกใครล่ะ นายต้องมาคนเดียว”
สายตัดไปแล้ว ส่วนกล้าก็ไม่มีใจจะเล่นเกมต่อจึงได้ปิดคอม แล้วเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียง...ทำยังไงดีล่ะทีนี้ เครียดจะตายแล้ว
.
.
.
บรรยากาศในบ้านเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้วเมื่อเจ้าแมวมิ้งกลับมา ทุกคนดูสนุกสนานเฮฮา แม้กล้าจะทำตัวแปลกๆไปบ้างแต่ทุกคนก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร เพราะก่อนหน้าก็เคยทำตัวแบบนี้
ค่ำวันต่อมา
เมื่อเอกกลับมาจากทำงานแล้วก็เห็นทุกคนนั่งหน้าเครียดรวมกันอยู่ในห้องนั่งเล่น...ยกเว้นกล้า
เจมส์เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นก่อนจะส่งกระดาษบางอย่างมาให้แก่เขา
‘ป่าที่ผมโดนล่า’ เป็นข้อความสั้นๆแค่นั้น แต่เรียกความโกรธจากเอกได้มหาศาลนัก ทุกคนก็เริ่มเหงื่อตกเนื่องจากความกดดันของอัลฟาแท้
“ปัญญาอ่อนจริงๆ” เขาสบถออกมา ก่อนจะพยายามใจเย็น
“แจ้งไปที่คนอื่นๆให้รีบมาช่วย เดี๋ยวพวกเราจะไปกันก่อน”
“ครับ” ทุกคนรับปาก และเป็นพีที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรไปแจ้งคนของเรา
ขอให้ทัน อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นเลยด้วยเถอะ
พยายามปั่นให้ทันสุดๆ… ขอบคุณที่อ่านนะครับ และสำหรับใครที่เป็นเมนตาเอกเคะ ผมมีเรื่องเปิดใหม่เป็นคู่เจมส์เอกด้วย จิ้มๆเลยคร้าบ
ความคิดเห็น