คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 3
“เวรเอ๊ย! แผลพี่เอกหายช้ามาก ไม่คิดว่าพวกมันจะเล่นสกปรกขนาดนี้!” พีสถบอย่างหัวเสีย ร่วมมือกับพวกฮันเตอร์เพื่อมาฆ่าพวกเรา คิดอยู่แล้วเชียวว่ามันแปลกๆ เวรเอ๊ย เวร เวร เวร! เลือดไม่ยอมหยุดไหล!!
“ต้องมีคนตายให้พี่เอกกิน” เจมส์พูดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้าย และทุกคนก็ทำหน้าเครียดขึ้นไปอีก...ใช่
“ผมเองพี่ ยังไงเรื่องมันก็เกิดเพราะผม...”
.
.
.
.
.
หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านั้น
กล้าใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ในบ้านหลังใหญ่นี้มาสองสามวันแล้ว มันสงบเกินไปจนน่ากลัวเชียวล่ะ เนื่องจากเมื่อตอนเย็นวานพวกพี่ๆอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่ตอนนี้ให้ฟัง และนั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นภาระ…
“เป็นไรกล้า” พี่โปเต้มักจะคอยถามเขาอยู่ตลอดเวลาเลยจริงๆ ซาบซึ้งที่สุดจนอยากจะกอดนะแต่ว่า...กล้าเหลือบสายตาผ่านไปก็พบรังสีความหวงแผ่ออกมาจากพี่เจมส์เลย แรงจริงๆ
“แค่คิดเฉยๆว่าผมอยู่นี่ดีแล้วใช่ไหม...” เขาบอกออกไปอย่างกังวล
“คิดมากน่า ยังไงกล้าก็นับเป็นน้องพวกพี่แล้ว เรื่องแค่นี้” แต่นั่นก็ยังทำให้เขาคิดมากอยู่ดี
“กล้ามาเล่นเกมกับพี่มา จะได้หายคิดเยอะ” พี่พีอยู่ๆก็โผล่มาแล้วลากตัวกล้าไปทันที---เดี๋ย---ว บทจะตัดก็ตัดกันง่ายๆอย่างงี้เลยเรอะ???!!
เจมส์เดินไปยืนข้างเพื่อนสนิทก่อนจะตบบ่าเบาๆ
“ปกติที่จะคิดมาก”
“เข้าใจ แต่ว่า...ก็อยากช่วยสักนิด” ฝ่ามือของเพื่อนลูบลงบนหัวของโปเต้เบาๆ
“เอ็งก็อย่าคิดมาก ช่วยเท่าที่ช่วยได้”
“อืม…”
เย็นวันนั้น
พี่เอกมักจะออกไปแต่เช้าและกลับมาตอนเย็นๆใกล้มืดแบบนี้เสมอ กล้าลองถามพวกพี่ๆดูแล้วก็ได้คำตอบว่าพี่เขาออกไปทำงาน เพื่อเอามาเลี้ยงทุกคนในบ้านนี้...สุดยอดมากครับ
แม้จริงๆทุกคนจะทำงานกันหมดตามสไตล์ตัวเองก็ตาม แต่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่พี่แกจะเป็นคนออกเองและค้านจะช่วยออกก็ไม่ได้ด้วย
“พี่เอก”
“หืม?” เดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วนะครับ กล้าเรียก พี่เอกก็ตอบ
“เปล่าครับ อยากเรียก”
“กวนต--เหรอ” มีเซนเซอร์คำอัตโนมัติด้วย น่ารักเกิน พอได้แกล้งพี่แกแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน คนที่กวนแล้วสนุกที่สุดก็มีแต่พี่เอกนี่แหละ ขนาดทุกคนเองบางทีก็อยากแกล้งพี่เอกกัน ถึงส่วนใหญ่จะโดนเอาคืนจนไม่อยากแกล้งอีกเลยก็ตาม
“อยากกินขนมที่พี่เอกทำจัง” พูดลอยๆ นั่นกล้าพูดลอยๆบอกเลย แต่พอพูดไปแล้วก็ได้กินจริงๆ พี่เอกเป็นคนที่น่ารักมากๆๆเลยครับทุกคนน
ยิ่งมองก็ยิ่งเพลินแถมเสียงพี่เอกก็น่าฟังอีก ให้ฟังทั้งวันก็ไม่เบื่อ
ตัดภาพมาที่เจมส์กับโปเต้
“ถ้ามันแดกพี่เอกเข้าไปได้มันแดกไปแล้วตรูว่า” เจมส์มองน้องคนใหม่ที่พอพี่เอกมาก็เอาแต่กวนและตัวติดพี่เขาเป็นหมากระดิกหาง รอเจ้าของเล่นด้วย
“เห็นด้วยว่ะ” เป็นเพียงไม่กี่เรื่องที่โปเต้จะเห็นด้วยกับเจมส์ นี่ยังไม่นับเรื่องล่าสุดที่พวกเขาทะเลาะกันเรื่องใครจะได้กินขนมของพี่เอกชิ้นสุดท้ายด้วยนะ สรุปไอ้น้องพีก็มาหยิบไปกินต่อหน้าจนต้องร่วมมือกันวิ่งไล่เตะ
“ผมว่าแล้วมันแปลกๆ”
“เชี่ย! โห่ น้องพี โผล่มางี้นึกว่าผี”
“อ้าวพี่เจมส์ แหม กอดพี่โปเต้แน่นเขียวนะ” ได้ทีเอาใหญ่แล้วเดี๋ยวนี้
“ไอ้น้องพี ทีหลังมางี้ตรูเตะหน้าหงายนะเว้ย เห็นใจคนหนุ่มเหลือน้อยมั่ง”
“ฮ่าๆๆ ขอโทษพี่ ว่าแต่...ไอ้ขนมแมวที่พี่เก็บไว้อะ แมวพวกพี่เล่นละ”
“เฮ้ยมิ้ง!! / องค์หญิง!!”
.
.
.
เอกนั่งเอนหลังพิงโซฟาตัวเดี่ยวอย่างผ่อนคลายก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักสายตา…
‘ท่านพี่คะ…’ อยู่ๆก็นึกถึงความทรงจำในอดีตขึ้นมาได้
‘ท่านพี่รู้ใช่ไหมว่าเพราะพวกเราเป็นแบบนี้มันถึงน่าเศร้า’ อืม...เขารู้ดี
‘ได้โปรดอย่าเอาตัวเองเข้าไปเป็นคนสำคัญของใคร หรืออย่าได้เอาใครมาเป็นคนสำคัญของตัวเองเลย เราไม่อยากเห็นท่านพี่ต้องเจ็บปวด’
เขาลืมตาขึ้นก่อนจะมองไปยังเด็กๆ ไม่ว่าจะโปเต้ เจมส์ พี หรือว่ากล้า ทุกคนต่างกลายเป็นคนสำคัญของเขาและเขาเองก็อาจจะกลายเป็นคนสำคัญของพวกนั้นไปแล้วเช่นกัน
คำสัญญาที่ไม่อาจรักษาไว้ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งในโลกใบนี้ ต่อให้เป็นอมตะต่อให้มีชีวิตยืนยาวแค่ไหน ในใจก็ปรารถนาที่จะมีคนอยู่เคียงข้างไม่ให้เหงาอยู่ดี
“พี่เอก พี่เอกดูไอ้เจมส์ดิ้” เจ้าของชื่อเผลอยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว บ้านหลังนี้ที่เคยเป็นของเขาและเธอคนนั้น ตอนนี้มันไม่ได้เงียบเหงาอีกต่อไปแล้ว
.
.
.
กลางคืนแสนมืดมิด แม้แต่แสงจันทร์ยังไม่อาจสาดส่องให้ความสว่าง ที่หน้าบ้านหลังใหญ่มีกลุ่มคนสองกลุ่มกำลังมองจ้องกันอย่างเอาเรื่อง
“ผมจะถามอีกครั้งนะครับคุณเอก คุณช่วยส่งหมาของผมคืนมาได้ไหม?” นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผู้บุกรุกเอ่ยออกมา แม้จะฟังดูสุภาพหากแต่แฝงไปด้วยความไม่เป็นมิตร
“ไม่มีปากกันหรือไง” แต่เมื่อไม่มีการตอบรับ ความรู้สึกไม่ชอบใจก็เริ่มคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ
“เฮ้อ หมาจรจัดมันไม่มีที่ไปสินะ ถึงได้ชอบมาเห่าหน้าบ้านคนอื่น” เป็นพีที่พูดขึ้นลอยๆ ถ้าใครอยากรับก็รับไป
แต่ก็เพราะคำพูดนั้นแหละทำให้บรรยากาศมันมาคุมากกว่าเดิม
“จำไม่เห็นได้ว่าไปเอาหมาของใครมา แต่ถ้าถามถึงตัวที่เก็บได้ ก็เก็บได้แต่หมาที่โดนทิ้งเท่านั้น” เอกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ซึ่งเรียบจนอีกฝ่ายยังรู้สึกประหม่าและกระสับกระส่าย ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี
“วันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องสินะ งั้นผมคงต้องขอตัว” ว่าแล้วพวกมันก็เปลี่ยนกายเป็นหมาป่าแล้วออกวิ่งหายไป
“เหอะ เอามาซะเยอะ กะจะมาข่มกันรึไง” น้องพีว่าอย่างสะใจ แค่เล่นยังไม่กล้าเล่นแต่ยังมีหน้าเข้ามาในเขตคนอื่น
“ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้” เจมส์กล่าวเตือนน้องที่ใจร้อนในกลุ่ม
“เอาไงดีพี่เอก” โปเต้ถามความเห็นจากพี่ใหญ่สุด เจ้าตัวก็เงียบไปสักพักก่อนจะให้คำตอบ
“ฆ่ามันก่อนที่จะถูกฆ่า” แปลว่าถ้าใครล้ำเส้น ก็ฆ่าได้เลยไม่ต้องลังเล
รีบมาก่อนจะไม่มีแรงอัพ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีกำลังใจเลยครับ อังคารหน้าไม่แน่ใจว่าจะอัพไหม ขออภัยในความงอแงนี้ด้วยนะครับ
ความคิดเห็น