ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret Code WW #WeAreWWno1

    ลำดับตอนที่ #4 : 3

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 63




           “เวรเอ๊ย! แผลพี่เอกหายช้ามาก ไม่คิดว่าพวกมันจะเล่นสกปรกขนาดนี้!” พีสถบอย่างหัวเสีย ร่วมมือกับพวกฮันเตอร์เพื่อมาฆ่าพวกเรา คิดอยู่แล้วเชียวว่ามันแปลกๆ เวรเอ๊ย เวร เวร เวร! เลือดไม่ยอมหยุดไหล!!


           “ต้องมีคนตายให้พี่เอกกิน” เจมส์พูดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้าย และทุกคนก็ทำหน้าเครียดขึ้นไปอีก...ใช่


           “ผมเองพี่ ยังไงเรื่องมันก็เกิดเพราะผม...” 



           .


           .


           .


           .


           .



                 หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านั้น


           กล้าใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ในบ้านหลังใหญ่นี้มาสองสามวันแล้ว มันสงบเกินไปจนน่ากลัวเชียวล่ะ เนื่องจากเมื่อตอนเย็นวานพวกพี่ๆอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่ตอนนี้ให้ฟัง และนั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นภาระ…


           “เป็นไรกล้า” พี่โปเต้มักจะคอยถามเขาอยู่ตลอดเวลาเลยจริงๆ ซาบซึ้งที่สุดจนอยากจะกอดนะแต่ว่า...กล้าเหลือบสายตาผ่านไปก็พบรังสีความหวงแผ่ออกมาจากพี่เจมส์เลย แรงจริงๆ


           “แค่คิดเฉยๆว่าผมอยู่นี่ดีแล้วใช่ไหม...” เขาบอกออกไปอย่างกังวล


           “คิดมากน่า ยังไงกล้าก็นับเป็นน้องพวกพี่แล้ว เรื่องแค่นี้” แต่นั่นก็ยังทำให้เขาคิดมากอยู่ดี


           “กล้ามาเล่นเกมกับพี่มา จะได้หายคิดเยอะ” พี่พีอยู่ๆก็โผล่มาแล้วลากตัวกล้าไปทันที---เดี๋ย---ว บทจะตัดก็ตัดกันง่ายๆอย่างงี้เลยเรอะ???!!


           เจมส์เดินไปยืนข้างเพื่อนสนิทก่อนจะตบบ่าเบาๆ


           “ปกติที่จะคิดมาก”


           “เข้าใจ แต่ว่า...ก็อยากช่วยสักนิด” ฝ่ามือของเพื่อนลูบลงบนหัวของโปเต้เบาๆ


           “เอ็งก็อย่าคิดมาก ช่วยเท่าที่ช่วยได้”


           “อืม…”






                เย็นวันนั้น


           พี่เอกมักจะออกไปแต่เช้าและกลับมาตอนเย็นๆใกล้มืดแบบนี้เสมอ กล้าลองถามพวกพี่ๆดูแล้วก็ได้คำตอบว่าพี่เขาออกไปทำงาน เพื่อเอามาเลี้ยงทุกคนในบ้านนี้...สุดยอดมากครับ

           แม้จริงๆทุกคนจะทำงานกันหมดตามสไตล์ตัวเองก็ตาม แต่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่พี่แกจะเป็นคนออกเองและค้านจะช่วยออกก็ไม่ได้ด้วย


           “พี่เอก”


           “หืม?” เดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วนะครับ กล้าเรียก พี่เอกก็ตอบ


           “เปล่าครับ อยากเรียก”


           “กวนต--เหรอ” มีเซนเซอร์คำอัตโนมัติด้วย น่ารักเกิน พอได้แกล้งพี่แกแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน คนที่กวนแล้วสนุกที่สุดก็มีแต่พี่เอกนี่แหละ ขนาดทุกคนเองบางทีก็อยากแกล้งพี่เอกกัน ถึงส่วนใหญ่จะโดนเอาคืนจนไม่อยากแกล้งอีกเลยก็ตาม


           “อยากกินขนมที่พี่เอกทำจัง” พูดลอยๆ นั่นกล้าพูดลอยๆบอกเลย แต่พอพูดไปแล้วก็ได้กินจริงๆ พี่เอกเป็นคนที่น่ารักมากๆๆเลยครับทุกคนน


           ยิ่งมองก็ยิ่งเพลินแถมเสียงพี่เอกก็น่าฟังอีก ให้ฟังทั้งวันก็ไม่เบื่อ







           ตัดภาพมาที่เจมส์กับโปเต้


           “ถ้ามันแดกพี่เอกเข้าไปได้มันแดกไปแล้วตรูว่า” เจมส์มองน้องคนใหม่ที่พอพี่เอกมาก็เอาแต่กวนและตัวติดพี่เขาเป็นหมากระดิกหาง รอเจ้าของเล่นด้วย


           “เห็นด้วยว่ะ” เป็นเพียงไม่กี่เรื่องที่โปเต้จะเห็นด้วยกับเจมส์ นี่ยังไม่นับเรื่องล่าสุดที่พวกเขาทะเลาะกันเรื่องใครจะได้กินขนมของพี่เอกชิ้นสุดท้ายด้วยนะ สรุปไอ้น้องพีก็มาหยิบไปกินต่อหน้าจนต้องร่วมมือกันวิ่งไล่เตะ


           “ผมว่าแล้วมันแปลกๆ”


           “เชี่ย! โห่ น้องพี โผล่มางี้นึกว่าผี”


           “อ้าวพี่เจมส์ แหม กอดพี่โปเต้แน่นเขียวนะ” ได้ทีเอาใหญ่แล้วเดี๋ยวนี้


           “ไอ้น้องพี ทีหลังมางี้ตรูเตะหน้าหงายนะเว้ย เห็นใจคนหนุ่มเหลือน้อยมั่ง”


           “ฮ่าๆๆ ขอโทษพี่ ว่าแต่...ไอ้ขนมแมวที่พี่เก็บไว้อะ แมวพวกพี่เล่นละ”


           “เฮ้ยมิ้ง!! / องค์หญิง!!”



           .


           .


           .



           เอกนั่งเอนหลังพิงโซฟาตัวเดี่ยวอย่างผ่อนคลายก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักสายตา…


           ‘ท่านพี่คะ…’ อยู่ๆก็นึกถึงความทรงจำในอดีตขึ้นมาได้


           ‘ท่านพี่รู้ใช่ไหมว่าเพราะพวกเราเป็นแบบนี้มันถึงน่าเศร้า’ อืม...เขารู้ดี


           ‘ได้โปรดอย่าเอาตัวเองเข้าไปเป็นคนสำคัญของใคร หรืออย่าได้เอาใครมาเป็นคนสำคัญของตัวเองเลย เราไม่อยากเห็นท่านพี่ต้องเจ็บปวด’


           เขาลืมตาขึ้นก่อนจะมองไปยังเด็กๆ ไม่ว่าจะโปเต้ เจมส์ พี หรือว่ากล้า ทุกคนต่างกลายเป็นคนสำคัญของเขาและเขาเองก็อาจจะกลายเป็นคนสำคัญของพวกนั้นไปแล้วเช่นกัน


           คำสัญญาที่ไม่อาจรักษาไว้ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งในโลกใบนี้ ต่อให้เป็นอมตะต่อให้มีชีวิตยืนยาวแค่ไหน ในใจก็ปรารถนาที่จะมีคนอยู่เคียงข้างไม่ให้เหงาอยู่ดี


           “พี่เอก พี่เอกดูไอ้เจมส์ดิ้” เจ้าของชื่อเผลอยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว บ้านหลังนี้ที่เคยเป็นของเขาและเธอคนนั้น ตอนนี้มันไม่ได้เงียบเหงาอีกต่อไปแล้ว



           .


           .


           .



           กลางคืนแสนมืดมิด แม้แต่แสงจันทร์ยังไม่อาจสาดส่องให้ความสว่าง ที่หน้าบ้านหลังใหญ่มีกลุ่มคนสองกลุ่มกำลังมองจ้องกันอย่างเอาเรื่อง


           “ผมจะถามอีกครั้งนะครับคุณเอก คุณช่วยส่งหมาของผมคืนมาได้ไหม?” นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผู้บุกรุกเอ่ยออกมา แม้จะฟังดูสุภาพหากแต่แฝงไปด้วยความไม่เป็นมิตร


           “ไม่มีปากกันหรือไง” แต่เมื่อไม่มีการตอบรับ ความรู้สึกไม่ชอบใจก็เริ่มคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ


           “เฮ้อ หมาจรจัดมันไม่มีที่ไปสินะ ถึงได้ชอบมาเห่าหน้าบ้านคนอื่น” เป็นพีที่พูดขึ้นลอยๆ ถ้าใครอยากรับก็รับไป


           แต่ก็เพราะคำพูดนั้นแหละทำให้บรรยากาศมันมาคุมากกว่าเดิม


           “จำไม่เห็นได้ว่าไปเอาหมาของใครมา แต่ถ้าถามถึงตัวที่เก็บได้ ก็เก็บได้แต่หมาที่โดนทิ้งเท่านั้น” เอกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ซึ่งเรียบจนอีกฝ่ายยังรู้สึกประหม่าและกระสับกระส่าย ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี


           “วันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องสินะ งั้นผมคงต้องขอตัว” ว่าแล้วพวกมันก็เปลี่ยนกายเป็นหมาป่าแล้วออกวิ่งหายไป


           “เหอะ เอามาซะเยอะ กะจะมาข่มกันรึไง” น้องพีว่าอย่างสะใจ แค่เล่นยังไม่กล้าเล่นแต่ยังมีหน้าเข้ามาในเขตคนอื่น


           “ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้” เจมส์กล่าวเตือนน้องที่ใจร้อนในกลุ่ม


           “เอาไงดีพี่เอก” โปเต้ถามความเห็นจากพี่ใหญ่สุด เจ้าตัวก็เงียบไปสักพักก่อนจะให้คำตอบ


           “ฆ่ามันก่อนที่จะถูกฆ่า” แปลว่าถ้าใครล้ำเส้น ก็ฆ่าได้เลยไม่ต้องลังเล



















           รีบมาก่อนจะไม่มีแรงอัพ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีกำลังใจเลยครับ อังคารหน้าไม่แน่ใจว่าจะอัพไหม ขออภัยในความงอแงนี้ด้วยนะครับ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×