คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 2
ยามอาทิตย์ใกล้ละขอบฟ้าเจ้าของบ้านหลังใหญ่ก็กลับมาในที่สุด เจ้าตัวเดินลงจากรถพร้อมหอบของออกมาเยอะแยะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นพวกวัตถุดิบทำอาหาร
สายตาเหลือบมองมาแบบนั้นอีกแล้ว... ถึงลูกพี่จะเท่แต่กล้าก็เริ่มหมั่นไส้นิดๆแล้วเหมือนกัน--
“ให้มันเข้าบ้าน?” เป็นพี่โปเต้ที่โดนถามนั่น
“ใครจะไปกล้า”
“แล้วทำไมกลิ่นมันเหมือนอาบน้ำ?”
“ผมให้น้องมันอาบนอกบ้านนะ สายยางก็มี” นั่นเพราะกล้าปฏิเสธที่จะไปอาบน้ำที่น้ำตกอย่างเด็ดขาด ไม่รู้ว่าจะมีตัวอะไรมั่ง ขืนลงไป….ม่องแน่
สายตาสำรวจถูกส่งมาอีกครั้ง ก่อนจะตามด้วยเสียงถอนหายใจ...ดูท่าทางเหนื่อยๆ
“แล้วทำไมยังไม่กลับไปอีก”
“ผมเป็นคนบอกเองแหละ พี่ก็น่าจะรู้ว่าทำไม” สองคนคุยกันโดยที่ไม่ได้สนใจบุคคลที่กำลังงงงวยตรงเลยแม้แต่น้อย รู้ตัวอีกทีก็เดินเข้าบ้านไปกันแล้ว ปล่อยเขาไว้ข้างนอกเหมือนหมาอีกตามเคย….แต่ทำไงได้ยังไงก็เป็นหมาที่เขาช่วยไว้จริงๆ
แต่...ให้นอนนอกบ้านอีกแล้วเรอะ!?
แกร๊ก
“เจ้าหนูเข้ามา” แต่พอผ่านไปสักพัก คนผมสีม่วงที่ช่วยกล้าไว้เมื่อวานเฮียแกอยู่ๆเปิดประตูออกมาแล้วชวนเข้าบ้านซะงั้น แต่เขาก็ลุกเดินตามไปแม้จะงงๆก็ตาม
ภายในบ้านหลังใหญ่ให้ความรู้สึกเรียบๆมาก มันไม่ได้มีของหรูๆอะไรเท่าไหร่ การจัดบ้านแบบที่มีต้นไม้อยู่บ้างประปรายตามทางและชั้นวางของสะสม เรียบร้อยโคตร น่ารักมากๆเลยบ้านหลังนี้
จนกระทั่งเราเดินมาถึงห้องที่น่าจะเป็นห้องสำหรับทำอาหารและกินข้าว มีคนสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารตัวยาวสำหรับคนสิบคนได้ เหมือนรอกล้าและคนที่พาเขาเข้ามาให้มากินด้วยกันอย่างงั้นแหละ
“มาเร็วเจมส์ กล้า มากินๆ เร็วๆเดี๋ยวกับข้าวเย็นหมด” ซึ่งก็ใช่จริงๆ รวมกันแล้วบ้านนี้เหมือนมีคนอยู่แค่สี่คนและถ้ารวมผู้มาใหม่อย่างเขาด้วยก็เป็นห้า แต่ดูอบอุ่นดีจัง…
ตักข้าวกินไปคำนึงก็รู้สึกได้เลยว่าอร่อยมาก!
“อร่อยมากโคตร ใครทำครับเนี่ย” ถามออกไปอย่างสงสัย แม้จะไม่มีใครตอบ แต่การปรายตามองของทุกคนบนโต๊ะที่มองไปยังคนหัวสีแดงๆนั่นก็เป็นคำตอบอย่างดี แม้เจ้าตัวจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวนั่งกินต่อไปก็ตาม ขี้เก๊กจัดๆ
เพิ่งสังเกตตอนนี้เองว่าลูกพี่ของเขาไม่ได้ใส่แมสปิดหน้าแล้ว โอ้ นอกจากเท่แล้ว ทำอาหารก็อร่อยแล้ว ยังหล่อมากๆอีกนะเนี่ย สุดยอดไปเลยลวกเพ่!
“กินเสร็จแล้วก็ไปนอนนะ เด็กๆไม่ควรอยู่ดึก” พี่โปเต้อยู่ๆก็บอกเขาแบบนั้นหลังจากที่กินข้าวเสร็จกันไปไม่นาน
“เดี๋ยวพี่พาไปๆ” และยังไม่ทันได้ตอบอะไรก็โดนดันหลังให้ไปยังห้องๆหนึ่ง
“ถ้าไม่จำเป็น ไม่ต้องออกมานะ นอนซะ ฝันดี” พูดอะไรซะน่าสงสัย แต่ถึงจะสงสัยแค่ไหนเวลานี้ก็คงไม่ได้คำตอบอะไรอยู่ดี ตอนนี้เลยได้แต่เดินสำรวจไปรอบๆห้อง การตกแต่งเรียบจริงๆแต่ก็ดูน่าอยู่สบายตา แถมเตียงยังนุ่มอีกต่างหาก...
ค่อก...ฟี้-
ห้องนั่งเล่นตอนนี้บุคคลทั้งสี่ที่อาศัยอยู่ในบ้านกำลังนั่งรวมตัวกันอยู่ และบรรยากาศก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“เอาไง? ช่วยไว้แล้ว จะให้เอาไปทิ้งก็ยังไงอยู่นะ” 'โปเต้'เป็นคนเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เกริ่นไปก่อนกินข้าว
“มันคิดยากแฮะ เรื่องต้องตีกับหมาฝูงอื่นนี่ก็เรื่องปกติ แต่อันนี้ไปเอาของเล่นมันมา มันก็คงรู้สึกเสียหน้าหน่อยๆ” 'เจมส์'ว่าต่อ และทั้งหมดก็เงียบไปสักพัก
“กลัวที่ไหนอะพี่ มันอยากมาวุ่นวายในเขตคนอื่นเขาเอง” 'พี'หรือ'ยืน'น้องเล็กสุดในกลุ่มพูดขึ้นอย่างเอาเรื่อง ไอ้หมาพวกนั้นมันหลายทีแล้วที่ชอบล่าจนเลยมาเขตคนอื่นเขาเรื่อย พอปล่อยเข้าหน่อยก็เริ่มเหิมเกริม
“นั่นมันก็จริง แต่ไม่เบื่อบ้างเรอะ ตีกันอยู่แบบนี้มาเกือบ100ปีละ” เจมส์ตอบกลับน้องที่ใจร้อนไม่ทันคิดไปอีกที แต่จริงๆเขาก็พร้อมไฟท์กับทุกคนเหมือนกันนั่นแหละ
“อีกไม่กี่วันเดี๋ยวก็คงมีคนมาตาม อ้างว่าเป็นหมาของมัน” และ'เอก'พี่ใหญ่สุดก็พูดขึ้นมาลอยๆ มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยจนไม่ต้องเดาเลย พวกนั้นเหมือนหาเรื่องอยู่ตลอดเวลา ต่อให้สู้ไม่ได้แต่ก็ยังมาหาเรื่องเหมือนไม่มีอะไรทำ
“จนเราต้องเตะตูดมันกลับไปอีกตามเคย อย่างกับว่าจงใจทำยังไงไม่รู้” มันก็น่าคิดจริงๆ ประมาณ4-5ครั้งได้แล้วที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่จู่ๆวันหนึ่งพวกนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย...มันน่าหงุดหงิด
คราวนี้จะปกป้องไว้ได้รึเปล่านะ...
“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่เอก ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมให้น้องๆเป็นอะไรอีก” จะช่วยไว้ให้ได้ ไม่ให้เหมือนครั้งก่อนๆ
“อืม…”
.
.
.
วันต่อมากล้าตื่นขึ้นมาซะสายโด่ ยังงงๆมึนๆกับสถานการณ์ตอนนี้อยู่จนเบลอ
“หลับสบายเลยสิ”
“อรุณสวัสดิ์คร้าบ พี่โปเต้” หาวอัดไปหนึ่งรอบถ้วน คนพี่ก็หัวเราะชอบใจ
เพราะเป็นเหมือนลูกหมาที่เพิ่งถูกเก็บมาเลี้ยงเลยไม่รู้จะคุยกับใคร กล้าถึงเริ่มติดกับพี่โปเต้นิดหน่อยเลยเดินคุยกันจนมาถึงห้องที่เหมือนจะเป็นห้องสำหรับนั่งเล่น และทุกคนก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
“อยู่กันครบเลย คงได้ฤกษ์แนะนำตัวกันสักที” โปเต้พูดก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาเดี่ยวที่อยู่ข้างๆกับคนหัวสีม่วง-- ก็กล้าไม่รู้นี่นาว่าเฮียแกชื่ออะไร
“เริ่มจากผมก่อนละกัน ชื่อกล้าใช่ไหม พี่ชื่อพี อายุก็เกือบเท่าๆพี่โปเต้ น่าจะเป็นพี่นะสำหรับอายุแล้ว ฮ่าๆ”
“แก่ขนาดนี้เป็นทวดผมยังได้เลยพี่”
“เห้ยยย เด็กนี่มันร้ายย” พีลุกขึ้นไปขยี้ผมเด็กมันอย่างหมั่นเขี้ยวข้อหาปีนเกรียว
“ส่วนพี่ชื่อเจมส์ และนู้นนั่งอยู่ซะไกล ชื่อเอก เป็นคนที่อายุมากสุดและจ่าฝูงของเรา” ในที่สุดพี่ม่วงก็มีชื่อแล้ว! ส่วนลูกพี่ขี้เก๊ก...ชื่อเอกเหรอ...อืม! จำขึ้นใจ! แม้เจ้าตัวจะทำท่าทางไม่ใยดีเขาเหมือนเคยก็เถอะ
“ว่าแต่ว่าช่วงนี้ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน คุยโทรศัพท์กับที่บ้านที่ทำงานตั้งแต่เมื่อวานเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?” พี่โปเต้ถามเป็นการเป็นงานต่อ คนโดนถามก็พยักหน้ารับหนักแน่น
“ว่าแต่เจมส์ เอ็งแอบมาขโมยอาหารแมวขององค์หญิงไปให้มิ้งใช่ไหมมม มาตีกันหน่อยดิ้!”
“ใครจะไปทำ บ้าเปล่า ไปไป๊” อ้าว...ทะเลาะกันเฉยเลยงง... แล้วกล้าก็เหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง ถึงจะรู้สึกเหมือนว่าพวกเขามีเรื่องสำคัญอะไรที่ไม่ได้บอกก็เถอะ แต่ถ้าไม่บอก ถามไปก็คงเท่านั้น
“หิวยัง ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมากินข้าวมา” พี่พีเป็นคนต่อชีวิตเขาในที่สุด ทำตามที่อีกฝ่ายบอกดีกว่าเพราะก็หิวแล้วด้วย เหมือนร่างกายจะหิวง่ายกว่าปกติอีกต่างหาก...รู้สึกแปลกๆกับร่างกายตัวเองอยู่พอสมควร
กล้ากลับมาอีกทีทุกคนก็อยู่ที่โต๊ะอาหารกันหมดแล้ว แต่ที่น่าแปลกในคือทุกคนยังไม่กินกันนี่แหละ
“มาเร็วๆ รออยู่คนเดียวเนี่ย” ….รู้สึกดีใจอย่างประหลาดที่มีคนรอเขามากินข้าวอย่างนี้ ปกติก็ต้องกินอยู่คนเดียวตลอดที่บ้าน แถมกับข้าวยังอร่อยอีก มีความสุขจัง!
.
.
“เน่ๆ พี่เอก พี่ทำอะไรอยู่อะ” กล้าชะโงกหัวไปดูหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่ขึ้นเป็นกราฟอะไรสักอย่างยึกๆยือๆมองแล้วตาลาย ส่วนคนโดนกวนก็แค่เหลือบตามองแต่ก็ไม่สนใจเช่นเคย
“พี่ทำกับข้าวอร่อยจัง” เงียบ…
“หล่ออีกต่างหาก” เริ่มมีการสะดุ้งหน่อยๆ
“คนเท่ของผม คุยกับน้องหน่อย”
“ทำงานอยู่โว้ยย ไปเล่นกับเจมส์ไป๊!” นี่เป็นประโยคแรกเลยที่อีกฝ่ายพูดกับเขายาวขนาดนี้ ถึงจะเป็นการไล่เพราะรำคาญก็เถอะ--
“ถ้างั้นตอบผมอย่างได้ไหมครับ?”
“...”
“พี่อายุเท่าไหร่อะ”
“2000++” ….
“...” ช็อค
.
.
.
“ไอ้เจมส์! อาหารแมวตรูหายไปไหนอีกแล้วเนี่ย!!!?”
TBC.
ดูชิลล์ๆดีจัง...
ความคิดเห็น