ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret Code WW #WeAreWWno1

    ลำดับตอนที่ #2 : Murder #กล้าเอก

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 63




         ‘ในสถานการณ์ตอนนี้นั้น ฆาตกรต่อเนื่องยังคงลอยนวล ทุกท่านได้โปรดอย่าออกจากบ้านในตอนกลางคืน และระมัดระวังตัวจนกว่าตำรวจจะตามจับ...’


           เสียงของทีวีดังแข่งกับเสียงฟ้าร้องจากภายนอกบ้าน แต่คนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวไม่เล็กไม่ใหญ่มากข้างหน้ามันกลับไม่ได้สะทกสะท้าน ยังคงนั่งนิ่งคล้ายไม่คิดที่จะปิดมันเลยสักนิด


                 แกร๊ก


           “กล้า ทำไมปิดไฟเงียบเชียว ไม่อยู่เหรอ?” เสียงที่ไม่ดังมากเกินไปแต่ก็พอให้ได้ยินไปรอบๆข้างพอสมควร ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆต่อเสียงของเขาเลย มันเงียบ...เงียบจนแอบรู้สึกใจเสีย


           'เอก'ค่อยๆคลำทางในความมืดตามความเคยชินของบ้านเพื่อที่จะเปิดสวิตช์ไฟ


                 เฮือก!!?


           แต่อยู่ๆก็มีมือของใครบางคนกระชากตัวเขาไปติดกำแพง หัวใจเต้นแรงด้วยความตกใจและกลัวจนแทบจะระเบิดออกมา


           ใคร...ใครกัน!?


           ฝ่ามือปริศนาค่อยๆลูบลงบนข้างแก้มเขาอย่างอ่อนโยนจนรู้สึกวูบวาบมือนั้นค่อยๆไล้ลงไปตามลำคอด้วยสัมผัสเบาๆวาบหวิว...มันเริ่มลามลงไปยันลำตัวและข้างเอว สัมผัสบีบนวดเพิ่มอุณหภูมิให้แก่ร่างกายเรื่อยๆอย่างฉุดไม่อยู่


           “อือ อืม”


           ริมฝีปากแตะกันเบาๆก่อนที่มันจะค่อยๆเพิ่มระดับจากแรงอารมณ์ที่ครุกกรุ่นขึ้น มันทั้งขบเม้มและดูดดึงกันอย่างเอาแต่ใจ


           เสื้อตรงส่วนไหล่ถูกแหวกออกก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสที่ทำให้รู้สึกเจ็บและจักจี้ คล้ายตีตราว่าเป็นเจ้าของร่างนี้ ใครก็อย่าได้แตะ


           “พี่เอก...หวานจัง”


           “ฮา...ฮา” เจ้าของชื่อหอบหายใจเอนตัวพิงร่างนั้นอย่างหมดแรง ไอ้เด็กนี่มัน...รู้ดีเกินไป รู้ดีอย่างกับร่างกายเขาเป็นของมัน สัมผัสจนรู้สึกร้อนไปหมดแล้วก็หยุดไว้


           “พี่เอก--” เหมือนคนจงใจทิ้งตัวให้รับน้ำหนักไม่ไหวจนพากันล้มลงบนพื้น


           “อย่าหยุดกลางคันสิวะ ไอ้บ้านี่” เสื้อถูกถอดออกลวกๆและท่ามกลางความมืด...บทรักเร้าร้อนก็ถูกบรรเลงขึ้นพร้อมกับสายฝนที่ถูกเทลงมา


           “พี่เอกขึ้นผม หายากนะเนี่ย”


           “หยุดพูด!”



           .


           .


           .


           .



           ‘ขณะนี้ฆาตกรกำลังหลบหนีหลังจากที่ตำรวจจับตัวได้แล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่า...’


           เอกกดเปลี่ยนช่องเนื่องจากไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจนัก หาอะไรดูไปเรื่อยจนกระทั่งได้ยินเสียงเหมือนรถถอยเข้ามาคิดว่าคงเป็นคนที่อยู่ด้วยกัน แต่ผ่านไปสักพักก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาคน


           คงไม่เกิดอะไรขึ้นใช่ไหมเนี่ย?


           คิดอย่างเป็นกังวลก่อนที่จะลุกขึ้นออกไปดู เห็นคนกำลังทำอะไรลับๆล่อๆ...โจรเรอะ?


           “พี่เอก” เฮือก!!


           “อย่ามาไม่ให้สุ่มให้เสียงสิวะ หัวใจแทบวาย” เขาถอนหายใจออกมายาวๆ อยู่ๆก็โผล่มาใจจะวายตาย โถ่!


           “โทษคร้าบบ”


           “แล้วทำอะไรข้างนอก ไม่เข้าบ้าน” ว่าแล้วก็พยายามชะโงกหน้ามองข้ามไหล่ไป แต่ก็โดนอีกฝ่ายดันให้เข้าบ้านแทน...น่าสงสัยนะเนี่ย


           “พี่เข้าบ้านไปก่อน เดี๋ยวผมมาแป๊ปนึง นะๆ” พอโดนทำหน้าอ้อนใส่ก็ต้องใจอ่อนยอมฟังแล้วกลับเข้าบ้านไปในที่สุด


           แต่เอกไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากที่ตัวเองหันหลังให้ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของกล้ากลับกลายเป็นไร้อารมณ์และเย็นชาจนรู้สึกเย็นยะเยือกในใจ


           “เกือบต้องฆ่าซะแล้ว”




           ขณะที่นั่งดูทีวีอยู่เอกก็รู้สึกได้ถึงมือที่ยืนมาและโอบกอดคอเขาจากทางด้านหลังที่กั้นห่างกันแค่เพียงโซฟาตัวเดียว พอเงยขึ้นไปสบตาเสี้ยววิใบหน้าของคนอายุน้อยกว่าก็โน้มลงมาประทับริมฝีปากกับเขา


           “กลับมาแล้วครับ” รอยยิ้มและน้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้หัวใจฟู


           “ยินดีต้อนรับกลับนะ”



           .


           .


           .



           ช่วงหลายวันมานี้กล้าเริ่มทำตัวแปลกๆไปจนรู้สึกได้ พอถามก็เอาแต่ยิ้มแล้วบอกว่าทำงาน...หรือจะมีคนอื่นแล้วก็ไม่รู้ คงเบื่อเขาแล้วล่ะมั้ง

           ในระหว่างที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ เอกเห็นคนคุ้นเคยอยู่ที่หน้าโรงรถ...กำลังจะส่งเสียงทักแต่เขาก็ดันสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ


           ...มีมือของใครบางคนห้อยออกมาจากท้ายรถ…


                 ตุ้บ!


           เพราะเผลอทำกระเป๋าตกพื้นทำให้คนที่กำลังวุ่นวายอยู่หันมาสนใจเขา


           “พี่เอก” รอยยิ้มมันต่างไปจากที่เคย ไม่ใช่ความอ่อนโยนแต่เป็นความรำคาญและขัดใจ


           “ผมกะจะเก็บพี่ไว้ฆ่าทีหลังอยู่แล้วเชียว”


           กว่าจะรู้สึกตัวอีกฝ่ายก็แทบจะถึงตัวเขาแล้ว สุดท้ายคิดอะไรไม่ออกก็รีบวิ่งอย่างสุดชีวิต ..แทบเกือบจะถูกรถชนเข้าแล้วด้วยซ้ำ


           “เป็นอะไรรึเปล่าครับ??”


           “ช่วย.. ช่วยด้วย” พูดออกไปด้วยเสียงสั่นๆก่อนจะหันกลับไปมอง...หายไปแล้ว


           คนโดนขอให้ช่วยมองตามสายตาคนพูดไป แม้จะไม่พบอะไรก็ตามแต่ท่าทางแล้วคงไม่ใช่เรื่องเล่นๆแน่


           “ขึ้นรถมาครับ ผมเป็นตำรวจ” เอกพยักหน้ารับก่อนจะตามขึ้นรถเพื่อออกไปจากตรงนี้


           เขานั่งเงียบไปตลอดทางจนกระทั่งถึงสถานีตำรวจ แม้จะได้ยินเสียงรอบข้างอยู่บ้างแต่มันก็ไม่ค่อยเข้าหัวเท่าไหร่


           “พวกเรากำลังติดตามอยู่ คาดว่าน่าจะใช่ตัวฆาตกรต่อเนื่องที่เราตามหา” อา...นั่นสินะ ทำไมเขาไม่เคยเอะใจเลย


           “เกิดอะไรขึ้นครับ ช่วยเล่าให้พวกเราฟังได้ไหม?” เอกสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพยักหน้า...เล่าเท่าที่เล่าออกไปได้ด้วยความรู้สึกแบบไหนไม่รู้


           ผ่านไปเกือบเช้ารุ่นน้องที่รู้จักกันก็มารับเขาที่สถานีหลังจากรู้เรื่อง


           “พี่เอกเป็นไงมั่ง ไหวไหมพี่”


           “ไหวดิ...ไหวดิวะ” แต่น้ำตามันไหลออกมาไม่หยุด หยุดไม่ได้อีกแล้ว หยุดสิ...หยุดสิวะ เป็นอะไรเนี่ย…


           รุ่นน้องตกใจที่เห็นพี่เขาร้องไห้ขนาดนี้ แม้จะไม่ได้ส่งเสียงเลยก็ตาม...แต่รู้สึกได้เลยว่ามันทรมานมาก โคตรทรมานเลยล่ะ


           .


           .


           .


           ผ่านไปไม่เกินอาทิตย์ในที่สุดก็มีข่าวออกมาว่าตำรวจได้วิสามัญฆาตกรต่อเนื่องไป


           มันทรมานมากเลยนะ...ความทรงจำดีๆมันเต็มไปหมด มันเยอะจนไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงด้วยซ้ำ ถึงเราจะอยู่ด้วยกันมาได้แค่หกเดือน แต่มันไม่มีค่าอะไรเลยหรือไง…อึก…


           น้ำตาที่ไม่อาจห้ามได้และมันก็ไหลไม่ยอมหยุด
















           วันนี้มาเป็นวันช๊อตเล็กๆครับ ส่วนเรื่องยาวนั้น อัพทุกวันอังคาร ถ้าอังคารไหนไม่อัพก็ตามไปทวงเบาๆได้ที่ #WeAreWWno1 แต่อย่ารุนแรง


           พบกันในตอนหน้า สวัสดีครับ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×