ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Today yesterday tomorrow I love you #เจมส์เอก

    ลำดับตอนที่ #1 : 1 - กาลครั้งหนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 63





           ในสถานบันเทิงยามค่ำคืนอย่างผับย่าง xxx ณ บาร์จุดหนึ่งมีบาร์เทนเดอร์ที่ผสมเครื่องดื่มได้เก่งและลีลาน่าสนใจ เขามีลูกเล่นมากมายจนเรียกแขกให้มาชมดูได้หลายคนทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่เลยก็ว่าได้


           “นี่ครับ แด่ความสุขของคุณ”


           “วู้วๆ!” กว่าผู้คนจะรู้สึกตัวก็ตอนที่บาร์เทนเดอร์คนนั้นชงเสร็จจนส่งให้แก่ผู้สั่งไปแล้วสักพัก เก่งเกิ๊น จนทำให้เคลิ้มไปเลย


           ผู้คนก็ทยอยเข้ามาสั่งเครื่องดื่มอยู่เรื่อยๆไม่ขาดสายเมื่อเคาน์เตอร์ว่าง ทุกคนทำงานกันอย่างสนุกสนานอาจจะมีแซวกันบ้างตามประสาคนทำงานและรู้จักกันมา


           ผับนี้ปิดเวลาตี3ในทุกๆวัน และตอนนี้ก็เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะปิด ลูกค้าก็ค่อยๆทยอยกันออกไปแล้ว


           “เฮ้อ..” ใครคนหนึ่งทิ้งตัวลงฟุบหน้าลงกับพื้นที่ของโต๊ะเคาน์เตอร์บาร์ เรียกความสนใจจากคนด้านในได้เป็นอย่างดี ซึ่งเขาก็คือเจ้าของผับแห่งนี้นี่เอง


           “เป็นอะไรครับพี่เอก?” หนึ่งในพนักงานที่พอจะคุ้นเคยถามขึ้นอย่างเป็นกันเอง คนโดนถามก็ยกมือโบกเบาๆโดยที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นเป็นเชิงว่าแค่นิดหน่อย


           “ช่วงนี้กำไรมันขึ้นๆลงๆน่ะสิ เอาแน่เอานอนอะไรกับมันไม่ได้” เอกเงยหน้าขึ้นขึ้นมาก่อนจะพูดบ่นให้ฟัง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนมองมาพอดีทำให้สบตากันเต็มๆ และคนๆนั้นก็คือ เจมส์ บาร์เทนเดอร์อันดับหนึ่งของผับนี้นั่นเอง


           “ดื่มอะไรไหมครับ?”


           “เอาเบาๆนะ” พอสองคนนี้เริ่มคุยกันก็เหมือนจะมีบรรยากาศที่บอกไม่ถูก ทำให้ทุกคนกระอักกระอ่วน


           “งั้นเดี๋ยวผมไปเช็คสต๊อกของก่อนแล้วกัน” ไปแล้วหนึ่ง


           “ผมไปช่วยมันละกัน” ไปกันหมด


           สองคนที่เหลืออยู่มองหน้ากันก่อนจะยักไหล่เชิงปล่อยไปเถอะ


           “นอนบ้างนะครับ”


           “ก็นอน แต่ตอนนี้มันเป็นเวลาทำงานไง” พอเจ้าตัวพูดมางั้น เจมส์ก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อหันไปผสมเครื่องดื่มให้แทน


           เอกมองอีกฝ่ายผสมเครื่องดื่มอย่างไม่ละสายตา...จนในที่สุดมันก็มาวางอยู่ตรงหน้า


           “นี่ครับ แด่ความสุขของคุณ”


           “เท่ไม่เคยเปลี่ยนเลยน้า” เอกสบตากับอีกฝ่ายกล่าวยิ้มๆ ได้เห็นอาการเลิ่กลั่กที่ไม่ได้เห็นมานาน ทำเอารู้สึกอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


           หลังจากนั้นก็เกิดความเงียบที่ไม่รู้จะเอาความรู้สึกไปวางอยู่ตรงไหนขึ้น มันเงียบจนรู้สึกใจหายเลยด้วยซ้ำ…


           บางครั้งเจมส์เองก็อยากถาม ว่าเหตุผลจริงๆแล้วที่เลิกกันของเราคืออะไร มาเลิกไปเงียบๆแล้วก็ถอยออกไปเงียบๆ มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย


           อึดอัด…


           “สบายดีไหม?” ในขณะที่อีกฝ่ายดื่มเงียบๆอยู่ๆก็ถามขึ้นมาซะอย่างนั้น เจมส์เองนิ่งไปก่อนจะตอบกลับ


           “ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษนะครับ” ไม่พิเศษกับผี! เขาร้องไห้แทบเป็นแทบตายว่าทำไมถึงทิ้งเขาไปแบบนี้...แต่นั่นใครจะไปกล้าบอกกันล่ะ ให้ตายเถอะ...


           “เหรอ…” แล้วก็เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง ต่างคนต่างเงียบ


           “....”


           “....”


           “....”


           “....”


           “....”


           “....”


           “....”


           “ขอโทษนะ….ไม่มีอะไรหรอก พี่กลับล่ะ” เจมส์ไม่รั้งอีกฝ่ายไว้ เพราะเขาเองก็สับสนอยู่เหมือนกัน ไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่...


    ไม่เคยเข้าใจเลย



           .


           .


           .



           หลายวันมาแล้ว ชีวิตก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมีแต่งานกับงาน และอาจจะมีไปหาซื้อของที่อยากได้มาบ้าง เช่นพวกเกมออกใหม่อะไรทำนองนั้น


           “คิดอะไรอยู่” โปเต้เพื่อนสนิทของเจมส์ถามขึ้นมา เมื่อเห็นเขาเหม่อเกินไป


           “เปล่า.. ว่าแต่เอ็งจะไปรับแฟนเมื่อไหร่?”


           “ก็ว่าจะไปแล้ว แยกกันเลยไหม” เจมส์พยักหน้ารับก่อนจะแยกย้ายกันกลับ เขาเดินเล่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยกะว่าอีกสักพักค่อยกลับ


                 ปึก!


           แต่ก็ดันเหม่อจนเดินไปชนใครเข้าซะอีก เขารีบขอโทษขอโพยไปอย่างรวดเร็ว


           “เจมส์?” น้ำเสียงคุ้นหูทำให้เขาเลิกหลับหูหลับตาขอโทษ


    ...พี่เอก… โลกดูกลมซะเหลือเกินนะวันนี้


           “มาซื้อของเหรอ?” เจ้าตัวว่าสายตาก็มองมายังมือเขาที่ถือถุงกระดาษไว้


           “ครับ แล้วพี่มาทำอะไรเนี่ย?”


           “แวะมาธนาคารน่ะ เจมส์กินอะไรยัง?” เขาเพิ่งจะกินกับไอ้เต้ไปเมื่อกี้เลย…


           “กินแล้วครับ แต่ถ้าเป็นของหวานยังพอได้อยู่นะ”


           “ดีเลย งั้นไปกินไอติมกัน!” คนอายุมากกว่ากล่าวแล้วยิ้มอย่างสดใส เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายชอบแวะไปไอติมเสมอถึงได้พูดไป เพราะถ้าบอกว่ากินอะไรไปแล้วเฉยๆแกคงจะทำหน้าเป็นตูด นึกถึงแล้วก็เผลอยิ้มก่อนจะชะงัก...อะไรของตรูวะ...


           พวกเรานั่งกินไอติมกันไป เจมส์ก็มองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ถึงพี่เขาจะตัวสูงก็ตามแต่ทำไมเวลาแบบนี้ถึงได้ดูตัวเล็กน่าฟัดขนาดนี้กันนะ… ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงได้กลับไปฟัดแล้วแท้ๆ เฮ้อ


           “มองอะไรขนาดนั้นวะ” พี่เอกแกพูดขึ้นมาทำเอาเขาสะดุ้ง แต่เจ้าตัวก็หัวเราะทำเป็นแซวเฉยๆ… แหน่ะ แอบเห็นนะ...หูแดงๆนั่นน่ะ เขาคงไม่ได้คิดไปเองหรอก .. ใช่ไหม?



           ถึงเวลาต้องกลับบ้านจริงๆเสียทีเพราะเริ่มเย็นมากแล้ว


           “ให้พี่ไปส่งไหม?” เอกถามเจมส์ที่กำลังหันหลังทำท่าจะเดินไป


           “หืม...ก็.. รบกวนหน่อยแล้วกันนะครับ” ยังไงก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายนี่


           รถคันเดิมและบรรยากาศเดิมๆ ต่างกันแค่พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรกันอีกแล้ว เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องธรรมดาๆ หรืออย่างมากก็แค่พี่น้องเท่านั้น


           สภาพในรถมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยจริงๆ...มีแม้กระทั่งของที่เจมส์ซื้อไว้ให้ ซึ่งตอนนี้มันก็ยังคงอยู่...พอได้มาเห็นมันก็รู้สึกแปลกแฮะ


           สักพักใหญ่ๆก็มาถึงที่พักของเจมส์ในที่สุด


           “ฝันดีล่วงหน้านะ” เอกกล่าวกับเจมส์พร้อมโบกมือลาแล้วยิ้มให้


           ‘เป็นการกระทำที่น่ารักไม่เคยเปลี่ยน’ เจมส์คิดก่อนจะยิ้มแล้วตอบกลับไปเช่นกัน


           “ฝันดีครับ” พี่เอกขับรถออกไปแล้ว


           “ฝันถึงผมด้วยก็ดี”
















    เปิดอีกแล้วหนอ เรื่องเก่ายังไม่ถึงไหนเลยหนอ แต่ฟีลมันได้ เราก็จัดไปครับ


    ผมไม่ค่อยแม่นว่าสายงานเขาทำอะไรบ้าง รู้แค่คร่าวๆ หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ


           



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×