ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rezaria

    ลำดับตอนที่ #1 : สื่อกลาง... (จบตอน)

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 52


    REZARIA

                 คุณเคยเชื่อเรื่องผีบ้างไหม  เคยเชื่อเรื่องปีศาจ  เทวดาหรือนางฟ้าบ้างหรือเปล่า  เคยเชื่อไหมว่านอกจากโลกที่เราอยู่ มิติที่เราอยู่ จะมีมีติอื่นซ้อนทับอยู่ด้วย  สิ่งเเปลกๆที่เกิดขึ้นบนโลกของคุณโดยไม่สามารถหาสาเหตุได้  คุณเชื่อพวกมันไหม เชื่อไหมว่ามันมีอยู่จริง



                 .......................................................................................................................................

                
                 ......เบื่อ...น่าเบื่อชะมัด    "ฟรอซ" บ่นในใจพร้อมกับถอนหายใจเป็นรอบที่ยี่สิบสามของวันนี้ก่อนจะขยับปืนในมือให้กระชับเเล้วเหนี่ยวไกใส่ตัวอะไรบางอย่างที่พุ่งออกมาจากต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าเขา

                 หลังจากเกิดเหตุการณ์ประหลาดกลางเมืองเมื่อ 13 ปีก่อน  ก็มีไอ้เจ้าสัตว์ประหลาดหน้าตาเเปลกๆโผล่มาก่อกวนผู้คนในเมืองอยู่เรื่อยๆ  บ้างก็มาเพื่อเเกล้งไปวันๆบ้างก็ออกมาทำร้าย  สร้างความวุ่นวายให้กับคนในเมืองเเทบจะไม่เว้นวัน  เเละคนที่ต้องรับหน้าที่ไปกำจัดพวกมันก็ไม่พ้น.....
    เขา!!!

                 ตั้งเเต่เขาถูกเจ้าของสมาคมนักล่าค่าหัวเก็บมาเลี้ยง  เขาเองก็ถูกเลี้ยงดูให้รู้จักกับการต่อสู้ทุกรูปเเบบ  ตั้งเเต่การขู่ สะกดรอย ตอบโต้ เเละการฆ่า  เเต่ก็นั่นเเหละทุกคนในสมาคมก็โตมาเเบบเดียวกับเขา  เรียนรู้ที่จะฆ่าพวกคนที่ทางการต้องการจับ  เเต่ก็ไม่เห็นมีใครซักคนกล้าไปสู้กับสัตว์ประหลาดที่มันโผล่มา  นอกจากเขากับพ่อ  

                 เเล้ววันนี้พ่อก็ดันติดธุระ  ทำให้เขาต้องลากตัวเองลงมาจากเตียงตั้งเเต่ตี 4 !!!  ยิ่งง่วงยิ่งหงุดหงิด  ยิ่งง่วงยิ่งรำคาญ

                 ......โธ่เว้ย เมื่อไหร่จะหมดวะเนี่ย!!!!      เขากระหน่ำยิงใส่สัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนงูผสมสุนัขจิ้งจอกตรงหน้าอย่างเหลืออด   ก็นี่มันเกือบจะเที่ยงเเล้วนี่  เขายืนอยู่ตรงนี้มานานมากเเล้วนะ นานจนรากจะงอกอยู่เเล้ว  ง่วงก็ง่วง  หิวห็หิว  บ้าชะมัดเลยโว้ยย

                 "อิ๊ง"  เสียงสัตว์ประหลาดตรงหน้าร้องครั้งสุดท้ายก่อนร่างกายจะกระตุกสิ้นใจตาย

                 ......อ่าว ตายซะเเล้ว     เขาทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นของเล่นระบายอารมณ์ของเขาล้มลงไปนอนกระตุกอยู่กับพื้น  เเต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็เปลี่ยนสีหน้ากลับมาสงบเหมือนเดิม

                 ......หมดเเล้วสินะ   เขาคิดหลังจากหันมองซ้ายมองขวาอยู่นานก็ไม่มีวี่เเววของตัวประหลาดพวกนั้นอีก   

                 "ออกมาได้เเล้ว"  เขาพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด  ก่อนจะรีบเดินออกจากบริเวณป่าตรงนั้นทันที  ทิ้งให้คนที่เขาพูดด้วยต้องวิ่งตามกันเป็นพรวน  

                 "อ๊า~ ฟรอซ นายจะรีบไปไหนล่ะ รอพวกฉันด้วยสิ"  หนึ่งในคนกลุ่มนั้นร้องขึ้นเเล้วรีบวิ่งตามเขาไป







                 "ไอ้บ้าฟรอซนึกจะเดินออกมาก็เดินเฉยเลย ไม่รอกันบ้าง"     เด็กหนุ่มที่ตัวสูงกว่าฟรอซเล็กน้อยบ่น  พร้อมกับตบหัวเจ้าตัวดีคนนี้ที่เดินออกมาก่อนโดยไม่รอ  

                 เเต่ก่อนที่ฟรอซจะได้โต้ตอบกลับบ้าง  เด็กหนุ่มตัวเล็กๆอีกคนก็ขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน  เขาเลยหันไปถามด้วยสีหน้าเเละน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก

                 "พี่มีอะไร" 

                 "อะ อั้นนี้ของนายรึเปล่า  คะ คือผมเห็นมันตกอยู่ในป่าอ่า...ครับ  มันมีชื่อนายอยู่บนนี้"    พี่ผู้ชายในร่างเล็กๆนั้นตอบเเบบตะกุกตะกักพร้อมน้ำตาที่คลอๆเบ้า  เขานึกกลัวไอ้น้องชายที่อยู่ตรงหน้านี่จริงๆ  ยิ่งเวลาไอ้น้องชายคนนี้หงุดหงิดๆเเบบนี้ด้วย เขายิ่งกลัวเข้าไปใหญ่  

                 ฟรอซทำคิ้วขมวดด้วยความสงสัยอยู่ว่าเขาทำอะไรตกหาย  เเต่เขาก็ไม่เคยเขียนชื่ออะไรไว้ที่ของนี่หว่า  ถึงจะยังงงๆอยู่บ้าง   เขาก็ยังยื่นมือไปรับของที่พี่ชายร่างเล็กของเขาส่งมาให้  

                 ......หนังสือ....  จะบ้าเหรอ เขาเคยคิดจะอ่านหนังสือตั้งเเต่เมื่อไหร่   เเค่เห็น 3 บรรทัดเเรกพระเจ้าก็เรียกเข้าเฝ้าเเล้ว  เเล้วนี่เล่มหนาขนาดนี้  มันจะเป็นของเขาได้ยังไงกัน? เเถมมันก็ดันมีชื่อเขาอยู่ที่หน้าปกซะได้

                 เขายังคงทำหน้านิ่วด้วยความสงสัยในที่มาของมัน  เเต่จะว่าไปไอ้หนังสือในมือเขาเล่มนี้มันก็สร้างความรู้สึกเเปลกๆให้เขาได้ไม่น้อย  ตั้งเเต่เขาได้สัมผัสมันเขาก็รู้สึกถึงพลังบางอย่าง  มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเเละสนุกจนสะท้อนออกมาในเเววตาของเขา  

                 หนังสือเล่มสีเเดง เเดงราวกับเลือดเล่มนี้มันมีอะไรอยู่กันเเน่  เขาพยายามจะเปิดหนังสือออก เเต่ก็ไม่เป็นผล  มันเปิดไม่ออก เปิดยังไงก็ไม่ออก  เเถมเถาวัลย์ที่พันรอบหนังสือไว้อย่างหลวมๆ ตอนเเรกก็ดูจะเเน่นขึ้นซะอีก

                 ......อะไรของมันกันวะ  เเล้วจะเปิดไงล่ะเนี่ย    เขาเริ่มหงุดหงิดอีกครั้งเพราะไอ้หนังสือเล่มนี้  ไม่ว่าจะทำยังไงมันก็เปิดออกมาไม่ได้ซะที   เเต่ก็ยังเก็บใส่กระเป๋าสะพายข้างของเขากลับไปที่สมาคม







    สมาคมนักล่าฆ่าหัว  21.05 น.   

                ฟรอซทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมกับโยนกระเป๋าที่เขาหยิบหนังสือเล่มนั้นออกมาไปบนโต๊ะ   

                ......ให้ตายสิ  ยังไงก็เปิดไม่ออกวุ้ย  เขาคิดอย่างอารมณ์เสียรอบที่หลายร้อยของวันนี้ก่อนจะโยนหนังสือสีเเดงเลือดที่มีรูปมังกรคาบอะไรซักอย่างคล้ายๆลูกเเก้วอยู่ตรงใจกลาง ไปไว้บนโต๊ะตามกระเป๋า

                ......ไอ้เถาวัลย์นั่นมันพันเเน่นกว่าตอนกลางวันซะอีก   เขาบ่นในใจก่อนจะผลอยหลับไปเพราะความเพลียจากเรื่องวุ่นๆที่เขาเจอมาทั้งวัน





                 ซ่า....   เสียงฝักบัวในห้องพักของฟรอซดังขึ้น   

                 นี่เขาเพลียขนาดเผลอหลับไปเลยเหรอ  ทั้งๆที่น้ำก็ยังไม่ได้อาบ  เเล้วตัวก็มีเเต่กลิ่นเลือดเนี่ยนะ    เขาคิดขณะลงมือถูกสบู่ลงบนผิวขาวๆที่ขาวจนซีดเกินมนุษย์นั้นเพื่อล้างกลิ่นเลือดที่กระเซ็นมาเปรอะตามเนื้อตัวเขา   นี่ถ้าเขาไม่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาตีบอกว่า 5 ทุ่มครึ่ง เขาคงจะหลับไปยันเช้าเเน่ๆ

                 ฟรอซเเต่งตัวเเล้วเดินกลับไปที่กระจกตรงอ่างล้างหน้า  ก่อนจะเสยผมสีดำเงาซอยสั้นที่เปียกน้ำนั้นขึ้นเล็กน้อย  จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเขาใส่คอนเเทคเลนส์   เขาไม่ได้สายตาสั้น  เพียงเเต่เขาต้องการจะปกปิดสีตาที่เเท้จริงของเขา  ตาที่ทำให้ใครๆต่างก็มองกันว่าเขาเป็นปีศาจ  ตาที่ทำให้ทุกคนต่างพากันกลัวเเละรังเกียจเขา

                 ตาสีเเดงเลือดดด....คู่นี้!!

                 ฟรอซกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆด้วยความรู้สึกเกลียด  เกลียดตัวเอง เกลียด... เกลียดดวงตาคู่นี้  เกลียดความรู้สึกเเบบนี้   เขากำมือเเน่นจนสั่นก่อนจะทุบมันลงบนอ่างล้างหน้าเพื่อระบายอารมณ์

                 ......คนที่จะรักดวงตาคู่นี้คงมีเเต่คนที่สมาคมนี้เท่านั้นสินะ     เขาคิด  เพราะนอกจากทุกคนที่นี่ก็ไม่มีใครชอบมัน  รวมถึงตัวเขาเองด้วย  เขาเเสยะยิ้มเเบบสมเพชเล็กๆให้ตัวเองก่อนจะใส่คอนเเทคนั่นกลับที่เดิมเเล้วเดินออกจากห้องน้ำกลับเข้าห้องนอนไป





                
                 กึก...
                 กึก..ก... กึกๆๆ

                 อยู่ๆห้องนอนทั้งห้องก็เกิดสั่นอย่างน่าประหลาด  จะว่าเเผนดินไหวก็ไม่น่าจะใช่  เพราะดูเหมือนว่าจุดศูนย์กลางจะเกิดมาจากตรงโต๊ะหนังสือที่อยู่หัวเตียง

                 ฟรอซที่พึ่งเดินเข้าห้องนอนมาก็ถึงกับต้องเกาะตู้ด้านข้างไว้เพื่อกันล้ม   เพราะเเรงสั่นสะเทือนนั้นดูจะทวีความรุนเเรงขึ้นเรื่อยๆๆ

                 ตุบ!

                 เเรงสั่นสะเทือนนั้นเเรงจนทำให้หนังสือสีเเดงเล่มใหญ่นั่นตกลงมาอยู่ที่พิ้น

                 กึกๆๆๆ  กึก....

                 "เฮ้ย"  ฟรอซอุทานออกมาด้วยความตกใจ  เพราะไอ้ที่ห้องของเขาสั่นไม่ได้เกิดจากเเผ่นดินไหว   ไม่ได้เกิดจากที่โต๊ะ  เเต่เกิดจากไอ้หนังสือเล่มนี้เล่มเดียวเท่านั้น

                 เเรงสั่นนั้นทวีความรุนเเรงขึ้นเรื่อยๆ  จนเขาถึงกับต้องลงไปนั่งอยู่กับพิ้นเเถมยังต้องพยายามอยู่ห่างตู้ที่เขาเกาะอยู่เมื่อครู่ให้ไกลที่สุดเพราะมันสั่นจนทำท่าจะล้มเสียให้ได้

                  กึก!!

                 อยู่ๆ ห้องทั้งห้องที่เคยสั่นอยู่เมื่อครู่ก็กลับสงบเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ฟรอซเองก็ค่อยๆพยุงตัวขึ้น เเล้วเดินไปหยิบหนังสือเล่มนั้น  

                 เเต่ทันทีที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัสหนังสือ  ห้องทั้งห้องก็กลับสั่นอย่างรุนเเรงอีกครั้ง  เเรง  เเรงกว่าครั้งก่อนๆมาก  พร้อมกับอาการปวดเเสบที่ดวงตาของฟรอซ  ยิ่งห้องสั่นรุนเเรงขึ้นเท่าไหร่เขารู้สึกเจ็บดวงตาของเขามากเท่านั้น 

                 เจ็บ...  เเสบด้วย...
                 อ๊า.. เจ็บ เจ็บชะมัดเลย

                 ฟรอซพยายามลืมตาขึ้นมา  เเล้วกัดฟันข่มความเจ็บปวด  เเต่การลืมตาขึ้นมานั้นมันก็ยากเหลือเกิน     

                 เขาพยายามลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง  ตาของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเเดงสดเเละเปล่งประกายเเสงสีเเดงออกมาอย่างชัดเจน  จนทำให้คอนเเทคเลนส์ที่เข้าใส่ไม่สามารถกลบเกลื่อนดวงตาที่เเดงฉานนั้นไว้ได้อีกต่อไป

                 วาบ......

      
               เเสงสีขาวสว่างวาบออกมาจากหนังสือนั่น สว่างจนเเสบตา  สว่างจนลืมตาไม่ได้  สว่างจนตาที่ปวดอยู่ยิ่งทวีความปวดขึ้นอีกหลายเท่าตัว

                 กึกๆ... กึกๆๆ

                 หนังสือเริ่มสั่นอย่างรุนเเรงอีกเป็นครั้งที่ 3   ฟรอซกระชับหนังสือในมืออย่างเเน่นหนา  ยิ่งเข้ากระชับหนังสือเล่มนั้นกำเเน่นในมือเท่าไหร่  ตาของเขาก็ยิ่งเจ็บปวดขึ้นมากกว่าทุกครั้งเเละเปล่งประกายเเสงสีเเดงจ้าออกมามากกว่าที่เคยเป็นมา  จนตัวเขาเองเริ่มข่มอารมณ์ไม่ไหว  ลงมือทุบหนังสือในมือด้วยมือเปล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย  เพียงหวังว่าไอ้หนังสือบ้านั่นมันจะหยุดสั่นซะที

                 เลือดของเขาไหลออกมาเป็นจำนวนมากจากรอยที่ถูกหนามเเหลมบนเถาวัลย์นั้นเเทง  เเละทันทีที่มันไหลบนหนังสือจนชุ่ม  ห้องทั้งห้องก็สั่นรุนเเรงขึ้นจนตู้เเละโต๊ะต่างล้มคว่ำระเนระนาด  ของต่างๆต่างกระจัดกระจายจนเต็มห้อง  พร้อมกับอาการเจ็บปวดที่เริ่มรุนเเรงขึ้นไล่มาจากดวงตาสีเเดงฉานของเขาลามไปทั่วทั้งตัวเขาอย่างรวดเร็ว  เขานอนบิดร่างอย่างทุรนทุรายก่อนจะส่งเสียงร้องออกไปอย่างกลั้นไม่อยู่

                 "อ๊ากกกกกกกก"  เสียงร้องสุดท้ายของฟรอซดังขึ้นจนทำให้คนทั้งสมาคมตื่นเเละกรูกันมาที่ห้องของเขา   เเต่ว่า......ฟรอซได้หายไปเสียเเล้ว


     

                .......................................................................................................................................

    WRiter  SaY

    อ่า...นี่เป็นนิยายตอนเเรกในเรื่องนี้เลย

    เป็นยังไงกันบ้างฮะ  พอรู้เรื่องกันไม๊

    เฟมเเต่งเเบบ ให้อารมณ์พามือไป ฮ่าๆๆ  

    เหมือนที่เฟมเคยได้ยินจากพี่ๆที่เเต่งนิยายเค้าบอก

    ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคับ  ขอบคุณที่อ่านจนจบตอนคับผม ^^
    t em
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×