คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Episode 3 Killer & Princess story (บทที่ 2 สิ่งที่แสนเศร้า...จิตใจของเขาและเธอ)
Fan Fic The Thief of Baramos
Killer & Princess story
.
(คิล & เรนอน)
.............................................................................................................
บทที่ 2 สิ่งที่แสนเศร้า...จิตใจของเขาและเธอ (ก่อนสงครามเอเดน-เดมอส)
หลังจากการจากลาครั้งนั้น ทั้งคู่ก็ไม่ได้พบกันอีก เด็กชายและเด็กหญิงแต่ก้าวเดินในเส้นทางของตนเอง หนึ่งคนเปรียบดั่งแสงสว่างที่แสนอ่อนโยน เจ้าหญิงเรนอน ธีน็อต เจ้าหญิงคนงามแห่งคาโนวาล เธอเติบโตท่ามกลางความรักใคร่ของคนโดยรอบ อีกหนึ่งคนเหมือนความมืดมิด คิลมัส ฟีสมัส เขาเติบโตขึ้นเป็นนักฆ่า แต่ละวันที่ผ่านไปเขาก็ใช้ชีวิตตามทางเดินแห่งความตาย...เส้นทางของทั้งคู่เหมือนกับเส้นขนานสองด้านที่ไม่มีวันบรรจบกัน แต่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่รู้เลยซักครั้งว่า ตลอดก้าวเดินแต่ละก้าว ทั้งสองจะหันมองกันและกัน แม้จะอยากพูดกันใจจะขาด แต่สิ่งที่ทำได้มีเพียงส่งความห่วงใยผ่านดวงตาโดยหวังว่าซักวันอีกฝ่ายจะรับรู้และรับไว้ในหัวใจ..
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเพียงใด แต่เธอก็ไม่สามารถลืมเขาได้ เธอคิดถึงเขามาตลอด ตอนนี้เธอก็ได้พบเขาอีกครั้งแล้ว แต่..แต่ว่า ทำไมนัยน์ตาสีม่วงที่แสนอ่อนโยนคู่นั้นกลับเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
คุณคิลคะ..คุณลืมเรนอนไปแล้วหรือคะ?
วันที่ทั้งคู่พบกันอีกครั้งคือวันคัดเลือกหอพัก เรนอนรู้ดี เธอจำได้เสมอ ‘เขา’ ที่ยืนห่างจากเธอไม่เท่าไหร่นั้นคือเจ้าชายคนสำคัญของเธอ แต่ว่า..เรนอนยังคงยืนยันจะทำตามสิ่งที่ตั้งไว้ เธอต้องการให้ท่านพ่อและท่านแม่ของเธอกลับมาเหมือนเดิม เธอจะต้องพยายามเข้าไปอยู่ในใจของเจ้าชายคาโลให้ได้ แม้สิ่งที่เธอจะทำจะไม่ใช่เพราะความรักก็ตาม
“คาโลคะ..เรนอนไม่เข้าใจข้อนี้เลย ช่วยสอนเรนอนหน่อยสิคะ” หญิงสาวจากคาโนวาล ถือหนังสือเดินเข้าไปหาญาติผู้พี่ของตน มือเรียวชี้จุดที่ไม่เข้าใจ เรนอนกำลังแสดงว่าชอบคนตรงหน้าต่อหน้าสมาชิกป้อมอัศวินทั้งหลาย
“คาโล..ฉันไม่ค่อยเข้าใจข้อนี้เลย อธิบายให้ฟังหน่อยสิวะ” คิลเองก็เดินเกาหัวแกรกๆมาหาคาโลเป็นที่พึ่ง ก่อนเขาจะชะงักเมื่อพบใครบางคนที่อยู่กับเพื่อน
คาโลถอนหายใจเฮือก เขาปิดหนังสือเล่มหนาในมือก่อนจะมองดูคนทั้งสองคนที่ยังอึ้งกันอยู่
“ทั้งสองคน..” เจ้าชายแห่งเมืองนักรบเอ่ย “จะให้ฉันสอนให้ใช่ไหม?” คิลและเรนอนพยักหน้า คาโลมองหนังสือในมือของทั้งคู่และพบว่ามันเป็นคนละข้อกัน เจ้าชายน้ำแข็งจึงบอกในสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ต้องอ้าปากค้าง
“งั้นเรนอน..เธอก็สอนคิลข้อนี้” เขาหันไปสั่งญาติสาว “ส่วนคิล..นายก็สอนเรนอนข้อนี้ไปก็แล้วกันนายทำได้ไม่ใช่หรือ” แล้วพี่ท่านก็เดินออกไปโดยไม่ให้ทั้งคู่แย้งอะไรเลยแม้แต่น้อย
การสอนการบ้านที่แสนน่าอึดอัดสำหรับทั้งสองก็ได้เริ่มขึ้น...
“เอ่อ...ตรงนี้ทำยังไงหรอครับ?เรนอน” นักฆ่าหนุ่มเอ่ยถาม พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่มองดวงหน้าหวานซึ้งนั่น
“อ๋อ..” เรนอนมองแล้วอุทาน พยายามปรับเสียงไม่ให้สั่น “ตรงนี้ก็ให้เราเขียน ปีE.D. ให้ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็พอค่ะ เราไม่ต้องอธิบายเหตุการณ์นั้นอย่างระเอียดก็ได้ค่ะ”
ตอนนี้ทั้งคู่ต่างออกมานั่งกันอยู่หลังป้อมเพราะทนเสียงดังอึกทึกของชาวป้อมอัศวินไม่ไหว แต่บรรยากาศอันเงียบสงบ พร้อมกลิ่นพฤกษาจางๆที่ลอยมายามสายลมนั้นกลับไม่ได้ทำให้ทั้งคู่ใจเย็นลงนัก พออีกฝ่ายก้มหน้า ฝ่ายหนึ่งก็คอยแอบมอง แล้วเมื่อเขาหันมา ก็รีบหลบตาซะงั้น..
“...ได้ข่าวมาว่า..” ฝ่ายชายเริ่มเกริ่น เสียงนุ่มๆนั้นทำให้เรนอนอดนึกถึงอดีตไม่ได้ “...เรนอนชอบคาโลอยู่ใช่ไหม?” หญิงสาวเบิกตากว้างกับคำถามนั้น เขาเคยสนใจเรื่องของเธอด้วยหรือ? แสดงว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเรายังกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ใช่ไหม? เรนอนยังคิดเข้าข้างตัวเองได้ใช่ไหมคะ? คุณคิล...
“...คุณคิลเคยสนใจเรนอนด้วยหรอคะ?..” แต่ด้วยความอยากรู้ความในของเขาคนนี้ และความนอกใจที่สะสมอยู่ ทำให้พรั้งปากไปเช่นนั้น คิลมองเรนอนด้วยสายตาที่เจ็บปวด คำถามนั้นทิ่มแทงเขาเหลือเกิน อยากบอกเธอว่า..ทำไมเขาจะไม่สนใจล่ะ ก็ในเมื่อเธอเป็นที่เขา......มาตลอด และอาจด้วยความปากไวที่ติดมาหัวขโมยตัวแสบ นักฆ่าที่นับวันยิ่งปากมอมและปากแข็งจึงบอกไปว่า
“...ผมก็แค่ได้ยินมาเท่านั้นแหละครับ ยังไงซะคนที่คุณชอบก็คือเพื่อนผม ผมไม่รู้สิแปลก..” พร้อมยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจ นัยน์ตาสีม่วงแสดงอาการไม่ยี่หระเต็มที่ นักฆ่าจากซาเรสไม่ได้สังเกตเลยว่าเจ้าหญิงคนงามจะเศร้าซักเพียงใด ดวงตาสีดำนั้นเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ไหล่บางสั่นระริก เสียงที่เจ้าตัวพยายามไม่ให้สั่นกลับดังออกมาพร้อมเสียงสะอื้น เสียงที่เรียกความสนใจจากคิลได้
“..นั่น..สิ นะคะ ฮึก เรนอนไม่น่าคิดเข้า ข้างตัวเองเลย ฮึก เข้าข้างว่าอย่างน้อยคุณคิลก็ยัง มีความรู้สึกดีๆฮึก..ให้เรนอนอยู่”
ร่างบางๆตรงหน้ากำลังทำให้เขารู้สึกผิด แต่หากเขา...ทำตามความเรียกร้องของหัวใจเขาแล้ว มันจะดีจริงๆน่ะหรอ? คนรอบข้างจะยอมรับความสัมพันธ์ของเราได้อย่างนั้นหรือ? ชั่ววินาทีให้ความคิดของชายหนุ่ม กลับมีความคิดและความทรงจำมากมายเกิดมาให้สมอง นัยน์ตาสีม่วงดูสับสนและโหยหาหญิงสาวเบื้องหน้า ขอเพียงแค่ตอนนี้ ขอเพียงแค่เวลานี้ วินาทีนี้ ขอให้เธอกับเขาจะมีเพียงกันและกันได้ไหม อย่าให้มีสิ่งใดมาขัดขวางได้อีกเลย...
วงแขนอบอุ่นของนักฆ่าแห่งซาเรส รั้งตัวเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลเข้ามาแนบชิด ใบหน้างามดูตระหนกชั่วครู่ก่อนจะซบลงบนบ่ากว้างด้วยความยินดี ลมหายใจที่รดเรือนผมสีม่วงทำให้เธอได้รับรู้ว่าไม่ใช่ความฝัน มันคือความจริง คุณคิล...อยู่กับเธอที่นี่ และเขาก็ไม่ได้เย็นชากับเธอ เขากับเธอเหมือนกันย้อนเข้าไปในห้วงวัยเด็กอีกครั้ง พอคิดได้แค่นั้นน้ำตาที่เคยไหลกลับหยุดลงอย่างง่ายดายไม่น่าเชื่อ เสียงสะอื้นที่มีจางหาย ชายหนุ่มดันตัวหญิงสาวออกเบาๆ ก่อนใบหน้าจะโน้มลงมาใกล้เรื่อยๆพร้อมริมฝีปากของทั้งคู่ที่สัมผัสกันอย่างนุ่มนวล
ทั้งคู่ไม่ได้รู้เลยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของหัวหน้าชั้นปีทั้งสอง คาโลและเฟริน ที่เฝ้าดูทั้งคู่ตั้งแต่ต้นเริ่มหน้าขึ้นสี ต่างพร้อมใจเบือนหน้าหนีบรรยากาศโรแมนติกของนักฆ่าและเจ้าหญิง
“อ่า...พวกนั้นคงจะเข้าใจกันแล้วล่ะนะ” เฟรินเป็นคนเริ่มบทสนทนาก่อน ใบหน้าที่ติดจะหวานๆขึ้นสีระเรื่อ เช่นเดียวกันกับคู่สนทนาตรงข้าม คาโลพยักหน้าน้อยๆ
“ก็คงจะอย่างนั้น...บางทีทั้งคู่อาจจะใจตรงกันมานานแล้วก็ได้”
“นั่นสิ” เฟรินเห็นด้วย ลูบแผลเป็นใต้ตาซ้ายอย่างครุ่นคิด “แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมเรนอนต้องทำเป็นชอบนายล่ะ” ว่าแล้วก็ชี้ไปยังคนถูกชอบ นัยน์ตาสีฟ้าของเจ้าชายเมืองนักรบมองไปยังท้องฟ้ากว้าง
“บางที...เขาก็คงมีเหตุผลของเขาล่ะมั้ง”
เรนอนและคิลไม่รู้ว่าทั้งคู่จูบกันนานเพียงใด ทั้งสองอยากแค่ใช้เวลาถ่ายทอดความรู้สึกดีๆให้กันเท่านั้น แต่เมื่อห้วงเวลานั้นจบแล้ว ทั้งสองได้แต่ยืนหน้าแดง หันหน้าไปคนละทางอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี คราใดเมื่อนัยน์ตาของทั้งคู่สบตา หน้าก็จะยิ่งแดงเพิ่มไปอีก ก่อนที่คิลจะเป็นคนเอ่ยทำลายความเงียบ
“เอ่อ...เรนอน เอ่อ ผมขอโทษที่ เอ่อ..ล่วงเกินคุณนะครับ”
“เอ๋?”
“ก็ผม...ไม่น่า เอ่อ...เผลอจูบคุณไปเลย...”
เพี๊ยะ!!!
ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบดี มือของหญิงสาวตรงหน้าก่อนตบมาเต็มแรงจนคนเป็นนักฆ่าหน้าหัน เมื่อเขาหันกลับมาก็พบว่าร่างบางๆตรงหน้าทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว
เรนอนเจ็บ เจ็บมากๆเมื่อได้ฟังคำพูดที่ฟังดูเหมือนรู้สึกผิดของเขา เธอทั้งผิดหวัง น้อยใจ เศร้า เท่าที่คนคนหนึ่งจะทำได้ อยากถามเขาเหลือเกินว่า คุณคิล...เคยรักเรนอนบ้างไหม ที่คุณคิลทำไปเพราะอะไรกันแน่ แต่จิตใจในตอนนี้ของเธอไม่แข็งแรงพอเสียแล้ว เธอเจ็บปวดมากเกินกว่าจะทนรับฟังคำตอบของเขาได้ เธอจึงได้หันหลังวิ่งออกมา หนีจากความเจ็บปวดที่เธอกำลังพบเจอ
ดวงตาสีม่วงได้แต่มองไล่มองร่างบางที่วิ่งไปจนลับสายตา เขาก้มมองมือของตนเองที่ไม่กล้าแม้แต่จะรั้งเธอไว้ คิลสบถเสียงดังลั่น มือใหญ่ชกไปที่ต้นไม้อย่างรุนแรงจนเลือดซึมออกมา
“โธ่โว้ย!!!”
“เฮ้ย..ไอ้คิล!” เฟรินอุทานพยายามจะเข้าไปหาเพื่อนแต่ก็มีมือหนามารั้งเอาไว้ก่อน
“อย่า..เฟริน ปล่อยให้คิลอยู่คนเดียวซักพักจะดีกว่า” คาโลเอ่ยปราม มือหนาดึงแขนเพื่อนจอมจุ้นเอาไว้
“แต่..”
“เชื่อฉันสิแล้วมันจะดีเอง”
ในฐานะความเป็นเพื่อน การอยู่คอยร่วมทุกข์และสุขอาจเป็นเรื่องดี แต่บางครั้งเพื่อนก็จำเป็นจะต้องก้าวผ่านไปด้วยตัวของเขาเอง หน้าที่ของเราคือร่วมรับรู้และให้กำลังใจได้เท่านั้น...
เรนอนไม่รู้ว่าตัวเองวิ่งไปนานแค่ไหนและถึงเมื่อไหร่ เธอรู้เพียงว่าเธอไม่อยากรับรู้ความเจ็บปวดอีก กว่าเธอจะมาหยุดอีกทีก็พบว่าตนเองอยู่หน้าห้องนั่งเล่นของปีสองแล้ว หญิงสาวปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก คนที่ออกมาก็คือมาทิลด้าและแองจี้เพื่อนสนิทของเธอเอง
“เรนอนเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?” แองจี้ถามด้วยความเป็นห่วง มือของเธอจับเรนอนหันซ้ายหันขวาสำรวจร่างบางตรงหน้า
“เปล่าจ้ะ...แองจี้ เมื้อกี้มีอะไรปลิวมาเข้าตาก็ไม่รู้น่ะจ้ะ” เจ้าหญิงเมืองนักรบตอบไปเพื่อไม่ให้ทั้งสองเป็นห่วง แองจี้และมาทิลด้าจับผิดร่างบางอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถอนใจออกมาพร้อมกัน มาทิลด้าส่งของในมือไปให้คนตรงหน้า เรนอนรับมาด้วยความงุนงง สำรวจอย่างระเอียด และพบว่ามันคือจดหมายจากตระกูลธีนอทของเธอ
“ฉันว่าจะเอาไปให้เธอพอดี มันจ่าหน้าซองถึงเธอ มันส่งมาตั้งแต่เข้าแล้ว”
คำบอกเล่าของมาทิลด้าทำให้เรนอนขอบคุณทั้งสอง ก่อนกลับไปนั่งอ่านจดหมายบนห้อง เจ้าหญิงคนงามนั่งเก้าอี้ที่ปลายเตียง สายลมเบาๆพัดเข้ามาทางระเบียงที่เปิดอยู่ ม่านสีลาเวนเดอร์ไหวตามแรงลมเล็กน้อย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆที่เกิดจากแก้วใสๆที่ถูกร่ายด้วยเวทเสริมพฤกษานั้นทำให้กลิ่นกระจายไปทั่วห้อง
เรนอนแกะจดหมายในมืออ่านเงียบๆยิ่งอ่านมาเท่าไหร่ น้ำตาก็ยิ่งไหลเท่านั้น จดหมายฉบับนี้ทำให้เรนอนได้รู้อะไรหลายๆอย่างด้วยกัน ทั้งเรื่องที่เจ็บปวดและเรื่องที่น่ายินดี
เรนอนลูกรัก
สบายดีหรือเปล่า? พ่อและแม่สบายดี วันก่อนตอนแม่เก็บกวาดห้องของลูก แม่พบบันทึกประจำวันของหนู ขอโทษด้วยที่แม่เปิดวันอ่านโดยพลการ อ่านไปเรื่อยๆ แม่จึงได้รู้อะไรบางอย่าง ลูกรัก...แม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า หนูจะเข้าใจผิดเรื่องแม่กับพ่อ เราทั้งสองเคยรักกัน หากแต่ระยะเวลากลับทำให้พวกเราได้เข้าใจมากขึ้น อย่าร้องเลยลูกรัก แม่รู้ว่าหนูต้องเสียใจ ขอโทษจริงๆที่พ่อและแม่ไม่ได้บอกหนู แต่ ณ เวลานี้ ขอหนูจงรู้ไว้เถิด แม้เราทั้งสองจะหย่ากันแล้ว แต่เราทั้งสองก็ยังเป็นพ่อและแม่ของลูกเสมอ ถึงเวลานี้ขอลูกจงทำตามหัวใจตัวเองเถอะนะจ๊ะ หนูทำเพื่อพ่อและแม่มากพอแล้ว ขอให้ลูกโชคดี
รักและคิดถึงลูกเสมอ
แม่ของลูก
ปล.พ่อบอกว่าปิดเทอมให้พา ‘เจ้าหนุ่มคนนั้น’ ของลูกมาด้วยจ้ะ
เรนอนนั่งมองจดหมายในมือด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งเศร้า ทั้งดีใจ และเขินอาย คำพูดของผู้เป็นแม่ตราตรึงเข้าไปในใจของเธอ ในตอนนี้เธอรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว ความจริงที่เธอไม่เคยได้รู้ ตอนนี้เธอสามารถทำตามหัวใจได้แล้วใช่ไหม? ความรักครั้งนี้ของเธอขึ้นอยู่กับความกล้า และความพยายามของเธอเท่านั้น พอคิดได้ถึงบางสิ่งนัยน์ตาสีดำก็หม่นแสงลง ดวงหน้างามหันมองออกไปข้างนอก
“แล้วคุณล่ะคะ...คุณคิล คุณยังให้โอกาสเรนอนอยู่หรือเปล่า?”
ความคิดเห็น