คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Episode 3 Killer & Princess story (บทที่1การพบกันครั้งแรก...หัวใจที่เจ็บปวด)
Fan Fic The Thief of Baramos
Killer & Princess story
.
(คิล & เรนอน)
.............................................................................................................
บทที่1 การพบกันครั้งแรก...หัวใจที่เจ็บปวด..
ฉันรู้ดีว่าเรื่องที่ฉันทำนั้น...จะสร้างความเจ็บปวดให้แก่ทุกคน ทั้งเพื่อนๆของฉันที่เชื่อในเรื่องที่ฉันแสดง ทั้งคุณเฟริน และคาโล รวมทั้งหัวใจของตัวฉันเอง หัวใจ...ที่เต็มไปด้วยใครคนนั้น คนที่ฉันพูดได้เต็มปากว่า..รัก คุณคิลคะ เรนอน..ขอโทษค่ะ...
“เรนอนจ๊ะ..พ่อกับแม่ มีเรื่องอยากจะบอกหนูน่ะจ้ะ” เสียงนุ่มๆแสนอ่อนโยนของหญิงวัยกลางคน ผู้มีศักดิ์เป็นถึงอดีตเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลพูดขึ้น เรียกให้เด็กหญิงวัย 8 ขวบหันไปมอง
“คะ? มีอะไรหรอคะ? ท่านแม่” เรนอนน้อยในชุดสีชมพูหวานเดินไปตามเสียงเรียก หนูน้อยไม่ได้สังเกตเลยว่าผู้ให้กำเนิดทั้งสองมีสีหน้าสร้อยและลำบากใจแค่ไหน ทั้งสาวคนสบตากันชั่วครู่ก่อนเสนาบดีโรเชสผู้เป็นพ่อจะอุ้มลูกสาวคนเดียวมานั่งตัก ใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้ายิ้มฝืนๆ
“เรนอน..พ่อกับแม่ตัดสินใจกันแล้วล่ะลูก”
“ตัดสินใจ? ตัดสินใจอะไรหรือคะ? ท่านพ่อ” เธอมองบิดา ที่ไม่ตอบอะไรก่อนจะหันไปมองบุพการีอีกคน
“............”
“...พ่อ กับ แม่...เราจะแยกทางกันจ้ะ...” สิ้นเสียงพูดของมารดา เรนอนก็รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน เธอพอจะรู้มาบ้างว่าท่านทั้งคู่ไม่ได้พบกันบ่อยนัก เพราะภาระ หน้าที่ แค่เธอก็คาดไม่ถึงว่าทั้งสองจะมีเหตุผลเช่นนี้
“...ทำไมคะ?...” เธออยากรู้เหตุผลเหลือเกิน เหตุผลในการตัดสินใจครั้งนี้ บุพการีทั้งสองยิ้มฝืนๆอีกครั้ง ก่อนจะบอกในสิ่งที่เธอไม่เข้าใจ
“สักวัน..ลูกก็จะเข้าใจ”
หลังจากนั้นเรนอนก็มักหลีกเลี่ยงการพบเจอท่านพ่อ และ ท่านแม่ เธอไม่อยากเจ็บปวด ไม่อยากฝืนยิ้มให้ท่านสบายใจ เธอรู้ เธอในตอนนี้ทำไม่ได้ เธอเหนื่อย..เหนื่อยเหลือเกิน
ร่างเล็กๆเรือนผมสีม่วงเดินเหม่อลัดเลาะตามลำธารไปเรื่อยๆ กระโปรงยาวสีขาวเริ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นและเศษใบไม้ เธอไม่ได้รู้ตัวเลยว่าในตอนนี้ เธอ...เดินออกมานอกอาณาเขตของตระกูล
ธีนอท เสียแล้ว และเมื่อรู้ตัวเรนอนก็เริ่มตระหนกดวงตาสีดำมองไปรอบๆ ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือจับหมับที่แขน ทันทีที่หันไปเธอก็ได้พบเด็กชายคนหนึ่งที่มองเธออย่างติดจะขำๆ แหม..ก็ดวงตาสีม่วงนั้นมันทอประกายน้อยเมื่อไหร่ล่ะ
“หลงทางหรอ?ยัยเตี้ย” แม่เจ้า!? ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครเรียกเธออย่างนี้เลยนะ!?
“เปล่า” เรนอนเรียกจะโกหกออกไปด้วยความโมโห แอบคิดในใจว่า..คนตรงหน้าก็ใช่ว่าจะสูงกว่าเธอสักเท่าไหร่
“โกหก..” คราวนี้ไม่เก็บอาการแล้ว ก็เขาน่ะขำจริงๆ “เธอโกหกไม่เก่งเลยนะ ฮะฮะ เธอชื่ออะไรล่ะ?ฉันชักถูกใจเธอซะแล้วสิ” หนอย..ยังมีหน้ามาพูด เด็กหญิงอยากจะไปจากที่นี่เร็วๆเหลือเกิน แต่มันก็ติดอยู่ที่เขายังไม่ปล่อยแขนเธอเลยน่ะสิ เรนอนมองมือของคนตรงหน้าสลับกับมองหน้า ตอนแรกเจ้าของมือก็ดูงงเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกริ่ม
“อยากให้ปล่อยหรอ?บอกชื่อมาก่อนสิ” เธอถอนหายใจเบาๆบอกเสียงแผ่ว
“...เรนอน ธีน็อต..”
“ฉันชื่อ คิลมัส ฟีสมัส เป็นนักฆ่าจากซาเรส” เรนอนไม่รู้ตัวเลยว่า หน้าของเธอในตอนนี้จะหวอแค่ไหน แต่เธออยากจะอุทานดังๆจริงๆ...เธอ รู้จักกับนักฆ่า!!!!!!!!
ท่านแม่บอกเธอเสมอว่า..คนเราไม่ควรมองคนแต่ภายนอก..ซึ่งตอนนี้ เรนอนก็ชักคิดว่าจริงเสียแล้ว การรู้จักกับนักฆ่าก็ไม่เลวนัก รึอาจจะเป็นเพราะเป็นคนตรงหน้านี้หรือเปล่า ถึงได้อยู่ด้วยแล้วสบายใจขนาดนี้
“หรอ..พ่อ แม่ของเธอจะแยกทางกันหรอ?” คิลพูดเสียงเรียบ เหลือบมองคนข้างๆ แค่มองเขาก็รู้แล้วเธอดูเปราะบางซักขนาดนี้ แม้จะแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง แต่หัวใจก็คงบอบซ้ำไปมากทีเดียว
“..คุณคิลคิดว่า..เรนอนควรจะทำอย่างไรดีคะ?” เจ้าของนัยน์ตาสีดำพูดขึ้น น้ำตาที่อดกลั้นมานานเริ่มคลอ ก่อนน้ำตาจะร่วงลงมา นักฆ่าตัวน้อยทำอะไรไม่ถูก มือไม้เริ่มเกะกะ แล้วจึงไปวางแหมะบนหัวเด็กน้อย ลูบปลอบอย่างแผ่วเบา
“โอ๋ๆๆอย่าร้องนะ จะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง” คำพูดทื่อๆและท่าทางเก้ๆกังๆดูอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด เรนอนมอง ‘คุณคิลของเธอ’ ผ่านดวงตาที่พร่ามัว คนกวนประสาทเมื่อกี้ไม่มีอีกแล้ว เธอพบกับนักฆ่าแสนดีที่กำลังยิ้มอย่างอ่อนโยนที่สุด เสียงสะอื้นของเธอดังคลอเคลียไปกลับจังหวะหัวใจที่เต้นระทึกโดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร...
วันต่อๆมาเด็กน้อยทั้งสองก็จะมาพูดคุยกันเสมอ เสียงหัวเราะของทั้งคู่มักดังประสานกันจากริมฝั่งแม่น้ำ แม้จะคนละเพศและฐานะก็ตาม
“เรนอน..อยากเป็นนกจังเลยค่ะ เรนอนอยากได้อิสรภาพ อยากบินไปโดยที่ไม่มีใครมาเหนี่ยวรั้งไว้” เด็กหญิงเปรยกับเด็กชายที่นอนเอามือหนุนหัวอยู่ มือเล็กกำลังทำมงกุฎดอกหญ้าสีเขียวอมเหลืองอย่างคล่องแคล่ว คิลเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะมองไปยังท้องฟ้า
“งั้น..ฉันก็คงต้องเป็น..สายลม...ล่ะมั้ง” เรนอนเอียงคอมองอย่างไม่เข้าใจ “ไม่มีสายลม นกก็บินไม่ได้ สายลมคนนี้แหละ จะคอยหนุนให้นกบินไปได้ จะคอยช่วยเหลือไม่ให้นกเป็นอันตราย จะคอยอยู่ข้างหน้านกเสมอ เพื่อนกตัวนี้...จะไม่หลงทางและจะไม่ซุ่มซ่ามไงล่ะ” มือที่ใหญ่กว่าเด็กหญิง สัมผัสเส้นผมของคนหน้างอ
“ไม่เอาแล้ว..ไม่เป็นนกแล้วก็ได้” เธอเริ่มงอแง “เรนอนจะเป็นเจ้าหญิง คุณคิลต้องเป็นเจ้าชายให้
เรนอนนะคะ” เอ่ยพร้อมสวมมงกุฎดอกหญ้าให้เด็กชาย คิลหัวเราะเล็กน้อยหยิบมงกุฎอีกอันวางบนกลุ่มผมนุ่ม ค้อมศีรษะอย่างล้อเลียน
“..รับบัญชาครับ เจ้าหญิง..”
เรื่องราวในวันนี้จบลงด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้งของทั้งสอง โดยทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า เวลาแห่งความสุขใกล้จะหมดลงทุกที..
“อะไรนะคะ! มีคำสั่งแต่งตั้งให้แต่งตั้งเรนอนเป็นเจ้าหญิงหรอคะ!?” เด็กหญิงอุทานอย่างตกใจ จริงอยู่ท่านแม่ของเธอเคยมีศักดิ์เป็นเจ้าหญิง และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคิงบาโรองค์ปัจจุบัน แต่ท่านแม่ของเธอแต่งงานกับท่านพ่อ บรรดาศักดิ์เหล่านั้นก็ต้องหายไป แล้วทำไมถึงมีคำสั่งแบบนี้
“ท่านแม่คะ..เรนอนไม่อยากเป็นค่ะ เรนอน..ไม่รับได้ไหมคะ?”
ผู้เป็นแม่นิ่งไปนิด มองลูกสาวบอกอย่างแผ่วเบา
“..ไม่ได้หรอกจ้ะ มีคำสั่งลงมาแล้ว อีกอย่างแม่อยากให้ลูก...ทำเพื่อท่านพ่อของลูกได้ไหมจ๊ะ”
เรนอนไม่เข้าใจเรื่องที่ท่านแม่ของเธอพูด เธอมองอย่างไม่เข้าใจและขอคำอธิบาย
“ท่านพ่อของลูก บ้านของเรา..กำลังลำบาก เราประสบปัญหา เงินเดือนของพ่อ ไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงเราและทุกคนในบ้าน ลูกรัก...แม่อยากให้ลูกรับหน้าที่นี้ได้ไหม? อยากให้ลูกช่วยท่านพ่อของลูก” พอพูดจบท่านหญิงแห่งธีน็อตก็เริ่มร้องไห้ เรนอนตกใจมากเธอไม่เคยเห็นท่านแม่ผู้แสนดีร้องไห้เลยซักครั้ง บางทีสิ่งที่ท่านบอกอาจจะเป็น..เหตุผลที่ทั้งคู่ต้องเลิกกันด้วยล่ะมั้ง เพราะท่านทั้งสองต่างใช้เวลาในการหาเงิน จนไม่มีเวลาให้กัน จนในที่สุดการลาจากก็เป็นหนทางที่ดีที่สุด แม้ทั้งคู่จะต้องยังอยู่ด้วยกันด้วยความเป็นพ่อและแม่ของเธอก็ตาม จริงสิ!องค์บาโรเองก็ทรงมีโอรสนี่นะ หากฉันเป็นชายาของเขาได้ล่ะ?มันจะช่วยท่านทั้งสองได้หรือเปล่า?ต่อให้ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ก็ตามเธอจะต้องพยายามให้ได้หัวใจของเจ้าชายองค์นี้มาให้ได้ เจ้าชายที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้า เจ้าชายที่เขาว่ากันว่าเย็นชาดุจน้ำแข็ง ต่อให้การทำแบบนี้จะเป็นการทรยศหัวใจของตัวเองก็ตาม
“...ตกลงค่ะ..เรนอนจะเป็นเจ้าหญิง เรนอนจะช่วยท่านพ่อและท่านแม่เองค่ะ”
....วันนี้ว่าที่เจ้าหญิงน้อยได้ตั้งปณิธานที่ผิดอย่างร้ายแรง เรนอนไม่ได้รับรู้เลยว่า..พ่อกับแม่ของเธอ..ในตอนนี้ไม่ได้แยกทางกันเพราะเหตุผลนั้นเพียงอย่างเดียว คนเราแม้จะไม่มีเวลาให้กัน แต่ถ้าหากจิตใจทั้งคู่ยังสื่อถึงกันและยังยึดมั่นในความรัก เวลาก็ไม่มีทางเป็นอุปสรรคอะไร แต่หากความรักหมดสิ้น ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะเหนี่ยวรั้งทั้งคู่ไว้ได้อีก..
นับแต่วันนั้น..เรนอนก็ต้องฝึกปฏิบัติตัวเช่นเจ้าหญิง นับตั้งแต่การยืน การเดิน การนั่ง หรือแม้แต่การกินและการนอน วันๆเธอเหนื่อยจนแทบสลบ แต่ในหัวใจดวงน้อยมักเฝ้าคิดถึงแต่คนที่เป็นเจ้าชายของเธอ เรนอนรู้หากเธอได้เป็นเจ้าหญิงขึ้นมา เธอ...ก็ไม่สามารถพบกับคิลได้อีก วันนี้จึงเป็นวันสุดท้ายของทั้งคู่
คิลยังอยู่ที่เดิม เขายังรอคอยเรนอนเสมอ และเขาเองก็ได้ข่าวมาเช่นกัน เธอ..ผู้นั้น กำลังจะได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหญิงแห่งคาโนวาล เจ้าหญิงที่ต่างจากตำแหน่งที่เขาและเธอสมมติขึ้น เจ้าหญิงที่ไม่เหมาะกับนักฆ่าอย่างเขา..
เสียงฝีเท้าที่ดังเบาๆทำให้ประสาทสัมผัสของคิลตื่นตัวอย่างระแวดระวัง หากแต่ยังไม่ลืมตาขึ้น เงี่ยหูฟังทุกฝีเท้าของผู้บุกรุกที่กำลังก้าวเข้ามา
“คุณคิล..” เสียงเรียกที่เบาแสนเบา แต่คุ้นในความรู้สึกของเด็กชาย ทำให้คิลต้องลุกขึ้นนั่ง ตาเบิกกว้าง
“เรนอน!” ..ดูเหมือนวันสุดท้ายของทั้งสองกำลังจะเริ่มต้นขึ้น..
“ค่ะ เรนอนเองค่ะ” เด็กหญิงฝืนยิ้ม นั่งเคียงข้างเจ้าชายของเธอ เสียงสายลมพัดใบไม้เสียดสีกันดูวังเวง โดยเฉพาะในยามที่เด็กน้อยทั้งคู่ไม่พูดอะไรกันเลย ไม่สิ...น่าจะเรียกว่า ไม่รู้จะพูดอะไรดีกว่า
“..เรนอนหายไปไหนมาตั้งหลายวันหรือ?..” คิลเลือกที่จะทำเป็นไม่รู้ เลือกที่จะทำให้คนตรงหน้าสบายใจ
“เรนอน..เอ่อ เรนอนต้องไปฝึกการปฏิบัติตนน่ะค่ะ” เธอกำมือแน่น พยายามเหลือเกิน พยายามไม่สบนัยน์ตาสีม่วงนั้น “เรนอน..ได้รับคำสั่งแต่งตั้งเป็นเจ้าหญิงน่ะค่ะ” ได้แต่ภาวนาว่าคนตรงหน้าจะห้าม จะบอกให้ขัดคำสั่ง รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็ไม่ผิดที่จะหวังไม่ใช่หรือ?..
“...หรอ..” คิลบอกได้แค่นั้น เขาก้มหน้าลงแทนเด็กหญิงที่เงยหน้าขึ้น “ดีแล้วล่ะ งั้นเราก็ควรจะ เลิกมาพบกันที่นี่จะดีกว่านะ”
“..ทำไมคะ?..หรือว่าคุณคิล..รังเกียจ เรนอน”
“ไม่ใช่นะ!!!!” เสียงดังจนเกือบเป็นตวาด เรนอนสะดุ้ง แต่อยากรู้ความรู้สึกของคนตรงหน้ามากกว่าจึงได้แต่ข่มความกลัว คิลเองก็ชะงักกลับปฏิกิริยาของเธอ เขารีบหันหน้าไปทางอื่น ร่มเงาของต้นไม้บดบังนัยน์ตาสีม่วงนั่นไว้ ยากที่เธอจะได้เห็น
“...ฉัน ไม่สิ ผมว่า...มันจะไม่เป็นการดีที่เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์อย่างคุณ จะมายุ่งกับคนอย่างผม โดยเฉพาะ เมื่อผมเป็น...นักฆ่า” สรรพนามที่เปลี่ยนไปและห่างเหิน ทำให้ดวงตาของเด็กหญิงเบิกกว้าง หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้น อยากถามคนตรงหน้าว่าจริงหรือเปล่า?แต่เธอจะมีสิทธิ์อะไรล่ะ สิ่งที่ทำได้ก็คือยืนรับฟังถ้อยคำที่แสนบาดลึก โดยที่เธอเองก็ไม่ได้รับรู้เลยว่า..คนตรงหน้าก็เจ็บปวดไม้แพ้กัน
“งั้นหรอคะ...เรนอนเข้าใจแล้วค่ะ งั้นเราก็ควรแยกกันที่ตรงนี้สินะคะ” ไม่มีเสียงตอบรับจากเด็กชาย เขาเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เด็กหญิงเองก็เช่นกัน เธอหันหลังก้าวเดินออกไปช้าๆ ดวงตาพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตา ริมฝีปากบางเอ่ยคำพูดที่คิลจะจดจำไปจนวันตาย
“...ลาก่อนค่ะ เจ้าชายของเรนอน...”
เรนอนไม่ได้รู้เลยว่า นัยน์ตาสีม่วงมองตามเธอไปจนลับสายตา เขาก้มมองดอกหญ้าแห้งๆที่อยู่ในมือเขา ดอกหญ้าที่เคยถูกร้อยเป็นมงกุฎดอกไม้ เขาฝากคำพูดคำหนึ่ง หวังอย่างยิ่งที่..เธอคนนั้น..
จะได้รับฟัง
“...ลืมฉันซะเถอะนะเรนอน ลืมฉันซะเธอจะได้ไม่ต้องทรมานอีก เธอจะได้มีความสุขสักที...
เจ้าหญิงของฉัน”
ความคิดเห็น