คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Episode 2 MiSTLeToe แห่งความทรงจำ(ตอนที่ 3)
Episode 2 Mistletoe แห่งความทรงจำ ตอนที่ 3
“คุณมาทิลด้าคะ มาพอดีเลยรีบอาบน้ำนะคะ เดี๋ยวพวกเราจะช่วยแต่งตัวให้”ทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในห้อง เสียงของเพื่อนสาวร่วมห้องนามเรนอนก็ดังขึ้น
“อยู่นิ่งๆหน่อยสิเฟริน ถ้าฉันแต่งหน้าพลาดขึ้นมาไม่สวยด้วยไม่รู้นะ...ยัยจอมยุ่ง”แองจี้เอ่ยขณะทาปากให้เพื่อนสาวอีกคน
มาทิลด้ามองสภาพห้องที่เรียกว่า เอ่อ...ยุ่งเหยิงจากการจับยัยจอมยุ่ง ของแองจี้แต่งตัวให้เหมาะสมกับการเป็นเจ้าหญิง เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระล้างร่างกาย
ขณะที่เธอกำลังแช่อยู่อ่างน้ำซึ่งผสมเครื่องหอมกลิ่นอ่อนๆที่เพื่อนสาว 2 คนในห้องเตรียมไว้ให้ เธอก็หวนคิดไปถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เธอพานพบในช่วงนี้ เธอทั้งเหนื่อยทั้งอ่อนล้า แม้แต่เครื่องหอมเหล่านี้ก็ไม่ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด....แม้แต่สักนิดเดียว
ความขุ่นมัวที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อกลางวัน เริ่มตั้งแต่ที่ชายหนุ่มผลักเธอออกทันทีที่เธอเซล้มไปสัมผัส ไหนจะเมื่อตอนกลางวันที่ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป มาทิลด้าคิดกลับไปกลับมาอย่างสับสน เธอบอกไม่ได้ว่าทำไมเธอจึงรู้สึกเสียใจมากขนาดนี้ และก็หาคำตอบไม่ได้ว่าทำไม..โร เซวาเรส จึงมาคอยแวะเวียนอยู่ใกล้ๆเธอ ทั้งๆที่ไม่ได้พิสวาสอะไร...ในตัวของเธอเลย
“เฮ้อ....”มาทิลด้าถอนหายใจกับเรื่องหนักสมองนี้ เธอส่ายหัวไปมาสองสามที เพื่อสลัดความความเศร้าออกไปพร้อมๆกับความคิดอันยุ่งเหยิงในหัวของเธอ
มาทิลด้าเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวทั้ง 3 ในชุดสีครีมแบบนางกำนัล เธอนั่งข้างหน้าเรนอน ก่อนจะเอ่ย
“ช่วยทำผมให้ฉันหน่อยนะ เธอก็รู้เรื่องทำผมเนี่ยไม่ใช่เรื่องถนัดของฉันสักเท่าไหร่”มาทิลด้าเอ่ยก่อนจะยิ้มให้เพื่อนสาว
“ค่ะ เรนอนรู้แล้วล่ะค่ะ นี่ก็รอคุณมาทิลด้าอยู่ เรื่องผมนี่ ฉันจัดการให้เองนะคะ”สาวน้อยผู้มีเรือนผมสีม่วงมองเพื่อนสาวอย่างยิ้มๆ ก่อนจะลงมือทำหน้าที่ของตน
“มาทิลด้า...เรนอน ฉันกับเฟรินไปก่อนนะ จะไปเลือกหน้ากากให้เฟริน...ท่านเจ้าน่ะส่งมาให้เยอะแยะเลย”แองจี้ เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีทองนัยน์ตาสีฟ้าเอ่ยก่อนจะพา(ลาก)เจ้าหญิงสองดินแดนออกไป
มาทิลด้าแต่งหน้า แต่งตัวจนเสร็จ เธอหยิบหน้ากากที่ขึ้นมาสวมแล้วมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง มาทิลด้ายิ้มอย่างพอใจ เธอมองนาฬิกาที่แขวนไว้ที่ผนังห้อง
“6 โมงแล้ว”เธอพึมพำก่อนจะนั่งลงบนเตียงพร้อมๆกับที่เพื่อนสาวออกมาจากห้องน้ำ
“6 โมงแล้ว เรนอน”เธอเอ่ยบอกเพื่อนสาวคนดังกล่าว
“ถึงเวลาแล้วหรือคะ...เดี๋ยวขอเรนอนหยิบหน้ากากแป๊บหนึ่งนะคะ”เธอกล่าวก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าออก ค้นอะไรอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะปิดตู้ในมือถือหน้ากากสีสวย แล้วเดินตรงมาหาเพื่อนรัก
“ฉันพร้อมแล้วค่ะ ไปกันเถอะค่ะ”เรนอนเอ่ยก่อนจะจูงมือมาทิลด้าออกมาจากห้อง
ป้อมอัศวินบัดนี้ถูกประดับประดาให้เข้ากับบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส ถึงแม้มาทิลด้าจะเป็นคนคุมการจัดสถานที่เอง แต่เธอก็ยังอดทึ่งไม่ได้กับความสวยงามของงาน
ชาวป้อมอัศวินต่างแต่งตัวเป็นตัวละครต่างๆไม่ว่าจากตำนาน หรือนิทานหลอกเด็กที่เกี่ยวข้องกับวันคริสต์มาส แต่ที่สำคัญทุกๆคนไม่ลืมที่จะใส่หน้ากากมาเพื่อไม่ให้คนในงานรู้ว่าตัวเองเป็นใคร
ในงานถูกประดับประดาด้วยต้นไม้ ดอกไม้ และของตกแต่งที่เน้นโทนเขียวแดง และที่ขาดไม่ได้สำหรับป้อมอัศวินก็คือของกิน กลางงานมีโต๊ะตัวยาวที่เต็มไปด้วยอาหารวางติดกันถึง 2 โต๊ะ บนโต๊ะนั้น มีทั้งของคาว และของหวาน
มาทิลด้าและเรนอนเดินเข้าไปในงานพร้อมๆกัน เธอทั้งสองเป็นจุดสนใจของคนทั้งป้อมทันที เพราะหน้ากากที่เธอสวมใส่นั่นเองที่ทำให้สายตาของเหล่าชายหนุ่มรวมทั้งหญิงสาวทั้งหลายมองมาด้วยความสงสัยและอยากรู้ (อ้อ...อาจเป็นเพราะป้อมนี้มีผู้หญิงแค่ไม่กี่คนก็เลยอยากรู้เป็นพิเศษมั้ง)
แต่มาทิลด้าหาได้ใส่ใจกับคนรอบข้างไม่ เธอเดินตรงเข้าไปหากลุ่มคนที่น่าจะเป็นเพื่อนของเธอทันที
“แองจี้...”มาทิลด้าเรียกหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ในชุดซานตี้หรือซานตาคลอสผู้หญิง และสวมหน้ากากขนนกสีขาวบริสุทธิ์
“มาทิลด้า....มาพอดีเลย ดูสิเฟรินพอแต่งตัวแบบผู้หญิงแล้วสวยมากๆเลย”แองจี้เอ่ยพลางจับเพื่อนสาวอีกคนหมุนรอบตัวเองให้มาทิลด้าและเรนอนดู
“อืม....สวยจริงๆด้วยค่ะ”เรนอนว่า
“ใช่...เพิ่งรู้นะว่าเธอสวยมาก”มาทิลด้าเอ่ย
“พวกเธอนี่ท่าจะบ้านะ มาชมกันเองอยู่ได้ อย่างว่าแหละ....พวกผู้หญิง”สาวน้อยเรือนผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาลเอ่ย ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ
“แล้วเธอไม่ใช่ผู้หญิงหรือไงยะ”เจ้าของเรือนผมสีทองว่า
ในขณะที่หญิงสาวทั้ง 4 คนกำลังสนทนากันอยู่นั่นเอง เสียงดนตรีคลาสสิกก็ถูกบรรเลงขึ้น
.......................................................................................................50%(ล่ะมั้ง)..............................................................................
“เฟริน....ให้เกียรติเต้นรำกับฉันนะ”เสียงเย็นๆดังขึ้นพร้อมๆกับที่เจ้าของเสียงโค้งตัวลงตรงหน้าเจ้าหญิงสองดินแดน
“อืม”เธอตอบรับย่อเข่าแล้วยื่นมือไปจับแขนอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินเข้าฟลอเต้นรำไปด้วยกัน
“เอ่อ.....เรนอนครับ เอ่อ...เต้นรำ เอ่อ...เต้นรำกับ”
“ตกลงค่ะ”ไม่รอให้จบประโยคเรนอนก็ชิงตอบตกลงเสียก่อนแล้วพา(ลาก)เพื่อนหนุ่มออกไป
“แองจี้...เต้นรำกับฉันหน่อยนะ”คนที่ได้ชื่อว่าบุรุษตาเดียวโค้งตัวให้กับแม่มดสาวเช่นกัน มาทิลด้ามองเพื่อนรักด้วยแววตาล้อเลียน ก่อนที่จะหม่นลงอย่างอิจฉาและ....เสียใจ
‘เขาคงไม่มาขอเธอเต้นรำหรอก’มาทิลด้าคิดอย่างน้อยใจ
“เฮ้อ”เธอถอนหายใจอย่างปลงๆ
“ถอนหายใจที่ไม่มีคนมาขอเต้นรำหรือไง”เสียงกวนประสาทดังขึ้น แววตาของหญิงสาวมีประกายแห่งความปิติเมื่อมองหน้าชายหนุ่ม แต่เธอก็รีบซ่อนความรู้สึกแล้วเอ่ยกลับไปว่า
“เปล่าซะหน่อย”
“งั้นฉันจะช่วยเต้นรำเป็นเพื่อนเอาไหม”หญิงสาวยังไม่ได้ทันตอบรับหรือปฏิเสธชายหนุ่มก็จับมือเธอพาเดินเข้าไปในฟลอเต้นรำทันที
“เธอแต่งเป็นอะไรน่ะ มาทิลด้า”โรถามพลางกระชับอ้อมแขนให้มากขึ้น
“นางกำนัลดาร์ลเรียล”มาทิลด้าตอบพลางพยายามดิ้นเพื่อให้ชายหนุ่มคลายอ้อมแขน แต่ก็ไม่เป็นผลสักนิดเดียว
“บังเอิญดีนะ...ฉันเองก็แต่งเป็นอัศวินซีรัสในตำนานนี้เหมือนกัน”โรเอ่ยแล้วมองหน้ามาทิลด้า
‘ใช่สิ...ยังไงดาร์ลเรียลก็ไม่มีวันได้ใจของอัศวินซีรัสอยู่แล้ว’มาทิลด้านึกแล้วหัวเราะเยาะตัวเองในใจ
“แล้วก็บังเอิญที่เฟริน กับคาโลแต่งเป็นเจ้าหญิงเอเธอร์รีนกับเจ้าชายอีสเตอร์”โรพูดอย่างเหม่อลอย มาทิลด้าช้อนตาขึ้นมองคนตรงหน้า เพียงแค่เห็นแววตาที่แสนเศร้าของเขาเท่านั้น เธอก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง เธอกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย... เธอกำลังทำร้ายหัวใจตัวเองมากยิ่งขึ้น จนมันใกล้จะด้านชาเต็มทนแล้ว
“ก็อย่างว่า เจ้าหญิงต้องคู่กับเจ้าชาย...จริงไหม”โรเอ่ยราวกับไม่รู้สึกอะไรตรงข้ามกับแววตาเมื่อครู่ พลางก้มลงมองหน้ามาทิลด้า
“นาย...”มาทิลด้าพึมพำเบาๆพลางมองหน้าชายหนุ่ม
“ไม่ต้องมามองฉันอย่างนั้นหรอกมาทิลด้า...เจ้าหญิงคู่เจ้าชาย เพราะฉะนั้นนางกำนัลอย่างเธอก็ต้องคู่กับอัศวินอย่างฉัน”โรเอ่ยต่อ กระชับอ้อมแขนอีกครั้ง
“คบกับฉันนะมาทิลด้า”โรเอ่ยพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มาทิลด้ามองหน้าโรอย่างไม่เข้าใจ เธอปรับอารมณ์ตามชายหนุ่มไม่ทัน เมื่อครู่ยามพูดถึงเฟรินเขาเศร้าและอาลัยอาวรณ์ต่อเฟรินยิ่งนัก หากแต่อีกไม่กี่ประโยคถัดมากลับมาขอเธอเป็นแฟน เขา... เขาคิดอะไรกันแน่เนี่ย
พลั่ก!
หญิงสาวผลักโรล้มลง ก่อนจะตะโกนใส่หน้าเขา จนคนทั้งงานหันมามอง
“ฉันไม่ใช่ตัวแทนของใคร...จำไว้ โร เซวาเรส”ว่าจบวิ่งหนีไปนอกงาน
โรลุกขึ้นยืนก่อนจะสบถเบาๆว่า
“แล้วใครบอกว่าเห็นเธอเป็นตัวแทนใครเล่า”
ชายหนุ่มตามหญิงสาวออกมา เดินหาจนทั่วป้อมก็ไม่เจอ ตอนนี้งานก็เลิกแล้วแถมก็ดึกมากแล้วด้วย ความเป็นห่วงในตัวหญิงสาวจนยิ่งเพิ่มทวีคูณ เขาจึงตัดสินใจเดินกลับไปในห้องโถงป้อมอีกครั้ง
ไฟทุกดวงดับสนิทเพราะงานเลิกแล้ว ทุกอย่างเงียบงันไว้การเคลื่อนไหว หากแต่มีเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่เพียงคนเดียงให้ห้องแห่งนี้
โรเดินเข้ามาให้ห้องโถง เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาว ก็พยายามมองหา ทันทีที่เห็นหญิงสาวที่เขาตามหา เขาก็วิ่งเข้าไปสวมกอดเธออย่างดีใจและคลายความกังวลลง
มาทิลด้าอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เธอไม่คิดว่าเขาจะตามเธอมา และยิ่งไม่คิดว่าเขาจะกอดเธอด้วยความเป็นห่วงอย่างนี้ นั่นทำให้เธอโยนอยู่นิ่งๆปล่อยน้ำตาให้ไหลหลั่งอยู่กับอกแกร่งของชายหนุ่ม
“นายทำอย่างนี้ทำไม ทำไมต้องทำให้ฉันรู้สึกสมเพชตัวเองมากขึ้น ทำไมต้องเอาฉันไปเป็นตัวแทนของคนอื่น”หลังจากที่ร้องไห้อยู่สักพัก มาทิลด้าก็เริ่มโวยวายใส่พลางใช้สองมือทุบชายหนุ่มอย่างไม่ยั้งมือ
“โอ๊ย...ใจเย็นก่อนมาทิลด้า”โรแสร้งร้องอย่างเจ็บปวด ก่อนจะยึดมือทั้ง 2 ข้างของหญิงสาวไว้
“ฉันยอมรับว่าตอนแรกที่เข้ามาใกล้เธอ เป็นแค่เพียงอยากให้เฟรินสบายใจ ไม่คิดมากเรื่องของฉัน”โรเริ่มพูด
“แต่ตอนนี้น่ะ ไม่แล้ว”คำพูดนี้ทำให้มาทิลด้าเงยหน้าขึ้นมองโร
“ถึงฉันจะยอมรับว่ายังลืมเฟรินไม่ได้ 100%”คำๆนี้ทำให้มาทิลด้ารู้สึกสะเทือนใจยิ่งนัก
“แต่ฉันรู้ตัวดีว่าตอนนี้ในหัวใจฉันกำลังเริ่มเปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนหัวใจฉันไม่เคยมีใครเลยในหัวใจนอกจากเฟริน แต่ตอนนี้ในหัวใจฉันที่ของเฟรินค่อยๆลดลง และมีอีกคนเข้ามาแทนที่ คนๆก็คือเธอยังไงล่ะ...มาทิลด้า”
“ในตำนาน....อัศวินซีรัสไม่ได้รับรักดาร์ลเรียล จนทำให้เธอเสียใจมาก ส่วนตัวอัศวินเองก็ต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”โรเอ่ยพลางจ้องเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวอย่างมีความหมาย จนทำให้หญิงสาวต้องก้มหน้าลงหลบสายตาอย่าเขินอาย
โรใช้มือเชยคางของมาทิลด้าขึ้นเพื่อให้เธอมองหน้าเขา ก่อนจะพูดประโยคถัดไป
“แต่ในชีวิตจริง....ฉันจะไม่ยอมทำพลาดเหมือนกับซีรัส มาทิลด้า ....ฉันขอพูดประโยคนี้อีกครั้ง คบกับฉันนะ มาทิลด้า”
“นาย....คิดว่าฉันรักนายแล้วจะตอบตกลงง่ายๆหรือ ฉันไม่คิดจะคบกับคนที่ไม่ได้รักฉันหรอกนะ”มาทิลด้าเอ่ยบ้าง
“ฉันจะไม่พูดคำว่ารักในตอนนี้มาทิลด้า”คำพูดนี้ เป็นอีกคำที่ทำให้มาทิลด้าเริ่มเสียใจ
“คำว่ารักมันศักดิ์สิทธิเกินกว่าจะพูดพร่ำเพรื่อ ฉันจะพูดคำว่ารักกับเธอก็ต่อเมื่อ ถึงวันที่ฉันมั่นใจว่าหัวใจของฉันมอบให้เธอจนหมด ถ้าถึงวันนั้นแล้ว เธอก็มั่นใจได้ว่าฉันได้รักเธอจริงๆ ไม่มีการโกหกหลอกลวงใดๆทั้งสิ้น”
“มาทิลด้า...คบกับฉันนะ”ครั้งที่ 3 แล้วที่เขาพูดคำนี้ เขาอยากจะย้ำให้เธอมั่นใจถึงควงามตั้งใจของเขา เขาไม่ได้ต้องการเธอมาแทนใครแต่เขาต้องการจะรับเธอเข้ามาในจิตใจที่เริ่มเปิดประตูขึ้นมาอีกครั้ง
“งั้น....ฉันตกลง”โรยิ้มอย่างยินดี ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเจ้าเล่ห์จนมาทิลด้าเริ่มไม่ไว้วางใจ
“เธอรู้ไหมว่าตัวเองนั่งอยู่ที่ไหน”เขาถาม
“ก็ห้องโถงป้อมไง”เธอตอบอย่างพาซื่อ
“ก็ใช่ แต่เธอรู้หรือเปล่าว่าตัวเองนั่งอยู่ใต้มิสเซิลโทล”มาทิลด้าทำหน้างง อย่างสงสัย
“เธอเอามิสเซิลโทลมาแขวนโดยไม่รู้ความหมายเลยหรือ”โรถาม เมื่อมาทิลด้าพยักหน้า โรจึงตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ตามตำนานว่ากันไว้ว่า...หากชายหญิงยืนอยู่ใต้ช่อมิสเซิลโทลในคืนวันคริสต์มาส ชายหนุ่มจะสามารถจูบหญิงสาวได้โดยเธอไม่มีสิทธิ์ขัดขืน”จบประโยค โรโน้มใบหน้าลงสัมผัสริมฝีปากของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาและอ่อนหวาน ก่อนจะกระซิบข้างๆหูเธอว่า
“My Darling
.Matilda Silver”
ความรักของฉันและเขาในตอนนี้ เปรียบเสมือนสายน้ำที่ไหลผ่านสร้างความชุ่มชื้นให้หัวใจกันและกัน ถึงแม้เขาจะไม่เอ่ยคำว่ารักออกมา แต่สำหรับฉันแล้ว แค่ในเศษเสี้ยวของหัวใจเขา เปิดรับฉันเข้าไปบ้าง เพียงแค่นี้...ก็พอ
...................................................................................
ความคิดเห็น