{[Fan Fic]}หัวขโมยแห่งบารามอส Halloween's day - {[Fan Fic]}หัวขโมยแห่งบารามอส Halloween's day นิยาย {[Fan Fic]}หัวขโมยแห่งบารามอส Halloween's day : Dek-D.com - Writer

    {[Fan Fic]}หัวขโมยแห่งบารามอส Halloween's day

    ชุดเกราะอัศวินเลือดจะไล่ฟันทุกชีวิตที่เดินผ่านระเบียงบริเวณโถงกลาง เสียงฝีเท้าจะสะท้อนเหมือนไม่ได้เดินอยู่คนเดียว ตะเกียงทุกดวงจะดับลงทั้งที่ลมไม่พัด หากเหลือบมองไปยังกระจกบานที่ 13 จะพบว่าตัวเองไม่ได้เดินอยู่เพียงลำพัง

    ผู้เข้าชมรวม

    3,248

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    3.24K

    ความคิดเห็น


    20

    คนติดตาม


    13
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 พ.ค. 52 / 18:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    หากตำนานที่เล่าสืบทอดกันมาในป้อมอัศวินเป็นจริงขึ้นมา


    ใครกันล่ะที่จะเป็นผู้โชคร้ายคนนั้น

                  ...ชุดเกราะอัศวินเลือดจะไล่ฟันทุกชีวิตที่เดินผ่านระเบียงบริเวณโถงกลาง เสียงฝีเท้าจะสะท้อนก้องเหมือนไม่ได้เดินอยู่คนเดียว ตะเกียงทุกดวงจะไหววูบทั้งที่ลมไม่พัด หากเหลือบมองไปยังกระจกบานที่ 13 จะพบว่าตัวเองไม่ได้เดินอยู่เพียงลำพัง...

    .............................................

    สวัสดีค่ะ คราวนี้พบกับวินนะคะ

    ฟิคสั้นเรื่องแรกของวินเองค่ะ

    จริงๆกะว่าจะลงในวันฮัลโลวีนพอดี แต่ไม่ทันค่ะ

    เลยมาลงวันนี้แทน

    ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ


    แล้วพบกันใหม่ค่ะ

    >>>  ll ก:  <<<ll ก:
    moO

    - -Shin
    4869

    **

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Fan Fic The theif of baramos

      Halloween’s Day

       ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    ชุดเกราะอัศวินเลือดจะไล่ฟันทุกชีวิตที่เดินผ่านระเบียงบริเวณโถงกลาง เสียงฝีเท้าจะสะท้อนก้องเหมือนไม่ได้เดินอยู่คนเดียว ตะเกียงทุกดวงจะไหววูบทั้งที่ลมไม่พัด หากเหลือบมองไปยังกระจกบานที่ 13 จะพบว่าตัวเองไม่ได้เดินอยู่เพียงลำพัง


      ร่างบอบบางของเจ้าหญิงสองดินแดนกำลังขมักเขม้นในการอบขนมเค้กเป็นอย่างยิ่ง มือเรียวหยิบจับส่วนผสมอย่างคล่องแคล่ว แสงสว่างจากเชิงเทียนดูสลัวๆแต่เธอก็ไม่สนใจ นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตมองไปยังเตาอบอย่างรอคอย จนในที่สุดเสียงตึ้งเบาๆก็ดังขึ้นทำเอาเฟรินยิ้มกว้าง มือเล็กๆที่สวมถุงมือกันความร้อนหยิบถาดอบออกมาวางบนโต๊ะ บีบครีมลงไปและตกแต่งด้วยเชอร์รี่สีแดงสด แล้วจึงบรรจงวางเค้กช็อกโกแล็คลงในกล่องกระดาษอย่างดี เมื่อตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆว่าเรียบร้อยดีแล้ว เธอจึงดับเทียนทั้งหมด ก่อนเดินไปยังห้องนั่งเล่นของชั้นปี


      ระเบียงทางเดินไปยังห้องนั่งเล่นต้องผ่านห้องโถงกลางที่เก็บถ้วยเกียรติยศ เฟรินนึกถึงคำพูดของนักฆ่าเพื่อนซี้ที่เล่าให้ฟังเมื่อเช้าว่ากันว่าในคืนวันฮัลโลวีน บรรดาผู้สิงสถิตจะออกมาร่ายรำกันยันเช้า แถมยังมีเรื่องเล่าที่สืบทอดกันอีก ทำให้เธออดรู้สึกหวั่นๆไม่ได้ นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตมองไปรอบอย่างระแวง เสียงลมพัดใบไม้ไหวดูน่ากลัวเหมือนเสียงคนกรีดร้อง แสงสลัวๆจากตะเกียงทำไห้ดูเหมือนมีคนเดินตาม ร่างบางเร่งฝีเท้าขึ้น ทันใดนั้น
      !เสียงโลหะกระเทาะพื้นก็ดังขึ้น เธอหันขวับกลับไปมอง ชุดเกราะอัศวินล้มระเนระนาด เฟรินโล่งอก แต่ก็ได้ไม่นานนัก เมื่อดวงตาเหลือบไปเห็นน้ำสีแดงขุ่นไหลออกมาจากหัวอัศวินที่หลุดออกมา กลิ่นคาวเลือดโชยไปทั่ว เจ้าหล่อนไม่พูดพร่ำทำเพลง ร่างบางๆวิ่งสุดชีวิตไปตามทางเดินที่มืดสนิทเพราะตะเกียงหลายสิบดวงดับตอนไหนก็ไม่รู้ เฟรินรีบวิ่งมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าตามมา เธอไม่ได้เดินมีเสียงแม้แต่น้อย แต่เสียงคนเดินมาได้อย่างไร!?เจ้าหญิงสองดินแดนนึกถึงคำพูดสุดท้ายของเพื่อนซี้


      หากเหลือบมองไปยังกระจกบานที่
      13 จะพบว่าตัวเองไม่ได้เดินอยู่เพียงลำพัง เฟรินคิดอย่างติดตลกว่ามันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นนัยน์สีน้ำตาลจึงมองไปที่กระจกก่อนจะกรี๊ดลั่นเมื่อกระจกเพบื้องหน้ากำลังแสยะยิ้มอยู่


      หึหึหึ


      เสียงหัวเราะปริศนาดังขึ้น ทำให้เธอค่อยๆลืมตาขึ้น ใบหน้าช้ำเลือดช้ำหนองปรากฎอยู่ในสายตาและดูเหมือนว่ามันจะแยกร่างได้ เจ้าของร่างเละๆมีอยู่นับสิบ เฟรินช็อกอ้าปากค้าง มือเล็กเปิดกล่องขนมเค้กออกแล้วโปะไปยังผีตรงหน้าทันที


      โอ๊ยไอ้เฟริน นี่มันอะไรวะเนี่ย


      เสียงอันแสนคุ้นเคยของครี้ด  ธันเดอร์ดังขึ้น มือใหญ่ปาดเค้กช็อกโกแล็คพร้อมกล่องออกจากใบหน้า ก่อนอ้าปากค้างเมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลของหญิงสาวตรงหน้าคลอไปด้วยน้ำตา เจ้าชายแห่งคาโนวาลเดินเข้ามาโดยไม่รอช้า ดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมแขน นัยน์ตาสีฟ้าของผู้เป็นหัวหน้าป้อมตวัดมองไปยังพวกพ้องตัวแสบอย่างเย็นชา กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แล้วจึงตัดสินใช้อนตัวเจ้าหญิงขึ้นมาเดินดุ่มๆจากไปทันที


      ซวยแล้วเดท ไฟเออร์อุทานขึ้นปลดหน้ากากผีมาถือไว้


      ก็ฉันบอกแล้ว ว่าเรื่องแบบนี้มันกลัวมาก พวกนายก็ไม่เชื่อ แล้วดูซิเป็นไง?โดนไอ้คาโลเชือดกันหมดแน่คิลพูดเซ็งๆเขาเดินออกมาจากหลังต้นไม้ เขา คาโล โร แองจี้ เรนอน มาทิลด้า ซีบิล และกัสไม่ได้เข้าร่วมด้วย จริงอยู่แม้มันน่าสนุกไม่น้อย แต่การไปเอาชีวิตไปเสี่ยงกับเจ้าชายน้ำแข็งก็คงไม่ดีนัก นัยน์ตาสีม่วงฉายแววครุ่นคิด ก่อนมองเห็นเจ้าขอทานแห่งทริสทอร์ที่ดูเป็นห่วงเป็นใยเฟรินเกินเหตุ ทำให้อดเห็นใจนิดๆไม่ได้


      เป็นห่วงนักทำไมไม่ตามไปล่ะคิลพูดลอยๆเรียกให้เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวหันมามอง


      แล้วนายคิดว่าไงล่ะ?”โรถามกลับอย่างกวนประสาท จนนักฆ่าอยากปฏิบัติตามอาชีพของตน


      เจ้าชายก็ต้องคู่กับเจ้าหญิงเป็นธรรมดา ขอทานอย่างฉันคงไม่เกี่ยวโรเอ่ยยิ้มๆแต่ดวงตาหมองลง คิลยักไหล่ ออกก้าวเดิน


      ใช่เจ้าหญิงกับเจ้าชายต้องคู่กัน แต่ฉันกับเฟรินเป็นเพื่อนกัน เรื่องคู่ไม่คู่ฉันไม่รู้ ฉันรู้แต่ว่า ฉันกับมันน่ะซี้กันคำพูดนั้นทำให้โรยิ้มขำๆเดินตามนักฆ่าผู้ ซี้กับเจ้าหญิง


      บังเอิญว่าขอทานอย่างฉันก็ได้เป็นเพื่อนเจ้าหญิงด้วยน่ะสิ


      เอาไงดี ครี้ดเอ็ดเวิร์ดถามเสียงอ่อยๆรู้สึกผิดไม่น้อยที่แกล้งเพื่อน


      ฉันว่านะเราลองไปขอโทษมันกันดีกว่าทิวดอร์เสนอ


      นั่นสิ เฟรินมันอาจจะหายโกรธก็ได้ครี้ดพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนมองเห็นร่างบางเจ้าของผมสีน้ำตาลในชุดวันพีชสีขาวเดินอยู่ข้างหน้า


      นั่นไง เฟริน!”เขาอุทาน เรียกทุกสายตาให้มองตาม


      ทำไมมันถึงมาอยู่ตรงนี้วะ?”เดทถามอย่างสงสัย ก็เฟรินถูกคาโลอุ้มไปแล้วไม่ใช่หรือ


      โหคิดไรมาก มันอาจมาเดินเล่นอีกรอบก็ได้ครี้ดว่าพลางตบไหล่เดทป้าบๆ


      อืมๆไปก็ไปทุกชีวิตที่รู้สึกผิดพากันเดินไปยังร่างบางๆตรงหน้า ก่อนที่มือของครี้ดที่เอื้อมไปสัมผัสไหล่บางจะถึง เจ้าหล่อนก็หันหน้ามาเล็กน้อย แสยะยิ้มอย่างสวยงาม!?


      ร่างสูงๆของบรรดาป้อมอัศวินปี
      3 รู้สึกเย็นเยียบอย่างบอกไม่ถูก ตะเกียงที่ถูกจุดสว่างอีกครั้งดับพรึ่บลงพรน้อมกัน นิ้วเรียวๆที่ขาวซีดของหญิงสาวตรงหน้าชี้ไปยังชุดเกราะอัศวิน ทันใตนั้น!?เลือดก็ไหลออกมาตามรอยต่อ ชุดเกราะโลหะสั่นกึกๆช้าๆก่อนจะก้าวออกมายืนตรงหน้าพวกเขา บริเวณที่ใช้ปิดหน้ามีดวงตาสีแดงฉานจ้องมาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ


      ข้า….ข้า ข้าต้องการร่างกายมนุษย์แค่คำแรกที่มันเอ่ยออกมา พวกเขาก็โกยอ้าวทันทีและมันก็ไม่ใช่แค่พูดได้ มันวิ่งตามพวกเขามาด้วย เสียงโลหะกระทบกับพื้นดูวังเวงแต่ก็วังเวงได้ไม่เท่าไหร่ เมื่อมันมีเสียงโละหะกระทบพื้นอีกเป็นสิบ


      ว้าก!!!!!มีอีกเป็นสิบเลยว่ะ ใครไล่ผีเป็นมั่งเนื่ย!”ครี้ดตะโกนลั่น ขณะที่ยังไม่หยุดวิ่ง


      ซีบิลกับกัสคงไล่ได้ แต่ว่าพวกนั้นไม่อยู่น่ะสิเดทตะโกนตอบ ขาก็ยังไม่หยุดวิ่งเช่นกัน


      เฮ้ย!พวกแก ฉันคิดไปเองหรือเปล่าวะ ว่ากระจกมันหัวเราะได้!!!!”เอ็ดเวืร์กตะโกนบ้าง ทำให้หันไปมองกระจกช้าๆ


      หึ..หึ..หึ


      ไม่ใช่หัวเราะได้เพียงอย่างเดียวนะ


      มันยิ้มได้ด้วย


      ว้าก!!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงร้องโหยหวนของนักเรียนป้อมอัศวินชั้นปี 3 ดังสนั่น ขนลุกทั่วร่างเผ่นไปยังห้องหัวหน้าป้อมอย่างรวดเร็ว


      ตึกๆๆๆๆๆ


      เสียงฝีเท้าดังกึกก้อง ทำให้คิลและโรที่รออยู่หน้าห้องหันไปมอง เบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างของเพื่อนร่วมชั้นกอดทั้งสองอย่างแนบแน่น


      โฮๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้คิล ไอ้เฟรินเล่นแรงไปแล้วนะโว้ยครี้ด  ธันเดอร์ร้องไห้อย่างหมดสภาพนักรบ


      เฮ้ย!ไอ้เฟรินมันเล่นอะไร ฉันยังไม่เห็นมันออกมาเลยคิลพูดอย่างงงวย พลางพลักร่างครี้ดออกอย่างแหยงๆทันใดนั้นเสียงเปิดประตูก็ขึ้น พร้อมร่างสูงสง่าของคาโลที่ก้าวออกมา


      อะไรคำพูดสั้นแสนสั้นตามแบบฉบับเจ้าชายน้ำแข็งดังขึ้น


      เฟรินล่ะ?”เดทเอ่ยถาม


      ร้องไห้จนหลับไปแล้ว


      นายอยู่กับมันตลอดแน่นะคาโลขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนพยักหน้า คำยืนยันจากเจ้าชายเมืองนักรบทำเอาทุกคนช็อก เฟรินอยู่ในห้องแล้วผู้หญิงคนนั้น


      เช้าวันต่อมา


      บรรดาผู้ร่วมก๊วนแกล้งเฟรินเมื่อคืนนั่งซึมเศร้า หลังจากรู้ความจริงจากรุ่นพี่โรเวนที่เคารพเมื่อพวกเขาไปถามเริ่องชุดเกราะอัศวินเลือดที่พี่แกเล่าให้ฟัง พี่ท่านก็ยิ้มมุมปาก ก่อนบอกว่า
      เรื่องนั้นน่ะหรอ โกหกน่ะ มันจะมีจริงได้ไงอยากถามเหลือเกินว่าหากมันไม่จริงแล้วที่พวกเขาเจอเมื่อคืนล่ะ


      ครี้ดแล้วก็พวกนายด้วยเฟรินทักเสียงใส มือบางๆยกกล่องขนมเค้กใบใหญ่มาวางไว้บนโต๊ะนี่..ฉันทำมาให้กินซะสิ


      นายป้อนฉันไหมล่ะครี้ดถามอย่างสนุก ทำให้ร่างบางชะงักไปชั่วครู่ ก่อนคลี่ยิ้ม


      ได้สิเจ้าหล่อนหยิบมีดมาแบ่งเค้กสีส้มอมแดงเป็นหลายๆส่วนใส่จานส่งให้ทุกคน และถือไว้หนึ่งจาน มือบางๆแบ่งเค้กเป็นชิ้นเล็กๆโดยใช้ส้อม แล้วจึงยื่นไปที่ปากของคนตรงหน้า ครี้ด  ธันเดอร์มองหญิงสาวสลับกลับมองชิ้นเค้ก ดูท่าทางเขาจะตกใจกับท่าทีของหล่อนไม่น้อย


      อ้าปากซิครี้ดเฟรินพูดเสียงหวาน นัยน์ตาสีน้ำตาลทอประกายหวานซึ้ง

      นักรบจากไนล์อ้าปากตามคำขอ ทันใดนั้นก็ต้องอ้าปากค้าง ร้องอย่างร้อนรน


      เผ็ดๆๆๆๆๆๆ


      เผ็ดหรอ?ครี้ดเฟรินถามอย่างไม่สกสะท้านลองชิมดูใหม่นะเจ้าหล่อนยัดชิ้นเค้กที่เหลือลงไป ตัวป่วนแห่งป้อมอัศวินคายทิ้ง ก่อนร้องอีกครั้ง


      เผ็ดๆๆๆๆ….น้ำ น้ำ ขอน้ำเจ้าหญิงสองดินแดนหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่มาให้แต่พอครี้ดจะหยิบ ร่างบางก็เททิ้งหน้าตาเฉย แถมยังแกล้งอุทานอีกว่า


      ตายจริง ขอโทษนะครี้ดฉันซุ่มซ่ามไปหน่อย ทำน้ำหกหมดเลยแล้วเจ้าหล่อนก็ทำหน้าตาครุ่นคิด 

      ทำไมถึงเผ็ดได้นะ ก็ฉันน่ะไม่ได้ใส่พริกไทยลงไปเลยนะ ใส่เฉพาะพริกที่มีสีแดงๆเท่านั้นเอง


      เสียงฝีเท้าดังขึ้น ทำให้เฟรินหันไปมอง เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่คือใคร เธอก็เดินเข้าไปใกล้ แล้วพูดว่า


      คาโล….ครี้ดต้องการน้ำเย็นเพื่อแก้เผ็ดล่ะคาโลยิ้มน้อยๆในมือเรียกคทาพิพากษาออกมาร่ายเวททันที


      วีสกาย่า


      วันนั้นห้องพยาบาลประจำป้อมอัศวิน มีร่างของบรรดานักเรียนปี
      3 อยู่เกือบครึ่ง ทุกคนมีอาการฟันกระทบกึกไตลอดเวลา มีเพียงนักเรียนที่ชื่อครี้ด  ธันเดอร์ที่อาการหนักคือนอกจากจะสั่นตลอดเวลาแล้ว ยังมีอาการปากบวมแตก กินได้แต่ข้าวต้มไปหลายวัน 

       

      ~The End~ 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×