ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE BLUE GATE

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 :: ---T[h]e R[e]sC[u]e---

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 50


    ---T[h]e R[e]sC[u]e---

     

     

     

    เมื่อตะวันเริ่มตกดินฟาลและเคดรอฟก็กำลังมุ่งหน้าไปอีกทางเพื่อไปอีกซีกนึงของโลกเพื่อไปแก้คำสาปของตนสู้ๆทั้งสอง

     

                เมื่อตะวันตกดินแล้วฟาลกับเคดรอฟยังคงเดินในป่าที่มืดมิดต่อไป มีเพียงแสงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวในคืนนี้เท่านั้นที่นำทางทั้งสองอยู่ ฟาลก็คอยสังเกตพฤติกรรมของเคดรอฟอยู่เนืองๆ เผื่อว่าเคดรอฟกลายร่าง  เขาสังเกตจนมากจนแทบจะเรียกได้ว่าจดจ่ออยู่กับเคดรอฟคนเดียว จนเคดรอฟเกิดความรำคาญที่ถูกจ้องบ่อยๆ

     

    มองอยู่ได้ เดี๋ยวก็ตกหลุมรักเราหรอก เคดรอฟแหย่กวนๆ

     

    ฟาลหันมามองเคดรอฟอย่างเอาเรื่อง มืดแล้ว นายยังไม่กลายร่างอีกรึ

     

    อย่าห่วงเลยเรากลายร่างแค่คืนเดือนมืดเท่านั้นแหละเคดรอฟตอบอย่างสบายอารมณ์

     

    ก็แล้วไป ฟาลพยักหน้าเข้าใจแล้ว เดินต่อไปเงียบๆ

     

                สายลมยามดึกโชยมาอ่อนๆ ทั้งสองก็ยังคงเดินต่อไปอย่างเงียบๆในป่ามืดๆนี้ เสียงนกและสัตว์กลางคืนดังระงมทั่วป่า อย่างน่ากลัว ทั้งสองก็ยังคงเดินต่อไปอย่างเงียบๆ จนเวลาผ่านไป แล้วก็ผ่านไป

     

                ทั้งสองเดินอย่างเงียบๆ เพลินจนไม่ได้สังเกตว่าได้เดินออกมาพ้นจากแนวป่าแล้ว ทั้งสองเดินพ้นจากแมกไม้ มาสู่พื้นที่กว้าง ซึ่งเต็มไปด้วยโขดหิน ตะวันโผล่พ้นเส้นขอบฟ้าแล้ว ทั้งสองก็ยังเดินไม่หยุด จนพวกเขาค้นพบอะไรบางอย่าง

     

    ดูสิ ฟาล เมือง!!!” เคดรอฟ ชี้ให้ฟาลดูด้วยความตื่นเต้น

     

    หิวจัง ไปหาอะไรกินกันเถอะ ฟาลเสนอ พร้อมทำหน้าตะกละตะกราม

     

    มีเงินนิ?” เคดรอฟถาม

     

    ก็...นายจ่ายไง ฟาลตอบอย่างไม่ใส่ใจ

     

    ทุเรศ ไม่มีหรอก เฟ้ย เคดรอฟตัดรอนฟาลอย่างเหลืออด

     

    ขี้งก ฟาลบ่นกระปอดกระแปด แล้วเดินต่อไป งั้นเรากินแล้วชักดาบกันดีมั้ย ฟาลเสนอความคิดเลวๆออกมา

     

    เอาดิ ๆ งั้นเราไปกันเถอะ เคดรอฟก็เห็นดีเห็นงามตามไปด้วย สมแล้วที่มาด้วยกัน แล้วทั้งสองก็เดินฝันหวานถึงอาหารที่จะได้กินแล้วหนี ในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้

     

                ทั้งสองเดินผ่านป้ายที่เขียนว่า เมืองเฮลโกลไมด์ เมืองนี้เป็นเมืองขนาดเล็ก ที่ดูแห้งแล้ง เต็มไปด้วยโขดหินมากมาย และร้านอาหารเล็กๆ 2-3 ร้าน บ้านเรือนเป็นตึกแถวหลังเล็กๆ และเต็มไปด้วยร้านขายอาวุธมากมาย เหมือนคนในเมืองนี้ มีไว้เพื่อทำสงครามกันเองอย่างนั้นแหละ ส่วนผู้คนที่กำลังเดินอยู่ในเมือง ล้วนเป็นชายฉกรรจ์ รูปร่างถึก บึกบึน ไว้หนวดไว้เครามากมาย ต่างแต่งกายด้วยชุดทางตะวันตก และพกปืนสั้นกันคนละไม่ต่ำกว่า 2 กระบอก

     

                ฟาลและเคดรอฟมองคนในเมืองด้วยความทึ่ง และเดินดูอวุธตามร้านต่างๆ อวุธส่วนใหญ่ เป็นประเภทปืนสั้นรูปแบบต่างๆ ที่ถูกทำอย่างหยาบๆ ไม่ประณีต และขาดซึ่งความสวยงาม ทั้งฟาลและเคดรอฟก็กำลังคิดว่า ถ้ากินแล้วชักดาบมีหวัง ตัวพรุนแน่ๆ นี่มันบ้านป่าเมื่องเถื่อนชัดๆ

     

                แต่ทั้งคู่ยังไม่ทันได้กินอะไร แล้วหนีก็เกิดเรื่องซะแล้ว เมื่อฟาลเดินเซ ไปชนชายฉกรรจ์คนหนึ่งจนล้มไปชนถังเบียร์ขนาดใหญ่ ล้มระเนระนาด เบียร์หกกระจาย เต็มถนน ชายคนนี้ตัวสูงกว่าฟาลสักสามเท่า ไว้หนวดเครารุงรัง หน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้า กลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้ง และกำลังโกรธฟาลอย่างมาก

     

    ไอ้หนู แกเดินมายังไง ให้ชนถังเบียร์เสียหายขนาดนี้ จะเอายังไง มีเงินชดใช้มั้ย ลูกเต้าเหล่าใครเนี่ย ชายคนนี้กรรโชก ฟาลกับเคดรอฟอย่างบ้าคลั่ง

     

    เราไม่มีเงินหรอก สักกะแดงเดียว แล้วคนที่ทำล้มก็ลุงเองนั่นแหละ เพราะลำพังถ้าเราล้มก็ไม่มีทางที่ตั้งเบียร์ขนาดนี้จะล้มได้หรอก ฟาลเถียงฉอดๆ

     

                เป็นเวลาพอดีกับที่เจ้าของตั้งเบียร์ออกมาบอกให้ชดใช้  ชายคนนั้นจึงต้องควักก๊ะตังค์จ่ายไปอื้อซ่า ทำให้เขาโกรธฟาลกับเคดรอฟ จนควันออกหู จับคอเสื้อของทั้งสองแล้วยกทั้งคู่ขึ้น หิ้วกลับบ้านอย่างง่ายดาย...

     

                แล้วทั้งสามก็มาถึงสถานที่หนึ่งซึ่งดูเหมือน อุโมงค์ขนาดใหญ่ มีรถรางจอดอยู่ สองคันหน้าปากอุโมงค์

     

    นี่คืออะไร ฟาลผู้ปากมากถาม

     

    ฉัน เจฟวี่ เอล เป็นเจ้าของเหมืองทองแห่งนี้ พวกแกต้องทำงานชดใช้ โทษฐานที่ทำให้ฉันตัองจ่ายเงินมากมายเมื่อกี๊ พวกแกก็ทำงานในเหมืองนี่หล่ะ และก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งด้วย

     

                เคดรอฟ ไม่พอใจ เจฟวี่ เอล มากๆ ที่เขาต้องมาทำงานชดใช้ในขณะที่กำลังหิวขนาดนี้ ไม่ใช่ความผิดของเขาสักหน่อย เขาทำหน้าไม่พอใจใส่เอลทันที ในขณะที่ฟาลนั้นตาโตเท่าไข่ห่าน เมื่อได้ยินว่าจะได้ทำงานที่เหมือง ทอง (ทอง ทอง ทอง ทอง เดี๋ยวต้องจิ๊กมาให้ได้<<<ฟาลแอบคิดในใจ)

     

                เคดรอฟหันไปเห็นสีหน้าของฟาลก็ได้แต่ทอดถอนใจ ในความละโมบของเพื่อนร่วมทางคนนี้ ทั้งคู่จึงได้ตกลงทำงานในเหมืองนี้ทันที

     

                ทั้งคู่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ รถรางในการเข้าเหมือง แต่ต้องเดินเข้าไปเพียงลำพังขณะที่ เจฟวี่ เอล นั้นนั่งรถรางไปรอข้างในก่อน ซึ่งเคดรอฟก็หงุดหงิดอย่างมากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ขณะที่ฟาลนั้นโวยวาย เป็นชุดจนเสียงดังลั่นอุโมงค์ไปหมด แต่ถึงจะบ่นมากมายขนาดนั้น ตาก็สอดส่ายไปตามผนังถ้ำ และมือก็คอยแคะละหยิบฉวยทองออกจากผนังถ้ำมาซ่อนไว้ตามตัว จนไม่มีที่จะยัดแล้วก็เลยเปลี่ยนไปเดินตามหลังเคดรอฟ และเริ่มเอาทองยัดใส่ตัวเคดรอฟต่อ

     

                เมื่อทั้งคู่เดินทางมาได้สักระยะหนึ่งก็ได้ยินเสียง เอะอะโวยวายดังออกมาจากในตัวอุโมงค์ ทั้งคู่จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะได้ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

     

                ทั้งคู่เดินมาถึงสุดทางของอุโมงค์ พบ พื้นที่ขนาดใหญ่ที่ถูกขุดเจาะเป็นบริเวณกว้างเท่าห้องโถงขนาดใหญ่เลยทีเดียว ผนังถ้ำเต็มไปด้วยแสงระยิบระยับ ซึ่งก็คือทองที่พวกเขาสมควรจะต้องขุดนั่นเอง ที่สุดทางอีกด้านหนึ่ง ปรากฎแท่นสูงเท่าเอวซึ่งทำด้วยหินอ่อนอย่างดี ข้างๆแท่นนั้นมีครอบแก้วทรงสูง ตกอยู่ที่พื้น และมีเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งยืนกำมือแน่น สีหน้าเด็ดเดี่ยว ถูกล้อมรอบด้วยคนงาน ในเหมืองและ กำลังยืนประจันหน้ากับ เจฟวี่ เอล

     

    เอาคืนมาซะดีๆ แม่หนูน้อย อย่าให้ต้องใช้กำลังมากมาย เจฟวี่ เอล ขู่กรรโชก เด็กผู้หญิงคนนั้น เหมือนว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะไปขโมยอะไรของเขามา

     

    ไม่ อยู่ในมือเจ้า สิ่งนี้ก็ไร้ค่า ฉันจำเป็นต้องใช้ สิ่งนี้ ถอยไปดีกว่า เด็กผู้หญิงผู้เย่อหยิ่งตอบกลับมา

     

                ฟาลกับเคดรอฟได้แต่ยืนตะลึงอยู่ จนเจฟวี่ได้ควักแส้ที่เหน็บเอวอยู่ออกมา แล้วฟาดผนังอุโมงค์เสียงดังเพื่อข่มขวัญสาวน้อยผู้เย่อหยิ่งคนนี้ ฟาลพุ่งออกไปทันที หมายจะช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้น ขณะที่ ฟาลพุ่งออกไปก็โดนแซ่ ฟาดใส่หน้าเป็นแผลทางยาว เลือดไหลซิบๆ ขณะที่ เด็กหญิงผู้เย่อหยิ่งนั้นกางปีกแล้วบินสูงเพื่อให้พ้นรัศมี ของแส้ เธอก็ตกใจนิดนึงที่เห็นฟาลพุ่งออกมาจึงชะงักเล็กน้อย ส่วนฟาลตอนนี้นั้น ชะงักอย่างแรง แล้วหันไปมองสาวน้อยด้วยอาการงงงวย ปนตกตะลึง แล้วหันไปมอง เจฟวี่ เอล ผู้มอบแผลให้เขาอย่างโกรธแค้น

     

                ฟาลเปิดกรงเล็บแล้วข่วน เจฟวี่ เอล ทันทีแต่ถูก เจฟวี่ เอล เอาแส้ฟาดกรงเล็บเขากระเด็น เขาจึงไม่ได้รับแม้รอยขีดข่วน แล้วเจฟวี่ เอล ก็เอาแส้ตวัดฟาลจนได้แผลที่หน้าอกอีกแผล

     

                ด้านเคดรอฟนั้นเมื่อเห็นฟาล ถูกทำร้ายก็กำลังจะพุ่งเข้าไปช่วยก็เจอกับชายฉกรรจ์ สี่คนเข้ามารุม(โทรม) พร้อมอาวุธครบมือ คือ จอบ เสียม และอุปกรณ์การขุดดินต่างๆ เคดรอฟ เห็นท่าไม่ดี กะว่ามือเปล่าสู้ไม่ได้แน่ๆ เขาหันไปมองฟาล ซึ่งตอนนี้ กำลังกระโจนเข้าหา เจฟวี่ เอล แล้วโดนถีบออกมากระแทกผนังอุโมงค์ซะเต็มแรง เคดรอฟ ดึงดาบ เบนไนฟ์ เล่มที่ 13 ออกมาจากเสื้อคลุมด้านซ้าย ชายฉกรรจ์ทั้ง สี่คนเมื่อเห็นดาบก็ชะงักทำให้เคดรอฟสามารถอาศัยทีเผลอของทั้งสี่นี้ ตวัดดาบทีเดียวกระเด็นไปนอนกองกับพื้นเลือดอาบ คนละทิศคนละทาง (โอ้เท่มาก)

     

                ฟาลหันไปมองการต่อสู้ของเคดรอฟซึ่งตอนนี้ถูกชายฉกรรจ์ร่างบึกบึนรุมต่ออีก ห้าคน ฟาลแอบเคืองนิดๆ ว่าเคดรอฟจะเด่นเกินหน้าเกินตาไปแล้ว ฉันเป็นพระเอกนะเฟ้ย!!! ฟาลนึกแล้วก็ฉุนขึ้นมา เป็นเวลาเดียวกับที่เจฟวี่ เอล ฟาดแส้ใส่หน้าของฟาลอีกหนึ่งแผล ฉุดฟาลให้ออกมาจากภวังค์

               

    ไอ้นี่เล่นไม่เลิก เห็นอ่อนข้อให้ทำเป็นได้ใจ

     

    ฟาลโมโหมากกระโจนเข้าหาเจฟวี่ เอล เอากรงเล็บตวัดแส้ของเจฟวี่ เอล (ไม่มีชื่อเล่นรึไงฟะ ชื่อย๊าวยาว คร้านพิมง่าว) รั้งไว้แล้วถีบหน้าเจฟวี่เอลเต็มแรง ผลคือ ฟาลกระเด็นออกมาเองแต่กรงเล็บที่รั้งแส้ของ เจฟวี่ เอล ไว้นั้นได้กระชากให้ เจฟวี่ เอล เสียหลักล้ม ใส่ฟาล เป็นจังหวะพอดีที่ฟาลเห็นทันจึงตั้งเข่าไว้รอ พลั่ก!!! เจฟวี่ เอลจุกจนพูดไม่ออก ฟาลได้ทีตวัดกรงเล็บใส่เจฟวี่ เอล ทันทีแล้วกระทืบไม่ยั้ง จนหน้าเจฟวี่ เอลนั้นเละไม่มีชิ้นดี

     

    5555555555+ สมน้ำหน้าไอ้ หน้าหมีควาย 555555555+ ฟาลหัวเราะอย่างสะใจ

     

    เคดรอฟถอนความสนใจจากการสู้รบมามองตามเสียงหัวเราะ แล้วก็คิดในใจว่าฟาลนี่เป็นตัวอันตรายจริงๆ แต่เสียงหัวเราะของฟาลคงจะดังไปหน่อย ทำให้เคดรอฟรู้สึกถึงหินที่ตกลงมาจากผนังอุโมงค์ ครืนนนนนนนน!!!

     

    อุโมงค์กำลังค่อยๆถล่มลงมา คนทั้งหมดที่ยังมีสติอยู่วิ่งหนีออกมาจากอุโมงค์อย่างไม่คิดชีวิต ฟาลและเคดรอฟวิ่งออกมาแทบจะเป็นคนท้ายๆ เพราะเมื่อกี๊อยู่ส่วนที่ลึกที่สุดของอุโมงค์ อุโมงค์ถล่มลงมาอย่างรวดเร็วแล้วตอนนี้ ฟาลกับเคดรอฟเริ่มคิดว่าไม่รอดแน่แล้วเรา ก็เหมือนมีปาฎิหาริย์ ฟาลและเคดรอฟลอยสูงขึ้นจากพื้นและลอยออกจากอุโมงค์อย่างปลอดภัย เย้

     

    เยี่ยมเลยฟาล นี่คงเป็นปาฎิหาริย์ จากพระเจ้า แน่ๆเลย เคดรอฟตะโกนด้วยความตื่นเต้น

     

    พระเจ้าตายเลย ขี้มั่วๆ เพราะฉันช่วยพวกเจ้าไว้หรอกย่ะถึงรอดมาได้ เสียงเล็กๆน่ารักลอยมาจากด้านหลังของฟาลและเคดรอฟ

     

                ก่อนที่ฟาลและเคดรอฟจะทันหันไปมอง ทั้งคู่ก็หัวทิ่มลงพื้นแล้ว ฟาลและเคดรอฟหันไปมองคนที่ปล่อยพวกเขาลงมา เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่ฟาลและเคดรอฟช่วยในอุโมงค์ แต่ตอนนี้เธอกลับเป็นฝ่ายมาช่วยพวกเขาเสียเอง

     

                ฟาลจ้องหน้าเด็กผู้หญิงคนนี้เนิ่นนาน เค้ารู้สึกคุ้นหน้าเด็กผู้หญิงคนนี้มากๆ เธอมีผมสีน้ำตาลเป็นลอนสวย เป็นประกาย สวมชุดสีขาวฟูฟ่อง ผิวขาวเนียน หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม มีปีกสีเขียวน้ำทะเล แซมด้วยสีน้ำเงินและแดง แล้วปีกคู่นี้ก็ขยับอย่ารวดเร็วจนฟาลดูไม่ทัน

     

    เธอที่มายุ่งเรื่องของเรา ในตอนเช้าวันนั้นน่ะเองฟาลนึกขึ้นได้

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×