ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE BLUE GATE

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 :: …T[h]e [u]n we/cOmE B[e]aST…

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 50


    …T[h]e [u]n we/cOmE B[e]aST…

     

     

     

                เมื่อตะวันโผล่พ้นเส้นขอบฟ้า ในเช้าวันหนึ่ง ฟาลได้เตรียมการ ที่จะมุ่งไปเมืองเอ็นเวย์ เขาได้ร่ำลา เฟรมเน็กซ์ และได้มุ่งหน้าออกไป โดนไม่ได้บอกที่บ้านด้วยซ้ำไป เขาตั้งในว่าจะหายสาบสูญไปจากหมู่บ้าน เพราะแน่นอนว่าไม่มีใครที่หมู่บ้านนี้จะสนใจว่าเขาเป็นอย่างไร เมื่อเขาร่ำลาเฟรมเน็กซ์แล้ว เขาก็เดินทางพ้นประตู หมู่บ้านเวสท์วาร์กอนไป

     

    เมื่อการเดินทางของฟาลได้เริ่มขึ้นนั้นฟาลก็ได้รู้ว่าการเดินทางนั้นมันหนักหนาสาหัสเอาการสำหรับเด็กอายุ 16 ปีที่ต้องเดินทางเท้าข้ามโลกอย่างนี้ อันที่จริงเขาก็ไม่ใช่เด็กที่จัดว่าเป็นเด็กธรรมดา เขาเป็นบุตรของพระเจ้า เพราะเขาฝากครึ่งชีวิตให้พระเจ้าดูแล และมีเครื่องยืนยันคือกรงเล็บเงินอันภาคภูมิของเขา

     

    ฟาลเดิน ผ่านภูเขามากมายมาเป็นเวลา 3 วันแล้วแต่เขาก็ยังไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอันที่จริงการเดินทางนี้ลำบากมากสำหรับเขาเพราะเขาเริ่มเหงาและเบื่อ ตอนนี้เขากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ป่าดงดิบ อันรกร้างและมืดมิด อีกนานมั้ยนะกว่าจะถึงเมืองต่อไป ฟาลบ่นในใจ...ตะวันคล้อยลงต่ำแล้วบ่งบอกว่าเป็นเวลากลางคืน แต่คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ คืนนี้ช่างมืดมิดยิ่งนัก

     

    ฟาลเดินไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว ห่างออกไป เสียงพุ่มไม้ขยับนั้นดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ ฟาลรู้สึกได้ว่า มีตัวอะไรเคลื่อนไหวอยู่ห่างไม่ถึง 4 เมตร บรรยากาศรอบตัวเริ่มตรึงเครียด อากาศเย็นยะเยือก ฟาลยืนนิ่งมากๆคอยฟังเสียงการเคลื่อนไหวรอบๆตัว...

     

    แซ่กๆ... ทันใดนั้นก็มีบางอย่างพุ่งตัวมาหาฟาล ตัวมันพอๆกับฟาล และพยายามจะทำร้ายฟาล ฟิ้ว... แม้ฟาลจะมองมันไม่เห็น แต่ฟาลก็ไม่โง่ที่จะรู้ว่ามันข่วนฟาลจนแก้มเป็นรอย เจ็บ แปล๊บๆ...ฟาลพยายามมองหา แต่มันหายไป !!! และแล้ว มันก็โผล่มา โอ้แม่เจ้ามันมีเล็บด้วย เขาถูกข่วนที่ไหล่ขวาเลือดไหลอาบ   แต่เมื่อมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ราวกับว่าหมายจะกัดฟาล ฟาลก็รู้แล้วว่ามันมีปาก ตาสีแดงของมันดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งนักแต่ฟาลเลือดขึ้นหน้าแล้ว เขาใช้เท้าถีบมันกระเด็นออกจากตัว

     

    เจ้าตัวร้ายกระเด็นไปฟาดต้นไม้...น่าอนาถนักที่มันเป็นต้นสน เจ้าตัวร้ายนั้นเลยไม่รู้สึกเจ็บสักนิด เพราะไอ้ต้นไม่ที่มันไปชนน่ะมันเป็นต้นสน!! โอ้ ซวยอะไรอย่างนี้ ฟาล บ่นในใจอีกตามเคย ตอนนี้เขาพอจะเห็น เจ้าตัวร้ายนี้แล้ว มันตัวเกือบเท่าเขา   ผมสีเงินยาวเลยบ่าตกลงมาปกหน้าเล็กน้อย สวมเสื้อคลุมสีดำยาวตัวใหญ่โคร่งที่ไม่รู้ว่าใส่เข้าไปได้ยังไงเลือดไหลอาบมือของมันซึ่งนั่นก็น่าจะใช่เลือดของเขาเอง ฟาลพยายามเพ่งมองดูมันขณะที่มันค่อยๆยันตัวลุกขึ้น มันเหมือน คน...แต่เดี๋ยวมันยิ้มนี่หว่า  แล้วทำไมฟันมันถึงได้ยาวนักล่ะ...เมื่อเขาจ้องนานเข้าสิ่งมีชีวิตนั้นก็แสยะยิ้ม...เขาก็เห็นว่ามันมีเขี้ยว...โอ้..เขี้ยวชัดๆเห็นเต็มสองตาเลย...

     

    โอ้ แม่เจ้าโว้ย ฟาลอุทาน (อุทานอะไรไม่อุทานนะแก) นี่มัน ผีดิบ...ผีดิบดูดเลือด..แวมไพร์ชัดๆ

     

    ฟาลตาโตกับสิ่งที่ได้พบเห็นจึงไม่ทันได้ป้องกันตัวเมื่อเจ้าแวมไพร์นั่นได้ตวัดเสื้อคลุมที่ไม่รู้ว่าทำมาจากอะไรมันถึงได้หนักนักใส่หน้าฟาลอย่างจัง...ผัวะ!!!...ทำให้เขาเซไปตามแรงที่ถูกฟาด ไปชนกับต้นโอ๊ค เข้าอย่างจัง

     

    ทีแกล่ะชนต้นสน แล้วทำไมเราต้องชนต้นโอ๊คด้วยฟะ ฟาลบ่นกระปอดกระแปดด้วยความน้อยใจในโชดชะตา เขาหันไปจ้อง เจ้าผีดิบตัวร้ายด้วยความแค้น

     

    มันเจ็บนะเว้ย ฟาดมาได้มาลองโดนมั่งมั้ยแก ตอนนี้ฟาลเลือดขึ้นหน้าแล้ว(อีกแล้วเหรอ..คือมันเลือดขึ้นหน้าไปกี่รอบแล้วฟะเนี่ย)

     

    ฟาลลุกขึ้นหมายจะต่อยมันเขากำหมัดขวาแต่มันติดกรงเล็บ!!!...เขาจึงไม่ได้ง้างหมัดใส่เจ้าตัวร้ายนั้น  จึงถูกเจ้าตัวร้ายตะครุบไหล่ซ้ายได้ ฟาลรู้สึกสิ้นหวัง เขาสู้มันไม่ได้หรือนี่ ...

     

    ขณะนี้ผู้อ่านคงคิดว่าฟาลโง่หรืออย่างไร ที่ไม่ใช้กรงเล็บนั้นจัดการ เจ้าตัวร้าย ขอบอกว่าอย่าตัดสินอะไรโดยที่ยังอ่านไม่จบ...เข้าเรื่องต่อนะ...

     

    ฟาลพยายามดิ้นรนอยู่ในกรงเล็บที่ไม่ของเจ้าตัวร้าย มันดูแข็งและคมกริบเหมือนกับว่าจะไม่มีวันแกะออกได้เลยถ้ามันไม่ปล่อยเขาเอง ฟาลยังมีอารมณ์คิดอยู่ว่ามันไปทำเล็บร้านไหนถึงได้คมนักไว้จะไปทำมั่ง(บ้าป่าวฟะ...)เขาดิ้นรนกระเสือกกระสนอยู่ใต้กรงเล็บของเจ้าตัวร้าย

     

    กรงเล็บ!!” ฟาลฉุกคิดได้แล้วตวัดกรงเล็บเงินใส่หน้าอกของเจ้าตัวร้ายทันที เจ้าตัวร้ายร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด โอด...ด.ด...ด.......โอย..ย..ย..ย.....โอด..ด.ด..ด.......โอย..ย..ย..ย(ฟังแล้วเจ็บปวดดีจริงๆ)

                ฟาลนั้นไม่ได้โง่นะ เขาเพียงแต่คิดได้ช้ากว่าท่านผู้อ่านเท่านั้น อย่างน้อยๆ เขาเองก็คิดว่าเขาไม่ได้โง่

     

                เจ้าตัวร้ายเซถลาลงไปสะดุดตอไม้ ล้มลงหัวฟาดโขดหินแน่นิ่งไป ฟาลเดินไปหมายจะกระทืบซ้ำ (ช่างจิตใจโหดเหี้ยมเสียจริง) แต่แล้วเขาก็รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรเจ้าตัวร้ายได้ เขาได้ล้มลงขณะที่กำลังง้างเท้าจะกระทืบเจ้าตัวร้ายนั่นเอง

     

     

                ตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าส่องแสงมาตามแมกไม้ของป่าดงดิบแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มผมสีเงินลืมตาขึ้นมานัยต์ตาสีเงินของเขานั้นบ่งความสงสัยอย่างปิดไม่มิด เขาอยู่ที่ไหน ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้   แต่เมื่อเขามองดูสภาพพื้นที่รอบตัวเอง เต็มไปด้วยแมกไม้นานาชนิด เขารู้สึกได้ถึงลมเย็นยะเยือกที่พัดผ่านหน้าอกเขาไป ทำให้รู้สึกขนลุก เขาก้มลงมองสภาพของเขา...เสื้อขาดวิ่น    สกปรกมอมแมม..แต่ทำไมมันหนักๆขาใครกันมาพาดอยุ่บนตัวฉัน  ผมสีน้ำตาลแดงสั้นๆ..ผู้ชาย??....มันมาอยู่บนตัวเข้าได้ยังไงแล้วยังไอ้อาการเคล็ดขัดยอกตามตัวนี่อีก 0o0...หรือว่า......

     

                อ๊ากกกกกกกกกกกกก

     

                เสียงแผดร้องดังลั่นป่า ปลุกฟาลให้ตื่นจากภวังค์ เขามองหาต้นตอของเสียง ..............ตรงหน้าเขาที่เจ้าตัวร้ายเคยนอนอยู่ ปรากฎร่างชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งกุมเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยบริเวณหน้าอกของตัวเอง ทำสีหน้าเหมือนคนโดนข่มขืน นั่งร้องห่มร้องไห้ ทำให้ฟาลแปลกใจยิ่งนัก

     

                แก แก ข่มขืนฉัน ชายหนุ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น ฉันไม่ชอบไม้ป่าเดียวกัน ฮือออออ..ม่าย

     

                เฮ้ย อะไรวะ ฟาลงงเป็นไก่ตาแตก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×