The Secrets - นิยาย The Secrets : Dek-D.com - Writer
×

    The Secrets

    เซรีน เด็กสาวที่เติบโตมาในฐานะนักฆ่าเลือดเย็น ได้มีความรักกับเด็กหนุ่มที่ไม่มีใครคิดว่าจะคู่ควรกับเธอ เมื่อความลับของเขาและเธอได้ถูกล่วงรู้ บททดสอบของความรักของเขาและเธอจึงได้เริ่มต้นขึ้น

    ผู้เข้าชมรวม

    70

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    70

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 ธ.ค. 52 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทที่ 1 จุดเริ่มต้น
     
                    เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างเข้าไปในตรอกแคบๆแห่งหนึ่งที่เมื่อสุดตรอกนั้นเป็นทางตัน เขาหันกลับมามองอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนประมาณห้าคนวิ่งตามมา เขาหันกลับไปมองดูเด็กหญิงที่วิ่งมากับเขาอย่างรนราน
                    ส่งเด็กคนนั้นมาให้เรา แล้วแกจะได้ไม่เจ็บตัว ผู้ชายชุดดำที่อยู่ในกลุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น เขาเดินออกมาข้างหน้า
                    เธอยังเด็กเกินไป เพราะฉะนั้นรอจนกว่าเธอจะโตเถอะนะ ผู้ชายคนนั้นพูด
                    แล้วฉันต้องรออีกนานเท่าไหร่กันล่ะ แกอย่าลืมนะว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้น่ะก็ต้องการให้ลูกสาวเข้ามาอยู่ในองค์กรของเราด้วย ผู้ชายชุดดำบอกกับเขา
                    ฉันรู้แล้วเรื่องนั้นน่ะ แต่ถ้าเธออยู่กับฉันเธอก็จะได้ทุกอย่างจากฉัน ทุกอย่างที่ฉันเป็น แกก็รู้ว่าฉันเป็นใครนี่และพอเธออายุสิบเจ็ดก็ค่อยให้เธอเข้าองค์กร เขาพูด
                    เอางั้นก็ได้ เมื่ออายุครบสิบเจ็ดเธอจะอยู่ในองค์กรของเรา ชายชุดดำพูด
     
                    เก้าปีต่อมา ที่อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ที่มีชื่อว่า พอร์ตเบอร์ ที่ห้องแปดสองสาม ชั้นที่แปด
                    ตื่นเสียทีสิเซรีน เดี๋ยวก็สายตั้งแต่วันแรกหรอก ผู้ชายคนหนึ่งพูดพร้อมกับเปิดผ้าห่มออก
                    รู้แล้วน่า นิโคลัสล่ะก็ เด็กสาวคนหนึ่งบ่นพึมพำอย่างงัวเงียแล้วลุกขึ้นนั่งช้าๆพร้อมกับเขี่ยผ้าห่มออกอย่างเกียจคร้าน
                    ถ้างั้นก็ลุกไปล้างหน้าแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย วันนี้เธอต้องเข้าเรียนที่อิงกริชแล้วนะ นิโคลัสบอกกับเธอ เขาเป็นผู้ชายที่มีหน้าตาหล่อเหลา มีผมสีน้ำตาลทองและมีดวงตาสีเขียวราวกับมรกต สิบนาทีนะ เขาบอกกับเธอ
                    เออก็ได้! เซรีนพูด แล้วเธอก็ลุกจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ สี่นาทีต่อมาเธอก็ออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นอีกห้านาทีต่อมาเธอก็มานั่งทานอาหารเช้าที่โต๊ะอย่างเงียบๆพร้อมกับนิโคลัส เซรีนเป็นเด็กสาวอายุประมาณสิบเจ็ดปี เธอมีรูปร่างที่สูงและสัดส่วนพอดี เธอมีผมสีแดงและดวงตาสีเทาอ่อนที่ดูน่ากลัวอย่างเห็นได้ชัด
                    กินเยอะๆหน่อย เธอน่ะผอมเกินไปแล้วนะ ถ้าพ่อเธอมาเห็นเธอในสภาพนี้เขาจะว่าฉันไม่ดูแลเธอ เอาแต่ฝึกจนไม่ได้กินไม่ได้นอน เขาพูด
                    อย่างฉันตอนนี้เขาเรียกว่าหุ่นดีย่ะ ถ้าเอาแต่กินก็โดนว่าหมูกันพอดี เซรีนพูดจบก็หันมาสนใจกับขนมปังของเธอต่อ
                    ไหนว่าถ้าเอาแต่กินจะกลายเป็นหมูไง แล้วนี้พูดยังไม่ทันจะขาดคำก็ซัดขนมปังไปสี่แผ่นแล้ว อีกไม่นานคงกลายเป็นหมูจริงๆแน่ นิโคลัสพูดกับตัวเองแล้วมองเซรีน
                    ว่าไงนะ! เซรีนพูด
                    ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่พูดว่าถ้าไม่รีบจะไปสายนะก็เท่านั้นเองน่ะ เขารีบพูดแก้ตัวทันที ขืนบอกความจริงไปเธอก็อัดฉันตายพอดี เขาพูดกับตัวเอง
                    จริงด้วยสิ! งั้นฉันไปก่อนนะ เซรีนพูดแล้วก็รีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าที่ห้องนอนของตัวเองแล้วก็รีบวิ่งไปหอมแก้มนิโคลัส ไปก่อนนะ เธอบอกกับเขา
                    รีบกลับมาไวๆนะ เขาตะโกนบอกเธอ ตอนนี้เธอก็อายุครบสิบเจ็ดแล้วสินะ ถึงเวลาแล้ว
                    เมื่อเซรีนออกมาจากอพาร์ตเม้นต์เธอก็พบกลุ่มเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซน์ พวกเขากำลังพูดคุยกันเสียงดัง แล้วเมื่อเซรีนเดินเข้าไปใกล้หนึ่งในนั้นก็พูดทักทายเธอขึ้น
                    หวัดดีเซรีน! จไปไหนน่ะ เด็กหนุ่มที่มีผมสีบลอนซ์ถามเธอ
                    ไปเรียนน่ะสิถามได้ เซรีนตอบแล้วก็เดินเข้ามาหาพวกเขา สวัสดีทอม เธอพูดแล้วก็ก้มลงไปจูบเขา
                    ที่ไหนเหรอ ทอมถามเธอ
                    อิงกลิชวิทยาลัย เธอบอกกับเขา
                    อิงกลิชเหรอ! งั้นเธอเป็นรุ่นน้องเราแล้วน่ะสิ เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งพูดขึ้นเขาเป็นฝาแฝดของทอมแต่เขามีผมสีน้ำตาล
                    สวัสดีทิม! เมื่อคืนฝันดีหรือเปล่า เซรีนถาม
                    ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ เล่นโดนเตะซะก้านคอแบบนั้น ไม่สบายก็บ้าแล้ว จะว่าไปแล้วเตะหนักเหมือนกันนะเราน่ะ ทิมพูดแล้วนวดที่คอของตัวเอง
                    ไปด้วยกันสิเซรีน เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งพูด เขามีผมและดวงตาสีดำ
                    เป็นคำชวนที่ดีมากเลยนะนิคกี้ฉันกำลังขี้เกียจอยู่พอดีเชียวเซรีนพูดแล้วก็เข้าไปกอดนิคกี้อย่างขอบคุณ
                    ห้านาทีต่อมาเซรีนและเพื่อนๆก็มาถึง อิงกลิชวิทยาลัย เมื่อรถของทอมผ่านประตูโรงเรียนเข้าม สาวๆในโรงเรียนก็พากันกรี้ดกร้าดเสียงดัง บางคนก็พูดทักทายพวกเขา บางคนก็โบกมือให้ ไม่ว่าพวกเธอจะทักทายพวกเขายังไงแต่ในตอนสุดท้ายทุกสายตาก็จะพากันมาจับจ้องอยู่ที่เซรีนอย่างเกลียดชังปนอิจฉา
                    นายนี้เนื้อหอมนะทอม ทำเอาฉันเหงื่อแตกตั้งแต่วันแรกที่มาเข้าโรงเรียนเลยนะ เซรีนพูดตอนนี้พวกเขากำลังอยู่โรงจอดรถหลังอาคารเรียน
                    เนื้อหอมไปก็เท่านั้นแหละ เพราะถ้าไม่มีเธอทุกอย่างก็เหมือนกับไม่มีค่า แล้วอีกอย่างนะสาวๆพวกนั้นไม่เห็นจะมีใครสวยเหมือนเธอเลยสักคน ทอมพูดแล้วดึงเซรีนเข้าไปกอด
                    จะมีสักครั้งมั้ยที่นายจะเห็นพวกเราอยู่ในสายตาน่ะ นิคกี้พูดอย่างหงุดหงิด
                    นายนี้มันยังไงกันนะไปขัดความสุขเขาทำไมกัน ทิมพูดแล้วก็ลากนิคกี้ออกไปทอมกับเซรีนเดินตามพวกเขาไป
                    เธออยู่ห้องไหนเหรอเซรีน ทิมถามเซรีนที่กำลังสำรวจตัวเองก่อนจะเข้าหอประชุม
                    เอ่อ - - - จำไม่ได้หรอก แต่ว่าฉันอยู่ห้องเดียวกันกับเบลซแล้วก็เบนน่ะ เธอบอกกับเขา
                    เป็นการรวมตัวที่หฤหรรษ์จริงๆเลยแฮะ แค่รวมตัวกันข้างนอกคนเขาก็กลัวกันจะแย่อยู่แล้ว นิคกี้แอบกระซิบกับทอมที่ยิ้มอย่างเห็นด้วย
                    เราลองมาคิดถึงเรื่องที่เซรีนกับเจ้าแฝดพวกนั้นทำตอนที่อยู่โรงเรียนเก่าสิ ทิมพูด
                    ใช่ๆพอนึกว่าพวกนั้นจะมารวมตัวกันฉันนี้นอนไม่หลับเลยล่ะ เด็กหนุ่มคนหนึ่งโผล่มาจากด้านหลังของนิคกี้ทำให้ทุกคนตกใจ
                    นายอย่าโผล่มาแบบนี้ได้มั้ยแฮงค์!ทิมพูด
                    ขอโทษทีเพื่อน แฮงค์พูดแล้วตบหลังทิมดังบึก แฮงค์เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักและดูอ้อนแอ้น เขามีผมและดวงตาสีส้ม
                    ไงแฮงค์! เซรีนพูดแล้วก็เข้าไปกอดทักทายเขา
                    เราเข้าหอประชุมกันเถอะ ทอมชวนพวกเขา
                    พวกเขาเดินเข้าไปในหอประชุมเพื่อเข้าพิธีปฐมนิเทศน์ เมื่อก้าวเข้าไปยังไม่ทันจะพ้นคานประตูทุกสายตาก็จับจ้องมาที่พวกเขาพร้อมกับเสียงฮือฮาที่ดัตามมา เหตุที่พวกเขาเป็นที่สนใจมากเป็นพิเศษก็คงเป็นเพราะน่าตาและท่าทางที่ดูดีของพวกเขาบวกกับที่พวกเขาเข้ามาตอนที่ผู้อำนวยการกำลังจะกล่าวปราศรัยกับนักเรียน ไม่ใช่แค่พวกผู้หญิงที่มีท่าทางแปลกๆแต่พวกผู้ชายก็เช่นกัน พวกเขามองเซรีนกันตาแทบจะถลนออกมาแล้วบางคนก็ถึงกับอ้าปากค้างไปเลย
                    เซรีน! เบลซกับเบนนั่งอยู่ตรงแถวที่สองทางขวามือแนะ แฮงค์บอกกับเธอ
                    ขอบใจนะแฮงค์ เซรีนพูดแล้วก็เดินนั่งตรงกลางระหว่างฝาแฝดที่เว้นว่างไว้ หวัดดีเบน! เซรีนหันไปทักทายคนทางขวาที่มีผมสีเทาและดวงตาสีเขียว เขาพยักหน้าให้กับเธออย่างงงๆ หวัดดีเบลซ! เธอทักคนทางซ้ายที่ผมสีน้ำตาลและดวงตาสีฟ้า
                    ไม่เห็นจะรู้เลยว่าเธออยู่ห้องเดียวกับเรา เบลซพูด
                    จะเห็นได้ไงล่ะก็ชื่อฉันน่ะอยู่เป็นคนสุดท้ายของห้องเลย แต่พวกนายน่ะอยู่เลขที่ต้นๆของห้อง เซรีนพูด
                    งั้นหรอกเหรอ ฝาแฝดพูดพร้อมกัน
                    นี่รู้รึเปล่าว่าริซ่ากับแอนนาก็อยู่ห้องเดียวกับเรานะ เซรีนพูด
                    เธออย่ามาล้อเล่นนะ! เบนพูด
                    แล้วก็มีโทนี่กับเนสด้วยล่ะ เซรีนพูดต่อ
                    ฉันอยากจะบ้าตาย ทำไมถึงต้องเป็นพวกนี้ด้วย เบลซพูดแล้วเอามือตบหน้าผากตัวเอง
                    อะไรกันล่ะไม่ดีใจเลยเหรอ เซรีนพูด
                    ไม่ดีใจเลย! ทั้งสองประสานเสียงกัน
                    หลังจากที่พวกเขาต้องทนนั่งตัวตรงฟังคำบรรยายต่างๆที่อาจารย์ใหญ่พูดเพื่อต้อนรับวันเปิดเทอมถึงหนึ่งชั่วโมงเต็มๆพวกเขาก็ได้ไปที่ห้องเรียนของตัวเอง
                    เฮ้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าต้องนั่งตลอดเช้าเสียอีก แฮงค์บ่นแล้วก็บิดขี้เกียจ ตอนนี้พวกเขายืนอยู่หน้าห้องหนึ่งบี
                    ขาฉันนะเป็นเหน็บชาไปหมดแล้วล่ะ เบนเอ่ยขึ้นพรางนวดขาตัวเอง
                    อย่าโอดครวญไปหน่อยเลยน่า! นิคกี้พูดแล้วก็เอามือไปลูบหัวของเบน
                    ฉันว่าเราไปหาโต๊ะนั่งกันดีกว่า แล้วเจอกันนะทอม เซรีนบอกกับเพื่อนๆ
                    พวกเขาทั้งสามคนยังไม่ทันก้าวพ้นประตูเข้าไปก็ต้องถึงกับชะงัก เมื่อพบว่าพวกเขาถูกทุกสายตาในห้องจ้องมองอยู่พวกแกล้งทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินไปหลังห้องแล้วก็ไปนั่งโต๊ะที่วางติดกันอยู่สามตัว เมื่อพวกเขานั่งลงก็ได้ยินเสียงกระซิบต่างๆดังขึ้น บางกลุ่มมองพวกเขาอย่างกลัวๆ บางกลุ่มอยากรู้จักกับพวกเขา บางคนทำท่าอยากจะพูดกับพวกเขาแต่ถูกเพื่อนห้าม และบางกลุ่มก็มองอยากจะหาเรื่อง
                    สวัสดียามเช้าเพื่อนๆที่น่ารักทุกๆคน! เด็กหนุ่มผมสีชาพูดทักทายทุกคนอย่างร่าเริงและเสียงดังทำให้ทั้งห้องหันไปมองเขา
                    อย่าทำตัวให้มันน่าหมั่นไส้ไปหน่อยเลยนะโทนี่ เด็กสาวผมสีน้ำตาลที่อยู่ข้างหลังเขาพูดขึ้นแล้วตบหลังเขาดังป้าบ
                    โธ่ทำไมล่ะริซ่า! โทนี่พูดพรางเกาหลังตรงที่ถูกตี
                    นายก็เข้าไปเสียที่สิโทนี่ ยืนขวางทำไม! เด็กหนุ่มผมสีทองตาสีฟ้าครามที่มีหน้าตาหล่อเหลาพูดขึ้นแล้วก็ผลักโทนี่เข้าไป
                    นายนี่มันชอบใช้กำลังจริงๆเลยนะเนส โทนี่พูด
                    อย่าไปว่าเนสมันเลย ถ้าเป็นฉันจะตีให้แรงกว่านี้อี คนที่ชื่อริซ่าพูด ริซ่าเป็นหญิงสาวที่มีหน้า ตาน่ารักและสวยแบบคนเอเชีย เธอสูงเพียง 5 ฟุตมีและผมสีดำยาวถึงเอว
                    โอ้ไม่นะ! เบลซพูด
                    ฝันร้ายของพวกเรามาแล้วล่ะเพื่อนๆ เซรีนพูดแล้วก็มองที่เบนทีและเบลซที
                    ก่อนที่พวกมันจะเห็นเรานะ เรารีบไปจากที่นี่กันดีกว่า เบลซพูดแล้วพวกเขาก็ค่อยย่องออกไปจากห้อง แต่ยังไม่ทันจะออกไปจากห้องพวกเขาได้ยินเสียงหนึ่งทักขึ้น
                    พวกนายทำอะไรอยู่น่ะ เนสถามพวกเขา
                    เซรีน เบน และเบลซค่อยๆหันไปมองที่ต้นเสียงอย่างช้าๆ พวกเขายิ้มให้อย่างไปเต็มใจ แล้วรีบพูดขึ้นว่า
    ไม่ได้ทำอะไรนี่! พอดีว่าปากกามันหล่นน่ะ
                    บังเอิญจังเลยนะที่มันหล่นพร้อมกันสามแท่งเลยน่ะ เนสพูด
                    น้านนสิ ทั้งสามคนพูดพร้อมกัน
                    ไงเพื่อน! สบายดีรึเปล่า! โทนี่พูดขึ้น
                    แล้วนายเห็นเป็นไงล่ะ เบนพูดอย่างโกรธๆ
                    เดี๋ยวนี้ทำไมพวกนายไม่ค่อยไปหาเราเลยล่ะ! เด็กสาวที่มีผมสีบลอนด์และดวงตาสีม่วงพูดขึ้น
                    มันไม่ใช่เรื่องอะไรของนายนี่! เบลซพูด
                    แหมเย็นชาจังเลยนะ เรารึอุตส่าห์เป็นห่วง ริซ่าพูด
                    พวกนายนั่งตรงนั่นเหรอ โทนี่ถามแล้วชี้ไปที่โต๊ะสามตัวที่ตั้งเรียงกันอยู่
                    ก็ใช่น่ะสิ! ทั้งสามคนพูดอย่างเซ็งๆ
                    เรานั่งใกล้ๆพวกนายดีกว่านะ ดีมั้ยแอนนา! ริซ่าถามเด็กสาวผมบลอนด์คนนั้น
                    ดีสิเวลาเราทำอะไรหรือไม่เข้าใจ จะได้ถามพวกเขาได้ แอนนาบอกแล้วก็ยิ้ม
                    แล้วทั้งสี่คนก็เดินนำกระเป๋าไปวางที่โต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างๆโต๊ะของเบน เบลซ และเซรีน ทั้งสามคนมองดูเพื่อนทั้งสี่อย่างขุ่นเคือง แล้วพวกเขาก็เดินออกจากห้องไปแต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาออกเซรีนก็เดินชนกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังจะเดินเข้ามาในห้องอย่างเต็มแรงจนคนข้างๆได้ยินเสียงชนกันของทั้งสองคน
                    พลั่กกกกก!!!!!
                    โอ้ยยย!!! ทั้งสองร้องพร้อมกัน
                    เป็นอะไรหรือเปล่าเซรีน! เบนถามตอนนี้เซรีนนั่งทับอยู่บนตักของเขา
                    ไม่เป็นไรหรอก ขอโทษทีนะเบน นายเป็นยังไงบ้างน่ะ! เซรีนถามเบนแล้วลุกขึ้นยืน นายเป็นไงบ้าง ขอโทษทีนะฉันไม่ทันได้ดูน่ะ! เซรีนพูด แล้วรีบวิ่งไปพยุงเขาขึ้นจากพื้น
                    ไม่เป็นไรหรอก อันที่จริงฉันก็ผิด เพราะมัวแต่เหม่อน่ะ เด็กหนุ่มพูด เขามีผมสีทองและดวงตาสีน้ำเงิน ว่าแต่เธอล่ะ เจ็บหรือเปล่า เขาถามเซรีน
                    ฉันไม่เป็นไรหรอกนะ แค่นี้น่ะสบายมากเลยล่ะ เซรีนบอกแล้วก็ยิ้มให้กับเขาอย่างเป็นมิตร
                    ฉันขอบใจเธอมากนะที่ช่วยฉันน่ะ เด็กหนุ่มพูด
                    ไม่เป็นไรหรอก เซรีนพูดอย่างเขินๆ
                    เซรีนนน!!! เสียงหนึ่งร้องเรียกชื่อเธอดังลั่นทำให้ทุกคนหันไปมองที่ต้นเสียงอย่างตกใจ แล้วพวกเขาก็เห็นว่านั้นเจ้าของเสียงนั้นก็คือทิมนั้นเอง ทิมวิ่งมาอย่างรีบร้อนหน้าตาของเขานั้นเขียงช้ำและมีเลือดไหลออกมาจากหัวและปากของเขา เร็วเข้า! รีบไปช่วยทุกคนที! เขาพูดแล้วล้มลงไปกับพื้นอย่างหมดแรง
                    นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะทิม! เซรีนถามอย่างตกใจแล้วประคองเขาขึ้นนั่ง
                    พวกหมาไนน่ะ มันพาพวกมันมารุมพวกฉันที่สนามหลังโรงเรียนน่ะ มันมากันเป็นสิบเลย มีอาวุธมาด้วยนะ ตอนนี้ทุกคนกำลังแย่เพราะช่วยกันขวางพวกนั้นเพื่อให้ฉันได้แอบหนีมาบอกเธอน่ะ แล้วก็ระวังตัวด้วยนะพวกมันน่ะมี... ทิมพูดยังไม่ทันจบก็สลบไปเสียก่อน
                    ไอ้พวกขี้ขลาด! แอนนา! ริซ่า! พาทิมไปที่ห้องพยาบาลแล้วทำแผลให้เขาที ส่วนที่เหลือน่ะตามฉันมา เซรีนบอกกับเพื่อนๆแล้วก็วิ่งไปหลังโรงเรียนอย่างรวดเร็ว             เมื่อพวกเขามาถึงก็พบว่าเพื่อนๆมีเลือดอาบอยู่ท่วมตัว และทอมกำลังโดนหิ้วปีกอยู่
                    ไอ้ไก่อ่อนเอ้ย! แค่นี้ก็ถึงกับขาอ่อนเลยรึไงกัน แกต้องขอโทษฉันเดี๋ยวนี้! ผู้ชายผมดำและรูปร่างล้ำสันกำลังพูดกับทอมอย่างโกรธจัด
                    ทำไม-ฉัน-ต้องขอโทษ-แกด้วย-ในเมื่อฉัน-ไม่ได้-ทำอะไร-พวก-แก-เลย! ทอมพูด
                    ไอ้ปากแข็ง แก!
                    หยุดนะ! เซรีนพูดขึ้น
                    เซรีน! ทอมพูดขึ้น
                    แกเป็นใคร! มายุ่งอะไรกับเรื่องของเรา! ชายคนนั้นหันกลับมาถามเธอ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเซรีน เธอ! ใครกัน! เขาพูดอย่างงงๆ
                    จะเป็นใครก็ช่าง แต่แกกำลังหาเรื่องเพื่อนของฉันอยู่! เซรีนพูด
                    งั้นเหรอ นี้เพื่อนเธออย่างงั้นเหรอ งั้นฉันจะบอกอะไรให้นะ ว่าเพื่อนเธอน่ะมันมาอัดลูกน้องฉันเมื่อวานนี้จนต้องไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลน่ะ เขาบอกกับเธออย่างโกรธแค้น
                    ว่าไงนะ! เซรีนพูดแล้วหันไปมองเบนกับเบลซ
                    ทั้งสองคนสะดุ้ง แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นทันที
                    มานี่! เธอสั่งพวกเขา
                    พวกมันเข้ามาหาเรื่องเราก่อนนี่ แล้วมันก็ว่าหัวหน้าเราน่ะคงจะเหมือนหมูที่เอาแต่นั่งกินแรงลูกน้องจนอ้วนน่ะ เราทนไม่ได้ก็เลย... เบลซพูด
                    มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องปกป้องหัวหน้าไม่ใช่เหรอ... เซรีน! เบนพูดแล้วเรียกเธอ
                    หมูงั้นเหรอ เซรีนพูดด้วยน้ำเสียงที่สั้นเครือด้วยความโกรธจัด ตอนนี้มือของเธอนั้นกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
                    เย็นไว้! โทนี่พูดอย่างหวาดกลัว
                    แกตายแน่ ไอ้หน้าปลาบู่ชนเขื่อน ทอมพูด
                    แล้วไหนล่ะหัวหน้าหมูของแกน่ะคงจะอ้วนตุ๊ต๊ะจนเดินไม่ไหวเลยละสิท่าฮ่าๆๆๆๆ โอ้ย! เขาร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะว่าถูกเซรีนถีบเข้าที่หน้าอกอย่างจังทำให้เขากระเด็นไปทับกับลูกน้องที่ยืนอยู่ทางขวามือของทอมล้มลงไปพร้อมกัน
                    แกชื่ออะไร! บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ก่อนที่แกจะตาย! เร็วเข้า! เซรีนพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกร้าดแล้วเดินไปกระชากคอเสื้อของชายคนนั้นขึ้นมา บอกมา!
                    ค-เคน ริคสัน เธอถามทำไม มันไม่ใช่เรื่องของเธอนี่ เคนพูดอย่างกลัวๆ
                    ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็ในเมื่อคนที่แกว่าน่ะมันคือฉันเอง! เซรีนพูด
                    อะไรนะ! เขาอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เธอคือหัวหน้าของไอ้...! เคนยังไม่ทันจะพูดจบก็โดนเซรีนต่อยเสยเข้าที่คางอย่างจังทำให้เขากระเด็นไปอีก เขาดันตัวเองขึ้นจากพื้นแต่ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวก็โดนเซรีนเตะเข้าที่สีข้าง อ้ากกกก!!!! เขาร้องด้วยความเจ็บปวด
                    เซรีนกระชากคอเสื้อของเคนขึ้นมา ปากอย่างแกมันต้องโดนแบบนี้ ว่าแล้วเซรีนก็ต่อยไปที่แก้มขวาของเคน เคนล้มลงไปนอนกับพื้นอีกครั้ง เขาพยายามจะลุกขึ้นแต่เซรีนเหยียบหลังของเขาไว้ นี้เป็นบทเรียนที่สอนว่าก่อนที่จะว่าหรือดูถูกผู้อื่น ก็ให้ดูให้แน่ใจเสียก่อนว่าคนที่พูดถึงน่ะเป็นใคร เข้าใจมั้ยนายริคสัน เซรีนพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่เย็นชา
                    เข้าใจแล้ว เคนพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นรัวด้วยความกลัว
                    ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษฉันแล้วก็เพื่อนๆของฉันเสียสิ เซรีนพูด
                    ฉันขอโทษนะ เคนพูดแล้วพวกลูกน้องของเขาก็เข้ามาพยุงเขาให้ลุกขึ้นพร้อมกับจากไปอย่างรวดเร็ว
                    เซรีนมองดูพวกนั้นออกไปด้วยสายตาที่โกรธเคืองและเย็นชา เมื่อพวกนั้นออกไปจากโรงเรียนเธอก็หันกลับมามองพวกเพื่อนๆของเขาที่กำลังยืนมองเธออย่างหวาดกลัว โดยเฉพาะเบลซและเบนทั้งสองคนไม่แม้แต่จะกล้าสบตาเธอ
                    พวกเราขอโทษนะที่เป็นต้นเหตุทำให้ทอมต้องมาโดนแบบนี้น่ะ เบนพูดอย่างสำนึกผิด
                    แต่ที่เราทำไปก็เพราะว่า...
                    พาคนเจ็บไปห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้ เซรีนสั่ง
                    ครับ! เบน เบลซ โทนี่ และเนสรับคำสั่งเธอแล้วก็ช่วยกันพยุงทอม นิคกี้ และแฮงค์ไปห้องพยาบาล
                    เซรีนโกรธเราจริงๆด้วยแหละ เบนพูดกระซิบกับเบลซ ตอนนี้พวกเขากำลังพยุงแฮงค์อยู่
                    ตั้งแต่เกิดมานะฉันยังไม่เคยกลัวใครเท่าเซรีนมาก่อนเลยล่ะ เบลซพูด
                    พวกแกโชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่โดนต่อย ฉันว่าเซรีนคงจะไม่พูดกับพวกแกไปหลายวันเลยล่ะ แฮงค์พูด แล้วพวกเขาก็ไม่พูดอะไรกันอีกเลยจนถึงห้องพยาบาล
                    ทิมเป็นไงบ้างน่ะริซ เซรีนถามริซ่าที่ตอนนี้กำลังมองดูทิมที่นอนหลับอยู่บนเตียงอย่างเศร้าๆ
                    ก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะนะ ตอนนี้ฉันให้เขาทานยานอนหลับน่ะ อีกสักชั่วโมงกว่าๆก็คงจะตื่น ริซ่าบอกเธอ
                    แล้วแอนนาไปไหนล่ะ เธอถามพร้อมมองหาแอนนา
                    ไปเข้าห้องน้ำน่ะ ริซ่าบอก
                    พวกมันมาหาเรื่องพวกทอมทำไมน่ะ เซรีน แอนนาถามเธอตอนนี้เธอออกมาจากห้องน้ำแล้ว
                    ก็เพราะไอ้แฝดนรกคู่นี้น่ะสิไปหาเรื่องพวกมันเข้า พวกมันก็เลยมาหาเรื่องพวกทอมเพราะนึกว่าพวกเขามีส่วนด้วยน่ะ เซรีนพูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกความน่ากลัว
                    พวกนายนี่มันน่านักนะ ทำไมต้องไปหาเรื่องเขาด้วยล่ะ ริซ่าพูดอย่างโกรธเคืองตอนนี้เธอกำลังทำแผลให้นิคกี้อยู่
                    คราวนี้พวกแกเห็นรึยังว่าไอ้การที่พวกแกชอบไปอวดเบ่งใส่คนอื่นน่ะมันทำให้เพื่อนๆเดือดร้อนมากแค่ไหน พวกทอมที่ไม่รู้อะไรด้วยต้องมาเจ็บตัวแทนพวกแก ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าเวลาจะทำอะไรให้ใช้หัวคิด ไม่ใช่ให้ใช้เท้าคิด เซรีนพูดด้วยความโกรธจัด
                    เบนกับเบลซพยักหน้ารับอย่างสำนึกผิด เราขอโทษ ก็มันเลือดขึ้นหน้านี่นา มาว่าแต่เราแล้วตัวเธอเองล่ะ เธอยังอัดพวกนั้นเลยพอมันพูดว่าเธอน่ะ เบนกับเบลซพูดพร้อมกัน
                    แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือต้องเจ็บตัวแทนฉันเหมือนพวกแก เซรีนพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งแต่เย็นชา หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดคุยหรือถามอะไรกันอีกเลย
                    ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมาออดพักเที่ยงก็ดังขึ้นมาทำลายความเงียบของพวกเขา ทิมเริ่มลุกขึ้นมานั่งอย่างช้าๆ แล้วมองดูเพื่อนๆด้วยความประหลาดใจ
                    เกิดอะไรขึ้นตอนที่ฉันหลับอยู่ใช่มั้ยทอม! ทิมถามทอมที่นั่งอยู่บนปลายเตียงของเขา
                    ใช่! เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ทอมพูดเบาๆ อย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้เลยนะ ทอมพูดขึ้นขัดเมื่อเห็นทิมกำลังจะเปิดปากถาม ทิมจึงไม่ถามอะไรทอมอีก
                    ไปทานข้าวกลางวันกันเถอะนะพวกเรา ฉันหิวแล้วล่ะ แอนนาพูดขึ้น
                    เพื่อนๆ พยักหน้ารับแล้วพากันออกจากห้องพยาบาลไป เบนกับเบลซมองตากันอย่างเศร้าๆ ส่วนทิมก็ดึงทอมไว้แล้วออกจากห้องพยาบาลเป็นพวกสุดท้าย
                    มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่น่ะ เล่ามาให้หมดนะ! เขาพูด
                    มันไม่ได้สำคัญอะไรมากนักหรอกนะ ก็แค่คนที่ไปมีเรื่องกับพวกหมาไนน่ะคือเบนกับเบลซ แล้วพวกมันเห็นว่าเราอยู่กลุ่มเดียวกันก็เลยเหมาเอาเราไปรวมด้วยน่ะ ก็แค่นี้แหละแล้วเพราะว่าคนที่สมควรจะโดนน่ะคือสองนั่นเซรีนก็เลยโกรธที่สองคนนั้นที่เป็นต้นเหตุทำให้เราต้องมาเจ็บตัวทั้งๆที่ไม่ได้มีส่วนร่วมด้วยน่ะสิ ทอมพูด
                    แค่นั้นน่ะเหรอ ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่นาเรื่องแค่นี้เอง ไม่เห็นต้องโกรธกันถึงขนาดนี้เลย แล้วอีกอย่างเบนกับเบลซก็เป็นเพื่อนสนิทกับเซรีนด้วยนะ ทิมพูด
                    เพราะเหตุนี้ไงล่ะเซรีนถึงได้โกรธ ก็เพราะไอ้ความเป็นเพื่อนสนิทนี่แหละ ยิ่งสนิทมากก็ยิ่งห่วง ยิ่งรัก ยิ่งโกรธมากไงล่ะ เซรีนรู้ว่าทั้งสองคนรู้จักเธอดี เธอจึงได้เสียใจที่พวกเขาทำในสิ่งที่เธอไม่อยากให้ทำ แอนนาบอกกับพวกเขา
                    แล้วไงต่อล่ะ แค่นี้น่ะเหรอ ทิมถามอย่างสงสัย
                    มันไม่ใช่แค่นี้น่ะสิ เซรีนเคยขอให้สองคนนั้นอย่าทำเรื่องแบบนี้อีกแล้วพวกเขาก็รับปาก แต่ว่าก็มาเกิดเรื่องนี้เข้าเซรีนก็เลยเสียใจน่ะ ริซ่าบอกแล้วมองเซรีนอย่างเข้าใจจากข้างหลัง
                    งั้นเหรอ! เราไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็เลยพูดแบบนั้นน่ะ ขอโทษนะ ทิมพูดอย่างรู้สึกผิด
                    ช่างมันเถอะ ริซ่าพูดแล้วก็ยิ้มให้กับเขา
     
     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น