คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF EXO] :: Halo :: [Chanyeol x Baekhyun] Part 2
"...I found the way to let you it
And I never really had a doubt
Standing in the light of your halo
I got my angel now..."
Background music: Beyonce - Halo
.
.
.
.
.
"Halo"
Part 2
… When you're in love,
you are praised by God ...
Halo
ข่าวหน้าหนังสือพิมพ์และวารสารบันเทิงมักจะใช้ตัวหนังสือที่มีสีสันและคำพูดแสบๆ คันๆ เพื่อดึงความสนใจจากบรรดาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา และน้อยครั้งนักที่จะพาดหัวด้วยข้อความในเชิงบวกอย่างที่เห็นกันหลายๆ ฉบับเฉกเช่นในวันนี้
...แฟนๆ ปลื้ม นักร้องหนุ่ม “แบคฮยอน” เลิกหยิ่งกลายมาเป็นศิลปินที่น่ารัก...
...ความนิยม “แบคฮยอน” พุ่ง หลังออกงานสลัดภาพหยิ่ง เป็นกันเองกับแฟนๆ ที่ต้อนรับ...
“ขอบคุณนะ”
รอยยิ้มฉายอยู่บนใบหน้าขณะที่เสียงหวานๆ เอ่ยออกมาจากเรียวปากสีชมพูอ่อนที่คลี่ออกเป็นรอยยิ้มใสๆ ให้กับชายร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนมองตรงมายังเขา
“ขอบคุณเรื่องอะไร”
“เรื่องที่นายเปลี่ยนฉันเป็นคนละคน” บยอนแบคฮยอนตอบพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ๆ “...ขอบคุณจริงๆ”
“ฉันไม่ได้เปลี่ยนนาเสียหน่อย...” อีกฝ่ายตอบกลับมาพลางสวมกอดร่างบางอย่างอบอุ่นทะนุถนอม “...นายก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว” ผละออกไปอย่างนุ่มนวล “...อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ นายคงจะเหนื่อยมาเยอะแล้วสินะ”
จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า วันนี้บยอนแบคฮยอนนั้นเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่งหลังต้องไปออกงานสารพัด เช้านี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเข้าห้องซ้อมรองเพลงตามตารางปกติ พอสายหน่อยก็ต้องแต่งตัวเข้าร่วมงานคอนเสิร์ตกลางแจ้งการกุศล กินข้าวเที่ยงในรถอย่างทุลักทุเลเพราะต้องเดินทางข้ามจังหวัดไปอัดรายการโทรทัศน์อีกรายการหนึ่ง แวะพักโรงแรมตอนเย็นๆ เพื่อเปลี่ยนชุดแล้วตรงไปเป็นนักร้องให้งานกลางคืนๆ ของบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหนึ่งบริษัท รู้ตัวอีกทีก็เป็นเวลาหนึ่งนาฬิกาของวันใหม่แล้วที่เขามาอยู่ที่คอนโดแห่งนี้และเอ่ยปากขอบคุณชายคนที่ทำให้เขาได้รับคำชมจากบรรดาสื่อต่างๆ ทั่วทุกแผงหนังสือ
“นายจะนอนเลยก็ได้นะชานยอล รอฉันตั้งแต่ค่ำๆ คงเบื่อและก็ง่วงจะแย่แล้ว”
ร่างบางยื่นหน้าออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเหลือเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่นุ่งอยู่
“ก็รักนายซะอย่างแค่นี้ไม่ยากหรอก...” อีกฝ่ายตอบกลับมาพร้อมกับก้าวมาใกล้ๆ และฉวยข้อมือของอีกฝ่ายไว้ก่อนที่จะหายกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบหนึ่ง ร่างบางหันกลับมา คิ้วนั้นเลิกสูงเป็นคำถาม “...เหนื่อยมั้ยวันนี้...”
“ก็นิดหน่อย”
“งั้นฉันอาบน้ำให้นะ...”
ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับ ชานยอลค่อยๆ ดันให้อีกฝ่ายก้าวถอยหลังเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมขนาดปานกลางที่มีอ่างอาบน้ำตั้งอยู่ที่มุมหนึ่ง น้ำร้อนนั้นเต็มรออยู่ในอ่างเรียบร้อยแล้วและก็ดูเชิญชวนให้ลงไปชำระล้างร่างกายอย่างที่สุด ร่างสูงจัดแจงถอดชุดนอนของตนเองออก บยอนแบคฮยอนหลับตานิ่งเมื่ออีกฝ่ายเหลือเนื้อตัวเปลือยเปล่า มือหนาคว้าเข้าที่ขอบผ้าเช็ดตัวผืนนุ่มก่อนจะจัดการให้อีกฝ่ายอยู่ในสภาพแบบเดียวกัน
“ยกขาครับ...” กระซิบอย่างนุ่มนวลเพื่อให้อีกฝ่ายทำตามเพราะร่างบางยังคงไม่ลืมตา “...ร้อนนะ...” เตือนเบาๆ เมื่อปลายเท้านั้นใกล้จะสัมผัสน้ำในอ่างนั้น
เมื่อจัดแจงอีกฝ่ายลงไปในอ่างน้ำร้อนนั้นเรียบร้อยแล้วเขาเองก็ก้าวตามลงไปนั่งอยู่ที่ด้านหลัง ดึงเอาร่างบางมาพิงอกแกร่ง สูดดมกลิ่นกายอันหอมหวนนั้นจากซอกคอขาวเนียน ร่างบางเผลอครางออกมาเล็กน้อยกับการกระทำนั้นเขาจึงกดปากของตัวเองลงไปและฝากรอยกุหลาบไว้อย่างแผ่วเบา
“ลืมตาได้แล้วล่ะ...”
บยอนแบคฮยอนทำตามอย่างว่าง่าย จากตำแหน่งตรงนี้ที่เขานั่งแช่น้ำอยู่ด้านหน้าของปาร์คชานยอลเขาจะไม่เห็นอะไรนอกจากภาพใบหน้าของร่างสูงที่สะท้อนมาจากกระจกที่แปะไว้ตรงผนังตรงหน้าพอดิบพอดี ท่อนแขนแกร่งนั้นโอบรอบลำตัวของเขาอย่างอบอุ่นและไล้ไปตามร่างกายและแผ่นหลังอย่างเบามือเพื่อขัดถูเอาเหงื่อไคลออกอย่างช้าๆ นานๆ ครั้งก็ขบเข้าที่ใบหูของเขาบ้าง ที่ลำคอบ้าง
“อืม...”
ร่างบางส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้งเมื่อมือหนาข้างขวานั้นไล้ไปมาบนหน้าท้องราบและยกขึ้นมาผ่านยอดอกสีชมพูอ่อน ขณะที่มืออีกข้างนั้นไล้ไปมาตามแผ่นหลังและช้อนเข้าที่บั้นท้ายของเขาเบาๆ และลากเรื่อยไปจนถึงต้นขา
“ชอบหรือเปล่า” เอ่ยปากถามขณะที่ยังคงไล้มือไปมา
บยอนแบคฮยอนไม่ได้ตอบอะไรแต่มองดวงตาของอีกฝ่ายที่จ้องมองมาที่เขาผ่านกระจก แค่สายตาก็บอกได้มากมายแล้วว่าปาร์คชานยอลนั้นรักและทะนุถนอมเขามากเหลือเกิน และสำหรับเขาเองก็ไม่ต่างกันเท่าไรนัก ร่างบางค่อยๆ หันหน้าไปด้านหลังและกดจูบลงไปบนเรียวปากของอีกคน
“ฉันจะเป็นยังไงนะถ้าไม่มีนาย ปาร์คชานยอล...” เขาพูดก่อนจะกดจูบลงไปอีกครั้ง “...ถ้าวันนั้นหมาตัวนั้นมันไม่ได้วิ่งตัดหน้ารถฉัน หรือว่าคนที่ถูกฉันชนไม่ใช่นาย หรือว่านายไม่ใช่คนใจดีแบบนี้...”
“...หรือถ้าอีกหลายอย่างที่เป็นไปได้และทำให้เราสองคนไม่ได้เจอกัน...” อีกฝ่ายพูดต่อพร้อมรอยยิ้ม “...ฉันไม่รู้เรื่องพวกนั้นหรอกนะแบคฮยอน แต่ที่ฉันรู้ก็คือมันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญแล้วที่เราได้รู้จักกัน... มีอีกตั้งหลายทาง ทั้งหลายคนที่มาพบเจอนายแต่สุดท้ายพระเจ้ากลับให้มันเป็นฉัน... มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก... มันเป็นพรหมลิขิต...” เขาพูดพลางช้นปลายคางอีกฝ่ายหนึ่ง “...ให้เราได้เจอกัน...” เขาจูบกลับไปครั้งที่หนึ่ง “...ให้ฉันได้รักนาย...” ครั้งที่สอง “...และให้ฉันได้ครอบครองหัวใจของนาย...” และครั้งที่สาม
เมื่อปาร์คชานยอลผละออกไปนั้น ร่างบางยังคงหลับตาดื่มด่ำกับความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลนั้นอยู่ เรียวปากบางนั้นเม้มบางลงเหมือนกับจะสะกดกลั้นความรู้สึกทุกอย่างที่เขามีให้ ที่ผ่านมา ปาร์คชานยอลไม่เคยล่วงเกินเขาไปมากกว่านี้สักครั้ง แต่ในวันนี้มันจะเปลี่ยนไป... ทั้งกายและใจของบยอนแบคฮยอน... นับแต่วันนี้... จะเป็นของปาร์คชานยอลที่เขารัก...
มือเรียวค่อยควานหามือหนาใต้น้ำอุ่นนั้นทั้งๆ ที่ยังคงหลับตาอยู่ ประสานเข้าด้วยกันและบีบเบาๆ ดวงตาของปาร์คชานยอลชัดเจนในดวงตาของเขา สายตานั้นบอกได้ไม่ยากว่าฝ่ายนั้นก็ต้องการครอบครองเขาไปไม่ต่างกันเท่าไรนัก ร่างบางพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้าโดยตรง ดวงตาสองคู่สบกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่อยให้ร่างกายดำเนินไปตามสัญชาตญาณเพื่อตอบสนองความรู้สึกที่สุมแน่นอยู่ข้างใน
“ฉันรักนายที่สุดปาร์คชานยอล...”
Halo
“ใจเย็นๆ นะ แบคฮยอน”
เสียงทุ้มพยายามปลอบร่างบางที่นั่งอารมณ์เสียอยู่ในรถคันใหญ่ มือหนาประสานเข้ากับมือเล็กๆ อย่างห่วงใย เมื่อสี่วันก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์เพิ่งลงข่าวเสียยกใหญ่เรื่องคนรักนอกวงการของดาราหน้าหนึ่งคนนี้ และรูปใบหน้าของปาร์คชานยอลก็เด่นหราอยู่ในสื่อต่างๆ เต็มไปหมด ปาปารัสซี่เก็บภาพตอนที่ทั้งสองคนไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกันได้และจับมือกันกระหนุงกระหนิง นอกจากนี้ยังมีภาพหอมแก้มและรวมไปถึงจูบกันอีกด้วย
เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ยากที่ห้ามใครได้ บยอนแบคฮยอน ถูกผู้จัดการเรียกตัวกลับในทันที สัญญาการทำหนังและเพลงถูกนำมาพิจารณาใหม่และร่างบางก็ต้องเข้าประชุมนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด การทุ่มเถียง ขอร้อง ต่อว่า ด่าทอ นานนับชั่วโมงๆ ในห้องเล็กๆ นั้นถึงกับทำให้คนตัวเล็กถึงกับร้องไห้ออกมา และเมื่อถึงเวลาที่ต้องชี้แจงกับสื่อนั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากทำตามคำสั่งของบริษัทว่าให้ออกไปยอมรับและสัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้อีก
“...ฉันรักนายแล้วมันเสื่อมเสียตรงไหนชานยอล?...”
นั่นคือคำถามของบยอนแบคฮยอนหลังจากออกสื่อในเย็นวันแรกที่มีข่าวออกมา หลังจากนั้นเขาก็ไปไหนไม่ได้อีก ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเพราะที่ลานด้านล่างใกล้ที่พักนั้นก็เต็มไปด้วยนักข่าวมากมายที่รอคอยสัมภาษณ์และโจมตีเขา ชานยอลเองก็พลอยโดนไปด้วย แต่เนื่องจากว่าเขาไม่ใช่บุคคลสารธารณะมาก่อน เขาจึงไม่จำเป็นต้องตอบคำถามใดๆ และเมื่อถูกรบกวนมากๆ เข้าก็ขู่จะฟ้องนักข่าว ดังนั้นจึงถูกรบกวนน้อยลง
แต่เรื่องกลับแย่ลงไปอีกเมื่อในเช้าวันรุ่งขึ้นข่าวใหม่ก็เด่นบนหน้าหนังสือว่า “แฟนหนุ่มของดาราฉาวมีนิสัยก้าวร้าว” เลยเถิดไปจนถึงการเล่นข่าวที่ว่าปาร์คชานยอลนั้นก้าวร้าวจนขนาดทำร้ายร่างกายบยอนแบคฮยอนจนเป็นแผลหลายแห่งบนร่างกาย และลามไปจนถึงบยอนแบคฮยอนเป็นคนที่ชอบความเจ็บปวดจากคู่นอน
“...ฉันเองน่ะไม่เป็นไร แต่ถ้าพวกนั้นทำกับนายขนาดนี้ ฉันไม่ยอม...”
ชานยอลพูดแบบนั้นกับบยอนแบคฮยอนในเย็นวันที่มีข่าวและทำท่าจะเอาเรื่องเอาราวนักข่าวพวกนั้นจริงๆ ร่างบางพยายามห้าม พยายามบอกอย่าใส่ใจกับคนพวกนี้ แต่ชานยอลก็ยังคงยืนยันคำเดิมจนกลายเป็นการทะเลาะกันไป ข้าวของแตกหลายอย่างเมื่อร่างสูงระเบิดอารมณ์จนทำให้คนตัวเล็กถึงกับตัวสั่นด้วยความตกใจกลัว จนเมื่อสติกลับคืนมาแล้วนั้นร่างสูงจึงได้ยอมและขอโทษโอบกอดอีกฝ่ายจนยิ้มออกอีกครั้ง
แต่ดูเหมือนมรสุมชีวิตของคนเป็นดาราจะไม่จบลงง่ายๆ เมื่อนักข่าวเล่นข่าวใหม่ไม่ยอมหยุด เริ่มมีการขุดคุ้ยและตีแผ่พฤติกรรมของบยอนแบคฮยอน ตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ บุคคลที่อ้างว่าเคยรู้จักบยอนแบคฮยอนมาก่อนนั้นให้ข่าวว่าเมื่อก่อนเข้าวงการ บยอนแบคฮยอน เปลี่ยนคู่นอนบ่อยแทบจะทุกๆ สามเดือน และรวมไปถึงการวิจารณ์การเล่นละครและการร้องเพลงของเขาด้วยเช่นกันว่า เสน่ห์ที่เขาได้มอบให้อาชีพของตนเองนั้นเกิดจากการปรุงแต่งเสียหมด และรวมไปถึงบริษัทปิดข่าวฉาวต่างๆ ของดาราคนนี้อีกมากมายด้วยเช่นกัน
บยอนแบคฮยอนถูกเรียกเข้าบริษัทอีกครั้งหนึ่งเพื่อร่วมประชุม แต่พอลงไปที่ด้านล่างของที่พักเท่านั้นเขาก็โดนนักข่าวรุมล้อม บอดี้การ์ดที่มีก็กันออกไปได้ไม่หมด ร่างบางยังโดนนักข่าวโรคจิตคนหรือสองคนล่วงเกิน และพอชานยอลที่เดินลงมาด้วยกันจับได้นั้นก็ไม่ปล่อยไปโดยง่าย การวิวาทเบาๆ เกิดขึ้นที่โถงของคอนโด นักข่าวสองคนนั้นได้รับบาดแผลฟกช้ำเป็นบทเรียน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเป็นข่าวอึกทึกอีกครั้งหนึ่งของทั้งสองคน และก็กลายมาเป็นสาเหตุของที่ทำให้ร่างบางต้องมานั่งอารมณ์เสียอยู่ในรถตอนนี้เพราะบริษัทตัดสินใจยกเลิกสัญญากับเขาในทันที
“นายไม่น่าไปต่อยเขาแบบนั้นเลยจริงๆ นะ...” แบคฮยอนพูดห้วนๆ “...ก็รู้อยู่ว่านักข่าวมันเป็นยังไง”
“แล้วนี่ฉันผิดเหรอไงที่พยายามปกป้องนายน่ะ...” ชานยอลสวนกลับ “...พวกนั้นมันกำลังล่วงเกินนายนะ”
“นายก็น่าจะบอกคนอื่น ให้บอดี้การ์ดเขาจัดการสิ นายทำแบบนั้นฉันก็เลยโดนแบบนี้ไง!”
“บยอนแบคฮยอน อย่ามาพาลกันแบบนี้นะ”
“ฉันไม่ได้พาล!” คนตัวเล็กตวาด “...ก็นายไม่คิดเองนะว่าพวกนั้นจะทำอะไรได้บ้าง! แล้วฉันก็เป็นดารานักร้อง ยังไงชีวิตฉันก็ขึ้นอยู่กับไอ้คนพวกนี้ แล้วเป็นยังไงล่ะ ตอนนี้ฉันก็ตกงานแล้วนี่ไง”
“ฉันไม่รู้หรอกไอ้เรื่องพวกนั้นน่ะ พอดีฉันไม่เคยชินกับการมีนักข่าวมาตามด้วยสิ” ร่างบางพูดเสียงเย็น “...เพราะปกตินายก็ไม่เห็นเคยบอกว่าต้องระวังอะไรพวกนี้นี่นา”
“หมายความว่ายังไง” ถามกลับไปเสียงแข็ง
“ก็นายรู้อยู่แล้วว่าพวกนี้มันตามกัดจริงๆ อย่างที่นายว่า แล้วทำไมตอนไปเที่ยวนายไม่ระวังตัวเองล่ะ”
“แล้วนี่ตกลงฉันผิดหรือไงชานยอล”
“แล้วนายจะบอกว่าฉันผิดเหรอไง”
ทั้งสองมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ดวงตานั้นดุดันและเต็มไปด้วยความโกรธ จนในที่สุดเมื่อรถจอดอีกครั้งที่ด้านหน้าคอนโดและจะต้องลงจากรถแล้วนั่นแหละ บยอนแบคฮยอนก็หยิบแว่นดำขึ้นมาสวมและเตรียมตัวจะลง ปาร์คชานยอลก็ชิงลงเสียก่อนที่อีกฝั่งหนึ่งและพูดนิ่งๆ ก่อนจะปิดประตู
.
.
.
“ฉันไม่น่าเจอนายวันนั้นเลยให้ตายสิ”
Halo
To Be Continued ...
TalK :::
ทิ้งไว้แบบนี้แหละนะครับ มันค้างคาดียังไงชอบกล แล้วเดี๋ยวตอนหน้าค่อยมาต่ออีกทีนะครับ สำหรับคนที่บอกว่าตัวอักษรใหญ่ไป หรือจัดหน้าอ่านลำบาก ผมปรับแล้วนะครับ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเหมาะสมแล้วหรือยัง พอดีว่ายังไม่ชินกับเด็กดีเท่าไร ถ้ามีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติมก็ยินดีนะครับ ขอบคุณมากเลย >,<
มีเรื่อง 2-3-4 เรื่องจะบอกครับ
1. รักเรื่องนี้ รักไรตเตอร์ รักกันจริง อย่ากดแบนกันเลยนะจ๊ะ
2. รักเรื่องนี้ รักไรตเตอร์ อ่านแล้ว ชอบไม่ชอบยังไง เมนท์กันหน่อยนะจ๊ะ
3. รักเรื่องนี้ รักไรตเตอร์ บอกต่อกันไปเยอะๆ นะจ๊ะ
4. ฟอลกันได้ @ice_haku นะจ๊ะ
5. ขอบคุณที่ติดตามนะจ๊ะ
ความคิดเห็น