คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้นของ.....ความเจ็บปวด
ณ บ้านซูจู
เยซองน้อย ซาลาเปาแสนน่ารักกำลังนั่งดูทีวี รอใครบางคนกลับมา วันนี้คนที่ไม่มีงานมีเพียง คยูฮยอน ซองมิน ซึ่งสองคนนี้ก็จู๋จี๋กันตามระเบียบ นอกจากนั้นยังมีซีวอน กับอีทึก ซึ่งสองคนนี้รู้สึว่าจะคอยสลับหน้าที่กัน พลัดกันมาไล่ เยซองเข้านอน
ซีวอน โผล่หน้ามาดูเยซองที่นั่งถ่างตาดูทีวี ถอนหายใจแล้วเดินกลับไปในห้องครัว ที่สมาชิกว่างงานมานั่งรวมกัน
“เป็นยังไงบ้าง”อีทึกถามทันทีที่ซีวอนเดินเข้ามาในห้อง
ซีวอนก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“ห๊า++นี่มันตีสามแล้ววว~อุ๊บ”คยูตะโกนออกมาเสียงดังจนซองมินต้องเอาผักกระหล่ำยัดปาก ก่อนติเสียงเบา
“เบาหน่อยสิเดี๋ยวก็รู้ตัวกันพอดี”
“เฮ้อ...เจ้าซินก็อีกคนรู้ทั้งรู้ว่า เจ้าซาลาเปา มันขี้เป็นห่วง แถมยังไม่โทรมาบอกซักคำ โทรไปก็ไม่รับ ดีไม่ดีกดตัดสายทิ้งอีกต่างหาก ซาลาเปาก็เหมือนกัน ให้นอนก็ไม่นอน...ดื้อจริง จริ..”
“ขอโทษฮะ.....”
ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองหน้าห้อง อย่างตกใจ
เยซองยืนหน้าจ๋อยตาปรือ หน้าแดงระเรื่อ จนหน้าแปลกใจ ตาเรียวเล็กคลอไปด้วยน้ำตา ร่างเล็กที่บังเอิญหิวน้ำแล้วเดินมาได้ยินเข้า เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ที่สร้างความลำบากให้แก่เพื่อนร่วมวงคนอื่น
ร่างบางยังอยู่ในชุดนอนตัวโคร่ง ยืนโงนเงนอย่างน่ากลัวว่าจะล้ม
“ไม่ใช่นะ เยซอง พี่ไม่ได้ว่าเรา ...”
“ผมขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ผมไม่ได้ตั้งใจให้พี่...เฮือก ก อ๊ะ....”ร่างบางน้ำตานองหน้า ก่อนเริ่มรู้สึกหนักหัว โลกหมุน และมืดมิดลงในที่สุด
“เยซอง+++”อีทึกเข้าไปฉวยร่างบางไว้ในอ้อมกอด ก่อนนั่งลงช้าๆ เมื่อ เยซอง เริ่มเกร็งตัวเอง และกำเสื้อของอีทึกแน่น เยซองเริ่มหายใจติดขัด น้ำตายังคงไหลไม่หยุด....พูดเพ้อเสียงหอบ
“’พี่ฮี ชอล ’ฮะ ผม....ขอโทษ....อ๊ะ... พี่ฮ อึก หายใจไม่ออก”
ซองมินโทรศัพท์หาผู้จัดการวงเพื่อลางานด่วนให้เยเย่และเล่าเรื่องราวทั้งหมด คยูโทรบอกคนอื่นในวง
ปัง++ ประตูถูกผลักออกอย่างรุนแรก ก่อนร่างที่คุ้นตาคนป่วยจะวิ่งมารับตัวเยซอง จากอีทึก ก่อนควานหาอะไรบางอย่าง ในกระเป๋าของตน
“ค่อยๆหายใจนะเยเย่ ช้าๆ ใจเย็นๆ พี่อยู่นี่แล้วนะคนดี” ฮีชอลกำมือเยซองแน่น ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งเขย่าขวดอะไรบางอย่าง ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล
เยซองค่อยๆ ตั้งสติ ก่อนผ่อนคลายตัวเอง พิงหัวซบไปกับไหล่ของฮีชอล ครางเบาๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
“...อืม ม ม พี่ฮะ ผมเจ็บ”เยซองน้ำตาไหลพรากเมื่ออาการปวดหัวยังไม่ลดลง แต่กลับเพิ่ม
“ทนหน่อยนะครับ แป๊บเดียวเท่านั้นครับ แป๊บเดี๋ยวก็หายแล้วนะ อ้าปากก่อนครับคนดี...ดีมาก ค่อยๆหลับตาลงนะครับ พี่อยู่ตรงนี้ไม่มีอะไรแล้วนะ นอนนะครับคนดี ไม่มีอะไรแล้วพักผ่อนซะนะ เด็กดี....”
ฮีชอลปลอบเยซองเสียงนุ่ม ก่อนป้อนยาเข้าปาก คิ้วที่ขมวดมุ่นของฮีชอล ค่อยๆคลายปมลงเมื่อเห็นอาการทุรนทุรายของคนในอ้อมกอดค่อยๆลดลง แต่อาการหอบเหนื่อยยังคงอยู่ มือหนาปัดปอยผมที่ลงมาปรกหน้า คนหน้าหวาน ที่หน้าแดงระเรื่อ ก่อนจะรอให้เยซองหลับสนิท
คนอื่นๆ ที่รีบกลับมาจากที่ทำงาน ทั้งๆที่ตอนแรกบอกจะค้างข้างนอก รีบวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์
“เยซองง ง ง ง เป็นไง..”
“ชู่~~”คังอินยังแหกปากไม่ทันจบก็ต้องเงียบลงเมื่อฮีชอลส่งสายตาอาฆาตมา จุ๊ปากเบาๆ เมื่อคนในอ้อมกอดขยับตัวเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงรบกวน
“นายเล่า ทึกกี้”อีทึกที่งงกับเหตุการณที่เกิดขึ้น เพราะฮีชอลจัดการเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดคนเดียว โดยที่เขายังยืนเอ๋อ ถึงกับร้องอุทาน เพราะ เขายังตั้งสติไม่ได้
ฮีชองอุ้มเยซองเข้าห้องนอนไป ปล่อยให้อีทึกรับกรรมเล่าเรื่องคนเดียว
(ฮีชอลลลล!!!ไอ้เพื่อนนน เลวว วว ว ว ว:อีทึก)
ฮีชอลนั่งเฝ้าเยซองจนเช้า
ร่างเล็กขยับตัวเล็กน้อย ครางอือ อย่างขัดใจเมื่อขยับตัวได้ไม่ถนัด แพขนตาหวานกระพริบถี่ เพื่อปรับแสงที่เข้าตา
แล้วก็พบกับต้นเหตุที่ทำให้คนป่วยต้องตื่นก่อนกำหนด ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ เยซองพยายามขยับตัวช้าๆ และเบาที่สุด เพื่อให้คนที่นอนกอดเค้าอยู่ยังนอนต่อไปได้โดยไม่มีเค้านอนอยู่
“พี่ฮีชอลคนบ้า ใครอนุญาตให้ขึ้นมานอนกับผมกัน....อ๊ะ!!”เยซองบ่นงุบก่อนจะถูกดึงลงไปทับ “คนบ้า” อย่างไม่ทันตั้งตัว
“ยังเช้าอยู่เลย เยเย่จะรีบตื่นไปไหนวันนี้ไม่มีงานนี่...อย่าดิ้นสิ”ฮีชอลติเยซองที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอด
“พี่ฮีชอล ปล่อยผมนะ”เมื่อแรงสู้ไม่ได้ ก็ต้องใช้เสียงเข้าข่ม
“เยเย่ เด็กดื้อ พี่ยังไม่ได้ลงโทษที่เราขัดคำสั่งเลยนะ”
“ใครดื้อ แล้วใครผิดคำสั่งพี่ห๊า “เยซองขัด หน้าแดงระเรื่อเหมือนลูกตำลึงสุก
“แล้วเมื่อคืนทำไมไม่นอนก่อน ถ้าพี่กลับมาไม่ทัน หรือติดงานจะทำยังไง”ฮีชอลหันเยซองมาเผชิญหน้า แล้วดึงเข้ามากอดแน่น
“ก็......นี่น่า”เยซองพึมพำเสียงเบา
“อะไรนะ...”ฮีชอลจงใจกระซิบข้างหู ร่างบางจึงเริ่มดิ้นอีกครั้ง ก็นิ่งสนิทเมื่อคนกระทำเริ่มกลายร่างเป็นปลาหมึก และซุกไซร้ซอกคอขาว
“ฮืม...ไหนลองบอกพี่อีกครั้งสิ...เหตุผลที่ไม่ยอมนอนต้องรอพี่กลับมาก่อนถึงนอนได้ เป็นห่วงพี่มากขนาดนั้นเลยหรือ...ฮึ”
“ปล่าวนะ...ผมแค่ อ๊ะ พี่อย่าซนสิ “
“แค่อะไรบอกพี่สิ”ฮีชอลเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเยซองออก โดยมีเจ้าของคอยปัดออก จิ๊ปากอย่างขัดใจ ก่อนเริ่มเลีย ไปตามแผงอกจนร่างบางครางอือ เสียงแหบพล่า
“อือ ...หยุดก่อนสิ..อ๊ะ...ไม่เอา..ผม..อึ๊ก”
“ตอบพี่ก่อนสิ คนดี”
“ผมแค่..อ๊า..”เสียงหวานขาดห้วงเมื่อถูกลุกล้ำจุดอ่อนไหว ร่างบางหมดแรงขัดขืนเอาเสียดื้อๆ คว้าคอร่างสูงเสียแน่น
“แค่อะไร คนดี..”
“แค่...อ๊ะ พี่ฮี..ชอล...ตรงนั้นไม่..อ๊ะ..”มือหนาลุบไล้ไปตามเรียวขาขาวก่อนเคล้าคลึงจุดใจกลางร่างที่แม้จะมีชั้นในกลั้นแต่ก็ทำให้ร่างบางถึงกลับพูดไม่เป็นประโยค
“บอกพี่สิ..เยซอง..”ร่างบางตาปรอย หวานช่ำ จ้องมองคนขี้แกล้งอย่างตัดพ้อ แต่ใบหน้ามน ที่แดงระเรื่อ ซึ่งในสายตาของฮีชอลมันช่างดู ยั่งยวนอารมณ์ของเค้าเป็นอย่างมาก
“ผมแค่..อืม...หลับ...อึ๊ ไม่ได้ถ้า ..อาา า. ...ไม่..มีพี่...อืม...หยุดสิ..ฮะ”ใบหน้ากลมแดงก่ำ ไม่รู้ว่าแดงเพราะอายที่จะพูด อายสิ่งที่พูด หรือ แดงเพราะแรงอารมณ์ ที่ถูกปลุกขึ้นมา
“จริงหรือ คนดีของพี่...ฮือบอกพี่อีกครั้งสิ”
“จริงสิ...อ๊ะ..อย่าเลย หยุดเถอะครับ”เจ้าของใบหน้าหวานมองมาอย่างอ้อนวอน เอ๋ แต่อ้อนเพราะแรงอารมณ์อยากหรือ อยากหยุดจริงๆกันแน่
คนบุกรุกก้าวก่ายยังคนไม่หยุดการกระทำก่อน นำนิ้วแรกเข้าช่องทางลับที่ไม่เคยถูกเปิด
เยซองเอามือปัดป่ายมั่วไปหมด
“อย่าเลยฮะผมกลัว อ๊ะ เจ็บนะ ผมเจ็บ เอาออกไป ฮือ ...ไม่เอา ไม่เอา “ฮีชอลหยุดการกระทำของตัวเองทันทีเมื่อร่างบางเกร็งแน่น น้ำใสๆ อาบแก้ม ตัวสั่นระริก นัยน์ตาหวานมองมาที่เค้าอย่างหวาดกลัว
...ให้ตายสิผมลืมไปได้ยังไง ว่าเยซองไม่เคยเจอกับเรื่องแบบนี้ ถึงจะเคยก็แค่ภายนอก ผมไม่น่าลืมตัว ปล่อยให้อารมณ์นำหน้าความคิดเลย..โธ่เว้ย...เค้าทำเยเย่ร้องให้อีกแล้ว...
ฮีชอลหยุดการกระทำของตัวเองทันทีก่อนดึงเยซองขึ้นมากอด ร่างบางขืนตัวออกจากเค้าเล็กน้อย
...เค้าทำให้เยซองกลัวแบบนี้ได้ยังไง..
“พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ คนดีนะครับ พี่จะไม่ทำอีกแล้วนะ อย่าโกรธพี่นะคนเก่งนะ”ฮีชอลแต่งตัวให้ร่างบาง
“สัญญานะ..”ร่างบางชู้นิ้วก้อยช้าๆอย่างกล้าๆกลัวๆ
“อือพี่สัญญา”
ใบหน้าหวานค่อยๆแย้มยิ้มละไมอย่างเชื่อใจ...คนที่อยู่ตรงหน้า...
ความคิดเห็น