*[fiction] Blue Angel --อนาคตที่ผันแปร - *[fiction] Blue Angel --อนาคตที่ผันแปร นิยาย *[fiction] Blue Angel --อนาคตที่ผันแปร : Dek-D.com - Writer

    *[fiction] Blue Angel --อนาคตที่ผันแปร

    เหตุการณ์ในวันนั้นยังคงฝังอยู่ภายในใจของชั้นตลอดมา เทพบุตรในชุดเสื้อกล้ามเก่าๆขาดๆ...แต่กลับมีนัยน์ตาและเส้นผมสีแดงที่สวยงาม มีสัตว์สวรรค์มังกรทองเป็นยานพาหนะ นี่ชั้นทำสิ่งที่ผิดต่อนายไปแล้วใช่ไหม?

    ผู้เข้าชมรวม

    507

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    507

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 มี.ค. 51 / 02:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

               บนสวรรค์ ลึกเข้าไปยังป่าโปร่งที่อุดมสมบูรณ์บนผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ ซึ่งเป็นเกาะล่องลอยอยู่กลางอากาศทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของภพ เกาะแห่งนี้คือ ราชอาณาจักรโอเชียเนีย

      ...นครหลวงแห่งภพ

               เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินเก็บพืชผักและผลไม้ซึ่งจะเป็นอาหารประทังชีวิตของเธอด้วยสภาพจิตใจที่หดหู่ ปริมาณพืชผักที่เธอถืออยู่นั้นบ่งบอกถึงจำนวนสมาชิกในครอบครัวของเธอได้เป็นอย่างดี แต่ความโดดเดี่ยวนั้นกลับไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เธอต้องรู้สึกเป็นทุกข์อยู่ในขณะนี้เลย

      "เฮ้อ... " เสียงถอนหายใจยาวของเธอดังแว่วมาเป็นระยะๆ แต่ละก้าวที่เธอเดินไปนั้นดูไร้จิตวิญญาณและเลื่อนลอยเหมือนดั่งว่าร่างของเธอแทบไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลืออยู่ ปีกสีขาวขนาดเล็กที่กลางหลังของเธอ ซึ่งพอเพียงแค่ใช้ประคองตัวบินไปด้วยความเร็วและความสูงค่อนข้างต่ำนั้นก็ห่อตัวลงตามสภาพจิตใจของผู้เป็นเจ้าของ ลมโชยเบาๆ พัดมาโดนเส้นผมที่สั้นแค่ต้นคอและเปียเล็กๆ ที่ถักพาดสองพวงแก้มของเธอให้พลิ้วไหวเล็กๆ เหมือนช่วยปลอบประโลม แต่ถึงแม้บรรยากาศรอบตัวนั้นจะสดชื่นสักเพียงใด...ก็ไม่อาจช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นได้อยู่ดี

                สำหรับเธอแล้ว การค้นหาคำตอบที่จะช่วยไขข้อข้องใจที่เกิดขึ้นนั้น...มันช่างสิ้นหวังเสียเหลือเกิน

                ความคิดของเธอต้องหยุดชะงักลงเมื่อเธอเหยียบลงบนก้อนกินก้อนหนึ่งเข้าอย่างจัง รองเท้าบางๆ ที่มีริบบิ้นพันขึ้นมารอบข้อเท้าไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกเจ็บน้อยลงแต่อย่างใด กลับกันเพราะความเจ็บนี้เองที่ทำให้ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายในอกยิ่งท่วมท้นขึ้นมาอีก เธอโน้มตัวลงไปหยิบก้อนหินก้อนนั้นขึ้นมาแล้วบีบเบาๆ พลางครุ่นคิดอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งความรู้สึกของเธอมาถึงขีดสุด เธอขว้างมันออกไปด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เธอมีและร้องตะโกนด้วยเสียงอันดังก้อง

      "ทำไม....ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย"

               ด้วยแรงขว้างของเธอและลมที่พัดมาทำให้เจ้าก้อนหินลอยสูงจนลับหายไปจากสายตา ผืนป่าที่เธออยู่นั้นเป็นบริเวณสุดขอบแผ่นดินของอาณาจักรแห่งนี้ เจ้าก้อนหินที่ลอยละลิ่วตามลมจนกระทั้งเริ่มคล้อยต่ำจึงหลุดออกนอกแผ่นดินและตกลงไปยังเวิ้งอากาศว่างเปล่าด้านล่างของเกาะ ตามแรงโน้มถ่วงของภพด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง

      หมับ  

               เด็กผู้ชายคนหนึ่งคว้าก้อนหินนั่นเอาไว้ได้ก่อนที่มันจะตกใส่หัวของเขาจากด้านหลัง โดยที่ตัวเขาไม่ได้หันหน้ามองหรือขยับตัวเลยสักนิด น่าแปลกที่เด็กคนนี้ไม่ได้กางปีกและพื้นที่บริเวณที่เขายืนอยู่นั้นก็ไม่มีแผ่นดินรองรับอยู่แต่อย่างใด

                เขาหันมองไปรอบๆ เพื่อหาที่มาของก้อนหินปริศนาก้อนนี้ด้วยความรู้สึกแปลกใจ ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเขามาก่อนและเขาเองก็คิดว่าคงไม่มีใครอาจหาญพอที่จะทำแบบนี้กับเขาได้เช่นกัน แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตามเขาก็เกิดความรู้สึกสนใจมันขึ้นมาเสียแล้ว เมื่อมองหาจนแน่ใจทิศทางของมันแล้ว เขาจึงมุ่งตรงไปยังทิศทางนั้นด้วยความเร็วสูงทันที

                เด็กผู้หญิงคนเดิมที่รู้สึกเหนื่อยหอบจากการระบายอารมณ์นั้นได้ทิ้งตัวลงนั่งพักบนก้อนหินก้อนใหญ่ สิ่งที่เธอทำลงไปยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ลงกว่าเดิมเสียอีก เธอโน้มตัวลงไปซบหน้าลงกับหน้าตักของตัวเองพลางบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ วนไปเวียนมาหลายต่อหลายรอบ

      "ทำไมกัน...ทำไมทุกคนถึงนิ่งเฉย ทำไมทุกคนถึงไม่รู้สึกอะไรบ้างเลย... " เด็กหญิงพูดพลางก้มหน้าลงเก็บก้อนหินขนาดเหมาะมือขึ้นมาอีกก้อน  แววตาที่ดูสับสนและเศร้าหมองแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวและเจือด้วยอารมณ์ที่ครุ่นกรุ่น  เธอค่อยๆลุกขึ้นยืนตัวตรง  สายตาจับจ้องก้อนหินในมืออย่างแน่วแน่  แล้วขว้างออกไปในทิศทางเดิมด้วยแรงทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่

      โป๊ก   

               เกิดเสียงประหลาดดังขึ้นในทิศทางที่เธอเพิ่งขว้างก้อนหินออกไปดังขึ้น  คล้ายๆกับว่าก้อนหินที่เธอขว้างไปนั้นได้หลุดลอยไปกระทบกับอะไรบางอย่างเข้าแล้ว  ด้วยความตกใจเพราะกลัวว่าก้อนหินเจ้ากรรมจะไปทำให้ใครบาดเจ็บเข้ารึเปล่า  ทำให้เธอรีบเงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางต้นเสียงอย่างรีบร้อน แต่บริเวณรอบๆ นั้นกลับไม่มีพบอะไรหรือใครเลยแม้แต่คนเดียว เธอหันมองไปทั่วจนกระทั่งแน่ใจว่าไม่มีใครแน่แล้วจึงคิดว่าตัวเองคงจะหูฝาดไป

               "เฮ้อ...  นึกว่าจะเกิดเรื่องซะแล้วสิ"  เธอคิดอย่างโล่งใจก่อนจะออกเดินต่อไปยังทิศทางที่ตั้งใจไว้พร้อมๆกับจิตใจที่ค่อยๆถูกความสับสนและว้าวุ่นครอบงำอย่างสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง...


      .............................................................................................................................


                แต่ใครจะรู้เลยว่ามีเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิต  รวมทั้งอนาคตของใครหลายๆคนเกิดขึ้นในชั่ววินาทีที่ผ่านเลยไปนั้น

                เด็กชายที่ตั้งใจจะหาแหล่งที่มาที่ไปของก้อนหินปริศนาในตอนแรก  กลับถูกก้อนหินที่พุ่งตรงมาด้วยความแรงกระทบเข้าที่ศีรษะเข้าอย่างจัง  ความแรงของก้อนหินบวกกับความเร็วที่เด็กชายใช้  ทำให้แรงกระแทกที่เกิดขึ้นนั้นเพิ่มมากเป็นเท่าทวี  ผลลัพธ์ที่ได้ไม่รุนแรง  แต่ก็นับได้ว่ามันทำให้เกิดเหตูอันร้ายแรงยิ่ง  แม้ว่าผลของหินก้อนนั้นจะเพียงทำให้เด็กชายสลบไป  แต่เนื่องจากเค้ากำลังอยู่ในอากาศที่ปราศจากสิ่งรองรับ  แม้มังกรสีทองขนาดใหญ่จะอยู่ใต้เท้าของเค้า  แต่การที่เด็กชายเซตกลงไปด้วยความเร็วของสายลมพัดผ่านเพียงวูบเดียวนั้น  ไม่อาจทำให้เจ้ามังกรรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติใดๆได้เลย

                 และกว่าที่สัตว์สวรรค์แสนสวยจะรู้ตัว  ก็เป็นตอนที่เจ้านายตัวน้อยกำลังลอยละลิ่วลงไปด้วยความเร็วสูงจนตามไม่ทันไปซะแล้ว

      .............................................................................................................................

      ปัง  

      "พี่ไวท์"  เด็กชายตัวน้อยเปิดประตูบ้านและตรงรี่เข้ากอดพี่สาวของตนด้วยความคิดถึง

      "บะ   แบล็คหรอ  น้องรัก"เด็กหญิงก้มลงกอดน้องหลังจากยืนนิ่งงันด้วยความตกใจระคนแปลกใจไปเสียพักใหญ่

                หลังจากหายตกใจแล้ว  ความสงสัยก็เข้ามาแทนที่ในความคิดของทุกคนในครอบครัวอย่างรวดเร็ว  และหลังจากนั่งลงซักถามที่มาที่ทำให้น้องเล็กของบ้านกลับมาก่อนเวลาอันสมควร  ทั้งๆที่ได้รับเลือกให้ไปฝึกเพื่อภารกิจและอนาคตอันสำคัญของภพแล้ว  คำตอบที่ได้กลับมานับเป็นเรื่องที่สั่นคลอนขวัญและกำลังใจประชาชนภายในภพเป็นอย่างยิ่ง

      "คือตอนนี้บุตรชายของท่านพระเจ้าได้ดับสูญไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน  มีผู้ไปพบเห็นร่างของท่านอยู่ที่เส้นเขตแดนของราชอาณาจักรเรา  เราคาดเดากันว่าอาจเป็นฝีมือของศัตรูจากภายนอก  ร่างกายของท่านมีแต่รอยฟกช้ำ  อวัยวะภายในก็เสียหายคล้ายกับตกลงมาจากที่สูง  แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อท่านสามารถบินได้ดีเยี่ยม  หนำซ้ำยังมีมังกรทองอยู่กับตัวอีก"  เด็กน้อยเล่าเหตุการณืพร้อมข้อสันนิษฐานให้พี่สาวของตนรับรู้

      'เมื่อวาน'  เด็กหญิงรับรู้ข่าวด้วยความตกใจ  พลางคิดไปถึงเรื่องเมื่อวานว่าทำอะไรอยู่ถึงไม่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว  ทั้งๆที่ป่าที่ตนเข้าไปก็อยู่เกือบสุดเขตแดน  และตนน่าจะได้ยินเสียงการต่อสู้อะไรบ้าง 

                 จู่ๆ  เด็กหญิงก็พลันนึกถึงเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกับตนเมื่อวานได้  "เสียงประหลาดนั่น" เด็กหญิงรำพันขึ้นในใจ  "รึว่า"

      .................................60%.............................................................

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×