ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาณาเขตต้องห้ามของมิลล่า:3

    ลำดับตอนที่ #47 : Death Screen SS.4:1

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 33
      0
      5 ต.ค. 57

     

    ผู้ถูกแขวนคอคืนแรก:มิเชล เดอะ ดาริเอล

    ดวงตาสีรัตติกาลจ้องมองผลโหวตด้วยแววตาที่สงบนิ่งแลดูไร้ซึ่งอารมณ์ยินดียินร้ายกับอะไรทั้งนั้น หลังจากผลโหวตถูกสรุปออกมาเป็นที่เรียบร้อยใบหน้านิ่งเฉยพลันเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ฉีกยิ้มได้อย่างน่ากลัว เสียงหัวเราะในลำคอดังออกมาเบาๆอย่างเริงร่าก่อนจะเดินออกไปเก็บกวาดผู้แพ้ในเกมรอบแรกให้เรียบร้อย

    เมื่อร่างสูงมาหยุดอยู่หน้าหอพักหญิงดาร์กเนสถอนยิ้มบาง แล้วเดินเข้าไปข้างใน แต่เมื่อเปิดประตูห้องพักก็พบกับความว่างเปล่า เมื่อสำรวจสถานที่สักครู่ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

    จะเล่นซ่อนหาเหรอครับ? ก็ได้งั้นผมจะเล่นเป็นเพื่อนให้ก็แล้วกันผมหาคุณซ่อน ถ้าจับได้ต้อง-ตาย-นะ-ครับ

    แม้รูปประโยคจะคล้ายการพูดคนเดียวและด้วยน้ำเสียงเริงร่าที่ชวนเสียวสันหลังวาบราวกับต้องการให้ผู้ถูกเอ่ยถึงรู้ตัว ว่า………..ซ่อนให้ตายก็หนีไม่พ้น!!

    “เอ….อยู่ไหนน้า~”

     

    ห้องสมุด...

    สำหรับห้องสมุดที่โรงแรมนี่จัดว่าเป็นห้องสมุดที่กว้างขวางและมีชั้นหนังสือกับโต๊ะเก้าอี้และข้าวของอื่นๆเหมาะเจาะจะเป็นสถานที่ในการเล่นซ่อนหายิ่งนัก

    มืดจังแฮะ เอาเถอะเกมจะได้สนุกขึ้น

    ชีวิตของมิเชลนั้น คนรอบข้างคนที่สำคัญกับเธอตายไปหมดแล้ว ครอบครัวที่บ้าน ตายหมด ตายหมดเลยไม่เหลือใครสักคน และนั่นเป็นหนึ่งในเหตุผล ที่ทำให้เธอมาเข้าร่วมเกมแห่งความตายนี้ เกมที่มีชีวิตเป็นสิ่งเดิมพัน ทั้งๆที่เธอเคยบอกกับดาร์กเนสเองว่า มิเชลไม่กลัวตาย เพราะมิเชลเคนตายมาแล้ว' ถ้าเช่นนั้นแล้วเธอจะหนีทำไม? จะซ่อนตัวไปเพื่ออะไร ทำไมไม่รอให้ยมฑูตอย่างดาร์กเนสฆ่าเธอไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราว

    ‘ความกลัว’

    นั่นน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้

    ร่างเล็กของมิเชลสั่นอย่างห้ามไม่ได้ ความกลัวเข้าครอบคลุมเพราะร่างของชายหนุ่มที่ยิ้มเริงร่าอยู่เวลานี้ดูราวกับไม่ใช่พี่ชายแสนใจดีที่เธอรู้จัก ดาร์กเนสในตอนนี้ราวกับว่าเป็นปีศาจกระหายเลือดที่สนุกสนานกับความตายของผู้คนเท่านั้น

    ต้องซ่อน...แต่จะซ่อนที่ไหนดีล่ะ? ถึงแม้ว่าห้องสมุดนี้จะมีชั้นหนังสือมากมาย และไม่ได้เปิดไฟไว้แต่ด้วยแสงจันทร์สลัวจากภายนอกก็พอให้เห็นสภาพในห้องสมุดได้อยู่ ยิ่งเป็นผู้คุมที่คุ้นเคยกับสถานที่ยิ่งแล้วใหญ่ ฉับพลันดวงตาสีเหลืองอำพันก็ได้พบกับส่วนของกำแพงที่แตกออกจนเป็นซอกเล็กๆที่หนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและจัดการเก็บกวาดสถานที่ไม่เรียบร้อย หรือไม่ก็จงใจเหลือมันไว้แบบนี้ มันน่าจะพอเป็นที่ซ่อนตัวที่ดีพอสมควร

    ถึงแม้ว่าจุดซ่อนตัวจะไม่ใช่จุดที่ใหญ่จนสามารถพบเห็นได้โดยง่าย แต่ยังนั้นก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดี

    ตึก ตึก

    ยิ่งเสียงฝีเท้าของดาร์กเนสใกล้เข้ามามากเท่าไรเสียงหัวใจของมิเชลยิ่งเต้นระรัวยิ่งขึ้นเท่านั้น

    ร่างเล็กสั่นก่อนจะกลั้นหายใจอย่างลืมตัว เม็ดเหงื่อผุดออกมาจากใบหน้า ไม่กล้าจะขยับตัวหรือทำอะไรทั้งนั้นเพราะอาจทำให้ดาร์กเนสหาตัวเธอเจอได้มิเชลหลับตา ในใจได้แต่ภาวนาให้ดาร์กเนสเดินไปสักที เมื่อเสียงฝีเท้าเงียบลงก็พอทำใจให้สงบขึ้นมาได้ชั่วขณะหนึ่ง

    .

    .

    .

    .

    “เจอ~ตัว~แล้ว

    ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตื่นตกใจ ใบหน้ายิ้มร่าปรากฏอยู่เบื้องหน้า มันไม่ใช่รอยยิ้มที่ช่วยให้อุ่นใจขึ้นแม้แต่น้อย หากแต่ช่วยเพิ่มความหวาดกลัวกับผู้แพ้ที่จะต้องถูกแขวนคอซะมากกว่า เสียงหัวใจที่เคยเต้นเป็นปกติในชั่วเสี้ยววินาทีเวลานี้กับเต้นรัวยิ่งกว่าปืนกล

    “พะ…พี่ชะ..ชาย...

    “เห…ตัวสั่นใหญ่เชียวนะครับ ยังไงก็เถอะ...ผมเจอตัวคุณแล้วได้เวลาโดนลงทัณฑ์แล้วล่ะครับ

    ไม่ทันที่มิเชลจะได้กรีดร้องอะไรออกมาคมมีดก็ถูกแทงทะลุท้องของมิเชลเลือดสีแดงไหลรินออกจากปากแผลแต่กระนั้นแผลก็ยังไม่ลึกพอที่จะทำให้เสียชีวิตได้ในทันที จุดที่แทงเป็นแผลแค่ตื้นๆเท่านั้น ก่อนที่มิเชลจะถูกอุ้มออกไปที่ไหนสักแห่งราวกับว่าไม่ต้องการให้เธอตายง่ายๆก็ไม่ปาน..

    จะฆ่าทั้งที...ถ้าตายง่ายไปก็ไม่สนุกสิ...

    สวนพฤกษาที่ถูกล้อมรอบด้วยมวลดอกไม้นานาชนิด ท้องฟ้าสีนิลยามราตรีและกลิ่นหอมอ่อนๆของเหล่าพฤกษาหลากสายพันธุ์ สีสันมากมายที่อยู่รอบกายยามนี้ช่างสวยสดงดงาม...

    มันเป็นสถานที่ที่เหมาะจะเป็นเวทีจัดแสดงความตายแรกของเกมนะครับ

    สิ้นคำดาร์กเนสก็จัดการเอามีดสั้นที่พกมาแทงซ้ำที่แผลเดิมหากแต่คราวนี้กับแทงให้ลึกขึ้น ตามมาด้วยแผลที่สองตรงไหล่ซ้าย แผลที่สามตรงต้นขา แผลที่สี่ข้อมือขวา แผลที่ห้ากรีดที่แก้มซ้าย และแผลที่หกหรือแผลสุดท้ายปักทะลุกลางหัวใจ

    แน่นอนว่าเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นหากแต่ดาร์กเนสหาได้สนใจเสียงนั้นไม่...

    “อ้าวๆ..นิ่งไปซะแล้ว…ตายแล้วรึยังน้า?

    รอยยิ้มสนุกสนานยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าก่อนที่ดาร์กเนสจะถอนมีดออกจากอกด้านซ้ายของมิเชลและแทงซ้ำเข้าที่เดิมเพื่อความชัวร์ เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายตายแน่ๆแล้วดาร์กเนสจึงนำร่างของมิเชลไปนอนกลางดงกุหลาบสีขาวและปิดตาที่เบิกกว้างให้หลับสนิท ชุดสะอาดถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานของหยอดหยดเลือดเช่นเดียวกับกุหลาบสีขาวในตอนนี้

    ผมมีของขวัญให้คุณด้วยนะครับ

    มงกุฎดอกไม้ที่ทำจากดอกกุหลาบสีเหลืองดูตัดกันดีกับเลือดสีแดงและกุหลาบสีขาวถูกนำมาสวมไว้บนหัวของมิเชล

    ....เอาล่ะ...เรียบร้อย..ผมบอกไปแล้วนะ ว่าผมไม่ได้ใจดีขนาดนั้นหรอก..

     

     

    ผู้ที่ถูกกินคืนแรก:วีก้า กี้เซลล์

    ณ.ห้องโถงรับแขก

    อ่า..ให้ตายเถอะ แย่จริงๆเลยนะทั้งๆที่ฉันเป็นกระต่ายแท้ๆ

    ร่างของสาวผมฟ้าในชุดเครื่องแบบกะลาสีบ่นเบาๆเมื่อมีคนโหวตเธอตั้งแต่แรก ใบหน้าสวยส่ายไปมาอย่างเซ็งโลก แม้นี่จะเป็นเวลาที่ดึกมากแล้วแต่เธอยังคงไม่นอน จะว่าไม่ง่วงก็ไม่เชิง แต่ข่มตาหลับไม่ลงในสถานการณ์แบบนี้มากกว่า ผมยามสลวยพลิ้วไปตามกระแสลมก่อนที่จะมีใครบางคนเข้ามา...

    พยายามจะใช้มีดแทงเธอจากข้างหลัง..

    โชคดีที่เธอหลบได้ ด้วยเพราะความมืดและอีกฝ่ายใช้ผ้าปิดปากและชุดฮุ้ดปิดหน้าปิดผมทำให้ไม่สามารถเดาได้ว่าเป็นใคร วีก้าวิ่งพยายามเอาตัวรอดก่อนที่จะโดนของแข็งอะไรบางอย่างทุบเข้าอย่างแรงจากด้านหลังจนเกือบสลบ

    ในขณะที่สติกำลังเลือนรางเต็มที่ หมาป่า’ ที่กำลังขย้ำ ‘กระต่าย’ ที่น่าสงสารก็เปิดหน้าเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหมาป่าจอมโกหก ตาสีฟ้าเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

    ก่อนที่หมาป่าที่หิวกระหายจะปักคมมีดเข้าคอเธออย่างจังเป็นผลให้เธอเสียชีวิตคาที่...

    หมาป่าเตะศพของกระต่ายที่ถูกกินออกก่อนจะแสยะยิ้มและเดินออกไป

    เสียงกรีดร้อง เลือดที่ไหลริน ชีวิตทั้งสองที่ต้องจบลงในค่ำคืนนี้ และกระต่ายกับหมาป่าจอมโกหกผู้กลืนกินเป้าหมายด้วยเสียงหัวเราะอันชั่วร้าย มอบความตายอันไร้ทางหนีให้กับกระต่ายผู้เป็นเหยื่อ

    ถือเป็นสัญญาณอันดีว่า...

    เกมที่ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน...ได้เปิดม่านละครของมันแล้ว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×