ลำดับตอนที่ #42
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 :
ร่างของเด็กหนุ่มอายุ 18 ปีคุเร ฟุบุคิเดินอยู่กลางเมืองอย่างเอื่อยเฉื่อย เดิมเพราะเจ้าตัวมันเป็นพวกหน้าตายเย็นชาไม่ค่อยสนใจโลกสักเท่าไร ไม่สนโลกขนาดที่ใครต่อใครก็พากับกุมขมับอย่างอดห่วงไม่ได้ว่าถ้าไปเจอพลังเวทอะไรพวกนี้มันจะรอดชีวิตอยู่มั้ย? แต่ใครจะไปรู้เล่าว่าฟุบุคิเป็นอาชญากรที่โลกเวทมนต์กำลังต้องการตัว และเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่รอดบางครั้งบางคราก็ต้องรับภารกิจจำพวก ขนส่งของ คุ้มกัน รวมไปถึงการลอบสังหารตามความต้องการของนายจ้างในตลาดมืด
ฟุบุคิมายืนหยุดอยู่หน้าคฤหาสน์แห่งหนึ่ง งานคราวนี้ของเขาคือการมาลอบสังหารเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ ดวงตาสีเลือดปรือมองคฤหาสน์นั้นอย่างงัวเงีย มองจากภายนอกคฤหาสน์แห่งนี้ถูกก่อสร้างอย่างสวยงาม ราวกับปราสาทในหนังสือเทพนิยายเลยก็ว่าได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องไปให้ความสนใจมันเท่าไรนัก เพราะว่าเขาก็แค่มาจัดการภารกิจลอบฆ่าให้เสร็จๆไปก่อนที่จะเดินทางไปยังปราสาทมูนไลท์เท่านั้น
"ที่นี่ไม่ผิดแน่นะ....เมบิอุส?"
[Yes, Master]
เคียวสงครามอันเป็นอาวุธประจำตัวของฟุบุคิเอ่ยตอบ เวลาปกติมันจะฝั่งอยู่ในร่างกายของเขา แต่เมื่อเอามาใช้จะอยู่ในรูปร่างเคียวสีดำขนาดใหญ่ที่ดูน่ากลัว หน้าจอโปร่งแสงปรากฎขึ้นเบื้องหน้าของเด็กหนุ่มเรือนผมสีเงินอมม่วง สิ่งที่ขึ้นแสดงอยู่บนหน้าจอคือแผนที่เป้าหมายและรายละเอียดของภารกิจ ตาสีโกเมนจ้องมองอ่านข้อความพวกนั้นสักพักก่อนจะออกคำสั่งปิดข้อความทำให้หน้าจอโปร่งแสงที่ขึ้นอยู่บนกลางอาการนั้นหายไป
"รีบๆทำภารกิจให้เสร็จ...แล้วก็ไปที่มูนไลท์กันเถอะ"
สายลมพัดวูบไหวแรงอย่างมิได้บอกกล่าว พร้อมกันนั้นฟุบุคิก็ได้ใช้เวทอำพรางตัวเข้าไปในคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว
บริเวณทางเดินของตัวคฤหาสน์คงไม่มีไอ้มือสังหารหน้าไหนจะนึกอยากเดินติดอาวุธล่อเป้าเป็นจุดเด่นศัตรูเล่นให้ใครต่อใครเห็นหรอก..แต่ในกรณีของฟุบุคิคือกลับกันเจ้าตัวดันเดินลากเคียวสีดำเข้ามาจากทางตรงๆชนิดที่ไม่แคร์สื่อกันเลยทีเดียว ถึงฟุบุคิจะเป็นพวกไม่สนโลกแต่ก็ไม่ใช่คนโง่ ที่เดินเข้าไปตรงๆได้สบายๆนั่นเพราะเจ้าตัวสามารถใช้เวทในการอำพรางตัวจาดศัตรูได้ แต่มีเวลาจำกัด 9 นาที ดังนั้นถ้าภารกิจนี้มีเวลาจำกัด 9 นาที
เวทอำพรางสายตาเป็นเวทที่มีประโยชน์อยู่เพราะจะสามารถลบตัวตนของตัวเองไม่ให้ศัตรูเห็น เอาง่ายๆคือเหมือนเราเป็นอากาศธาตุเลยก็ว่าได้ ใครเห็นความสามารถของฟุบุคิครั้งแรกนั้นสกิลไร้ตัวตนใกล้เคียงกับวิญญาณเลยทีเดียว...คนกลัวผีคงมีสะดุ้งกันแน่ เพราะงั้นโดยมากฟุบุคิจะเป็นสายวางแผนไม่งั้นก็คอยแอบดักฟังข้อมูลต่างๆและลอบสังหารมากกว่าจะคุ้มกันใครหรือเข้าไปรบแนวหน้าตรงๆ
นัยน์ตาสีแดงฉานเหม่อมองไปรอบๆอย่างไร้อารมณ์ในหัวตอนนี้คงมีเพียงความคิดที่อยากจัดการภารกิจนี้ให้จบๆไปกระมัง ใบหน้าที่ตายด้านตลอดเวลาถ้าคุณคิดว่าคนๆนี้อาจไม่รู้วิธีขยับใบหน้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะมันโครตจะหน้าตายเลยนี่นา
คุเร ฟุบุคิมาอยู่ตรงหน้าประตูห้องขนาดใหญ่ห้องหนึ่ง มือเพรียวเอื้อมมือเพื่อจะเปิดประตูเข้าไป....
ประตูพลันเปิดออกหากแต่เจ้าของห้องกับมองไม่เห็นตัวแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างฟุบุคิ นี่แหละคืออาวุธที่เรียกว่า
'การไร้ตัวตนโดยสมบูรณ์'
หญิงสาววัยกลางคนเจ้าของห้องมองประตูที่เปิดอย่างไร้สาเหตุอย่างตกใจผสมกับประหลาดใจ ในขณะที่ฟุบุคิเดินผ่านเธอไปโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลย
ไร้ตัวตน เหมือนกับไม่อยู่ตรงนั้นต้องแต่ต้น ลบได้แม้กระทั่งสัมผัสวิญญาณของตัวเอง แม้มองทั่วไปจะเป็นความสามารถที่ไม่ค่อยมีอะไร แต่นี่แหละที่เป็นจุดแข็งของฟุบุคิ
"อันที่จริงคุณกับผมก็ไม่ได้มีเรื่องแค้นอะไรกันนะ....แต่อโหสิแล้วกัน..."
สิ้นเสียงคมเขี้ยวอันน่าสะพรึงของเคียว 'เมบิอุส' ก็จอไปยังคอของหญิงสาวผู้ไม่รู้ชะตาชีวิตตนเอง ตาคู่สวยหลับลงก่อนจะกดเคียวลงตัดชีวิตของเธอผู้นั้น เลือดสีแดงไหลริน และร่างของหญิงสาวก็นิ่งงันเป็นเพียงซากศพที่เคยมีชีวิต ใบหน้าของมือสังหารยังว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึกนิดคิดใดๆ
"อ่า...จบไปแล้วอีกหนึ่งงาน....ขอโทษนะที่ทำนายเปื้อนอีกแล้วน่ะเมบิอุส...งั้นไปที่มูนไลท์กันเถอะ.."
ฟุบุคิมายืนหยุดอยู่หน้าคฤหาสน์แห่งหนึ่ง งานคราวนี้ของเขาคือการมาลอบสังหารเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ ดวงตาสีเลือดปรือมองคฤหาสน์นั้นอย่างงัวเงีย มองจากภายนอกคฤหาสน์แห่งนี้ถูกก่อสร้างอย่างสวยงาม ราวกับปราสาทในหนังสือเทพนิยายเลยก็ว่าได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องไปให้ความสนใจมันเท่าไรนัก เพราะว่าเขาก็แค่มาจัดการภารกิจลอบฆ่าให้เสร็จๆไปก่อนที่จะเดินทางไปยังปราสาทมูนไลท์เท่านั้น
"ที่นี่ไม่ผิดแน่นะ....เมบิอุส?"
[Yes, Master]
เคียวสงครามอันเป็นอาวุธประจำตัวของฟุบุคิเอ่ยตอบ เวลาปกติมันจะฝั่งอยู่ในร่างกายของเขา แต่เมื่อเอามาใช้จะอยู่ในรูปร่างเคียวสีดำขนาดใหญ่ที่ดูน่ากลัว หน้าจอโปร่งแสงปรากฎขึ้นเบื้องหน้าของเด็กหนุ่มเรือนผมสีเงินอมม่วง สิ่งที่ขึ้นแสดงอยู่บนหน้าจอคือแผนที่เป้าหมายและรายละเอียดของภารกิจ ตาสีโกเมนจ้องมองอ่านข้อความพวกนั้นสักพักก่อนจะออกคำสั่งปิดข้อความทำให้หน้าจอโปร่งแสงที่ขึ้นอยู่บนกลางอาการนั้นหายไป
"รีบๆทำภารกิจให้เสร็จ...แล้วก็ไปที่มูนไลท์กันเถอะ"
สายลมพัดวูบไหวแรงอย่างมิได้บอกกล่าว พร้อมกันนั้นฟุบุคิก็ได้ใช้เวทอำพรางตัวเข้าไปในคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว
บริเวณทางเดินของตัวคฤหาสน์คงไม่มีไอ้มือสังหารหน้าไหนจะนึกอยากเดินติดอาวุธล่อเป้าเป็นจุดเด่นศัตรูเล่นให้ใครต่อใครเห็นหรอก..แต่ในกรณีของฟุบุคิคือกลับกันเจ้าตัวดันเดินลากเคียวสีดำเข้ามาจากทางตรงๆชนิดที่ไม่แคร์สื่อกันเลยทีเดียว ถึงฟุบุคิจะเป็นพวกไม่สนโลกแต่ก็ไม่ใช่คนโง่ ที่เดินเข้าไปตรงๆได้สบายๆนั่นเพราะเจ้าตัวสามารถใช้เวทในการอำพรางตัวจาดศัตรูได้ แต่มีเวลาจำกัด 9 นาที ดังนั้นถ้าภารกิจนี้มีเวลาจำกัด 9 นาที
เวทอำพรางสายตาเป็นเวทที่มีประโยชน์อยู่เพราะจะสามารถลบตัวตนของตัวเองไม่ให้ศัตรูเห็น เอาง่ายๆคือเหมือนเราเป็นอากาศธาตุเลยก็ว่าได้ ใครเห็นความสามารถของฟุบุคิครั้งแรกนั้นสกิลไร้ตัวตนใกล้เคียงกับวิญญาณเลยทีเดียว...คนกลัวผีคงมีสะดุ้งกันแน่ เพราะงั้นโดยมากฟุบุคิจะเป็นสายวางแผนไม่งั้นก็คอยแอบดักฟังข้อมูลต่างๆและลอบสังหารมากกว่าจะคุ้มกันใครหรือเข้าไปรบแนวหน้าตรงๆ
นัยน์ตาสีแดงฉานเหม่อมองไปรอบๆอย่างไร้อารมณ์ในหัวตอนนี้คงมีเพียงความคิดที่อยากจัดการภารกิจนี้ให้จบๆไปกระมัง ใบหน้าที่ตายด้านตลอดเวลาถ้าคุณคิดว่าคนๆนี้อาจไม่รู้วิธีขยับใบหน้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะมันโครตจะหน้าตายเลยนี่นา
คุเร ฟุบุคิมาอยู่ตรงหน้าประตูห้องขนาดใหญ่ห้องหนึ่ง มือเพรียวเอื้อมมือเพื่อจะเปิดประตูเข้าไป....
ประตูพลันเปิดออกหากแต่เจ้าของห้องกับมองไม่เห็นตัวแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างฟุบุคิ นี่แหละคืออาวุธที่เรียกว่า
'การไร้ตัวตนโดยสมบูรณ์'
หญิงสาววัยกลางคนเจ้าของห้องมองประตูที่เปิดอย่างไร้สาเหตุอย่างตกใจผสมกับประหลาดใจ ในขณะที่ฟุบุคิเดินผ่านเธอไปโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลย
ไร้ตัวตน เหมือนกับไม่อยู่ตรงนั้นต้องแต่ต้น ลบได้แม้กระทั่งสัมผัสวิญญาณของตัวเอง แม้มองทั่วไปจะเป็นความสามารถที่ไม่ค่อยมีอะไร แต่นี่แหละที่เป็นจุดแข็งของฟุบุคิ
"อันที่จริงคุณกับผมก็ไม่ได้มีเรื่องแค้นอะไรกันนะ....แต่อโหสิแล้วกัน..."
สิ้นเสียงคมเขี้ยวอันน่าสะพรึงของเคียว 'เมบิอุส' ก็จอไปยังคอของหญิงสาวผู้ไม่รู้ชะตาชีวิตตนเอง ตาคู่สวยหลับลงก่อนจะกดเคียวลงตัดชีวิตของเธอผู้นั้น เลือดสีแดงไหลริน และร่างของหญิงสาวก็นิ่งงันเป็นเพียงซากศพที่เคยมีชีวิต ใบหน้าของมือสังหารยังว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึกนิดคิดใดๆ
"อ่า...จบไปแล้วอีกหนึ่งงาน....ขอโทษนะที่ทำนายเปื้อนอีกแล้วน่ะเมบิอุส...งั้นไปที่มูนไลท์กันเถอะ.."
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น