คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 1 : เตรียมพร้อม
CHAPTER 1
เตรียมพร้อม
“แม่ขอโทษ แต่ลูกต้องหนีไป ไนท์เชื่อแม่”
“หนีไปสิ”
“ออกไป....อย่ากลับมาอีก! ไปซะ ไป!!”
“ฝะ...ฝันแบบนี้อีกแล้ว” สายลมอ่อนๆ โชยเข้ามาปะทะกับเรือนผมสีดำรัตติกาลจนปลิวว่อน แสงจันทร์ลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาในกระท่อมหลังเก่า หลังเดิมที่เขาคุ้นเคยมันดีตั้งแต่เด็กจนโตก็จำได้ว่าใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอด จนกระทั่งพบเจอกับ....แสงแห่งความหวังในใจเขา
นัยน์ตาสีอาเทมิสและสีเหลืองอำพันนั้นบ่งบอกได้อย่างดีว่าเขาโดนทอดทิ้ง จากตระกูลใหญ่ที่รักกันอย่างผิดๆ และผมกรรมทั้งหมดก็ตกมาอยู่ที่เด็กชายตัวน้อยคนนี้ แต่ในวันนี้ วันที่เขาอายุครบยี่สิบปี มันไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เขาเข้มแข็งกว่าเดิม
นัยน์ตาที่มองได้ดีให้ความมืดสอดส่องออกไปนอกหน้าต่างในยามวิกาล พลันมองเห็นหน้าบ้านของตนก็อดคิดถึงเรื่องสมัยเด็กไม่ได้ที่โดนเด็กหญิงตัวเล็กๆ อายุห่างกันตั้งสามปีช่วยไว้ คิดแล้วสมเพชใจตัวเองหน่อยๆ แต่ตอนนี้เขาพร้อมที่จะปกป้องเธอแล้ว เวลาที่ไนท์คิดถึงเธอยามใด รอยยิ้มที่เผยขึ้นมาบนใบหน้าก็ชัดขึ้น แม้จะเป็นคนยิ้มยากแต่กับหญิงสาวคนนี้ไม่เลย....
ไนท์มองกรอบรูปที่ตั้งอยู่หัวที่นอนพร้อมกับมองรูปใบเก่า ที่ถูกผนึกลงในกรอบรูปด้วยเวทมนตร์แบบง่ายๆ แม้ไฟจะเผ่ารูปใบนั้นจนเห็นใบหน้าของพ่อและแม่ของเขาได้ไม่ชัด แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้งที่มองมัน มันทำให้หนุ่มเย็นชาอย่างเขาหลับฝันดีและพร้อมตื่นขึ้นมาเจอเรื่องราวใหม่ในวันถัดไป
“ไนท์ ไนท์ ไนท์ ตื่นสิโว้ย!” เสียงห้าวของใครบางคนกระแทกเข้าไปในโสนประสาทของไนท์ทีกำหลับใหลอยู่
“มีอะไรปลุกซะเช้า....เฮเทีย” ไนท์ดีดตัวจากเตียงพร้อมกับจัดระเบียบร่างกายและเดินออกมานอกกระท่อม
“เกิดเรื่องที่หมู่บ้านภูติเร็วสิ ริต้ารอนายอยู่” เฮเทียเอ่ยถึงชื่อของใครบางคนที่ทำเอาไนท์เร่งรีบได้อย่างน่าประหลาด
“โห่ย! ไวยังกับแสง ฉันจะตามนายทันมั้ยเนี่ย” เฮเทียตัดพ้อก่อนจะวิ่งตามไปติดๆ
ณ ป่าแห่งภูติ
ป่าแห่งภูติเป็นป่าที่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าภูติหลากสายพันธ์ ว่ากันว่าป่าแห่งภูติกำลังจะถูกบีลอส อสูรกายหน้ากลัวจัดการเป็นที่ต่อไปหลังจากที่พวกมันทำลายป่าของพวกเอลฟ์ไปได้แล้ว หัวหน้าเผ่าอย่างผู้เฒ่าเต่าก็มีนโยบายที่จะหาวิธีรับมือให้ทันท่วงที จะได้ไม่ซ้ำรอยเหมือนเผ่าเอลฟ์
ในระหว่างที่ไนท์เดินเขามาอย่างรีบร้อนตามมาติดๆ ด้วยเฮเทียนั้น ก็พบการเปลี่ยนแปลงของหมู่บ้านเขตุหน้า ไม่มีแม้แต่ประชากรภูติมีเพียงกระท่อมฟางที่แปรสภาพเป็นอาคมเวทมนตร์สีสันต่างๆ ต้นไม้ที่เคยใหญ่โตปกคลุมและปล่อยให้แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาเบื้องล่าง บัดนี้ได้แผ่ขยายปกคลุมจนทำให้หมู่บ้านส่วนหน้าดำมืดไปหมด เป็นเกราะกันบังชั้นแรกนั่นเอง
“เปลี่ยนไปเยอะเพียงแค่สามวันเองสินะ” ไนท์พึมพำกับตัวเอง เฮเทียได้แต่ส่ายหน้า “ใครจะไปรู้ละ...ว่าเหตุการณ์บ้าๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นรวดเร็วขนาดนี้ ดีนะที่ยังป้องกันได้ทัน”
ทั้งสองสาวเท้าเข้าไปเรื่อยๆ พลางพูดคุยกันเรื่องการเปลี่ยนแปลงของป่าแห่งภูติที่เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นในวัยเด็กของพวกเขา บัดนี้กลายเป็นป่าอาคมที่พร้อมจะทำลายผู้บุกรุกได้ทุกเมื่อ
“เฮ่อ....ฉันละสงสารริต้าจริง” เฮเทียถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
“....นั้นสิ” ไนท์ไม่พูดอะไรมากความ แต่ในใจของเขากลับคิดเรื่องภูติสาวชื่อ ริต้าว่าจะเป็นยังไงบ้างเขากลัดกลุ้มร้อนใจกระวนกระวายอย่างที่ไม่เคยเป็น แต่เก็บอาการไว้จนเฮเทียไม่รู้สึก
“เราเข้าไปหาท่านผู้เฒ่ากันเถอะ” ไนท์เดินนำเข้าไปในกระท่อมหลังใหญ่ที่สุดหมูบ้าน มีการตกแต่งที่ใครๆ ก็ดูออกว่าเป็นบ้านของหัวหน้าเผ่า ตราประทับต่างๆ จากไกอาถูกจัดใส่กรอบไม้เวทมนตร์เรียงรายกันอย่างดีเยี่ยม เต่าหลังค่อมตนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับไม้คทาที่เหมือนมีอะไรบางอย่างรวบไว้
“สวัสดีคนหนุ่มสาว”
“สวัสดี.....”
“สวัสดีค่ะ ละ...แล้ว ริต้าล่ะ” เฮเทียยิงคำถาม
“ริต้ากำลังฝึกเหล่าเด็กๆ ให้รู้จักวิธีการป้องกันตัวเบื้องต้น อยู่โรงเรียนอนุบาลโน่นและ” ผู้เฒ่าเต่าว่า
“ละ...แล้ว ท่านเรียกพวกเรามาทำไม ฉันก็นึกว่า ริต้าเป็นคนส่งดอกไม้ภูติมาหาฉันสักอีก” เฮเทียทำท่าร้อนใจจนผู้เฒ่าเต่าอดกลั้นขำไม่ได้
“เอาล่ะๆ ก็กำลังจะบอกนี่ไง”
“แล้วมันเรื่องอะไร” ไนท์ยิงคำถามออกไปโต้งๆ เขาเริ่มหมดความอดทนกับความอืดอาดของผู้เฒ่าเต่า
“ข้ากำลังจะบอกไง ถ้าพวกคนหนุ่มสาวรีบมากนักก็ไปถามคนอื่นเถอะนะ” ผู้เฒ่าเต่าทำยียวนก่อนจะเดินต่อใช้ไม้คทาเป็นที่ค้ำยัน
“บอกมาเดี๋ยวนี้.....” ไนท์เริ่มโกรธ เฮเทียถึงกับอ้าปากค้างไนท์ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เพราะอะไรกัน?
“ใจร้อนจริงนะ พ่อหนุ่ม....แหม่ นี่เหรอที่นักพยากรณ์ทำนายไว้ ว่าจะช่วยหมู่บ้านของข้า มันหน้าจับมาสั่งสอนใหม่เสียจริงนะ” ผู้เฒ่าเต่าหัวเราะแบบไม่หวาดหวั่น ยิ่งทำเอาไนท์ที่เหมือนโดนสบประมาทประจุแตก เขาก็แค่อยากรู้ว่าเรื่องที่เรียกมามีผลต่อริต้ามั้ย? แต่เต่าบ้านี่ก็ยังกวนประสาทเขา ไนท์ไม่รอช้าพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาเต่าค่อมตรงหน้าทันที
“แหม่....ไม่ไหวๆ ชายหญิงสมัยนี้ ต้องอบรมมารยาทกันใหม่เสียแล้ว” ผู้เฒ่าเต่าพูดพร้อมกับเคาะไม้เท้าเล่น ไนท์ไม่รอช้าเขาร่ายเวทมนตร์บางอย่างพลันพูดจบอาคมสีทองก็ปรากฏบทมือข้างขวาของเขาพร้อมกับง้างมือหมายจะต่อยเต่าชราตัวนี้ให้กระเด็น
“นี่! กะจะพังบ้านข้าเลยเรอะ” ผู้เฒ่าเต่ากับไม่มีท่าทีร้อนใจแม้กำลังจะถูกสัดจนปลิว เฮเทียที่มองอยู่ถึงกับกุมขมับ ไนท์ชกลงที่เต่าชราเต็มแรงแต่ผลกลับตรงกันข้ามเต่าหลังค่อมรับการโจมตีไว้เพียงแค่นิดเดียว
“ข้าก็บอกว่าจะอบรมมารยาทให้เจ้าใหม่ยังไงเล่า ไม่ฟัง ไม่ฟัง” เต่าชรายังคงรับการโจมตีไว้และส่ายหน้าอย่างเอือมระอายิ่งทำให้ไนท์โกรธกว่าเดิม เฮียถึงกับอ้าปากค้างหล่อนไม่คิดว่าหัวหน้าเผ่าพันธ์ภูติจะมีพลังเหนือความคาดหมาย
“ถ้าพ่อหนุ่มยังใจร้อนมุทะลุอยู่แบบนี้ แล้วริต้าเขาจะไปพึ่งใคร เฮเทียเหรอ” พลันถ้อยคำนี้หลุดออกมาไนท์ก็คายอาคมพร้อมกับเดินออกมาห่างๆ และหันหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์ เต่าชรายิ้มก่อนจะกระแอ่มครั้งหนึ่ง
“เรื่องในวันนี้ที่ข้าจะเล่าให้ฟังก็มีอยู่ว่า....เจ้าคงจะรู้จักผนึกแห่งเคออสสินะ”
“ค่ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับเรื่องที่เรียกมาล่ะคะ”
“ก็รอฟังเอาสิ แม่นี่ใจร้อนไม่แพ้พ่อหนุ่มนั้นอีกนะ”
“ว่ากันว่า พนึกแห่งเคออสมีพลังมากมายในวันที่เกิดฝนดาวตกครั้งใหญ่ซึ่งพวกเจ้าก็ยังไม่เกิด ในวันนั้นพนึกแห่งเคออสแตกเป็นเสี่ยงๆ ในวันที่เทพีแห่งชีวิตของเราให้กำเนิดมันขึ้นมานั่นและ” เต่าชราเว้นไปก่อนมองดูท่าทีของทั้งสองและพูดต่อ
“ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมันถึงแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้ขนาดนั้น มันเป็นสิ่งเดียวที่สามารถต่อกรกับพวกบีลอสได้”
“ว่ากันว่า พลังของมันจะเข้าไปอยู่ในตัวของคนที่มันเลือก”
“งั้นก็ดีเลยสิคะ....เราก็ให้พวกคนที่มีพลังของพนึกมาช่วยเราโค่นล้มพวกบีลอส”
“ถ้ามันขนาดนั้นข้าก็คงทำเองแล้วล่ะ....แต่นี่เราต้องนำผู้คนที่มีพลังของผนึกทั้งหมดมารวมกันและใช้เป็นอาวุธต่อกรกับพวกบีลอส”
“ผนึกให้ทั้งอำนาจกับผู้ครอบครองและแปรสภาพตามผู้ครอบครองเช่นกัน ใครที่มีจิตอับกุศลมันก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำ ใครที่มีใจสะอาดมันก็จะไร้สี” เต่าชราทำหน้าครุ่นคิด
“นักพยากรณ์จากป่าแห่งภูติของข้าได้ทำนายออกมาว่า....พ่อหนุ่มคนนี้เป็นคนที่จะทำเรื่องนี้สำเร็จซึ่งข้าก็ยังไม่ค่อยไว้ใจเขาสักเท่าไหร่ แต่ข้าไม่มีใครที่พอจะเป็นที่พึ่งแล้ว”
“ถ้าเจ้าทำได้ป่าแห่งภูติก็จะปลอดภัยพ่อหนุ่ม” ไนท์ทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะมองเต่าชราที่ก้มหัวให้ตนเพื่อเป็นการขอร้อง
“อย่าเลยค่ะ ท่านผู้นำ” เฮเทียรีบดึงหัวเต่าชราขึ้น
“เอาเป็นว่าพวกเจ้าทั้งสองคนเจอข้าอีกทีที่ลานฝึกซ้อมเรียกริต้ามาด้วยล่ะกัน ข้าจะสอนสิ่งที่ข้ามีให้พวกเจ้า” เต่าชราเดินกลับเข้าไปในห้องของตนทิ้ง อีกสองคนให้ได้ครุ่นคิดกับปัญหา
ณ ท่าเรือเมอลิเคอร์ลิส
ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในไกอา มีประชากรเดินควักไขว่ไปมามากมาย ร้านต่างๆ เปิดเรียงรายกันแน่น หญิงสาวเรือนผมสีแดงสดเดินออกมาจากเรือสำเภาที่พึ่งเทียบท่า หล่อนลากรถลากขนาดใหญ่มุ่งตรงไปที่ไหนสักแห่ง บนรถลากมีถุงกระสอบมากมายและมันกำลังเคลื่อนไหว สร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้คนไม่น้อย
“คนเยอะชะมัด” เธอสบถกับชายหนุ่มเรือนผมสีแดงน้ำตาลข้างๆ
“นั้นสิครับ” ชายหนุ่มตอบโดยที่ไม่ได้หันไปมองเธอ เขากำลังจดไดอารี่ของเขาอย่างรวดเร็วและเก็บมันลงพร้อมกับหยิบหนังสือเล่มหนาขึ้นมาถือ
“นี่! ฮาคัวฉันบอกนายกี่ล้านครั้งว่า เวลาฉันคุยกับนายฉันสำคัญที่สุด”
“ครับๆ เข้าใจแล้ว” ฮาคัวยิ้มแห้งๆ ให้กับเจ้านายใจร้อน ทั้งสองเดินลัดเลาะไปตามทางเดินและหยุดอยู่หน้าเรือไม้ขนาดใหญ่โตมโหฬาร มันได้ชื่อว่าเป็นคฤหาสน์และเป็นที่ว่าจ้างงานของตระกูล เฟอร์เรริส ที่ใหญ่โตและเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน
“พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่บ้านอีกตามเคย ฉันล่ะเบื่อ”
“เอาน่า ยังคุณเอลก็ยังมีผมเป็นเพื่อนนะ”
“เอาล่ะๆ จัดของดีๆ ก่อนที่ลูกค้าจะมารับสินค้า ติดต่อไปด้วยว่าพวกเราหาสินค้าให้ได้แล้ว แล้วก็อย่าลืมนมสดไม่ร้อนไม่เย็นลาดคาลาเมลสูตรไม่หวานมากของ ร้านยายเปโตพาชี่ กับขนมปังกรอบนอกหนุ่มในโรยด้วยน้ำตาลนางฟ้ากับเสียงเพลงล่ะ สองชุด ฉันจะเอาให้เมโลกินด้วย นายอยากกินอะไรก็ซื้อเข้ามาล่ะกันฉันไปอาบน้ำก่อนล่ะ อย่าลืมน้ำผลมากาโรตองนะอีกสองแก้วเอาไวแก้เลี่ยน” หล่อนสั่งๆ เป็นแถวแต่หน้าแปลกที่ฮาคัวกลับจำได้แม่นยำ เขายิ้มรับก่อนจะเดินออกจากคฤหาสน์เรือหลังใหญ่และมุ่งหน้าออกไปซื้อข้าวของทันที
ฮาคัวยิ้มร่าทุกครั้งที่เจ้านายจอมเหวี่ยงสั่งเขา ไม่รู้สิมันมีความสุขอย่างที่เขาอธิบายไม่ถูก อีกอย่างหนึ่งพ่อและแม่ของเจ้านายก็มีพระคุณจ้างเขามาทำงานแล้วยังรับน้องสาวมาเลี้ยงอีก
สิ่งที่ท่านพ่อกับท่านแม่ของคุณเอลทำให้มีพระคุณยิ่งนัก ใช้งานแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ก็ผมรักเจ้านาย....เฮ้ย ไม่ใช่อย่าเข้าใจผิดนะ ไม่ได้รักแบบนั้นนะ
เสียงจากสมองของเขาดังออกมา ทำเอาหน้าแดงยังกับลูกตำลึง ชายหนุ่มสะบัดหัวแรงๆ ไล่ความคิดพิลึกพิลันออกจากหัวไปพร้อมกับตรงไปร้านนมสด
ณ ปราสาทแห่งหนึ่ง
“นายหญิงขอรับ” ชายหนุ่มสวมเกาะสีดำคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องห้องหนึ่ง ที่คล้ายท้องพระโรงมีเก้าอี้บัลลังก์สูงอยู่เบื้องหน้า
“ว่าไง....” หญิงสาวที่อยู่ในความมืดเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า
“พวกมันเริ่มเคลื่อนไหวแล้วขอรับ” ชายหนุ่มที่ก้มลงเอ่ยต่อ
“รอไปก่อน....ข้าอยากใช้วิธีสกปรกเล่นงานพวกมัน เอาให้จุกจนพูดไม่ออกเลย”
“ไปได้แล้ว” ชายหนุ่มพงกหัวรับก่อนจะเดินออกจากท้องพระโรงไป
“หึหึ....พวกชั้นต่ำ ชั้นต่ำ ชั้นต่ำ คิดจะเล่นกับใคร มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” ในความมืดนี้ทำให้มองเห็นหน้านางไม่ชัดแต่สามารถรับรู้ได้ว่าแรงแค้นที่มีออกมานั้นมากมายเกินคะนานับ
____________________________________________
เป็นไงบ้างค่ะสนุกมั้ย ? เม้นต์ไว้หน่อยนะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ
ความคิดเห็น