ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alfena the princess of light

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 24 มิ.ย. 50


                                                    บทนำ

               ราตรีกาลอันมืดมิด  เคียงคู่กับแสงแห่งจันทราและหมู่มวลดวงดาราที่พร่างพราว  ชวนให้ราตรีนี้ดูเงียบสงบนัก  แต่มันก็มิเป็นเช่นนั้นสำหรับทุกคน  แสงจันทร์ลอดผ่านบานหน้าต่างเข้าถึงตัวปราสาทสีขาวสะอาดตา  เผยให้เห็นร่างบางที่ดูอึดอัดแม้ตนจะนอนอยู่บนเตียงที่ดูนุ่มสบายก็ตาม  
               “ภัยร้ายกำลังจะมาเยือนมนุษย์โลก  ปีศาจจะเป็นผู้ครองอาณาจักรนี้  มนุษย์จะต้องสูญสลายสิ้น  เหล่าภูต  เทพ  หรือพรายตนใดก็มิอาจมีฤทธิ์เทียบเท่าบุตรแห่งข้า
               “เหล่ามนุษย์ผู้หลงระเริงเอ๋ย  เจ้าจะได้รู้จักถึงความโศกเศร้า  เวลาแห่งความสุขได้จบลงแล้ว  ทุกสรรพสิ่งจะต้องยอมกำหราบต่อพวกเราชาวปีศาจ  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
               สายลมที่ดูแล้วน่าสบายอารมณ์เมื่อพัดผ่านมา  แต่กลับแฝงไปด้วยความเศร้าและลางแห่งหายนะที่ไม่อาจมีผู้ล่วงรู้ได้
               “ไม่!  มนุษย์โลกจะต้องคงความสงบสุขเช่นนี้เป็นนิรันดร์  เหล่าปีศาจเช่นเจ้ามิอาจพรากมันไปได้  มนุษย์อย่างข้าจะเป็นผู้สอนให้เจ้าได้รู้ว่าความสุขอันเป็นนิรันดร์  เหล่ามนุษย์จะไขว่คว้ามันไม่มีทางพรากจาก”
               องค์หญิงน้อยรำพึงเสียงดัง  และเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเสียงนั้นยังดังไม่หยุด
               “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  มนุษย์ตัวจ้อยผู้มีพลังอันน้อยนิด  มีหรือจะมีฤทธิ์เดชมากกว่าข้า  ไม่มีทางหรอก  อย่าพูดให้ข้าขำจะดีกว่า  ฮึ”
               เสียงนั้นส่งเสียงเย้ยหยั่นตอบกลับ  พร้อมกับรังสีแห่งการเข่นฆ่ามีไม่รู้มาจากทิศใด
               ร่างขององค์หญิงน้อยเริ่มสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว  แม้ปากจะยังตะโกนตอบกลับไปด้วยเสียงอันดัง  ที่ปิดความกลัวไว้ไม่มิดแต่ก็แฝงไปด้วยความกล้าหาญ
               “ไม่!  มันต้องมี  ต้องมีสิ  ต้องมีซักทาง  ข้าเชื่อและมันก็ต้องเป็นเช่นนั้นด้วย”
               “และหากไม่มีทางใดจะช่วยได้  ตัวข้านี่แหละจะเป็นทางออกของโชคร้ายทั้งปวง”
               สิ้นคำก็มีลำแสงประหลาดพุ่งเข้าใส่เธออย่างจัง  ร่างบางสะดุ้งเฮือก นี่เราฝันไปหรือนี่ ใช่ข้าฝัน  ฝันได้อย่างไรกัน  น่าแปลกจริง  แต่แล้วความคิดนั้นก็จบลงเมื่อมีเสียงสาวใช้สองนางเรียกหา
               “องค์หญิงเป็นอะไรเพคะ” 
               สาวใช้นางหนึ่งถามด้วยสีหน้าที่บ่งได้ถึงความกังวลอย่างชัดเจน  เมื่อเธอได้สติก็ตอบพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใสที่สามารถคลายความกังวลของสาวใช้ทั้งสองได้ถนัดตา
               “ฝันร้ายนิดหน่อย  แต่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะดีขึ้นเยอะเลยตอนนี้  ไม่ต้องเป็นห่วงนะสบายใจได้”
               เมื่อเธอเห็นท่าสาวใช้ทั้งสองจะถามไถ่สวัสดิภาพของเธอต่อ  เธอก็ตัดบทเอาดื้อๆ
               “น่านะ  พี่ไมย่า  พี่เฟรย่า  เราไม่ได้ไปปีนเขาซะหน่อย  เดี๋ยวหนูจะนอนแล้วล่ะ  ออกไปเถอะค่ะ  เห็นมั้ยสบายดีครบถ้วน”
               “แต่ถ้ามีอะไรก็เรียกได้นะเพคะ”  สาวใช้นามไมย่าตอบพร้อมเดินไปปิดประตูห้อง
               “ค่ะ  คุณคนขี้ห่วง”  เธอตอบล้อเลียน  เพียงไม่นานเธอก็หลับไปด้วยความสุขที่เต็มเปี่ยม  เพียงเพราะสายลมอันแผ่วเบาพัดพาเอาถ้อยคำอันนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและความเศร้าสร้อยพัดวนรอบกายเธอ
               “โชคชะตาได้กำหนดเอาไว้แล้ว  โชคชะตาได้นำพาเจ้าให้พบกับความโศกเศร้าที่เจ้ามิเคยพานพบมาก่อน  แต่อย่างไรก็ตามหากเจ้านั้นมีความมุ่งมั่นที่เพียงพอ  ความโศกเศร้าเพียงแค่นี้ก็มิอาจสั่นคลอนความต้องการของเจ้าได้  แต่เจ้าจงจำของข้าไว้ให้มั่น”
               “ทุกช่วงเวลากาลทุกสรรพสิ่งจะคอยดูแลเจ้า  โอบอุ้มเจ้า  และช่วยเหลือเจ้าในทุกช่วงเวลาที่เจ้าต้องการ  เจ้าจะต้องเข้มแข็งกว่านี้ให้เหล่าปีศาจได้ประจักษ์  และรับรู้ถึงความปรารถนาของเจ้าที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น  โดยที่ตัวเจ้าก็มิอาจรับรู้ได้เลย  เจ้าทำให้แม่ภูมิใจมากลูกรัก  ตอนนี้ลางแห่งหายนะกำลังจะเริ่มขึ้นโดยที่ตัวลูกมิอาจรับรู้ได้  แต่ถึงกระนั้นโชคชะตาก็นำพาเจ้าให้เป็นผู้ลบล้างลางหายนะในครานี้  ซึ่งเจ้าจะต้องรับมันแอฟฟีน่า ! ”
               นี่คือถ้อยคำที่มากับสายลมช่างน่าแปลกที่อนาคตของเด็กหญิงวัย  10  ปี  จะต้องเป็นผู้แบกรับสิ่งเหล่านี้  แต่อย่างไรก็ตามเมื่อโชคชะตากำหนดไว้แล้วก็มิอาจเปลี่ยนแปลงได้  จึงทำได้เพียงยอมรับมันเท่านั้น  สักพักเสียงของหญิงสาวนางเดิมก็ดังขึ้นอีก

               “การเดินทางของเจ้ากำลังจะเริ่มขึ้น  แอฟฟีน่า !”


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×