ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ;[My room]; ห้องส่วนตัวอ่ะนะ

    ลำดับตอนที่ #5 : [D]องเมียว [อีคิวพลัส]

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 57




     

             ในการ์ตูนรอบรู้ตำนานรอบโลก ตอน เจาะตำนานพ่อมด ผจญศึกศาสตร์มหาเวท เราคงได้ทราบเกี่ยวกับศาสตร์ของพ่อมดที่มีผลต่อวิทยาศาสตร์ตะวันตกในปัจจุบันกันไปแล้ว แต่ว่า...แล้วจะมีศาสตร์เวทมนตร์ทางฝั่งตะวันออกที่มีผลต่อวิทยาศาสตร์บ้างไหมน้อ? วันนี้เราจึงได้หยิบยก องเมียวจิ พ่อมดผู้ใช้ศาสตร์แห่งตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นมาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จัก ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยเห็นองเมียวจิในหนังสือการ์ตูนหรือภาพยนตร์มาบ้างแล้ว แต่ลองมาทำความรู้จักกันอย่างละเอียดอีกทีนึงดีกว่านะ!

     

          

            องเมียวจิ เป็นผู้ศึกษาหลักการของวิถีองเมียว (องเมียวโด) จนเชี่ยวชาญ ทั้งในด้านเวทมนตร์คาถาและโหราศาสตร์ หน้าที่หลักขององเมียวจิคือ การสร้างความสมดุลของบ้านเมืองโดยอาศัยปฏิทินทางดาราศาสตร์คล้ายๆ กับพวกโหรพยากรณ์ และคุ้มครองบ้านเมืองให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย นอกจากนี้ยังสามารถทำนายทายทัก เสริมความเจริญรุ่งเรือง ให้คำแนะนำในการย้ายเมืองหลวง และยังสามารถควบคุมภูติผีวิญญาณได้อีกด้วย ซึ่งหน้าที่ขององเมียวจิทั้งหมดล้วนมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้น เช่น การเพาะปลูกซึ่งต้องพึ่งพาการทำนายสภาพอากาศ การประกอบพิธีเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชผลต่างๆ ตลอดจนการทำพิธีปัดเป่าสิ่งอัปมงคลที่ทำให้เกิดเภทภัยต่างๆ ทำให้ในสมัยเฮอัน องเมียวจิจึงมีฐานะเทียบเท่ากับเป็นราชการคนหนึ่ง แต่ในเวลาต่อมา ระบบจักรพรรดิได้เริ่มเสื่อมโทรมลง ทำให้ฐานะหน้าที่ขององเมียวจิขาดผู้สนับสนุน และลดบทบาทลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในปัจจุบันองเมียวจิมีหน้าที่อยู่ในรูปของพระในศาสนาชินโต แม้ว่าคนทั่วไปจะเห็นว่า องเมียวจิในสมัยนี้เป็นคนทรงเจ้าหรือพวกใช้เวทมนตร์คาถาก็ตาม แต่ภาพลักษณ์ขององเมียวจิก็ยังดูเป็นผู้ใช้ศาสตร์ชั้นสูงอยู่

     

    อาเบะ โนะ เซเมย์ เป็นองเมียวจิที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น

     

    ศาสตร์องเมียวโดที่นักพรดองเมียวจิยึดปฏิบัติ

              องเมียวโดเป็นศาสตร์เวทมนตร์แขนงหนึ่งของญี่ปุ่นซึ่งผสมผสานมาจากวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและศาสตร์เวทมนตร์ มีรากฐานมาจากปรัชญาธาตุทั้งห้า (ดิน น้ำ ไฟ ไม้ เหล็ก) และปรัชญาหยินหยาง ซึ่งมีถิ่นกำเนิดมาจากลัทธิเต๋าของประเทศจีน และพัฒนาจนกลายเป็นรูปแบบเฉพาะตัว วิถีองเมียวโดได้เข้าสู่ในประเทศญี่ปุ่นในช่วงราวๆ ศตวรรษที่ 6 และได้รับการยอมรับในด้านโหราศาสตร์ โดยที่ศาสตร์นี้ยังได้รับอิทธิพลของ ลัทธิเต๋า ศาสนาพุทธ และลัทธิชินโต ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาจนกลายมาเป็นวิถีองเมียวโดอย่างที่เห็นปัจจุบันในปลายศตวรรษที่ 7 จนกระทั่งกลางศตวรรษที่ 19 องเมียวโดได้ถูกต่อต้านเนื่องจากเชื่อว่าเป็นเรื่องงมงาย และอยู่ภายใต้การควบคุมของระบบจักรพรรดิอีกที

     

    คำว่า "องเมียว" ในภาษาญี่ปุ่น เขียนเหมือนกับคำว่า "หยินหยาง" ในภาษาจีน ซึ่งมีความหมายเหมือนกันคือศาสตร์เกี่ยวกับโหราศาสตร์และและศาสตร์ของลัทธิเต๋า องเมียวโด สามารถอ่านอีกแบบได้ว่า องโยโด

     

             องเมียวจิที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น คือ อาเบะ โนะ เซเมย์ เป็นองเมียวจิสมัยช่วงกลางๆ ยุคเฮอัน เรื่องราวของเขาส่วนใหญ่มักจะปรากฏอยู่ในรูปแบบตำนานมากกว่าเป็นบันทึกที่แน่นอนทางประวัติศาสตร์ แต่ก็มีศาลเจ้าเซเมย์ ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่องค์จักรพรรดิได้สร้างขึ้นเมื่อเซเมย์เสียชีวิต ปัจจุบันศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ในเกียวโต

     

    ศาลเจ้าเซเมย์ ปัจจุบันตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

     

    ศาสตร์ขององเมียวจิที่สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์

               หยินหยาง เป็นปรัชญาลัทธิเต๋าของจีน มีหลักแนวคิดว่า ในของสิ่งหนึ่งจะต้องมีด้านตรงข้ามกันเสมอ และแม้หยินกับหยางจะมีลักษณะตรงกันข้ามกัน แต่ทั้งสองก็รวมกันเป็นสิ่งเดียว และรักษาสมดุลซึ่งกันและกัน เช่น ร้อน - หนาว, น้ำ - ไฟ ทำนองเดียวกับวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันที่กล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกเมื่อแยกออกจากกันแล้ว ก็จะประกอบด้วยสิ่ง 2 สิ่ง คือ สสารกับพลังงาน

               หลัก 5 ธาตุ เป็นศาสตร์ปรัชญาของจีน โดยทั้ง 5 ธาตุนี้ได้แก่ น้ำ - มีธรรมชาติเปียกชื้นและไหลลงสู่ที่ต่ำ ไฟ - มีลักษณะเป็นเปลวพุ่งขึ้นสู่ที่สูง ไม้ - มีลักษณะโค้งงอหรือตั้งตรง เหล็ก - มีลักษณะที่อาจถูกหลอมและเปลี่ยนรูปร่างได้ ดิน - ใช้เพาะปลูกและเก็บเกี่ยว

     

    รูปแบบความสัมพันธ์ของธาตุทั้งห้า

     

           หนังสือ อู่ ซิง ซวอ ซึ่งเป็นหนังสือโบราณ กล่าวถึงธาตุทั้ง 5 ไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากธาตุทั้ง 5 และธาตุทั้ง 5 นี้เป็นส่วนประกอบของทุกสิ่งในโลก ซึ่งศาสตร์ต่างๆ ของประเทศจีนจำนวนมากล้วนมีพื้นฐานมาจากความสัมพันธ์นี้ ซึ่งอธิบายได้ว่า ทุกสิ่งจะมีธาตุหลักของตน หากจัดความสัมพันธ์ให้ถูกต้องย่อมนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ รุ่งเรือง (อาศัยหลักแบบ น้ำดับไฟ ไฟหลอมเหล็ก เหล็กตัดไม้ ไม้ทำลายดิน และดินกั้นน้ำ) เมื่อใช้ความคิดนี้อธิบายสิ่งต่างๆ เช่น ฮวงจุ้ย ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ เคมี ว่าเอาอะไรผสมอะไรแล้วเกิดเป็นอะไร ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศฝั่งตะวันออกจึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา

     

    อ้างอิง

    http://en.wikipedia.org/wiki/Abe_no_Seimei

    http://en.wikipedia.org/wiki/History_of_science_and_technology_in_China

    http://en.wikipedia.org/wiki/Onmyoji

    http://en.wikipedia.org/wiki/Wu_Xing

    http://en.wikipedia.org/wiki/Yin_and_yang

    http://en.wikipedia.org/wiki/Image:Yin_and_Yang.svg

    http://paipu.justblog.jp/photos/uncategorized/2008/01/28/08012802.jpg

    http://static.flickr.com/101/290402511_b2d3f2f31a.jpg

    http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/5/5a/Abe_Seimei.jpg

    http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/0/07/FiveElementsCycleBalanceImbalance.jpg

    สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2551

    ___________________________________________
    ข้อมูลจาก องเมียวจิ อีคิวพลัส

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×