ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] BTS-Kookmin > IsolateP

    ลำดับตอนที่ #32 : OS|แฟน -50%-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.49K
      8
      1 ก.ย. 58

    แฟน!!

    Pairing     |  Kookmin
    Category |  Comedy
    Rate        |  PG 

     

     

    มีสิ่งมีชีวิตหนึ่งบนโลกนี้ที่ทำตัวเป็นแขนขาให้คนเป็นอัมพาตชั่วคราว หรือเรียกง่ายๆก็คนที่เขาเรียกว่าแฟนนั่นแหละ

     

    คิม แทฮยอง ไม่ได้เรียนสายวิทย์-คณิต
    แต่เขากลับมีผลวิจัยของตัวเอง
    เขาสังเกตพฤติกรรมของสัตว์โลกชนิดหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนกระต่าย
    แต่รูปร่างเหมือนคน โดยคนทั่วไปเรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่า จอน จองกุก


    สิ่งที่เขาวิจัยคือ จองกุก ค่อนข้างเป็นคนที่ใจร้อน ทำอะไรรวดเร็วไปหมด จนบางครั้งก็มีผิดพลาด แต่กลับมีตัวกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้จองกุกนั้นใจเย็นลงได้ ตัวกระตุ้นนั้นชื่อว่า ปาร์ค จีมิน

    มีครั้งหนึ่ง มีคนมาทำร้ายจอง โฮซอกเพื่อนในกลุ่มของพวกเขา จองกุกโวยจะเอาเรื่องให้ได้ แต่พอเดินลงมาถึงข้างล่างก็บังเอิญเจอน้องจีมินเดินผ่านหน้าตึกไปพอดี เสียงเล็กๆทักทายจองกุก

    "อ้าวแฟนจะไปไหนอ่ะ?" ก็งงเหมือนกันนะ ว่าทำไมสุดท้ายจองกุกก็จบชีวิตอยู่ที่ร้านไอศกรีม

     

    ผลสรุปการวิจัยจึงบอกได้ว่า จองกุกนั้นเป็นเหมือนความร้อน ส่วนจีมินก็คือความเย็น พอมาเจอกันก็เหมือนความอบอุ่น ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวตรงไหนหรอก แต่ก็คงดีแล้วที่แทฮยองไม่ได้เรียนสายวิทย์ ไม่งั้นองค์การวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจะต้องหลั่งน้ำตา

     

    สุดท้ายจึงได้ปล่อยให้แทฮยองได้ทำการวิจัยในโลกของมันเอง

     

     

    ,

     

     

     

    คิม ซอกจิน เคยพูดถึงจิตใจของจองกุกไว้ครั้งหนึ่ง
    มันเหมือนมีเครื่องหมายอสมการ
    > หรือ < คั่นไว้อยู่ระหว่างคำว่าเพื่อนกับแฟน
    พูดง่ายๆคือความไม่ยุติธรรม ไม่เท่าเทียม ไม่เสมอภาค แต่ผลพลอยได้อยู่ที่จีมินทุกครั้ง
    มันไม่เหมือนการตามใจ จองกุกเรียกมันว่าการเป็นห่วงในทุกย่างก้าวชีวิตของจีมิน
    แต่สำหรับซอกจิน เขาคิดว่ามันเป็นอาการของพวก
    non-sense อย่างหนึ่ง

    เหตุการณ์นี้เขาไม่ได้เจอมากับตัว แต่เพราะสนิทกับแทฮยอง ก็เลยรู้

    เรื่องมีอยู่ว่า
    ขณะที่แทฮยองกำลังเคี้ยวน้ำแข็งในแก้วเล่นอยู่ น้ำแข็งก็ดันลื่นไถลลงไปในคอ หายใจไม่ออก หน้าดำหน้าแดง สะกิดจองกุกที่นั่งข้างๆอย่างตื่นตระหนก ชี้ที่คออย่างรุกรี้รุกรน จนจองกุกเข้าใจว่าน้ำแข็งติดคอ ถอนหายใจ แล้วตบหัวมันไปทีนึง

    "โวยวายทำไมสัส !!?เดี๋ยวมันก็ละลายลงคอมึงเองแหละ" 

    "พี่จองกุก!! จีมินน้ำแข็งติดคอ!" นั่นคือเสียงยุนกิ เพื่อนสนิทของจีมินวิ่งมาด้วยอาการแตกตื่น

    "เฮ้ย น้องอยู่ไหนน!?"

    "สนามบาสฝั่งประถมอ่ะพี่!" และแล้วจองกุกก็วิ่งไป ทิ้งให้แทฮยองนั่งอึ้งปล่อยให้น้ำเย็นจากน้ำแข็งไหลลงคอช้าๆอย่างเจ็บปวด นี่คือการไร้เหตุผล มันไม่ make sense เพราะถ้าน้ำแข็งละลายลงคอได้ ก็ปล่อยให้น้องจีมินดิ้นอยู่ตรงนั้นก็ได้นี่นา..?

     

    หรือเพราะว่าจีมินนั้นเป็นเหตุผลส่วนตัวของจองกุก??

     

     

    ,

     

     

    จอง โฮซอก ที่ไม่ค่อยเก่งคณิตศาสตร์เท่าไหร่
    แต่สามารถเข้าใจนิยามของคำว่าการแปรผกผัน หรือ
    Inverse ได้อย่างดี
    มันคือการกลับกัน หากจะยกตัวอย่างง่ายๆ ก็..


    "ไม่ว่าพวกมึงจะเป็นตายร้ายดีขนาดไหน กูจะทิ้งทุกอย่างมาหาพวกมึง!! แฟนก็ก็ไม่สน!!" คำที่จองกุกประกาศกร้าว หลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนทะเลาะกันเรื่องขนมเบื้องชิ้นสุดท้าย และโกรธกันมาเกือบสัปดาห์

    มีวันนึง เขาเตะบอลกับแทฮยองแล้วหกล้มหน้าทิ่มเลือดนองเต็มพื้นหญ้า แทฮยองก็รีบต่อสายหาจองกุกทันที 

    "จองกุก!! โฮซอกหกล้มเลือดอาบสนามเลย! มึงมาช่วยแบกหน่อย"

    "...กูไม่ค่อยสบายว่ะ / พี่จองกุกอ้ามเร็วว"
    เป็นเสียงของน้องจีมินที่ดังเข้ามาในสาย 

    "เอ่อ.. กูรักมึงนะเว่ยโฮซอก แต่ไอศกรีมตรงหน้ากูก็จะละลายแล้ว กูขอช่วยมันก่อน ไลน์บอกโรงพยาบาลกูด้วย เดี๋ยวไปเยี่ยม ครึ่งชั่วโมงเจอกัน ...ตรู๊ดด"

    ครับ... จองกุกเลือกแฟน ไม่ก็ของกิน มันไม่เลือกเพื่อน..

     

     

    ,

     

     

    คิม นัมจุน บอกว่าจองกุกมีพฤติกรรมบางอย่างที่สามารถลงตัวกับจีมินได้อย่างพอดี
    เรียกได้ว่าเป็นตัวแปรผกผันอีกตัวหนึ่ง
    ซึ่งแปรผกผันกับอาการขี้งอนเพราะฉะนั้น จองกุกก็คือ
    ขี้ง้อ

     

    มันน่าแปลกที่คนๆนึงจะสามารถงอนคนๆเดียวได้เป็นสิบครั้งต่อวัน แต่ทีน่าแปลกกว่าก็คือคนที่ถูกงอนอย่างจองกุกกลับไม่เบื่อที่จะง้อ งอนร้อยครั้ง ง้อร้อยครั้ง นัมจุนยอมรับว่าเขาไม่ใช่คนใจเย็น หากเขามีแฟนขี้งอนขนาดนี้ เขาคงไล่เตะกลับบ้าน แล้วบอกเลิกตั้งแต่สองวินาทีแรกที่คบกัน แล้วทำไมถึงรู้ว่าจีมินขี้งอนล่ะ ก็คงเป็นวันที่พวกเขาพาจีมินขึ้นไปหาจองกุกน่ะสิ

     

    “แฟนนน แฟนคิดถึงเค้ามั้ย?” เสียงเล็กๆดังขึ้นตรงหน้าโต๊ะจองกุก เพื่อนๆในห้องหันมาโห่แซวบ้าง รวมถึงโฮซอก และแทฮยอง จองกุกเงยหน้าขึ้นมายิ้มยิงฟันให้ และส่ายหน้าช้าๆ

     

    “ทำไมเราต้องคิดถึงแฟนด้วยล่ะ?”

     

    “นัมจุน ฝากบอกคุณจองกุกด้วยว่าเย็นนี้จะไปดูพี่คิโด้เตะบอล ไม่ต้องมารอ จะกลับกับพี่เขา”

     

    “โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แฟนอ่ะ ทำเป็นน้อยแกน้อยใจไปได้ มาจุ๊บุจุ๊บุกันเร็ว ใครกันบอกไม่คิดถึงแฟนเนี่ย น่าตีให้หมดหล่อจริงๆ”

     

    “เย็นนี้เค้าอยากกินฮันนี่โทสต์อ่ะแฟน”

     

    “แฟนพึ่งกินเมื่อวานเองนะ”

     

    “นัมจุน ฝากบอกคุณจองกุกด้วยว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวจะไปกินกับพี่คิโด้” ครับ.. จีมินจะไม่พูดคำว่างอนออกมา เขาจะใช้อาการหน้ามุ่ยแทน แต่หากแถวนั้นมีเพื่อนไปด้วย จีมินก็จะใช้ใครสักคนเป็นสื่อกลางในการบอกเป็นสัญญาณว่า งอน-แล้ว-นะ ซึ่งนัมจุนก็คือสื่อกลางในครั้งนั้น ความจริงเรื่องมันยาวกว่านั้น แต่ถ้าให้เล่าคงเกินสิบหน้ากระดาษ

     

    เอาเป็นว่า ขี้งอน-ขี้ง้อ มันก็เข้ากันดีละกัน

     

     

     

    ,

     

     

     

    มิน ยุนกิ พบแล้วว่ามีอาการหนึ่งคล้ายขี้ง้อ
    ชื่อเรียกง่ายๆ คือ ขี้เอาใจ
    ไว้ใช้เมื่อหน้าของจีมินนั้นยู่ยี่ แก้มบวมอมลมไว้เต็มที่

     

    มันเกิดจากการไม่ถูกเอาใจน่ะ ..

     

    มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าจองกุกรวยมาก แต่เงินช่วยงานกลุ่มไม่ค่อยจะจ่าย เขาสามารถรับจีมินไปเลี้ยงเป็นตุ๊กตาตั้งโชว์ที่บ้าน ป้อนข้าว ป้อนน้ำ พาไปเที่ยวรอบโลกได้อย่างสบาย แต่จีมินไม่เคยขออะไรขนาดนั้นหรอก เพราะสิ่งที่จีมินอยากได้ก็แค่ของวานในบริเวณรอบโรงเรียนเท่านั้นแหละ ร้านไหนจีมินไม่เคยเหยียบน่ะหรอ? ไม่มีหรอก บางร้านจีมินก็แวะไปติดๆกันสี่ห้าวันจนจองกุกเบื่อ

     

    “แฟนจะกินร้านนี้อีกแล้วหรอ?”

     

    “อื้ม เค้าว่าอร่อยดีนะ”

     

    “เรารู้ว่าอร่อย เพราะแฟนพาเรามาร้านนี้ห้าวันติดแล้วน่ะสิ”

     

    “คือแฟนไม่อยากกิน?”

     

    “ครับ”

     

    “แต่เค้าอยากกิน” นั่นคือปัญหาโลกแตกของจองกุกที่เคยอยากเอาชนะจีมินสักครั้ง แต่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร พอมองลงไปก็เห็นจีมินหน้าเริ่มมุ่ยทีละนิด คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน จีมินกำลังไม่พอใจ เพราะจีมินเป็นเด็กเอาแต่ใจ ที่ต้องมีคนตามใจดูแลตลอดเวลา

     

    จองกุกจับมือจีมินดึงเข้าไปในร้าน คนตัวเล็กก็ได้แต่เดินตามแรงดึง แล้วก้มหน้า

     

    “กินเป็นวันที่หกก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ” J

     

     

     

    …………………………………………………………………………………

     

    คนในโรงเรียนมักจะพูดกันว่า จีมิน โคตรโชคดีเลยที่ได้พี่จองกุกเป็นแฟน และคนที่คิดแบบนี้ก็จะมีอีกความเห็นหนึ่งขึ้นมาด้วยว่า พี่จองกุกแม่.งโคตรโชคร้ายเลยว่ะ ได้จีมินมาเป็นแฟน ซึ่งจองกุกก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายอะไร แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจีมินโชคดีที่ได้ตนเองมาเป็นแฟนด้วย

     

    บางครั้งก็เคยรู้สึกว่าตัวเองดีกับจีมินไม่พอด้วยซ้ำ
    จีมินเองก็ค่อนข้างป๊อบเหมือนกัน บางวันก็มีรรุ่นพี่รุ่นน้องเอาขนมมาให้ ทั้งที่รู้ว่ามีแฟนแล้ว และดูเหมือนเจ้าตัวก็ชอบมากที่ได้ขนมมา

     

    ก็แค่กลัวว่าจีมินจะชอบขนมพวกนั้นมากกว่าเวลาที่เขาพาไปกินฮันนี่โทสต์ นมปั่น ขนมปังปิ้ง หรือไอศกรีม แต่ก็คงจะเป็นแค่การคิดไปเอง เพราะไม่ว่าจีมินจะได้ขนมมามากแค่ไหน ก็ต้องดึงเขาไปกินขนมนอกโรงเรียนด้วยกันทุกวันตอนเย็นนั่นแหละ น่าแปลกที่บ้านก็อยู่คนละทาง แต่ก็ยังอุตส่าห์พาไปส่งถึงที่ บางวันหรูหน่อย ก็แอบเอาจักรยานแม่ปั่นไปส่ง อาจจะเหมือนมนต์รักบ้านนอกไปนิด แต่จองกุกรู้ว่ามันสู้พวกบิ๊กไบต์คันใหญ่ๆที่เจ้าของมันชอบชวนจีมินขึ้น

     

     

    จีมินไม่ชอบความเร็ว J

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×