ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] BTS-Kookmin > IsolateP

    ลำดับตอนที่ #29 : OS| แฟน!! #BTS1stWin [kookmin] 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.43K
      20
      6 พ.ค. 58

    แฟน!!

    Pairing     |  Kookmin
    Category | Comedy
    Rate        |  PG 13+

    ฉลองบังทันได้ที่หนึ่ง เย่ :)  #กุกจี้ฟรุ้งฟริ้ง
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------

    มีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งบนโลกนี้ที่พอมี แฟนแล้วทำอะไรไม่เป็น แขนขาเป็นอัมพาตชั่วคราวเสียอย่างนั้น

     

    จอง โฮซอก เรียกอาการของสิ่งมีชีวิตแบบนี้ว่า ขี้เห่อ

    แต่สิ่งที่เห่อไม่ใช่เสื้อผ้ารองเท้า หรือของเล่นใหม่ๆ

    แต่เป็นอาการที่จอง โฮซอกเรียก ปาร์ค จีมิน ว่าพวกเห่อแฟน

    และแฟนก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ก็ จอน จองกุกรุ่นพี่ปีสองคนดังของโรงเรียนนั่นแหละ

     

    อาการเห่อแฟน ถูกโฮซอกอธิบายได้ว่ามันไม่ใช่อาการที่จีมินใส่เสื้อใหม่โดยไม่ให้ซัก รองเท้าคู่ใหม่ที่จ่ายเงินแล้วใส่ออกจากร้านเลย อ่านหนังสือที่ซื้อมาใหม่ติดกันนานๆ  หรือซื้อเกมมาใหม่แล้วนั่งเล่นทั้งวันทั้งคืน แต่มันเป็นอาการที่จีมินแค่ต้องการให้คนสักคนอยู่ข้างๆ

     

    ซึ่งอาการนี้ของจีมินเกิดได้กับคนๆเดียว คือคนที่ชื่อ จอน จองกุก

     

    ,

     

    คิม แทฮยองเคยบอกผลวิจัยของตัวเองว่า

     

    มนุษย์ที่เป็นอัมพาต แขนขาจะลีบเพราะไม่ได้ใช้งาน

    แต่ปาร์ค จีมินกลับเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นข้อยกเว้นสำหรับกรณีนี้

    เพราะจีมินมีแขนขาที่ปกติเหมือนคนทั่วไป

    แต่ชอบมีอาการอัมพาตแบบชั่วคราว เมื่ออยู่ใกล้ๆ จอน จองกุก

     

    โดยสรุปผลการวิจัยคือปาร์ค จีมินสามารถกินข้าวเองได้เมื่ออยู่กับเพื่อน หรือคนเดียว เขาสามารถเดินคนเดียวได้ยามจำเป็น หรือพูดง่ายๆคือเขาสามารถทำทุกอย่างได้เมื่ออยู่คนเดียว แต่กลับเป็นอัมพาตทันทีเมื่ออยู่กับจอน จองกุก

     

    ,

     

    คิม นัมจุนเรียกอาการข้างต้นได้อีกแบบหนึ่ง

    ถ้าหากมันเป็นอาการที่จีมินจะพูดเสียงเล็กๆหวานๆใส่จองกุก

    เป็นอาการที่จีมินมักใช้หัวตัวเองไปถูๆไถๆแขนของจองกุก

     

    คิม นัมจุนเรียกอาการนี้ว่าขี้อ้อน ซึ่งอย่างที่คนอื่นเคยบอกว่ามันจะเป็นเฉพาะตอนที่อยู่กับจองกุกเท่านั้น จากเจ้าเสือน้อยตัวร้าย ก็กลายเป็นลูกแมวทันที เขี้ยวเล็บถูกถอดเก็บใส่กล่อง และจีมินก็เป็นลูกแมวน้อยขี้อ้อน ที่อ้อนกับเจ้าของคนเดียวเท่านั้น เจ้าของที่ชื่อจองกุกนั่นแหละ

     

    ,

     

    คิม ซอกจิน กลับค้นพบว่ามันมีอีกอาการหนึ่ง

    อาการนี้ตรงข้ามกับขี้อ้อนโดยสิ้นเชิง

    เป็นอาการที่ดูไม่ค่อยน่ารักถ้าเทียบกับขี้อ้อน

    แต่มันกลับน่ารักกับจองกุกเสียอย่างนั้น...

     

    อธิบายลักษณะของอาการนี้ว่าเป็นอาการที่จีมินต้องการอะไรสักอย่าง แต่อ้อนไม่สำเร็จจึงเกิดอาการนี้แทน ยกตัวอย่างอาการง่ายๆเช่นจีมินอยากกินสเต็ก แต่จองกุกไม่ว่าง จากอ้อนๆอยู่ก็กลายเป็นเงียบไป ปากเล็กๆเลยเบะ และหันหลังให้ เรียกอาการนี้สั้นๆว่าเอาแต่ใจ

     

    ,

     

    มิน ยุนกิ ตั้งชื่ออาการที่ต่อจากคิม ซอกจินว่างอน

    มันเป็นอาการต่อจากที่จีมินเอาแต่ใจ และไม่ถูกตามใจ

    ลักษณะอาการจะตรงข้ามกับชีวิตจริง

     

    โดยยกตัวอย่างอาการได้ว่า ปากเล็กๆที่จ้อทั้งวันแล้วอยู่ๆก็เงียบไป และห่อลงเป็นปากจู๋ แก้มบวมจะมีการบวมมากกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะนิสัยที่ชอบเอาลิ้นดุนแก้มไปมา แต่เป็นการอมล้มไว้ในปากต่างหาก จากคนที่หูดีก็กลายเป็นหูอื้อชั่วคราว เพราะจองกุกเรียกกี่ทีก็ไม่ยอมหัน ถามอะไรก็ไม่ตอบ แชทที่ถูกทิ้งไว้ทั้งวัน ถูกตอบอีกทีตอนผ่านไปเกือบคืน ทั้งๆที่แอบอ่านตั้งแต่ส่งมาแล้ว

     

    ,

     

     

    จีมินเรียกวันนี้ว่าเป็นวันที่สดใสวันหนึ่ง นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงบังคับเพื่อนๆออกมานั่งเล่นหลังเลิกเรียนที่สนามหญ้า ซึ่งเพื่อนๆก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำว่าอากาศดีของจีมินเท่าไหร่หรอก เด็กม.ปลายปี 1 จะเลิกเรียกเร็วกว่าครึ่งชั่วโมง ดวงตาเล็กจ้องมองนาฬิกาอย่างจดจ่อ ซึ่งมันก็ไม่ใช่อะไรที่แปลกมากนัก มือเล็กถือโทรศัพท์เอาไว้ในมือ มองสลับกับนาฬิกา ทันทีที่เสียงออดดังขึ้น นิ้วป้อมๆก็จิ้มไปที่ปุ่มโทรออกทันที

     

    เป็นเบอร์ของคนพิเศษซะด้วยสิ J

     

    “แฟน!

    [ครับๆ แฟนต้องการอะไรครับ?] ทันทีที่ปลายสายรับ จีมินก็ตะโกนเรียกทันที ปลายสายได้แต่หัวเราะแล้วขานรับไปตามปกติ ก็เพราะว่าจีมินทำแบบนี้ทุกเย็นน่ะสิ พอเลิกเรียนปุ๊ปจีมินก็จะโทรหาจองกุกทันที อะไรแบบนี้น่าจะเป็นอาการของพวกเห่อแฟนใหม่ๆแบบพึ่งคบวันสองวัน แต่เสียใจด้วย ก็สองคนนี้น่ะคบกันมาปีกว่าแล้วจ้ะ!

     

    “แฟนลองมองออกมานอกหน้าต่างเร็ว” จองกุกทำตามที่เสียงเล็กปลายบอก ใบหน้าหล่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่ตัวเองนั่งชั้นสอง เหตุผลที่จองกุกเลือกนั่งริมหน้าต่างก็เพื่อจะมองเวลาคนตัวเล็กมารอนี่แหละ ตอนนี้เขาเห็นใบหน้าน่ารักนั่งโบกมืออยู่ที่สนามหญ้าให้ตัวเอง แล้วชี้นิ้วสั้นๆไปบนท้องฟ้า ซึ่งจองกุกก็มองตาม

     

    “แฟนดูสิ วันนี้อากาศดีมากๆเลยนะ” จองกุกหัวเราะแห้งๆเมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เขาเห็นเมฆครึ้มๆอยู่เต็มไปหมด ร่างเล็กยกโทรศัพท์ไปใกล้หูอีกครั้ง

     

    “เห็นมั้ยล่ะ อากาศดีมากเลยนะ!

     

    [แฟนครับ นี่ฝนจะตกแล้วนะ ไม่ใช่อากาศดีสิ] จองกุกพูดออกมา เขาเห็นใบหน้าเล็กยู่ลงเล็กน้อย ถึงแม้จะอยู่ไกล แต่ก็มั่นใจว่าจีมินกำลังเกิดอาการบางอย่างขึ้น เขาเห็นจีมินขมวดคิ้วแล้วหันหลังให้ เอาแล้วไง..

     

    “ก็ได้ อากาศไม่ดีก็ได้!” จีมินพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ

     

    [โห อากาศดีจริงๆด้วยแหละแฟน ลมแรงด้วย แฟนมานั่งรอเราใต้ตึกดีกว่า เดี๋ยวฝุ่นเข้าตานะ] สุดท้ายวันฟ้ามืดครึ้มก็กลายเป็นอากาศดีของจองกุกจนได้ จีมินหันไปเรียกเพื่อนๆให้มารอที่ใต้ตึกตามที่จองกุกบอก ทันทีที่ถูกตามใจ หน้ามุ่ยก็ยิ้มออกมาทันที

     

    “แฟนรู้มั้ย อากาศดีแบบนี้ต้องทำอะไร?”

     

    [รีบกลับบ้านไงครับแฟน เดี๋ยวอากาศดีแบบนี้แฟนจะไม่สบายนะ]

     

    “ทำไมอ้ะ!? แฟนไม่คิดถึงเค้าหรอ?” จีมินโวยวาย “อากาศดีแบบนี้ต้องไปเดินเล่นแถวในเมืองสิ ทำไมแฟนโง่จังเลยเนี่ย หรือแฟนไม่คิดถึงเค้าจริงๆ? ก็ได้ เค้าไปเดินเล่นคนเดียวก็ได้ ก็แค่กินไอติมคนเดียว ซื้อของคนเดียว แล้วเดินกลับบ้านตอนดึกๆคนเดียว แค่นี้เอง!” ...แค่นี้เองจริงๆ จีมินทำท่าฟึดฟัดระหว่างเดินเข้าใต้ตึกจนจองกุกแอบหันไปหัวเราะ จริงๆก็อยากให้มาด้วยนั่นแหละ แต่แกล้งงอนไปงั้น น่ารักจริงๆ

     

    [โอเคครับแฟน แค่เดินกินไอติม เดินกลับบ้านคนเดียว แค่นี้เองเนอะ งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับ] ร่างสูงแกล้งตอบกลับจีมินไป ซึ่งเสียงเล็กๆก็ตะโกนกลับมาดังๆว่า เออ! แล้วสายก็ถูกตัดไป เชื่อเลยว่าตอนนี้ต้องหน้าเป็นตูดแน่ๆ J

     

    “จีมิน ฉันกลับบ้านก่อนนะ อากาศดี๊ดี จนฝนจะตกละ” เสียงโฮซอกพูดอย่างประชดประชัน พร้อมกับแทฮยองและนัมจุนที่ลุกขึ้นตาม แล้วแอบหัวเราะกับคำว่าอากาศดีของคนตัวเล็ก ใบหน้ามุ่ยๆของจีมินหันมาเหล่มองเล็กน้อย แล้วก็พยักหน้าส่งๆไป

     

    จีมินมองดูโทรศัพท์มาเกือบห้านาที ยังไม่มีสายเข้า หรือแม้แต่ข้อความแชท คิ้วขมวดจนเป็นโบว์ ปากก็ยู่จนหน้าตึงไปหมดแล้วนะ ทำไมไม่โทรมาง้อสักทีเนี่ย!!

    “เราให้เวลาแฟนอีกสิบวินาที ถ้าแฟนไม่ง้อนะ เราจะงอนนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลย” จีมินพูดเบาๆ แล้วเขย่าโทรศัพท์ ปากเล็กพึมพำกับตัวเองอย่างหงุดหงิด พร้อมกับปลดล็อคโทรศัพท์ไปมา เข้าแอพแชทนู้น เปิดแอพแชทนี้ ก็เงียบ.. หรือโทรศัพท์เสียเนี่ยย?

     

    เราจะนับถึงสิบจริงๆนะ!

     

    10….

    เว้นวรรคประมาณวัฏจักรยุงสองรอบ

     

    9…

    เว้นวรรคประมาณหมีจำศีล

     

    8…

    เว้นวรรคประมาณเต่าเดินจากเกาหลีไปอเมริกา

     

    7…

    เว้นวรรคประมาณความยาวหน้าโฮซอก

     

    6…

    เว้นวรรคเท่าความกว้างของหน้าผากแทฮยอง

     

    5…

    เว้นวรรคประมาณส่วนสูงของนัมจุนยี่สิบคนต่อกัน

     

    4…

    โอ๊ะ.. น้ำลายติดคอ เว้นไปอีกแสนล้านวินาทีละกัน..

     

     

    จองกุกแอบมองร่างเล็กที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่บนม้านั่งใต้ตึก ความจริงแอบมองตั้งแต่ก่อนนับสิบแล้ว ร่างสูงแอบหัวเราะเบาๆเมื่อจีมินมองโทรศัพท์ไม่วางตา รอเค้าง้อล่ะสิ ไหนบอกแค่นี้เองไงล่ะ นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความยิกๆๆลงบนโทรศัพท์ แล้วเงยหน้าดูอาการของคนตัวเล็กอีกที จีมินดูสะดุ้งตกใจเล็กน้อย เห็นจีมินยิ้มเพียง 0.000009 วินาที ก็กลับมาหน้ามุ่ยเหมือนเดิม

     

    เดินเล่นคนเดียว กินไอติมคนเดียว เดินกลับดึกๆคนเดียวเสร็จแล้วก็ทักแชทแฟนมาด้วยนะครับ

     

    มือเล็กคว้ากระเป๋าถือข้างขึ้นมากอดเต็มแรง แล้วเดินกระทืบเท้าออกไป ในขณะที่จองกุกหัวเราะฟันถลน แล้วรีบวิ่งตามออกไปทันที มือหนาหยิบอมยิ้มรสโปรดของจีมินในกระเป๋ากางเกงมาถือไว้ แล้วสะกิดที่ไหล่เล็กนั่นเบาๆ ร่างเล็กหันมาทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่เมื่อรู้ว่าคนสะกิดเป็นใคร

     

    “ง้อนะ” อมยิ้มถูกยื่นให้ตรงหน้าจีมิน ตาเล็กแอบเป็นประกายแวบนึง แต่ต้องรักษาฟอร์มไว้เลยหันหนี น้ำเสียงงอนๆถูกพูดออกมาอีกครั้ง

     

    “หมดเวลาง้อละ นับหนึ่งถึงสิบครบไปเมื่อสิบวินาทีก่อน”

     

    “ไม่จริงหรอก เราเห็นแฟนนั่งนับที่ม้านั่งใต้ตึกพึ่งถึงเลขสี่เอง แถมเว้นทีเท่าหมีจำศีลขนาดนั้นถึงตอนนี้ก็ยังไม่ครบหรอกครับ อยากให้ง้อก็บอกเถอะน่า เร็วๆดีกันน้า” จีมินหันมาทำปากกลมขมวดคิ้วใส่จองกุกที่ยืนยิงฟันยักคิ้วหลิ่วตาให้ พร้อมกับนิ้วก้อยที่แกว่งไปมาตรงหน้าแดงๆของร่างเล็ก ทั้งโกรธทั้งเขินเลย!

     

    “เถียงเค้าหรอ!!? บอกว่าครบสิบแล้วก็ครบสิ นับจะถึงพันละ! แล้วก็ไม่ได้อยากให้ง้อด้วย! เขาเรียกให้โอกาสแก้ตัวตะหากล่ะ”

     

    “ครับๆครบแล้ว แฟนนับเลขเร็วจะตาย นับจนจะทะลุล้านแล้วมั้งเนี่ย ขอโทษนะครับที่ลงมาง้อช้า”

     

    “บอกว่าไม่ได้อยากให้ง้อไง!

     

    “โอ๋ๆ ดูก็รู้แล้วว่าแฟนไม่ได้อยากให้ง้อเลยครับ เอากระเป๋ามาเร็ว เดี๋ยวเราถือให้ กลัวแฟนเหนื่อย นับเลขเยอะ” ร่างสูงดึงกระเป๋ามาจากจีมิน แล้วจับมือเล็กจูงออกไปหน้าโรงเรียน ฝนที่เริ่มตกปรอยๆ โชคดีที่จองกุกแฟ้มเอกสารที่คล้ายๆกล่องมาด้วยเลยเอามาบังหัวของจีมินได้สบาย

     

    “อากาศดีๆแบบนี้แฟนอยากกินไอติมร้านไหนครับ” จีมินที่ดูอารมณืไม่ค่อยดีเล็กน้อยเพราะฝนตกทำให้เหนียวเหนอะหนะตวัดสายตาพร้อมปากที่เบะขึ้นมามองจองกุก

     

    “อากาศดีตรงไหน? ฝนตกแบบนี้เหนียวตัวจะแย่แล้ว!!” ก็ตัวเองบอกเรานี่นาว่าวันนี้อากาศดี..

     

    “นั่นสินะ ใครบอกอากาศดีเนี่ยแย่จริงๆเลย อากาศไม่ดีเลย สงสัยต้องพาแฟนไปกินไอติมร้านอร่อยๆ แล้วไปส่งที่บ้านตอนดึกๆซะแล้วเนอะ” จองกุกว่า พลางดึงให้จีมินมาเดินที่ร่ม ฝนเริ่มตกแรงขึ้นเรื่อยๆจนจองกุกต้องถอดเสื้อฮู้ดมาใส่ให้จีมินที่ดูหนาวๆ

     

    “ใครบอกว่าอยากกินไอติม? หนาวจะแย่แล้ว อยากกินราเม็งร้อนๆ!” และจองกุกก็ตามใจจีมินเหมือนเคย ความจริงถ้าโฮซอกอยู่จะเอ่ยปากแซวว่าจีมินน่ะไม่ได้อยากกินราเม็งร้อนๆหรอก ก็แค่เห็นจองกุกเปียกไปทั้งตัวต่างหากล่ะ ก็เลยอยากหาอะไรร้อนๆให้จองกุกกิน กลัวเขาไม่สบาย แต่ถ้าพูดแซวไป จีมินก็ต้องตอบกลับประมาณว่า

     

    “อะไร? เราไม่ได้เป็นห่วงแฟนสักหน่อย!!” แล้วก็ก้มหน้าแดงๆลงไปมองพื้นนั่นแหละ

     

     

    โชคดีที่วันนี้ไม่มีโฮซอกมาเลยไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น จีมินลากจองกุกเข้าไปในร้านราเม็งหน้าปากซอยบ้าน แล้วเริ่มสั่งอาหารอย่างเร่งรีบ เมื่อเห็นว่าจองกุกเริ่มจาม ไม่นานราเม็งสองชามก็มาวางไว้ตรงหน้า จองกุกเอื้อมมือไปหยิบตะเกียบสำเร็จรูปส่งให้จีมิน แต่ความจริงจีมินแทบไม่ได้ใช้ตะเกียบเลยล่ะ

     

    “แฟนกินนี่สิ อร่อยนะ อ้ามม” ลูกชิ้นปลาแบนๆถูกคีบส่งเข้าปากของคนตัวเล็ก จีมินเคี้ยวหยุบหยับ พร้อมกับมองจองกุกที่หันไปคีบเส้นราเม็งเข้าปากตัวเอง แล้วหันกลับมาคีบใส่ปากป้อนจีมินอีก สลับแบบนี้ไปมาจนหมดชาม เรียกได้ว่าจีมินไม่ต้องจับตะเกียบแม้แต่ปลายเสี้ยน

     

    นี่แหละ อัมพาตชั่วคราว..

     

    ทั้งคู่นั่งรอให้ฝนเริ่มซาลงช้าๆ และหยุดตกในที่สุด และสุดท้ายในวันนี้จีมินก็ไม่ได้กลับบ้านคนเดียวดึกๆ แต่ความจริงกลับดึกๆกับแฟนทุกวันนั่นแหละ!

     

    มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ตื่นเช้ามาเปิดประตูต้องเห็นจองกุกอยู่หน้าบ้าน เดินไปโรงเรียนพร้อมกัน จองกุกไปส่งห้อง พอตอนกลางวันก็มารับไปกินข้าว นั่งเล่น มาส่งห้อง พอตอนเย็นก็รอรับสายจากคนตัวเล็กทันทีที่ออดดัง แล้วไปส่งที่ไป แต่ถ้าวันไหนอากาศดี จีมินก็ชวนไปนู่นไปนี่ แต่บางวันจองกุกก็มีกิจกรรมเพิ่มเติม หรือไม่ก็มีทุกวัน คือต้องง้อ และตามใจแฟน เป็นไรไม่รู้ งอนได้ทั้งวันเลย!

     

    แต่ก็นะ.. เป็นแบบนี้ซ้ำๆก็มีความสุขดี J

     

     

    ติ๊ง

    เสียงโปรแกรมแชทดังขึ้นในขณะที่จองกุกนั่งทำการบ้านอยู่ ใบหน้าคมแอบอมยิ้มเมื่อเห็นชื่อคนที่ทักมา แอบตั้งใจตอบช้าประมาณสามนาทีละกัน คิดอย่างนั้นก็นั่งทำการบ้านไปสองสามข้อ

     

    ติ๊ง.... ติ๊ง... ติ๊ง.. ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง

    เสียงไลน์ดังรัวมากจนจองกุกหัวเราะ เขามองจีมินที่รัวสติ๊กเกอร์และข้อความมาเหมือนบ้านไฟไหม้ จองกุกเคยแซวไปครั้งนึงที่พบกันใหม่ๆน่ะแหละว่าบ้านไฟไหม้หรอโจรเลยขึ้นบ้าน ซึ่งร่างเล็กก็ตัดพ้อออกมาเยอะแยะมากมายจนจองกุกยอมใจ ล้อเล่น.. ไม่เยอะหรอก จีมินแค่บอกว่าคิดถึงเลยรัวมาเท่านั้นแหละ :P

     

    [แฟนน]

     

    [...แฟน]

     

    [แฟน : ส่งสติ๊กเกอร์ถึงคุณ]

     

    [แฟน : ส่งสติ๊กเกอร์ถึงคุณ]

     

    [แฟน : ส่งสติ๊กเกอร์ถึงคุณ]

     

    [แฟน : ส่งสติ๊กเกอร์ถึงคุณ]

     

    [ถ้าตอบช้าเค้าจะงอนละนะ!]

     

    “คิดถึงเราหรอแฟน?” จองกุกส่งข้อความเสียงไปให้จีมินแทนที่จะพิมพ์ตอบ สักพักก็มีข้อความตอบกลับมาเหมือนกัน เป็นเสียงเล็กๆอู้อี้ๆ เพราะเวลาสามทุ่มใกล้เวลานอนของจีมินแล้ว

     

    “อืออ ไม่คิดถึงหรอก.. แฟนกินยายัง? ตากฝนเมื่อเย็น แฟนต้องตอบว่ายังไม่กินแน่เลย เพราะที่บ้านไม่มียาน้ำใช่มั้ย”

     

    “แฟนเป็นห่วงเราหรอ?”

     

    “ไม่เป็นห่วงหรอก เค้าก็แค่กลัวไม่มีคนตามใจ ไม่มีคนเอาใจ ไม่มีคนง้อ ไม่มีคนไว้งอน ไม่มีคนรับส่งบ้าน ไม่มีไม่คนกินไอติม ไม่มีคนกินราเม็งเป็นเพื่อน.. อืออ ไม่คนให้เค้ารักด้วย แค่นั้นแหละ!!” จองกุกยิ้มจนฟันปริออกมาเมื่อจีมินบอกไม่ได้เป็นห่วง ก็แค่กลัวไม่มีเค้าอยู่ข้างๆนี่นา น่าล้อให้เขินจังเลย

     

    “เรารักแฟนมากกว่าแฟนมารักเราอีก”

     

    “อะไร? เค้ารักมากกว่าอีก!

     

    “ไม่จริงหรอก เรารักแฟนม๊ากมาก รักมากกว่าแฟนร้อยคนรักเราอีก” ดูเหมือนว่าการบ้านของจองกุกจะต้องเอาไปทำพรุ่งนี้เช้าแล้วล่ะ จองกุกปิดทุกอย่าง แล้วนอนเล่นโทรศัพท์บนเตียงแทน ตั้งหน้าตั้งตารอจีมินส่งข้อความเสียงกลับมาอยู่

     

    “แฟนเถียงเค้าอ่ะ เค้ารักแฟนที่สุด รักมากกว่าแฟนรักเค้าอีก..”

     

    “ครับๆ เชื่อแล้วว่าแฟนรักเรามากกว่าที่เรารักแฟนอีก พอใจยังหื้ม?”

     

    “ทำไมรักเราไม่เท่ากันอ่ะ!!?” อ้าว...... สุดท้ายคืนนี้จองกุกต้องส่งข้อความไปง้อจีมินยันเที่ยงคืน ซึ่งจีมินก็อ่านแล้วไม่ตอบ เลยได้แต่คิดว่าร่างเล็กหลับคาโทรศัพท์ไปแล้ว เลยไปชาร์จโทรศัพท์ของตัวเอง แต่ก็คิดอะไรขึ้นได้ก็เลยหยิบแบตสำรองมาชาร์จไว้ข้างๆ เพราะเดาว่าจีมินคงโวยวายที่ตื่นมาแล้วแบตโทรศัพท์ใกล้หมด

     

     

     

    จองกุกตื่นช้ากว่าทุกวัน แต่วันนี้รู้สึกเพลีย และรู้สึกปวดหัวเล็กน้อยคงเพราะตากฝนแล้วไม่ยอมกินยา ทำให้วันนี้ไปรับจีมินสายเกือบสิบนาที พอไปถึงก็เจอคนหน้ามุ่ยเสียแล้ว

     

    “ขอโทษนะแฟน เราปวดหัว” ร่างสูงแก้ตัวทันทีที่จีมินออกมาจากบ้าน ซึ่งคนตัวเล็กก็แกล้งไม่สนใจแล้วเดินนำไป ทำเอาจองกุกเสียฟอร์มเล็กน้อย เหมือนพวกจีบสาวแล้วสาวเมินเลยว่ะ.. ขายาวๆรีบก้าวตามจีมินไป แต่จีมินก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเหมือนกันจนแทบจะวิ่งแข่งกันไปโรงเรียน

     

    “แฟนอย่าเดินเร็วสิ เราไม่สบายนะ แค่กๆ.. มาเดินข้างเราหน่อยน่า เราป่วยอยากได้แฟนดูแล” จองกุกพูดไปไอไป จนมาถึงโรงเรียน สุดท้ายก็ง้อไม่สำเร็จ.. ร่างสูงเดินลงไปวางกระเป๋าที่ห้องตัวเองที่ชั้นสองแล้วฟุบลงไปกับโต๊ะทันที ความร้อนจากหน้าผากไหลไปทั่วโต๊ะ เสียงเพื่อนๆในกลุ่มเริ่มมานั่งล้อมวงคุยกันเป็นกิจวัตรของทุกเช้า แต่จองกุกกลับไม่มีอารมณ์คุย

     

    อยากรีบหาย.. อยากไปง้อแฟน..

     

     

     

    กึก

    “เอ้า ยาน้ำ” เสียงแก้วกระทบลงบนโต๊ะข้างหูทำเอาจองกุกตื่น ใบหน้าคมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ เขาเห็นยาน้ำขวดสีม่วงรสโปรดของเขา พร้อมกับใบหน้าเล็กที่คุ้นเคย เพื่อนๆรอบโต๊ะเริ่มส่งเสียงวี้ดวิ้ว แต่จองกุกกลับไม่สนใจ

     

    “ไม่ได้เป็นห่วงเลยนะ! โฮซอกแค่ซื้อผิดจะซื้อน้ำองุ่นเท่านั้นแหละ เราเลยขอมาให้” คำแก้ตัวน้ำขุ่นๆทำเอาจองกุกยิ้มบางๆ จีมินเปิดขวดน้ำเปล่า และขวดยา ช้อนใส่ยาสีขาวขุ่นอยู่ในมือเล็ก น้ำสีม่วงค่อยๆไหลออกจากขวดช้าๆจนเต็ม ร่างสูงที่รู้หน้าที่ก็อ้าปากรอ

     

    “วันหลังหัดกินยาเม็ดซะบ้าง เค้าจะได้ไม่ต้องวิ่งไปซื้อที่เซเว่น” จีมินพูดในขณะที่เก็บยา แล้วส่งน้ำเปล่าให้จองกุกดื่ม

     

    “อ้าว ไหนแฟนบอกเราว่าโฮซอกซื้อผิดไง สรุปแฟนซื้อหรอ?” รู้สึกสนุกเมื่อร่างเล็กหลุดปากว่าเป็นคนซื้อยาให้ เลยแกล้งทำหน้ามึนใส่ จีมินทำหน้าเลิ่กลั่กเล็กน้อย แล้วตะโกนออกมาเสียงดังจนคนทั้งห้องหันมามอง

     

    “เค้าไม่ได้บอกเลยนะว่าเค้าซื้อ!! โฮซอกซื้อผิดต่างหากล่ะ! แฟนมั่วอ่ะ เค้ากลับห้องแล้วนะ บาย!!” จีมินเดินออกจากห้องไป พอดีกับคุณครูประจำชั้นที่เดินสวนเข้ามาพอดี ร่างเล็กก้มลงเล็กน้อย เป็นการทักทาย คุณครูสาวเดินมาที่กลางห้อง พร้อมกับพูดอะไรบางอย่างที่ทำเอาจองกุกรู้สึกได้ถึงลางร้ายของชีวิตคู่..

     

    “จองกุก ซอกจิน พวกเธอต้องไปแข่งขันวิชาการเดือนหน้า ทุกกลางวัน และเย็นต้องมาซ้อมที่ห้องวิชาการ”

     

    ,

     

    จีมินเรียกทุกๆวันในตอนนี้ว่าวันที่แสนมืดมน ทั้งๆที่พระอาทิตย์แดดแรงมาก จนคนทั้งโรงเรียนหลบอยู่แต่ในห้องเรียนที่ติดแอร์ เหมือนกับมีฝนตกลงมาอยู่บนหัวจีมิน ผสมด้วยพายุหิมะ จนเพื่อนๆในกลุ่มเริ่มกลัว และเขาก็พอรู้สาเหตุของอาการนี้ว่าเกิดจากแฟนไม่สนใจ

     

    จองกุกเป็นพวกที่เอาจริงเอาจังกับชีวิตมาก ทุกๆครั้งที่มีแข่งขันอะไร จองกุกจะอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำคว้ารางวัลที่หนึ่งมาจนได้ แต่ช่วงปีกว่านี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะมีจีมินเข้ามาในชีวิต แต่การแข่งขันในครั้งนี้สำคัญต่อโรงเรียนมากทำเอาจองกุกเลี่ยงไม่ได้ อาการบ้าชัยชนะเลยเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาก็แค่สนใจหนังสือมากกว่าจีมินนิดนึงก็เท่านั้น ซึ่งพอบอกจีมิน ร่างเล็กก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ..

     

    “แฟนอ่านหนังสือไปเถอะ หนังสือสำคัญมากนี่ เค้ากลับคนเดียวได้” แต่คำพูดพวกนี้นี่แหละ โฮซอก นัมจุน และแทฮยองเรียกอาการแบบนี้ว่าน้อยใจ จีมินน้อยใจที่จองกุกสนใจหนังสือมากกว่าตัวเอง ปัญญาอ่อนมั้ยล่ะ!?

     

    มันก็น่าน้อยใจจริงๆนั่นแหละ เพราะพอจีมินบอกว่าอยู่ได้ จองกุกก็ไม่โทรหา หรือตอบแชทจีมินอีกเลยจนผ่านไปสองสัปดาห์

     

     

    จีมินคิดว่าพรุ่งนี้ควรจะเป็นวันดีๆของเขา เพราะมันเป็นวันที่ 13ตุลาคม ร่างเล็กค่อนข้างมั่นใจว่าจองกุกจะยอมโดครู หรือละจากหนังสือเพื่อมานั่งเล่นกับเขาในวันพรุ่งนี้แน่นอน! จีมินมองนาฬิกาที่เกือบสี่ทุ่ม ก็รีบวิ่งขึ้นเตียงไปนอนทันทีด้วยรอยยิ้ม

     

    ปีที่แล้วจองกุกน่ะ วาดรูปจีมินให้ด้วยแหละ ปีนี้ จะเป็นอะไรนะ J

     

     

     

    จีมินอาจจะคิดผิด วันนี้วันใช่วันดีของเขา..

    ร่างเล็กที่อุตส่าห์รีบถ่อมาโรงเรียนเพื่อตั้งหน้าตั้งตารอแฟนมาเซอร์ไพรส์วันเกิด แต่ก็กินแห้วไปในรอบเช้า พอตอนพักกลางวันลงไปหาที่ห้องก็พบว่าออกไปซ้อมตอบปัญหาที่ห้องวิชาการเสียแล้ว ถ้าหากจะเทียบจีมินเป็นเกมเดอะซิมส์ ไดมอนด์บนหัวคงเป็นแดง แบบใกล้ระเบิด

     

    ต่อมงอน โกรธ น้อยใจ และเสียใจกำลังทำงานพร้อมกัน จีมินนั่งรออยู่ที่โต๊ะของจองกุก ทำเอาเพื่อนสนิทของจองกุกรู้สึกตื่นเต้นกับพายุที่กำลังจะเกิด หากจองกุกลงมาช้าอีกสามวิ ห้องนี้อาจระเบิดเป็นผุยผงก็ได้ คิดอย่างนั้น ยุนกิก็รีบใช้ขาสั้นๆของตัวเองวิ่งไปที่ห้องวิชาการทันที เพื่อกระชากจองกุกให้ลงมาท่ามกลางคุณครูหลายๆคน

     

    “อะไรของมึงเนี่ยะ? กูซ้อมอยู่ไม่เห็นเหรอ?”

     

    “ถ้ามึงลงมาช้า มึงอาจไม่เหลือชีวิตไปแข่งก็ได้”

     

    ทันทีที่มาถึงห้อง จองกุกก็เห็นร่างเล็กนั่งไขว่ห้างอยู่ที่โต๊ะของเขาอยู่ ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเดินตรงเข้าไปหาจีมินที่หน้ามุ่ยแบบสุดๆ

     

    “แฟนมีอะไรหรือเปล่า?”

     

    “แฟนก็ดูสิว่าวันนี้วันอะไร” จีมินพูดเรียบๆ

     

    “....ก็วันที่สิบสี่ไง แล้วก็อีกประมาณสิบหกวันเราก็ต้องไปแข่งตอบปัญหาวิชาการ” จองกุกยกนิ้วขึ้นมานับ แต่ไม่ใช่วันตามปฏิทิน มันเป็นวันทั้งหมดที่จองกุกขึ้นไปซ้อมแข่งต่างหาก ใบหน้าหวานมุ่ยขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้คำตอบที่ไม่ถูกใจเท่าไหร่

     

    “ไม่เอาสิ แฟนต้องดูเวลาในปฏิทิน..”

     

    “เราไม่ว่างขนาดนั้นหรอกแฟน ถ้าแฟนไม่มีอะไรงั้นเราขึ้นไปก่อนนะ”

     

    “ทำไมอ่ะ!? ทำไมแฟนต้องสนใจหนังสือมากกว่าเค้าด้วย? ขอวันนี้วันเดียวไม่ได้หรอ?” จีมินเริ่มโวยวาย มันเป็นความรู้สึกที่ว่าวันพิเศษอยากให้มีคนอยู่ข้างๆ วันนี้เป็นวันเกิดจีมิน จีมินก็แค่อยากให้มีจองกุกข้างๆนี่!

     

    “อย่าไร้สาระสิจีมิน” เป็นครั้งแรกที่จองกุกพูดชื่อจีมินออกมา ทั้งที่ปกติเรียกแฟนตลอด

     

    “ทำไม? วันนี้มันไร้สาระหรอ? จีมินแค่คิดถึง.. ฮึก.. มันไร้สาระมากใช่มั้ยถ้าเทียบกับหนังสือที่พี่ถืออยู่!” จีมินกระชากหนังสือในมือของกุกมาทิ้งลงกับพื้น จองกุกหลับตาควบคุมลมหายใจเข้าออกให้ใจเย็นกว่าเดิม ก่อนค่อยๆหันมาพูดกับร่างเล็กตรงหน้า แต่ก็ต้องชะงักเมื่อใบหน้าหวานเต็มไปด้วยน้ำตา

     

    “วันนี้วันเกิดจีมิน.. จีมินก็แค่อยากให้พี่อยู่เป็นเพื่อนของจีมิน.. อยากให้แฟนอยู่ข้างๆ แต่ถ้ามันไร้สาระมากนัก และดูไม่น่าสนใจเท่าการแข่งขันพวกนี้จีมินก็ขอโทษ.. ขอโทษที่เรียกร้องมากเกินไป.. พี่ไปซ้อมเถอะ จีมินไปแล้วนะ..” คำแทนตัวเหมือนสถานะตอนยังไม่เป็นแฟนถูกออกมามากมาย จีมินเดินผ่านจองกุกไปโดยที่หลังมือเล็กเช็ดคราบน้ำตาอย่างลวกๆ

     

    “ยุนกิ”

     

    “ว่าไงคนถูกทิ้ง?”

     

    “กูไม่ขำนะไอ้เตี้ย”

     

    “นี่กูก็ยังไม่ได้หัวเราะเลย”

     

    “เรื่องมึ๊ง วันนี้วันที่เท่าไหร่?”

     

    13 ตุลาคมครับเพื่อน” เหมือนกับเรื่องตลกร้าย เมื่อจองกุกรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสาม เพื่อนๆก็บอกว่าจีมินโดดเรียนออกไปเมื่อประมาณห้านาทีก่อน พอจะวิ่งตามไปครูห้องวิชาการก็ประกาศชื่อเสียอย่างนั้น และถูกชดเชยตอนเย็น เพราะทำให้เสียเวลาซ้อม

     

     

    รู้ตัวอีกทีก็เกือบหนึ่งทุ่ม พอออกมาจากห้อง จองกุกก็รีบส่งไลน์ไปหาจีมินรัวๆ พร้อมกับโทรหา แต่จีมินกลับไม่ยอมรับสาย แถมบางครั้งยังตัดสายอีก สงสัยงานนี้จะง้อยาว..

     

    สุดท้ายก็เลยต้องมาจบชีวิตที่บ้านของจีมิน คุณนายปาร์คเป็นคนลงมาเปิดประตูต้อนรับ รอยยิ้มน่ารักที่รู้ว่าจีมินได้มาจากใคร ก็คนตรงหน้านี่แหละ

     

    “จีมินอยู่บ้านมั้ยครับ?”

     

    “น้องออกไปกินหมูกระทะกับเพื่อนค่ะลูก แม่คิดว่าลูกไปกับน้องเขานะเนี่ย”

     

    “คือ.. ทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะ!” จองกุกรีบวิ่งออกมาทำเอาคุณนายปาร์คยิ้ม ความจริงก็เข้าใจน่ะแหละว่าลูกชายตัวเองขี้งอนไร้สาระแค่ไหน แต่ก็เห็นคบกันมาได้ตั้งนาน แถมจองกุกก็ยังเป็นพวกขี้ง้ออีกด้วย เลยไม่น่าแปลกใจ

     

    ไปแข่งอะไรก็มามากมาย เกรดสี่ก็ทุกเทอม แต่พอรีบทีไรจองกุกก็คนโง่อยู่ดี

    คนบ้าอะไรไม่ยอมถามว่าหมูกระทะร้านไหนแล้วดนไปวิ่งหา อ่านไม่ผิดหรอก แม่งวิ่งหาจริงๆ.. ก็คิดว่าประเทศค่อนข้างพัฒนาไปไกล  รถไฟฟ้า รถบัส รถแท็กซี่ก็มีอยู่ทั่วไปนะ ดันวิ่งไล่หาร้านหมูกระทะทุกร้านในละแวกนี้ หรือความรักจะทำให้จองกุกตาบอด สมองดับ..

     

    รู้ตัวอีกทีก็วิ่งมาถึงร้านหมูกระทะร้านสุดท้ายละ.. ตอนนี้ก็ห้าทุ่มกว่า ถ้าง้อไม่ทันโดนแน่ๆ

     

    โดนทิ้งไงฮืออออออออออT_________________T

     

     

    เหมือนกับสวรรค์เปิด พอเดินเข้าไปก็เห็นโฮซอก นัมจุน แทฮยองนั่งกินกันอยู่พอดี โชคเข้าข้างแล้วเนอะ เย่

    เดี๋ยวนะมึง...... จองกุกไล่สายตาใหม่อีกที โฮซอก นัมจุน แทฮยอง.. ฉิบหาย แล้วจีมินอยู่ไหนวะ..? ขายาวก้าวตรงไปยังโต๊ะนั้น ซึ่คนบนโต๊ะก็โบกมือต้อนรับอย่างดี

     

    “ว่าไงพี่จองกุกก มาจ่ายเงินหรอ?”

     

    “จีมินอยู่ไหนอ่ะ?” ถามแบบไม่สนใจคำถามที่โฮซอกถาม ความจริงคือกูโคตรแกล้งเมินเลยแหละ..

     

    “เมาเละไปเดินเล่นที่น้ำตกหลังร้านแล่ว บอกว่าแฟนนิสัยไม่ดี แฟนไม่รัก รีบๆง้อนะ ง้อเสร็จละบอกด้วย จะได้สั่งเซ็ตใหม่ เหมือนจะมีคนจ่ายตังค์ให้” นี่ง้อเสร็จจจะฉุดจีมินวิ่งกลับบ้านเลยครับคุณเพื่อนแฟน.. จองกุกรีบวิ่งออกไปหลังร้านทันที

     

    จีมินอยู่แถวน้ำพุตามที่โฮซอกบอกจริงๆ ขาสั้นเดินเซไปเซมา มือเล็กก็เอื้อมไปเล่นน้ำพุจนเปียกถึงข้อศอก ปากอิ่มพึมพำอะไรสักอย่างที่จองกุกไม่ได้ยิน เลยเดินเข้าไปใกล้ๆ

     

    “..แฟนนิสัยไม่ดี.. ถ้าชอบหนังสือหนักก็ไปแต่งงานกับมันเลยไป.. คอยดูนะคืนนี้จะเอาบัตรเครดิตที่แอบหยิบมารูดให้หมดเลย..” จองกุกแอบยิ้มน้อยๆที่จีมินไม่ได้เป็นอะไร แถมยังบ่นถึงเขาอีก ร่างสูงก้าวขาไปกอดจีมินจากข้างหลัง แล้วซุกหน้าไปที่ซอกคอช้าๆจนจีมินสะดุ้ง

     

    “อือออ ใครเนี่ย? มีแฟนแล้ว แฟนหล่อและโหดมากชื่อจองกุก อย่ามายุ่งนะ ถ้าไม่อยากเข้าโรงพยาบาล..”

     

    “กลัวจังเลย แฟนน้องโหดจังเลยนะครับ”จองกุกแกล้งล้อเลียนจีมิน พอร่างเล็กรู้ตัวว่าใครกำลังกอดตัวเองอยู่ก็หน้ามุ่ยขึ้นมาเสียอย่างนั้น แถมยังดิ้นไม่ให้กอดอีก

     

    “ใช่โหด และใจร้ายมาก แฟนเค้าลืมวันเกิดเค้าด้วย เอาแต่อ่านหนังสือ ไม่น่ารักเลย ฮึก.. น้อยใจจัง ก็แค่อยากมีคนพิเศษอยู่ข้างๆในวันที่พิเศษเฉยๆ ทำไมต้องว่าเค้าไร้สาระด้วยล่ะ?” เสียงสะอื้นของจีมินดังอีกครั้งของวัน จองกุกยกมือขึ้นมาลูบผมนุ่มช้าๆอย่างปลอบโยน

     

    “ขอโทษนะ ต่อไปนี้เราจะไม่สนใจหนังสือกว่าแฟนอีกแล้ว เดี๋ยวจะโดดครูตอนเย็นมาส่งแฟนที่บ้านด้วยดีมั้ย อย่าร้องไห้เลยนะโอ๋ๆ เดี๋ยวไม่น่ารักน้า”

     

    “ฮึก.. ไม่ได้หรอกสักหน่อย! น้ำพุกระเด็นเข้าตาอ่ะ ฮือออ”

     

    “โอเคๆ แฟนไม่ได้ร้องไห้เลยครับ ไหนดูเวลาสิกี่โมงแล้ว?”

     

    “ห้าทุ่มห้าสิบ..”

     

    “ถึงในวันพิเศษเราจะอยู่กับแฟนแค่แป๊ปเดียว แต่เราก็อยู่กับแฟนทุกๆวันนะ เนี่ยอีกตั้งสิบนาที ทำอะไรให้ผ่านคืนนี้ไปด้วยกันดีล่ะ? ร้องเพลงวันเกิดเอามั้ย? หรือจะจูบข้ามปีไปเลยสิบนาทีดี?” จองกุกจับจีมินหันมาทำท่าจะจูบ แต่จีมินกลับร้องห้ามไว้ก่อน

     

    “ไม่เอา เดี๋ยว หยุดๆ .. เค้าอยากฟังตัวเองร้องเพลง กอดเค้าไว้ด้วยนะ” จองกุกไม่ตอบอะไรแค่ยิ้มบางๆ แล้วมองจีมินที่หันหลังให้ อ้อมแขนกวาดโอบจีมินจากข้างหลัง ใบหน้าคมก้มลงมาวางไว้บนไหล่เล็ก เสียงเพลงค่อยๆดังออกจากปากช้าๆ เป็นเพลงที่เพราะที่สุดเท่าที่จีมินเคยฟังมา ทั้งที่ก็เป็นเพลงวันเกิดธรรมดา แต่บังเอิญว่าคนร้องเป็นคนพิเศษนี่แหละ J

     

    จองกุกจับตัวจีมินโยกไปตามทำนองของเพลงช้าๆ

     

    “แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทู.. ยู..... รักแฟนมากเลยนะ”

     

    “เค้าก็รักแฟนเหมือนกัน รักมากกว่าอีก”

     

    “เรารักแฟนที่สุดในสามโลกเลยแหละ”

     

    “ไม่จริงอ่ะ เค้ารักแฟนที่สุด อินฟินิตี้เลย ไม่มีใครเทียบเท่าได้”

     

    “โหยเขินจังแฟนบอกรักเราสองรอบแน่ะ”

     

    “ใครบอกรักแฟน!? เราแค่บอกว่าสบู่ลักซ์ที่แฟนใช้มันหอมดีต่างหากล่ะ!!

     

    “เฮ้ย แฟนดมกลิ่นตัวเราหรอ โรคจิตนะเนี่ย”

     

    “ไม่ใช่สิ! โอ้ยยย มุ่ยด้วยแล้วคนนิสัยไม่ดี คอยดูนะ เค้าจะรูดๆๆๆๆบัตรเครดิตแฟนให้เงินหมดเลย”

     

    “เงินอ่ะเสียเท่าไหร่ก็ได้ แต่ถ้าเสียปาร์ค จีมินไป บอกเลยเราอยู่ไม่ได้”

     

    “บ้า!!

     

    บางที่วันนี้ก็อาจจะเป็นวันดีก็ได้ ไม่สิ..ทุกวันที่มีจองกุกมันเป็นวันที่ดีในตัวของมันเองอยู่แล้วนี่เนอะ J

     

    FIN.



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×