ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] BTS-Kookmin > IsolateP

    ลำดับตอนที่ #17 : OS|One Sentence [KookMin] 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.25K
      33
      13 พ.ย. 57

    One Sentence

    Pairing     |  Kookmin
    Category | Drama
    Rate        |  PG 13+
    Part | 1

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    หัวใจของฉันอยู่ในมือนาย จะบีบก็คงตาย ถ้าคลายก็รอด

    แต่ขอร้อง... ได้โปรดอย่าโยนมันทิ้งเลยนะ

              “จองกุกอ่า.. ฉันรักนายนะ”
              ประโยคหนึ่งประโยคที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของเขาได้ ร่างเล็กหัวใจเต้นถี่รัว และมีความรู้สึกถูกบีบคั้น นี่คือการสารภาพรักครั้งแรกกับรักแรกของเขา นัยน์ตาเรียวเล็กเริ่มคลอไปด้วยน้ำใสจวนเจียนจะไหลออกมา นิ้วป้อมๆกำเข้าหากันแน่น ใบหน้าหวานตัดสินใจก้มลงมองบนพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาคนตรงหน้าที่เงียบไป เพียงแค่เขาคิดเหมือนกันน้ำตาที่ไหลออกมาจะเป็นความดีใจ แต่หากไม่ น้ำตาที่ไหลจะกลายเป็นความเสียใจ

    แต่คนเราจะคิดอะไรตรงกันได้ทุกคนงั้นหรือ?


              “ฉันไม่ได้รักนาย”
              การตอบรับหลังจากที่เงียบไปนาน นี่ก็นึงประโยคที่เปลี่ยนชีวิตเช่นกัน ร่างสูงที่ชื่อจองกุกเดินผ่านร่างเล็ก


              มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจอธิบายออกมาได้ ร่างเล็กทรุดลงกับพื้น น้ำตาที่คลอไหลพรากออกมา เมื่อเล็กขยำที่เสื้อตรงอกข้างซ้ายจนยับยู่ยี่ เหมือนหัวใจของเขาในตอนนี้ มันเจ็บเหมือนกำลังจะตาย การแอบรักคนๆนึงมาเกือบสองปีต้องมาจบลง เพราะประโยคโง่ๆของเขา

    ถ้ารู้ว่าพูดแล้วเป็นอย่างนี้ สู้ไม่พูดจะดีกว่า..


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------


             “จองกุก เห็นจีมินไหม?”
             จอง โฮซอกเพื่อนสนิทต่างห้องของจีมินเดินตรงเข้ามาถามจองกุกด้วยประโยคเดิมๆมาสองสามวันได้แล้ว หลังจากวันที่พูดประโยคนั้นออกไป จีมินก็หายไปจากโรงเรียน ไม่มีใครติดต่อได้ จองกุกได้แต่ส่ายหน้าแบบเดิม


             “นี่นายสองคนคงไม่ได้ทะเลาะกันใช่ไหม?”

             “..ไม่นะ”
             จองกุกคิดอยู่นาน แล้วก็ตอบไป เขานึกถึงครั้งสุดท้ายที่เห็นใบหน้าของจีมินที่มันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และความอ่อนไหวในคราวเดียวกัน ปากที่เคยพูดมากกลับพูดออกมาประโยคเดียวและเม้มเข้าหากันแน่น แน่นอนว่าทั้งสองคนไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆ แต่เป็นเพราะจีมินกลัว..

    กลัวที่จะเจอหน้าจองกุก..

             “เออๆ ถ้ามันมาก็ไลน์มาบอกฉันด้วยนะ”
    โฮซอกพูดแค่นั้นก็รีบเดินออกจากห้องไปเมื่อเห็นอาจารย์เดินเข้ามา จองกุกพยักหน้ารับแค่นั้น

             “วันนี้ครูมีข่าวร้ายจะบอก”
             ทันทีที่บอกทำความเคารพ ครูสาวก็พูดขึ้นทันที แต่จองกุกกลับไม่สนใจ สายตาคมเหม่อลอยไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเขา มันว่างเปล่ามาได้สามวันแล้ว


             “..ปาร์ค จีมินไปศึกษาต่อต่างประเทศอย่างกะทันหัน และไม่มีกำหนดการกลับ” เสียงทุกห้องในห้องแทรกขึ้นมาทันทีกับเรื่องที่กะทันหันแบบนี้ เสียงพูดคุยดังไปทั้งห้อง มีเพียงคนเดียวที่ยังคงนั่งเงียบ จองกุกเลื่อนใบหน้าไปมองครูช้าๆ ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้น


            “เครื่องของจีมินจะออกวันนี้เวลาหกโมงเย็น ใครว่างก็ไปส่งเขาได้นะ”

     

            คาบแต่ละคาบผ่านไป แต่การเรียนการสอนกลับไม่เข้าหัวของจองกุกเลยสักนิด ใบหน้าคมยังคงเหม่อออกไปที่โต๊ะของจีมิน คนอื่นอาจจะคิดว่าจองกุกกับจีมินสนิทกัน แต่มันไม่ใช่

    มีเพียงจีมินเท่านั้นที่เข้าหาจองกุก..

     

            “นี่จองกุกอ่า.. การบ้านวิชาวิทยาศาสตร์ของอาจารย์นัมจุนเสร็จหรือยัง?”

            “...ยัง”

            “อ่า.. เอาของฉันไปลอกดีไหม? เดี๋ยวอาจารย์เขาจะดุเอานะ”

            “...อืม”

            “จองกุก.. เอ่อนายหิวข้าวไหม? ฉันเตรียมแซนวิชมาให้”

            “...อ่าฮะ”

            “จองกุก ทำไมนายชอบโดดวิชาเลขล่ะ?”

           “....”

            “ฉัน.. สอนให้เอาไหม?”

            “..ไม่ต้องหรอก”

            “จองกุกอ่า... ฉันรักนายนะ”

            “ฉันไม่ได้รักนาย”


             ทันทีที่ออดเลิกเรียนดังขึ้น จองกุกก็รีบคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งออกจาห้องเรียนทันที แขนยาวที่ทับด้วยเสื้อสูทของโรงเรียนสีแดงสดโบกรถแท็กซี่ที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน


             “ไปสนามบินอินชอน”


    สิ่งที่คุณทิ้งไปแล้ว คุณจะได้คืนมาง่ายๆงั้นหรือ?

            น่าแปลกที่วันนี้การจราจรไม่เป็นใจใดๆทั้งสิ้นๆ จองกุกที่ออกจากโรงเรียนมาตอนสี่โมงกลับติดแหง่กอยู่กลางถนน จองกุกได้แต่ถอนหายใจ และเคาะนิ้วไปกับกระเป๋าถือของตนเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องตามไป อาจจะเป็นความรู้สึกผิดที่ทำให้จีมินไม่อยากมาโรงเรียน จนต้องหนีไปเรียนต่างประเทศ


           5.45PM
            เวลาที่ไม่เคยหยุดเดิน จองกุกมองเส้นทางข้างหน้าก็พบว่าอีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว มือหนาคว้ากระเป๋าสตางค์ตัวเอง และควักเงินยื่นให้โซเฟอร์ทันที แล้วรีบเปิดประตูวิ่งตรงไปที่สนามบิน

     

           “จีมิน อยู่ที่นั่นดูแลตัวเองดีๆนะลูก”

           “ครับแม่”
           จีมินตอบรับแม่ของตน แล้วหิ้วกระเป๋าถือใบโปรดของตนตรงไปขึ้นเครื่อง อีกเพียงห้านาทีเครื่องก็ออกแล้ว แม้แต่มาส่งก็ยังไม่มา เกลียดเขามากสินะจองกุก.. ไม่เป็นไรแล้วนะ ต่อไปนี้จะไม่มีใครแอบรักนาย ให้นายรำคาญใจอีกแล้ว

    ลาก่อนนะจองกุก..

     

           18.07PM

           “แฮ่กๆ”
    เสียงหอบของจองกุกดังขึ้น เมื่อวิ่งมาดูไฟลท์บิน เที่ยวบินของจีมินออกไปแล้ว..

     

    โอกาสของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน แต่ถ้ารู้ว่ามี ทำไมไม่คว้ามันไว้?

           ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่หัวใจมันก็เจ็บขึ้นมา ใบหน้าคมมองไปยังยานพาหนะสีขาวที่ค่อยๆบินขึ้นท้องฟ้า หรือว่าบนเครื่องบินนั้นจะมีคนที่ขโมยหัวใจของเขาไปโดยที่เขาไม่รู้ตัวกันนะ

     
            “ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ.. ไม่รู้ตัวเลยว่าฉันก็รักนายเหมือนกัน”



            วันแต่ละวันผ่านไปอย่างทรมาณ จากคนที่เงียบอยู่แล้ว จองกุกก็เงียบกว่าเดิมจนน่ากลัว.. ความรักในวัยมัธยมต้นเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และยังเสียมันไปโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน ใบหน้าของจีมินยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง ราวกับฉายภาพซ้ำ

     

             “กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้คุยกับจีมินเลย”
    โฮซอกพูดขึ้นขณะเล่นเกมโทรศัพท์อยู่กับมิน ยุนกิ เด็กใหม่ที่เข้ามาตอนต้นเทอมเกรด
    10 จองกุกหันมามองโฮซอกช้าๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร


             “อา.. สองปีแล้วหรือเนี่ย?”
    สองปีแล้วหรือ..? ทำไมรู้สึกเหมือนมันเป็นสิบปีเลยนะ...


             สองปีที่ผ่านมาโฮซอกได้ขึ้นมาอยู่ห้องเดียวกับจองกุก ความจริงเขาก็ไม่ได้สนิทกับจองกุกมากนักหรอก แต่จีมินเพื่อนรักของเขาเหมือนจะสนิทด้วย เลยต้องทำตัวสนิทบ้าง ส่วนจองกุกก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาไม่เคยมีปัญหาเรื่องเพื่อน เพราะเขาเงียบจนไม่มีใครคบ มีแต่จีมินเท่านั้นที่ทำลายกำแพงนั้นเข้ามา แต่องตัวเขาเองกลับผลักไส

    กำแพงที่มีช่องโหว่ คนที่ทำลายไม่ได้กลับมาซ่อมไว้ นานวันก็ยิ่งสึกกร่อนไปตามเวลา


              แก๊ก แก๊ก แก๊ก
              เสียงเคาะไม้กับกระดานดำดังขึ้นจนทุกคนต้องหันไปมอง ก็พบว่าครูเข้าแล้ว ทุกคนรีบวิ่งกลับโต๊ะตัวเอง ส่วนหัวหน้าห้องก็ทำหน้าที่ของตน


              “วันนี้จะมีนักเรียนใหม่มา เอ้าเข้ามาได้แล้ว”
              ทันทีที่นักเรียนใหม่เดินเข้ามา เสียงฮือฮาก็ดังขึ้น คนตัวเล็กในชุดสีแดงสดที่ยังคงคุ้นเคยในสายตาของใครหลายๆคนเดินเข้ามายืนข้างครู


             “แนะนำตัวสิ”

             “สวัสดีครับ.. ผมชื่อปาร์ค จีมิน”

             “!!!
     

    -----------------------25%-----------------------

    Talk
    ตัดฉับอย่างขมขื่น พึ่งมาย้อนแล้วเห็นว่า อุต๊ะ ยังไม่ได้ลงสเปเชี่ยล เฮิร์ทส่วนที่เหลือ กำแบ... 
    เรื่องนี้อาจจะมีอะไรเด็ดๆก็ได้นะ แต่เด็ดไม่เด็ดก็ดูคอมเม้นท์ก่อนละกันเนอะ :P
    ฟ้อนท์เล็กไปบอกได้นะคะ ปรับขนาดกลางแล้วหน้าตามันไม่ถูกใจง่ะ5555555555555

    -----------------------------ต่อค่ะ-----------------------------


              สายตาที่เหม่อลอยไปข้างนอกหันกลับมามองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่หน้าห้อง ใบหน้าที่คุ้นเคยส่งรอยยิ้มให้ทุกคน รวมถึงตัวจองกุกด้วย แต่ทำไม.. รอยยิ้มนั้นมันถึงดูเย้ยหยันขนาดนี้?


             “จีมินไปนั่งข้างจองกุก”
             ครูสาวชี้ไปที่จองกุกที่นั่งมองจีมินอึ้งๆ ข้างจองกุกไม่มีใครนั่งใกล้ โฮซอกก็นั่งกับยุนกิ จีมินพยักหน้ารับ แล้วตรงไปนั่งข้างจองกุกตามคำสั่ง มือขาวๆเลื่อนเก้าอี้ออกแล้ววางกระเป๋าก่อนนั่งลง จองกุกยังคงจ้องใบหน้าของจีมินอยู่อย่างนั้นจนจีมินหันมามอง แล้วยิ้มที่มุมปากให้จองกุก


             “สวัสดี ฉันชื่อจีมิน ยินดีที่ได้รู้จัก”

             ‘ยินดีที่ได้รู้จักเป็นคำพูดของคนที่รู้จักกันครั้งแรก จองกุกขมวดคิ้วกับคำพูดแปลกๆของจีมิน แต่จีมินไม่สนใจอะไร พ่นลมหายใจดัง หึ ครั้งหนึ่งแล้วหันหน้าไปหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาเรียนต่อ ส่วนจองกุกที่เห็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจก็หยิบหนังสือมาเรียนบ้าง เดี๋ยวค่อยถามตอนจบคาบก็ได้..

             พอครูเดินออกไปทุกคนก็มายืนล้อมโต๊ะจีมินทันที จนจองกุกไม่มีโอกาสได้ถามสิ่งที่คิดไว้


             “จีมิน เป็นไงบ้าง? จำฉันได้ไหม? โฮซอกไง”
    จีมินเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนค้ำโต๊ะของเขาอยู่ พลางขมวดคิ้ว แล้วส่ายหน้า


            “ฉันไม่รู้จักพวกนายหรอก”
            คำตอบของจีมินทำให้จองกุกหันขวับมามอง พร้อมกับทุกคนที่ร้องกันอย่างตกใจ ไม่มีใครรู้เรื่องสองปีที่ผ่านมา จีมินอาจจะประสบอุบัติเหตุทำให้ความจำเสื่อม หรืออาจจะมีอะไรมากกว่านั้น


            “เอ่อคือ.. นายความจำเสื่อมงั้นหรือ?”
    ชูก้าค่อยๆถามออกไป จีมินหันมามองคนหน้าขาว แล้วพยักหน้าช้าๆ


            “ฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปีก่อน ตื่นมาก็จำใครไม่ได้ละ ถ้าเข้าใจแล้วก็ออกไปห่างฉัน ฉันร้อน”
            จีมินพูดแล้ว ทำท่าปัดมือ จนทุกคนขมวดคิ้ว แล้วเดินออกไปตามคำสั่ง ส่วนจองกุกก็ยังคงนั่งอึ้งอยู่ข้างๆ จนจีมินเหลือบมามองอีกครั้ง “ทำไม? มองทำไม? ชอบฉันหรือไง?” จีมินพูดออกมา แล้วก็ฟุบหน้าลงนอนทันที


            สองปีสามารถเปลี่ยนอะไรต่างๆมากมาย เปลี่ยนจากคนที่เคยรักเป็นคนที่ไม่รู้จักได้ ในสายตาจีมินไม่สามารถรู้สึกได้ถึงความรักและห่วงใยได้เหมือนเมื่อก่อน มันเต็มไปด้วยเหน่ห์ที่แฝงไปด้วยความแข็งกร้าว มุมปากที่เคยยิ้มอย่างน่ารัก กลับแสยะยิ้มให้ทุกคนอย่างน่ารังเกียจ


           “นี่ วันนี้เวรนายนะ วันเดียวกับจองกุกละกันจะได้ช่วยๆกัน”
           หัวหน้าห้องเดินมาบอกจีมินหลังเลิกเรียน แล้วเดินออกไป จีมินพยักหน้ารับ แวมองไปรอบๆห้องก็เห็นว่าเพื่อนกลับหมดแล้ว ยกเว้นคนที่อยู่ข้างๆเขา จีมินลุกขึ้นไปหยิบไม้กวาดหลังห้องมากวาดตามซอก จนลืมไปว่าจองกุกยังคงอยู่ในห้อง คนตัวเล็กกวาดอย่างคล่องแคล่ว จนไม่รู้ว่าคนๆนั้นกำลังเข้ามาใกล้ๆตนเอง


           “...จีมิน”
    จองกุกพูดเสียงแหบที่ข้างใบหูเล็ก คนตัวสูงกว่ากำลังโอบจีมินจากด้านหลัง


           “อะไร?”


           “...นายจำฉันไม่ได้จริงงั้นหรือ?”
    จีมินเงียบไปสักพัก แล้วค่อยๆหันหน้าเข้าหาคนที่ซ้อนหลังอยู่ ดวงตาเรียวเล็กจ้องจองกุก


          “ฉัน.. คิดถึงนายตลอดเลยนะ”


          “ฉันจำนายไม่ได้ ปล่อยได้แล้ว”
          อ้อมกอดที่กอดแน่นค่อยๆคลายลง มือหนาทั้งสองข้างร่วงลงบนพื้น จีมินมองจองกุกที่ทรุดลงบนพื้นอย่างสมเพช แล้วเดินผ่านไปกวาดห้องต่อทิ้งจองกุกไว้ตรงนั้น


         “นายโกหกฉันใช่ไหมจีมิน?”

         “เรื่องอะไรที่ฉันต้องโกหกนาย?”

         “นายไม่รักฉันแล้วหรือไง?”


         “...พ เพ้ออะไรของนายน่ะ ฉันพึ่งรู้จักนายเมื่อเช้าเองนะ”
    จีมินหันมาตะโกนใส่จองกุกที่ยังคงอยู่บนพื้น ดวงตาหวานเลิ่กลั่ก แล้วรีบโยนไม้กวาดทิ้ง สะพายกระเป๋าออกนอกห้อง

     

          เพียงแค่ไม่ถึงสัปดาห์ นักเรียนหน้าหวานอย่างจีมินก็เป็นที่รู้จักทุกสายชั้น ทั้งๆที่ตอนมัธยมไม่ได้น่ารักขนาดนี้สักหน่อย รุ่นพี่รุ่นน้องมากมากต่างมายืนมองจีมินทุกช่วงเวลาพัก ส่วนจีมินก็คอยแต่ขยิบตาให้ทุกคน แล้วก็ยิ้มให้ทุกสิ่งมีชีวิตที่มายืนมองตนหน้าห้อง จนจองกุกหงุดหงิดใจ


          “นี่จีมิน นายไปยิ้มให้พวกนั้นทำไม?”

     
          “หื้มม ทำไมฉันจะยิ้มไม่ได้ล่ะจองกุก?”
    จีมินหันมายิ้มตอบและยักคิ้วให้จองกุก ดวงหน้าหวานในคราวนี้ดูเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก


          “อ้ออ ฉันไม่แค่ยิ้มอย่างเดียวก็ได้นะ~
          จีมินลุกขึ้น แล้วตรงไปยังรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ตรงประตูหน้า มือขาวๆเอื้อมไปคว้าเน็กไทต์ของรุ่นพี่แล้วกระชากมาใกล้ๆ ทุกๆคนในห้องเริ่มมองตาม เหมือนกับกลุ่มที่อยู่นอกห้อง ใบหน้าคนตัวสูงกว่าขยับเข้าใกล้ใบหน้าหวานที่คอยแต่ยิ้มยั่ว แล้วประทับจูบลงไป ไม่มีการล่วงล้ำ จองกุกได้แต่มองอึ้งๆ มือหนากำแน่นจนสั่น

    จีมินอ่านชื่อที่ติดอยู่ตรงกระเป๋าช้าๆ คิม ซอกจิน
     

           “เจอกันใหม่นะครับ พี่จิน J
           เสียงซุบซิบดังขึ้นในห้องทันทีที่จีมินผละออกจากรุ่นพี่ เสียงออดเริ่มเรียนดังขึ้นพอดี ขาสั้นๆของจีมินก้าวกลับไปนั่งที่โต๊ะเรียน แล้วส่งยิ้มน่ารักให้จองกุก


           “โฮซอก.. ฉันว่าจีมินแปลกๆนะ นายจะไม่เข้าไปคุยด้วยหน่อยหรือ?”
    ยุนกิถามโฮซอกที่ยังอึ้งๆอยู่กับเหตุการณ์เมื่อครู่ ตั้งแต่วันที่จีมินบอกว่าตนเองความจำเสื่อมก็ไม่มีเพื่อนในห้องคนไหนกล้าเข้าใกล้ร่างเล็กอีก หลายๆอย่างในตัวของจีมินเปลี่ยนไป จากเด็กที่ใสซื่อกลายเป็นคนอีกคนที่.. น่ากลัว


          “เอ่อ.. ไม่เป็นไรหรอก..”

     

         “นายไปจูบรุ่นพี่ทำไม!!?
    จองกุกตะโกนถามเสียงดัง ทั้งที่จีมินนั่งอยู่ใกล้ๆ ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ยังคงหันมายิ้มมุมปากให้จองกุก

         “นี่ปากของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ ฉันจะจูบใครก็ได้จองกุก” จีมินพูดแล้วเงียบไป

        “นายไม่มีสิทธิมาห้ามฉัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายจองกุก นายมันก็แค่คนนอก”

        “อะไร!? ฉันเป็นเพื่อนนายนะจีมิน!


        “..เหอะ จนตอนนี้นายก็ยังบอกว่าฉันเป็นเพื่อนอีกหรือ?”
    จองกุกเงียบไปกับประโยคของจีมิน


         “...นายน่ะ.. แกล้งความจำเสื่อมใช่ไหม?”

         “เรื่องอะไรฉันต้องทำแบบนั้นล่ะ?”

     

         “นายน่ะ ยังรักฉันอยู่ล่ะสิ”

    -------------------------------------------------------45%-----------------------------------------------------
    TALK
    จีมินอ่า แซ่บนะนาย...
    คิดถึงหมูน้อยฯเหมือนกันนนน ;)

    ต่อค่ะ

    “นาย.. เอาความมั่นใจจากไหนมาพูดแบบนั้นห๊ะ!!? ฉันไม่เคยรักนายจองกุก ไม่มีทางด้วย..”
    ทุกคนในห้องเริ่มหันมามองทั้งคู่ที่ทะเลาะกันเสียงดัง ทุกประโยคเข้าหูของทุกคนหมดแล้ว จองกุกได้แต่เงียบ มองจีมินที่ขมวดคิ้วไม่ยอมรับความจริงอยู่

    “..ได้โปรดเถอะนะจีมิน อย่าเลิกรักฉันเลย

    แววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนของจีมิน ดวงตาสีดำเลิ่กลั่กไปมา จนครูเข้ามาพอดี ซึ่งถือเป็นโชคดีของจีมิน

    การเรียนที่ไม่เข้าหัวจีมินเลยแม้แต่น้อย แถมยังมีสายตาของจองกุกจ้องตนเองอีก จนถึงเวลาพักเที่ยงทั้งคู่ก็ไม่มีใครยอมลุกไปไหน จนจีมินทนความอึดอัดไม่หวัง จึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดโปรแกรมแชท

    “จีมินนน”
    อยู่ๆสียงทุ้มก็ดังขึ้น ทั้งสองหันหน้าไปยังต้นเสียง จองกุกขมวดคิ้วกับคนที่เข้ามาใหม่ ส่วนจีมินกลับยิ้มกริ่ม แล้วลุกขึ้นเดินตรงไปยังชายหนุ่มผมสีบลอนด์ไหม้ จองกุกได้แต่จ้องมองตาไม่กระพริบ จีมินเดินเข้าไปเกียวแขนคนที่ตัวสูงกว่า หัวกลมๆซบลงบนต้นแขน

    “จีมิน! นายทำอะไรน่ะ!!?

    “...ก็เห็นอยู่ จู๋จี๋กับแฟนไง J

    “อะไรของนาย.. นายจะมีแฟนได้ไง?”

    “มีได้สิจองกุก นายมีสิทธิอะไรมาห้ามฉันล่ะ?”

    “..ก็... ก็ฉันเป็นเพื่อนนาย”
    นัยน์ตาหวานที่มุ่งมั่นเมื่อครู่เกิดการวูบไหว อะไรกัน.. นายไม่ได้หึงฉันหรือไงจองกุก?

    “จีมินอ่า ไปเที่ยวกันเถอะ”
    อยู่ๆเสียงทุ้มก็ดังขึ้นข้างหูของจีมิน จีมินพยักหน้าเล็กน้อย

    “จีมิน นายไปไม่ได้นะ”
    จองกุกลุกขึ้นแล้วรีบจ้ำเข้าหาทั้งคู่ แล้วจับข้อมือของจีมินเอาไว้ จีมินก้มหน้ามองมือของจองกุกที่อยู่บนข้อมือของตน ทั้งที่อยากสะบัดออก แต่ก็กลับอยากรับสัมผัสนี้ต่ออีก แต่ตัดแล้วก็คือตัด..

    “ฉันจะไป..”

    “แต่.. คาบบ่ายมีวิชาของอาจารย์นัมจุนนะ..”

    “....”

    “ถ้าไม่เข้าเรียน.. อาจารย์.. จะดุนายนะ”

    “...ฉันไม่รู้จักอาจารย์นัมจุน ปล่อยได้แล้ว”

    //////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

    “ขอบใจนะแทฮยอง”

    “ไม่เป็นไรหรอกมึง แต่กูว่ามึงน่าจะยอมจองกุกได้แล้วล่ะ”

    “..ยอมอะไร? มันไม่เจ็บเท่ากูหรอก”

     “มึงไม่เห็นตาของมันหรือไง? จะร้องไห้อยู่แล้วนะ”

    “ตอนนั้นกูก็ร้องไห้ต่อหน้าจองกุก.. แต่เขากลับเดินผ่านกูไป..”

    “มึงจะไม่ให้โอกาสมันเลยหรือไง? กูว่าตอนนี้มันรักมึงนะ”

    “มันยังบอกว่ากูเป็นเพื่อนมันอยู่เลย.. แทฮยอง”
    จีมินเริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ทั้งที่รู้ว่าตอนนี้จองกุกก็เริ่มมีใจให้ตน หรืออาจจะรกตนเองเข้าแล้ว แต่ใจมันกลับไม่กล้าเสี่ยง กลัวว่ามันจะเจ็บเหมือนเดิม ทั้งที่คิดว่าจะตัดใจได้ แต่เพียงแค่เห็นหน้าความพยายามก็หายไป อยากวิ่งเข้าไปกอด แต่ทำได้แค่เพียงทำเป็นไม่รู้จัก..

    “เฮ้อ.. อย่าร้องน่ามึง เดี๋ยวอะไรๆมันก็ดีขึ้น ป้ะ กูเลี้ยงไอติม”

    //////////////////////////////////////////////////////////////

    กลัวความรักจะกลับย้อนมาทำร้ายอีกครั้ง

    ที่นั่งของจีมินและจองกุกเงียบเหงาไปหลายวัน ทั่งที่ยังมีคนนั่งอยู่ ทั้งคู่ทำเหมือนไม่รู้จักกัน แต่ก็ไม่มีใครสังเกต และจองกุกก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้น ใบหน้าคมเฝ้ามองใบหน้าหวานที่ฟุบหลับอยู่ตลอดเวลา บางทีก็คิดว่าคงทำได้แค่นี้ เพราะพอเวลาพัก แทฮยองก็มักจะพาจีมินออกไปที่อื่นเสมอ

    “นายกำลังหนีฉันแบบเมื่อก่อนหรือเปล่าจีมิน?”
    จองกุกพูดออกมาเบาๆ มือหนาตค่อยๆเลื่อนไปเกลี่ยผมที่บังใบหน้าของจีมินออก

    “ฉันไม่แน่ใจหรอกนะว่าตอนนี้นายยังรักฉันอยู่ไหม แต่ที่ฉันแน่ใจคือตอนนี้ฉันรักนาย... ไม่ฉันรักแบบเพื่อนที่ฉันชอบอ้างเวลานายไปไหนกับใคร แต่ฉันรักนายแบบ..” จองกุกนั่งพูดไปเรื่อยๆจนเห็นร่างบางเริ่มขยับตัว จีมินกำลังจะตื่น.. หมดเวลาสำหรับจองกุกแล้ว

    “อืมม”
    จีมินครางออกมาเบาๆ แล้วหันไปมองจองกุกที่ฟุบลงบนโต๊ะ

     

    “วันนี้ฉันจะสั่งงานคู่ให้ ส่งสัปดาห์หน้า ขอให้พวกเธอจับคู่กับคนข้างๆเพื่อการสะดวกนะคะ”
    คาบบ่ายที่แสนน่าเบื่อครูสาวเดินเข้ามาสั่งงาน แล้วเดินออกไป เสียงทุกคนในห้องฮือฮา และเริ่มนัดสถานที่กันทำงาน เว้นแต่คู่เดิม จองกุกกับจีมินที่ตกลงกันเพียงไม่กี่ประโยค

    “คือ..”

    “ทำที่บ้านนาย”

    “อ่า..”

    “ที่อยู่มา”

    “คอนโดXXX

    “อืม เสาร์นี้เจอกัน”
    จีมินตัดบทเพียงเท่านั้น แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น

    ////////////////////////////////////////////////

    ห้องพักเล็กๆของจองกุกที่แทบไม่เคยมีใครเคยได้เข้ามา มีแค่เขาและพ่อแม่ที่นานทีจะมาเยี่ยมเท่านั้น จองกุกนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ริมระเบียง จนเสียงกริ่งดังขึ้น

    “จีมิน..?”
    จองกุกรีบตรงไปเปิดประตู ก็พบคนที่คิดไว้ จีมินไม่พูดอะไร ร่างเล็กเดินตรงเข้ามาในห้องแล้วนั่งลงบนโซฟาทันที จองกุกปิดประตูแล้วเดินตามมานั่งข้างๆ มองดูจีมินหยิบหนังสือออกมาวางเรียงสองสามเล่ม พร้อมกับดินสอเป็นเชิงว่า รีบทำ รีบกลับ

    “มองอะไร? รีบๆทำ”
    จองกุกพยักหน้ารับ แล้วเดินไปหยิบหนังสือของตัวเองมามั่ง

    “ฉันย่อเสร็จแล้ว.. ความผิดพลาดคือโอกาสในการเริ่มต้นใหม่ นี่คือคำคมของเฮนรี่ ฟอร์ด..”
    จีมินนั่งอ่านกระดาษที่ตัวเองนั่งย่อมาให้จองกุกฟัง ใบหน้าหวานดูจริงจังจนน่ารัก จองกุกได้แต่มองแก้มยุ้ยๆของจีมินที่เด้งไปตามปากที่พูดปาวๆๆ คำพูดของจีมินแทบไม่ได้เข้าหูสักนิด

    “นี่..”

    “ห..หืม?”

    “นายฟังฉันอยู่หรือเปล่า?”

    “ฟังสิ”

    “ฉันพูดอะไรไปมั่ง?”

    “ความผิดพลาดคือโอกาสในการเริ่มต้นใหม่”

    “อ่า.. แล้ว?”

    “ถ้าฉันไม่ได้ตั้งใจทำผิด นายจะให้โอกาสฉันไหมจีมิน?”

    “..นี่ไม่มีที่ฉันย่อนะ..”

    “นายไม่รักฉันแล้วจริงๆหรือไง?”

    “...”

    “ฉันผิดเองที่ไม่รู้ใจตัวเอง.. ถ้าวันนั้น..”

    “...”

    “ถ้าวันนั้นฉันเข้าใจตัวเองมากกว่านี้ ฉันจะไม่ปฏิเสธนายเลยนะ”

    “..ฉันจะอ่านให้นายฟังใหม่ละกันนะจองกุก”

    “ให้โอกาสฉันนะ...”

    “ความผิดพลาดคือโอกาสในการเริ่มต้นใหม่ เป็นค.. อุ๊บบ”
    จองกุกไม่เปิดโอกาสให้จีมินพูดต่อ ปากหนากระแทกลงบนปากเล็กทันที และบดเบียดขบเม้มจนจีมินต้องยอมอ้าปาก ลิ้นหนาแทรกเข้าไปในโพรงปากเล็ก กวาดไล้ไปทั่วแนวฟันขาวและโพรงปาก เกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กของจิมิน จนครางฮือในลำคอ มือเล็กๆที่ทุบอก เปลี่ยนเป็นขยำเสื้อยืดของคนตรงหน้าแน่น

     

    ////////////////////////////////////


    “รู้ไหมจองกุก.. ฉันไม่เคยลืมนายเลยนะ..”

    “..ฉันก็ด้วย”

    “ฮึก.. อย่าปฏิเสธฉันอีกเลยนะ.. ตอนนั้นฉันไปไม่เป็นจริงๆ”

    “..อืม ลืมเรื่องตอนนั้นเถอะนะจีมิน ตอนนี้ฉันอยู่กับนายแล้ว”

    “...”

    “ไม่ต้องคิดถึงเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมานะ คิดถึงเรื่องของเราในตอนนี้ก็พอ”

    FIN

     

    TALK
    ความลับของเราอยู่ในรูปปัญญาอ่อนนะจุ๊ฟ

    ช่วงนี้งานเยอะมากก เรียนพิเศษถึงสามทุ่มด้วย -3-
    จะพยายามอัพบ่อยๆนะ ค้างไว้หลายเรื่องมาก555555555


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×