ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1
1
"กรี๊ดดด ชั้นจะบ้าตายแล้วนะพวกแก T^T"
ฉันกรี๊ดอีกทีหลังจากที่โทรนัดยัยกีวี่กับเชเม่ออกมาเป็นเพื่อนนั่งกินเค้กอร่อยๆที่ร้าน
"ชู่ เบาหน่อยสิแก พนักงานในร้านจะเอาถาดมาตบหัวแกแล้วนะ" กีวี่ว่า เมื่อฉันหันไปดูก็ต้องหุบปาก ก้มหน้าก้มตาจิ้มเค้กช็อกโกแลตเข้าปากไป เพราะพนักงานในร้านเริ่มส่งตาขวางมาแล้ว ชิ! ไม่เจอเรื่องอย่างฉันก็ไม่เข้าใจหรอก
"ก็ฉันทุกข์ใจนี่" ฉันพูดขึ้นมาอีกครั้ง พรางปรับวอลลุ่มตัวเองให้เบาลงอีกหน่อย
"ฉัันเข้าใจนา" เชเม่พูดพลางตบบ่าฉันเบาๆ
"พวกแกไม่ใช่ชั้นไม่เข้าใจหรอก โฮฮฮฮ!"
"แกจะคร่ำครวญไปให้ได้อะไรฮะ สู้รับความจริงไปซะดีกว่า" กีวี่พูด
"พูดได้สิ แกไม่ใช่ชั้นนิ ฉันขอให้ธุรกิจของแกล่มจมบ้างเอามั้ยล่ะ" ฉันพูด "เออ บ้านพวกแกก็รวยๆกันทั้งนั้น ไม่คิดจะรับฉันไปอยู่ด้วยรึไง"
ฉันพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายัยเพื่อนพวกนี้รวยๆกันทั้งน้านน อย่างกีวี่พ่อของมันก็ทำธุรกิจบ่อน้ำมัน ส่วนบ้านของเชเม่ก็ทำแบรนด์กระเป๋าหนัง เสื้อผ้าเครื่องประดับเยอะแยะไป ส่วนฉันเรอะมีแต่กินแกลบอ่ะตอนนี้ เฮ้อออ!
"เอาน่าแก พ่อแกก็ไปตกลงกับลุงก้องพิภพแล้วนี่" เชเม่พูด ใช่ เพราะหลังจากที่ฉันตกลงว่าจะไปอยู่ปั๊บ ป๊าก็โทรไปบอกลุงก้องพิภพทันทีว่าฉันจะไป แล้วจะให้ไปตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ ดีนะที่ป๊าเปลี่ยนเป็นให้ไปวันพรุ่งนี้ เพราะให้เวลาทำใจฉันหนึ่งวัน ตั้งหนึ่งวันแน่ะ เฮอะ! ให้เวลาฉันปีนึงยังไม่พอเลย นี่ตกลงพ่อฉันอยากให้ไปเป็นคนรับใช้บ้านเขามากรึไง
"แหม~ บางทีแกอาจจะไปพบอะไรดีๆเข้าก็ได้" เสียงดี๊ด๊าแบบนี้น่ะกีวี่ชัว เพราะเพื่อนฉันแต่ละคนบุคลิกมันต่างกันมาก ต่างจนไม่น่าจะเป็นเพื่อนกันได้ อย่างกีวี่ยัยนี่จะชอบพูดน้ำเสียงดี๊ด๊า อารมณ์ดีตลอดเวลา ส่วนเชเม่จะเป็นคนนิ่งๆ ถ้าฉันไม่รู้จักยัยนี่คงคิดว่ามันหยิ่งแหงๆ แต่ที่จริงยัยนั่นไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอกนะ
"เฮอะ การไปเป็นคนรับใช้มันมีอะไรดีเรอะ!" มีแต่ไปพบอะไรแย่ๆมากกว่า
"แกไม่รู้รึไงว่าลูกชายบ้านนั้นน่ะ หล่อมาก >.,<" กีวี่พูดพร้อมทำหน้าเพ้อฝัน
จริงสิ ฉันจำได้ว่าป๊าบอกว่าลุงเขามีลูกชายอยู่คนนึง แต่เพราะลูกชายลุงไปเรียนต่างประเทศ ฉันจึงไม่เคยเห็นหน้าสักที
"ลูกชายเขาอยู่ต่างประเทศย่ะ" ฉันพูด
"กลับมานานแล้วย่ะแกเห็นได้ข่าวมา ก็นี่มหาลัยมองเคอว์จะเปิดแล้ว"
"แต่มันก็ไม่ใช่เวลาจะคิดเรื่องนั้นนิ เพื่อนแกกำลังทุกข์ใจน้า อีกอย่างเขาคงไม่คว้าคนใช้ไปเป็นแฟนหรอกนะ" ฉันเน้นคำว่าคนใช้ ก่อนจะพ่นลมออกจากจมูกด้วยความเซ็งจับใจ
"อาจจะคว้าแกไปตอนเมาก็ได้ ฮิฮิ ไม่งั้นแกก็ปล้ำเองซะเลย"
"วอนถูกทีนแล้วแก เลิกพูดเหอะ" ฮึ่ย!
"ใช่ แกเลิกพูดเรื่องไร้สาระสักทีเหอะกีวี่" เชเม่พูด
"เชอะ -^-"
หลังจากนั้นพวกเราก็เงียบ ต่างคนต่างกินเค้กของตัวเอง ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งคิดไปถึงวันพรุ่งนี้ วันอันแสนโหดร้ายที่สุดในชีวิต ToT
เมื่อจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ (แน่นอนว่าไม่ใช่ฉันจ่าย เพราะอยู่ในช่วงตกอับ) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันกับกีวี่จึงตกลงกันว่าไปเที่ยวห้างต่อ ส่วนเชเม่ไม่ว่างพ่อโทรมาตามให้กลับบ้าน ส่วนฉันยังไม่อยากกลับบ้าน กลับไปก็ต้องไปนั่งเซ็งอยู่อีกอ่ะ จึงไม่กลับดีกว่า
Hey I just met you and this is crazy but here' my number So call me maybe. It's hard to look right at you baby~
เสียงริงโทนของกีวี่ดังขึ้นมา
"ไงคะหม่ามี้" สงสัยแม่มันโทรมาแหง หวังว่าไม่เรียกตัวกลับบ้านเหมือนเชเม่หรอกนะ
"$&@#>£¥^"
"แหม ตอนนี้เลยหรอคะ" พูดพลางเหลือบตามามองที่ฉัน "กะ ก็ได้ค่ะจะรีบไปค่ะ" นั่นไง! ว่าแล้ว
"- -*" หน้าฉัน
"แหมแก แม่ชั้นมีธุระด่วนจริงๆ ^^;"
"เออๆ ไปเหอะ" ทำไงได้ล่ะ พวกคุณหนูก็เงี้ย งานสำคัญมันเยอะ! เชอะ
"ซอรี่จ่ะ เดี๋ยวคืนนี้โทรหานะ จุ๊บ" อี๋ กีวี่พูดพร้อมทำปากจุ๊บๆส่งมา ก่อนจะวิ่งไปที่รถมินิคูเปอร์สีส้มแปร๊ด แล้วขับออกไปเลย ยัยนี่ทิ้งเพื่อนกันเห็นๆ
ด้วยความตั้งใจว่าจะไปเดินห้างเล่นบวกกับความเซ็ง ชั้นจึงตัดสินใจขึ้นเทกซี่ไปห้าง เฮ้อ ไปคนเดียวก็ได้ล่ะนะ แต่ทำไมตอนนี้รถมันติดจังเลยวะเนี่ย
อีกไม่เท่าไหร่ก็จะถึงอยู่แล้ว ฉันจึงตัดสินใจจ่ายเงิน ก่อนจะลงตรงนั้นเลย กะว่าเดินต่อไปอีกนิดดีกว่าติดแหง็กอยู่ตรงนี้อ่ะนะ โทษทีนะลุง ก็ขี้เกียจรออ่ะ >..<
ฉันจึงเดินเต๊ะก้อนหินตามฟุตบาทไปเรื่อยๆ แล้วก็คิดเรื่องพรุ่งนี้ อ๊ากกก เครียดวุ้ย ว่าแล้วก็ระบายที่ก้อนหินนี่มันซะเลย บังอาจมาขวางทางดีนัก (ตกลงก้อนหินผิดสินะ)
โป้ก!!
"..!!!" เวรแล้วไง กะจะเตะระบายอารมณ์เฉยๆ แต่ก้อนหินบ้านี่สิดันลอยไปโดนหัวคนที่อยู่บนรถสปอร์ตคันสีดำมันวาวเฉยเลย
"ขะ ขอโทษค่ะ" -/\- ฉันจึงรีบเดินไปไว้ปลกๆทันที แง้ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ ก่อนที่จะเงยหน้าไปสบตาเจ้าทุกข์ (?) แต่ก็ต้องตะลึงพรึงเพริดทันที อ๊ากกก
ละ...หล่อโฮกกกก คนสวยจะละลาย
ใบหน้าขาวกิ๊ง ปากสีแดงอมชมพู ผมซอยสั้นๆสีดำสนิท นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มดั่งมหาสมุทรที่กำลังคลั่ง อ๊ากก ฉันด้วยที่คลั่งน่ะ >.,<
"นี่เธอ โง่รึโง่ยะ ถึงได้ขว้างก้อนหินมาโดนหัวคนอื่นเค้าแบบนี้ฮะ!!" เอ๊ะยัยปากแดงแจ๋ แต่งหน้าจัด อกดูมๆ นี่มาจากไหนนะ ถึงมานั่งคู่กับสุดหล่อของฉันได้ (?) เฮอะ! อันที่จริงหล่อนนั่งตั้งแต่แรกแล้วแหละ แต่ฉันตั้งใจมองข้ามเหอะ
"โทษนะ ไม่ได้ขว้าง แต่เตะมา" ฉันตอบกลับไป คิดจะมาสร้างสงครามน้ำลายกับฉันหรอ เร็วไปล้านปีย่ะ
"ต๊าย ตาย ต่ำนะยะ"
"ก็ดีกว่าคนที่ทำตัวสูงส่ง แต่กริยาคำพูดขัดกับสิ่งที่ตัวทำเหอะ"
"กรี๊ดดดด แกหลอกด่าว่าฉันทำตัวต่ำหรอ"
"ก็ไม่โง่นิ ^^*"
พลั่กก!!
อ๊ากก ยัยอกดูม เปิดประตูรถอย่างแรง จนมากระแทกหน้าแข้งฉันจังๆเลย เจ็บนะยัยบ้า ดูสิช้ำหมดเลย
"สม!" ยัยอกดูมพูดหลังจากที่ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับฉันเรียบร้อย ฉันจึงจัดการเตะหน้าแข้งยัยนี่กลับ "กรี๊ดดดด แก!!" หล่อนพูดพร้อมเงื้อมมือจะตบ แต่ติดตรงที่เสียงเข้มๆเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นมาก่อน
"อย่าน่ะเจสสิก้า คนมองหมดแล้ว"
"พี่เฮทเธอร์ ยัยนี่มันเตะขาเจสสิก้านะคะ"
"ก็อย่าลดตัวไปยุ่งเลยนา" นายเฮทเธอร์พูดพลางเหลือบตามามองที่ฉัน อ๊ากก หมอนี่ว่าฉันต่ำเรอะ หน้าตาดีแต่ใจทรามสุดๆไปเลย!
"คิก~ นั่นสิคะ" ยัยเจสสิก้าอกดูมพูดก่อนจะกลับไปนั่งในรถ
"นี่นาย พูดอย่างนี้มันมากไปแล้วนะ หน้าตาก็ดี แต่คำพูดน่ะติดลบเลย"
"ขอบใจ"
"ฉันไม่ได้จะชมย่ะ" จะบ้าตายกับคนพวกนี้จริงๆ
"อ้าวหรอ แต่ก็นะ กริยามารยาทของเธอมันส่อเองนิ ไม่มีใครเขาเดินเตะก้อนหินไปโดนหัวคนอื่น แถมยังมาทำร้ายร่างกายเขาอีก"
"ก็ขอโทษไปแล้ว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเตะไปโดนหัวนาย แต่ก็นะ นายอยากโง่เปิดประทุนเองนิ ถือว่าซวยไปเหอะนะ อีกอย่างฉันเตะไปนายก็หลบสิ อยากเอาหัวมารับทำไม ^^*" ฉันพูดพลาวยิ้มเยาะ เหอะ ก็คนบ้าที่ไหนเปิดประทุนตอนกลางวันแดดเปรี้ยงๆนี่นะ อยากจะโชว์ อยากป่าวประกาศว่าตัวเองรวยมีรถหรูขับรึไง ถึงจะหล่อ แต่มาพูดแมวๆอย่างนี้ ฉันก็ไม่ให้อภัยหรอกนะยะ
"หนอย นี่แกด่าว่าเป็นความผิดพี่เฮทเธอร์สินะ ผู้หญิงอะไรทุเรศที่สุด" ยัยอกดูมพูด
"นิถามจริงเหอะ ฉันเตะไปโดนหัวเธอรึไง เดือดร้อนอยู่ได้"
"คนเป็นแฟนกัน เจ็บแทนกันก็ไม่เห็นเป็นอะไร ใช่ซี่ หน้าตาบ้านๆแถมกริยาแย่ๆอย่างเธอคงไม่มีหรอกนะ แฟนน่ะ เฮอะ!"
อ๊ากกก! ยัยอกดูม ยัยอกระเบิดตูมตามพูดพร้อมกับรถที่เริ่มเคลื่อนออกไปทันที นี่ถ้ารถยังติดนะ แม่จะด่าให้ไฟแลบเลย ดันมาพูดแทงใจดัง ฉึก ฉึก! ไอตรงหน้าตาบ้านๆน่ะไม่เป็นไร ไม่ถือเพราะมันไม่ใช่ความจริงสักนิด ใครๆก็บอกว่าฉันสวย ใบหน้าเรียวรูปไข่ ผมสีดำขลับยาวถึงกลางหลังที่รับกับใบหน้า ริมฝีปากบางสีแดงอมชมพู ดวงตากลมโตสีดำแห่งรัตติกาล (?) ชวนให้มีเสน่ห์ชัดๆ พูดมาได้ บ้านๆ! ส่วนกริยาแย่น่ะจริง ฮึ! ก็อยากแย่มาก่อนฉันก็ต้องแย่กลับน่ะสิ ที่รับไม่ได้อย่างแรงเนี้ย ไอตรงที่ไม่มีแฟนนี่แหละโว้ย ไม่ใช่ว่าไม่มีใครมาจีบ แต่เพราะฉันไม่อยากมีแฟนเองย่ะ!!
ฉันจึงรีบก้าวฉับๆไปให้ถึงห้างเร็วๆ (อ้าว นึกว่ากลับบ้าน) หงุดหงิดที่สุดเลย วันนี้เป็นวันอะไรกันนะ ฉันจึงได้เจอแต่เรื่องบ้าอะไรไม่รู้ ทั้งไปเป็นคนรับใช้เอย ถูกเพื่อนทิ้งเอย ยังต้องมาเจอพวกมนุษย์เฮงซวยอีก ฮึ่ย!!
เมื่อมาถึงฉันจึงมุ่งหน้าไปที่ร้านไอศกรีมร้านโปรดทันที เพื่อดับร้อนที่ร้อนลุ่มอยู่ในใจ
"ไงจ๊ะทิวลิป หน้ามุ่ยมาเชียว" พี่แป้งพี่พนักงานแสนสวยของร้านถามเมื่อมารับออเดอร์จากฉัน
"ไปเจอมนุษย์เส็งเคร็งมาน่ะสิคะ อย่าพูดเลยค่ะ พูดแล้วของมันขึ้น" พอนึกถึงพวกนั้นแล้วมันหงุดหงิดอีกนะเนี่ย
"แหะๆ นั่นสิจ๊ะ ว่าแต่เอาอะไรเอ่ย"
ฉันจึงสั่งไอศกรีมไปถ้วยใหญ่ๆมากินซะเลย เผื่อความเย็นของมันจะช่วยอ่ะนะ รอเพียงครู่เดียวของที่สั่งก็มาครบ ฉันจึงนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย แหมของหวานๆเย็นๆนี่ช่วยทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นมานิดนึง แต่ก็แค่นิดนึงอ่านะ - -"
"สั่งอันนี้มั้ยคะ กินแบบคู่รัก~" เสียงแปร๋นๆที่แสนจะคุ้นหูเหมือนเพิ่งได้ยินไปหยกๆ ดังมากระทบรูหูฉันอย่างจัง
ฉันค่อยๆหันไปช้าๆ ก่อนจะเห็นหน้าของชายหญิงคู่หนึ่งนั่งเทียบจะเบียดติดกันอยู่แล้ว เฮอะ! ชัดเลย ยัยอกดูมกับแฟนหน้าหล่อแต่ใจทรามของหล่อนไงล่ะ โลกจะกลมไปไหน พอดีกับที่ยัยนั่นหันมาเห็นหน้าฉันพอดี หล่อนจึงยิ้มเยาะ ก่อนจะเผยอปากแดงแปร๊ดนั่นพูด
"กินถ้วยเดียวกันนะคะ แฟนกัน" รู้สึกว่าหล่อนจะเน้นคำว่าแฟนอย่างจังเลยนะ
หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆ
"คนไม่มีแฟนแถวนี้คงไม่รู้สินะ ความรู้สึกกินเป็นคู่กับคนเดียวต่างกันยังไง" มาอีกล่ะ สงสัยแม่นี้อยากมีเรื่องเหลือเกินนะ
เย็นไว้ๆ
"งี้แหละ พวกไม่มีใครเอา"
ปรึ้ดดดด!!
ไม่ยงไม่เย็นแล้วโว้ยย
ปังง!
"นี่ อยากมีเรื่องมากรึไงฮะ" ฉันตบโต๊ะดังลั่นก่อนจะหันหน้าไปถาม
"อันธพาล" เสียงทุ้มนี้ ไม่ใช่ใครเลยนอกจากนายหน้าหล่อนั่นแหละ ใจทรามไม่พอยังจะเลี้ยงไอ้ด่างไว้ในปากอีกนะ
"นั่นสิคะ ใช้แต่กำลังป่าเถื่อนที่สุดค่ะ" ยัยอกดูมพูดพร้อมกระแซะๆเข้าไปหานายนั่น
"เฮอะ! ทำกริยาแบบนี้ไม่ไปหาโรงแรมเลยล่ะ จะขี่คอกันแล้วนี่ เสื่อมพอๆกันนั่นแหละ" ฉันพูดพร้อมเบ้ปาก พอดีกับพี่แป้งที่เดินเข้ามาทำท่าเหมือนลมจะจับเมื่อได้ยินถ้อยคำฉันพูดออกไป
"กรี๊ดดด แกรู้มั้ยว่าพี่เฮทเธอร์เป็นใคร"
"เธอไม่รู้ฉันจะไปรู้หรอ" ฉันตอกกลับไปอย่างกวนๆ
"น้องทิวลิปจ๊ะ ยะ อย่ามีเรื่องกันเลยน้า พี่ขอล่ะ" พี่แป้งเดินเข้ามาแทบจะก้มกราบ เห็นแก่แป้งหรอกนะ ฉันจึงจ่ายเงินก่อนจะเดินออกไปจากร้านทันที
กร๊าซซซ ขออย่าให้พบให้เจอคนพวกนั้นอีกเลยนะ สาธุ!! คนบ้าอะไรผู้หญิงก็แรง ผู้ชายก็ปากร้าย ไปอยู่ด้วยกันน่ะแหละดีแล้ว เหมาะกันอย่างผีเน่ากับโลงผุฉันจะได้กรวดน้ำคว่ำขันไปให้ซะทีเดียวเลย!
กลับถึงบ้านก็เย็นพอดีฉันจึงโทรไปหากีวี่เพราะฉันอยากจะระบายอ่ะ โทรไปหาเชเม่ไม่ได้หรอก ยัยนั่นไม่ชอบฟังเรื่องแบบนี้ กีวี่อ่ะแหละดีที่สุดล่ะ
[ไงแก ไปเที่ยวมาดีขึ้นใช่ป่ะ] กีวี่พูดเมื่อรับสาย
"ใช่ ดีมากกก ดีกับผีอะไรเล่า!"
[กรี๊ดด อย่าตะโกนเซ่หัวใจจะวาย] กีวี่พูดเมื่อฉันตะคอกระบายอารมณ์ไปอย่างลืมตัว [อะไรทำให้แกเดือดขนาดนี้เนี่ย หวังว่าพ่อแกคงไม่ได้ขายแกให้ใครหรอกนะ]
"บ้าสิ ถ้าพ่อคิดจะขายฉันจริง ฉันจะหนีไปอยู่อียิปต์เลย" หนีไปจริงๆด้วย แค่ไปเป็นคนรับใช้ ก็ชีช้ำกะหล่ำปลีมากพอแล้วนะ T^T
[งั้นเรื่องอะไรล่ะ]
ฉันจึงเล่าเรื่องที่เจอะที่เจอวันนี้ไปอย่างละเอียดยิบ ใส่อารมณ์ไปไม่ยั้ง เอาให้เห็นภาพไปเลยทีเดียว บวกกับใส่ร้ายให้ยัยนั่นเพิ่มนิดหน่อยด้วยความหมั่นไส้!!
[ต๊ายแก ถ้าฉันเป็นแกนะ จะตบๆๆๆยัยเจสสิก้านั่นให้หัวหลุดเลย] รู้สึกว่ายัยนี่จะเดือดกว่าฉันอีกนะเนี่ย
"นั่นสิ นึกแล้วแค้นชะมัด"
[แต่ฉันว่าเฮทเธอร์นี่ชื่อคุ้นๆอยู่นะ เอ...รู้สึกเหมือนจะเคยได้ยิน]
"ผูัชายในสต็อกแกรึเปล่า เยอะนิ"
[บ้า ไม่ใช่ย่ะตอนนี้ฉันมีแดเนียลคนเดียวย่ะ] กีวี่คงหมายถึงหนุ่มลูกครึ่งหัวทองหน้าตาดีที่เพิ่งคบกับกีวี่ได้เพียงไม่กี่วัน
"ให้จริงเหอะ ฉันเห็นแกคบกับใครไม่ถึงสามเดือนสักที"
[แหม~ ก็พอลองคบไปแล้วมันไม่ใช่นี่ยะ]
"หวังว่าแดเนียลจะใช่สักทีนะ"
[ก็ต้องรอดูต่อไป]
เฮ้ออ กีวี่น่ะมีแฟนมาไม่รู้ตั้งกี่คน แต่ละคนก็หน้าตาดีทั้งนั้นเพียงแต่คบไม่ถึงสามเดือนกันสักคน ดีนะที่กีวี่คบแบบไม่ปล่อยตัวปล่อยกาย มันจึงไม่มีอะไรเสียหาย ส่วนฉันน่ะ ไม่เคยมีสักคน ไม่ใช่ว่าอยากมีหรอกนะ เพราะฉันคิดว่าเป็นโสดน่ะดีจะตาย ไม่ต้องคอยวุ่นวายกับใคร แต่เพราะยัยบ้าอกดูมนั่นสิ ทำให้ฉันต้องคิดเรื่องนี้ขึ้นมา
"เออ งั้นฉันไปนอนก่อนนะ เมื่อคืนได้นอนสองชั่วโมงเอง เพลีย ไหนพรุ่งนี้จะต้องไปทำงานอีก ชิ"
[แหะๆ จ้าโชคดีนะแก]
"อับโชคมากกว่า" T^T แล้วฉันก็กดวางสายไปแล้วไปเข้านอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น