ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : เด็กคนนั้น
บนรถไฟที่จะกลับไปสถานีคิงครอส
"ทำไมต้องเป็นแก…"
"ทำอย่างกับฉันอยากนักแหละเจ้าวีเซิล…"
รอนและมัลฟิยนั่งจ้องกันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้ออีกฝ่าย ในขณะที่แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่(ที่นั่งเบียดกันอยู่ฝั่งเดียวกับรอน) พยายามจะไม่สนใจคุณชายหัวเมือกสีทองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนี้
"ฉันล่ะไม่เข้าใจดัมเบิลดอร์เลย! พวกเราสามคนร่วมกันหาฮอครักซ์จนโค่นล้มโวลเดอร์มอร์ได้ ทำไมต้องให้ ไอ้…ไอ้ฟอเรตหัวเมือกนี่มาช่วยด้วยกัน?!!!"รอนโวยวาย "พวกนายสามคน?? ฉันนึกว่าพอตตี้กับยัยเกรนเจอร์หากันอยู่สองคนเสียอีก ใครก็ไม่รู้สินะที่แยกตัวไปกลางทาง"รอนถึงกับสะอึก ไอ้เจ้านี่ไปรู้มาจากไหนฟระ?!
"ดัมเบิลดอร์คงมี…"
"เหตุผล! รู้หรอกน่า!"แฮร์รี่ขำเบาๆกับท่าทางเหมือนเด็กของรอน "ยังไงก็เถอะ เราลงเรือบำเดียวกันแล้ว จะดีมากถ้านาย ช่วยลดความ 'เกรียน' และควบคุมปาก 'น่าตบ' นั่นด้วยนะ"แฮร์รี่เอ่ยและจงใจเน้นย้ำบางคำเป็นพิเศษ ทำเอามัลฟอยหน้าเขียวเหมือนเพิ่งถูกต่อยจนจุกมายังไงยังงั้นแหละ
เมื่อมาถึงคิงครอส
"แล้วเราจะไปไหนต่องั้นเหรอแฮร์รี่"รอนถามแฮร์รี่ที่กำลังดูแผนที่อยู่ "เราต้องไปที่โบสถ์ไวท์เบล ไปเรียกแท็กซี่กัน!"
(หมายเหตุ**โบสถ์ไวท์เบลเป็นสถานที่สมมติ ไม่มีจริงแต่อย่างใด)
ณ โบสถ์ไวท์เบล
"แคบชะมัด เอาล่ะพวกนาย คนที่เราต้องลากกลับไปฮอกวอตส์น่ะใคร??"คุณชายมัลฟอยแอบบ่นอุบอิบๆหลังลงมาจากแท็กซี่ ก่อนจะเงยหน้ามองโบสถ์เล็กๆแต่ดูสะอาดอ้าน ผนังถูกทาเป็นสีขาวล้วน บนยอดส่วนที่เป็นหอระฆังมีช่องถูกเจาะโปร่งให้เห็นระฆังสีขาวสะอาดใบใหญ่อันเป็นที่มาของชื่อโบสถ์
"ดัมเบิลดอร์บอกมาว่า ชื่อ 'อลัน' ถามคนในวัดเอาก็ได้มั้ง"เฮอร์ไมโอนี่ว่าก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในโบสถ์ วันนี้เป็นวันธรรมดาจึงมีคนน้อย มีพระอยู่สองสามรูปกำลังปัดกวาดพื้นอยู่ "ขอโทษนะครับ …ที่นี่มีคนชื่อ อลัน บ้างมั้ยครับ??"ทั้งสี่แยกย้ายกันไปถาม
"อลันน่ะเหรอ?? อยู่ที่บ่อน้ำล่ะมั้ง เดินออกประตูนั้นไปก็จะเจอ"นักบวชคนนึงว่าพลางชี้ไปที่ประตูเล็กๆที่มุมหนึ่งของโบสถ์ แฮร์รี่รีบกล่าวขอบคุณแล้วเปิดประตูบานนั้นออกไปทันที
เบื้องหลังประตูบานนั้นคือส่วนที่เป็นพื้นที่ด้านหลังโบสถ์ ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ากว้างราวๆห้าสิบไร่ได้ มี่อน้ำที่กว้างใหญ่เสียจนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นทะเลสาบเลยทีเดียว
และพื้นที่โล่งกว้างนั้น มีร่างๆหนึ่งนั่งอยู่เด่นตระหง่าน "นั่นเหรอ เจ้าอลันที่ว่าน่ะ…" ทำไม…เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแฮะ… เดรโก มัลฟอยเปรยออกมาเบาๆก่อนจะจ้องแผ่นหลังเล็กๆกับปอยผมสีเข้มจนเกือบดำที่ถูกรวบไว้
"เข้าไปหากันเถอะ…แต่ อย่าทำให้เขาตกใจนะ"เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยก่อนจะก้าวเข้าไปหาช้าๆ "สี่คน ผู้หญิงหนึ่ง ผู้ชายสาม อายุ 18 เท่ากัน เข้ามาหาฉันน่ะไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกน่า"ทั้งสี่คนนิ่งงัน ขาที่ก้าวออกมาชะงักอยู่กับที่รวมถูกตรึงให้เป็นหิน ทันทีที่เสียงของคนที่นั่งหันหลังให้พวกเขาลอยแหวกลมมา
"สวัสดี"ร่างบางนั้นหันมาเผชิญหน้ากับทั้งสี่ ทำให้ได้เห็นใบหน้าของเขาชัดๆ ผมสีเข้มจนดำตัดกับผิวขาวนวล ดวงตาสีเขียวมรกต "ว หวัดดี …"รอนเอ่ยเบาๆ "ขอโทษนะ…นาย…อลันใช่มั้ย"แฮร์รี่ถามเบาๆ อีกฝ่ายยิ้มร่าพลางพยักหน้าหงึกหงัก
"พวกนาย รู้ อะไรเกี่ยวกับฉันงั้นเหรอ??"อลันเอ่ย "หมายความว่าไง? นายน่ะชุบชีวิตคนตายได้เชียวนะ!"มัลฟยกอดอกพูด "ชุบชีวิต …คนตาย… คิก ตลกน่า เรื่องเหลือเชื่อเหมือนปาฏิหารย์นั่นน่ะจะทำได้ยังไงเล่า"อีกฝ่ายหัวเราะคิกคักเหมือนกับว่าเขาเป็นเด็กอายุสามขวบ
"เอาเป็นว่าเรารู้ว่านายเป็นใครและทำอะไรได้ แต่นายคงต้องมากับพวกเราน่ะนะ"
"พวกนายรู้จักฉันงั้นเหรอ?!"ทั้งสี่สะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆคู่สนทนาของพวกเขาก็ลุกพรวดขึ้นมา "ยินดีเลย! ฉันจะไปกับพวกนาย นายต้องเล่าให้ฉันฟังหมดทุกอย่างเลยนะ!!"อลันเอ่ยอย่างตื่นเต้นขณะจับมือแฮร์รี่เขย่ารัวๆพร้อมทำหน้าเปี่ยมด้วยความคาดหวัง
"รอเดี๋ยวนึงนะ ขอฉันไปเก็บของแล้วก็ลาหลวงพ่อก่อน"ยังไม่ทันที่ใครจะได้เถียงอะไรร่างบางก็วิ่งปรู๊ดหายเข้าวัดไป ทิ้งให้ทั้งสี่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น
"อะไรของเขา? …"
"ทำไมต้องเป็นแก…"
"ทำอย่างกับฉันอยากนักแหละเจ้าวีเซิล…"
รอนและมัลฟิยนั่งจ้องกันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้ออีกฝ่าย ในขณะที่แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่(ที่นั่งเบียดกันอยู่ฝั่งเดียวกับรอน) พยายามจะไม่สนใจคุณชายหัวเมือกสีทองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนี้
"ฉันล่ะไม่เข้าใจดัมเบิลดอร์เลย! พวกเราสามคนร่วมกันหาฮอครักซ์จนโค่นล้มโวลเดอร์มอร์ได้ ทำไมต้องให้ ไอ้…ไอ้ฟอเรตหัวเมือกนี่มาช่วยด้วยกัน?!!!"รอนโวยวาย "พวกนายสามคน?? ฉันนึกว่าพอตตี้กับยัยเกรนเจอร์หากันอยู่สองคนเสียอีก ใครก็ไม่รู้สินะที่แยกตัวไปกลางทาง"รอนถึงกับสะอึก ไอ้เจ้านี่ไปรู้มาจากไหนฟระ?!
"ดัมเบิลดอร์คงมี…"
"เหตุผล! รู้หรอกน่า!"แฮร์รี่ขำเบาๆกับท่าทางเหมือนเด็กของรอน "ยังไงก็เถอะ เราลงเรือบำเดียวกันแล้ว จะดีมากถ้านาย ช่วยลดความ 'เกรียน' และควบคุมปาก 'น่าตบ' นั่นด้วยนะ"แฮร์รี่เอ่ยและจงใจเน้นย้ำบางคำเป็นพิเศษ ทำเอามัลฟอยหน้าเขียวเหมือนเพิ่งถูกต่อยจนจุกมายังไงยังงั้นแหละ
เมื่อมาถึงคิงครอส
"แล้วเราจะไปไหนต่องั้นเหรอแฮร์รี่"รอนถามแฮร์รี่ที่กำลังดูแผนที่อยู่ "เราต้องไปที่โบสถ์ไวท์เบล ไปเรียกแท็กซี่กัน!"
(หมายเหตุ**โบสถ์ไวท์เบลเป็นสถานที่สมมติ ไม่มีจริงแต่อย่างใด)
ณ โบสถ์ไวท์เบล
"แคบชะมัด เอาล่ะพวกนาย คนที่เราต้องลากกลับไปฮอกวอตส์น่ะใคร??"คุณชายมัลฟอยแอบบ่นอุบอิบๆหลังลงมาจากแท็กซี่ ก่อนจะเงยหน้ามองโบสถ์เล็กๆแต่ดูสะอาดอ้าน ผนังถูกทาเป็นสีขาวล้วน บนยอดส่วนที่เป็นหอระฆังมีช่องถูกเจาะโปร่งให้เห็นระฆังสีขาวสะอาดใบใหญ่อันเป็นที่มาของชื่อโบสถ์
"ดัมเบิลดอร์บอกมาว่า ชื่อ 'อลัน' ถามคนในวัดเอาก็ได้มั้ง"เฮอร์ไมโอนี่ว่าก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในโบสถ์ วันนี้เป็นวันธรรมดาจึงมีคนน้อย มีพระอยู่สองสามรูปกำลังปัดกวาดพื้นอยู่ "ขอโทษนะครับ …ที่นี่มีคนชื่อ อลัน บ้างมั้ยครับ??"ทั้งสี่แยกย้ายกันไปถาม
"อลันน่ะเหรอ?? อยู่ที่บ่อน้ำล่ะมั้ง เดินออกประตูนั้นไปก็จะเจอ"นักบวชคนนึงว่าพลางชี้ไปที่ประตูเล็กๆที่มุมหนึ่งของโบสถ์ แฮร์รี่รีบกล่าวขอบคุณแล้วเปิดประตูบานนั้นออกไปทันที
เบื้องหลังประตูบานนั้นคือส่วนที่เป็นพื้นที่ด้านหลังโบสถ์ ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ากว้างราวๆห้าสิบไร่ได้ มี่อน้ำที่กว้างใหญ่เสียจนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นทะเลสาบเลยทีเดียว
และพื้นที่โล่งกว้างนั้น มีร่างๆหนึ่งนั่งอยู่เด่นตระหง่าน "นั่นเหรอ เจ้าอลันที่ว่าน่ะ…" ทำไม…เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแฮะ… เดรโก มัลฟอยเปรยออกมาเบาๆก่อนจะจ้องแผ่นหลังเล็กๆกับปอยผมสีเข้มจนเกือบดำที่ถูกรวบไว้
"เข้าไปหากันเถอะ…แต่ อย่าทำให้เขาตกใจนะ"เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยก่อนจะก้าวเข้าไปหาช้าๆ "สี่คน ผู้หญิงหนึ่ง ผู้ชายสาม อายุ 18 เท่ากัน เข้ามาหาฉันน่ะไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกน่า"ทั้งสี่คนนิ่งงัน ขาที่ก้าวออกมาชะงักอยู่กับที่รวมถูกตรึงให้เป็นหิน ทันทีที่เสียงของคนที่นั่งหันหลังให้พวกเขาลอยแหวกลมมา
"สวัสดี"ร่างบางนั้นหันมาเผชิญหน้ากับทั้งสี่ ทำให้ได้เห็นใบหน้าของเขาชัดๆ ผมสีเข้มจนดำตัดกับผิวขาวนวล ดวงตาสีเขียวมรกต "ว หวัดดี …"รอนเอ่ยเบาๆ "ขอโทษนะ…นาย…อลันใช่มั้ย"แฮร์รี่ถามเบาๆ อีกฝ่ายยิ้มร่าพลางพยักหน้าหงึกหงัก
"พวกนาย รู้ อะไรเกี่ยวกับฉันงั้นเหรอ??"อลันเอ่ย "หมายความว่าไง? นายน่ะชุบชีวิตคนตายได้เชียวนะ!"มัลฟยกอดอกพูด "ชุบชีวิต …คนตาย… คิก ตลกน่า เรื่องเหลือเชื่อเหมือนปาฏิหารย์นั่นน่ะจะทำได้ยังไงเล่า"อีกฝ่ายหัวเราะคิกคักเหมือนกับว่าเขาเป็นเด็กอายุสามขวบ
"เอาเป็นว่าเรารู้ว่านายเป็นใครและทำอะไรได้ แต่นายคงต้องมากับพวกเราน่ะนะ"
"พวกนายรู้จักฉันงั้นเหรอ?!"ทั้งสี่สะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆคู่สนทนาของพวกเขาก็ลุกพรวดขึ้นมา "ยินดีเลย! ฉันจะไปกับพวกนาย นายต้องเล่าให้ฉันฟังหมดทุกอย่างเลยนะ!!"อลันเอ่ยอย่างตื่นเต้นขณะจับมือแฮร์รี่เขย่ารัวๆพร้อมทำหน้าเปี่ยมด้วยความคาดหวัง
"รอเดี๋ยวนึงนะ ขอฉันไปเก็บของแล้วก็ลาหลวงพ่อก่อน"ยังไม่ทันที่ใครจะได้เถียงอะไรร่างบางก็วิ่งปรู๊ดหายเข้าวัดไป ทิ้งให้ทั้งสี่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น
"อะไรของเขา? …"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น