ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn] 1896 No one matters but you

    ลำดับตอนที่ #7 : Episode 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      46
      23 มี.ค. 60













    Episode 5

    ถัดออกไปประมาณสามสี่เมตร เสียงไวโอลินดังขึ้นมาจากด้านหลัง แต่โคลมกลับไม่รับรู้ถึงความไพเราะของมันเลย ในมือของเธอมีส้อมกับมีดประจำไว้อยู่ แต่อาหารในจานกลับไม่ลดลงไปสักนิด คำพูดเมื่อสักครู่ของเขายังคงดังก้องอยู่ในหัว ทั้งๆ ที่เธอพยายามสลัดมันให้หลุดออกไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ...

    อืม...แล้วสุดท้ายโกคุเดระก็เป็นคนมาง้อฉันน่ะนะหญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มอารมณ์ดีตรงหน้า เธอไม่รู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร เพราะไม่ได้ตั้งใจฟังตั้งแต่แรก ยามาโมโตะยังคงพูดจ้อเกี่ยวกับสิ่งที่เธอไม่ได้สนใจต่อไป แต่โคลมก็รู้สึกว่ามันดีแล้ว เธออยากจะใช้เวลาคิดอะไรคนเดียวในหัวสักพัก โดยที่เขาไม่ต้องมาสนใจ

    Rrrr…Rrrr…

    เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเป็นดั่งนาฬิกาปลุกให้เธอตื่นจากภวังค์ รวมถึงทำให้ยามาโมโตะหยุดพูดด้วย มือเรียวเอื้อมไปหยิบเครื่องมือสื่อสารของตนขึ้นมา ก่อนจะรู้สึกแปลกใจนิดๆ ที่เป็นเบอร์ของคนไม่รู้จักอีกแล้ว

    ฮัลโหลโคลมกดรับและกรอกเสียงลงไป

    [ขอโทษที่โทรมาขัดจังหวะนะครับคุณโคลม] น้ำเสียงของคุซาคาเบะดังขึ้นมาจากในสาย

    ไม่เป็นไรค่ะ

    [คือว่า...ตอนนี้ดึกมากแล้ว คุณโคลมควรจะกลับเข้าบ้านได้แล้วนะครับ] คำพูดของคุซาคาเบะทำให้เธอเลื่อนโทรศัพท์มือถือออกมาดูเวลา ก่อนจะปรากฏให้เห็นว่าตอนนี้สี่ทุ่มครึ่ง สำหรับเธอแล้วเวลานี้เปรียบเสมือนหัวค่ำ ตอนอยู่อิตาลีเธอมักจะกลับเข้าคอนโดเวลานี้เป็นประจำ และกว่าจะได้นอนก็เลยไปถึงเช้าวันใหม่

    โคลมลังเลใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอหันไปมองหน้ายามาโมโตะที่จ้องมองมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยความลำบากใจ เพราะเพิ่งจะเริ่มดินเนอร์ไปได้ไม่นาน จะให้เธอบอกลาเขาแล้วชิ่งกลับตอนนี้ก็ดูน่าเกลียดไป แต่ในใจลึกๆ หญิงสาวก็อยากจะเผ่นหนีไปจริงๆ อาหารมื้อนี้ไม่อร่อยเลยสักนิด ถึงแม้จะเข้ามาทานในภัตตาคารหรูใจกลางเมืองก็เถอะ

    ก็ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เธอพูดออกไปในที่สุด ใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามแปรเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอกดวางสายจากคุซาคาเบะ ก่อนจะยัดโทรศัพท์มือถือกลับลงไปในกระเป๋าดังเดิม ฉันขอโทษจริงๆ นะคะคุณยามาโมโตะ แต่ฉันต้องไปแล้ว

    อื้อ ไม่เป็นไรเขาส่งรอยยิ้มฝืนๆ พร้อมกับน้ำเสียงหม่นๆ มาให้เธอ โคลมรู้สึกผิดจากใจจริง แต่ก็ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ฮิบาริ เพราะตั้งแต่เท้าของเธอพ้นเขตคฤหาสน์ออกมา ในหัวก็มีแต่คำพูดของเขาดังก้องอยู่...

    ถ้าผม...ไม่อนุญาตล่ะ

    ถ้าผม...ไม่อนุญาตล่ะ

    ถ้าผม...ไม่อนุญาตล่ะ

    ถึงปากของเขาจะพูดออกมาแบบนั้น แต่เมื่อเธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ชายหนุ่มจึงเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเลยตัดสินใจออกมาดินเนอร์กับยามาโมโตะพร้อมกับความว้าวุ่นในจิตใจ

    โคลมเดินออกมาจากภัตตาคารแล้ว เธอโบกแท็กซี่ด้วยความรวดเร็ว ราวกับว่ามีคนกำลังรอให้เธอกลับไป ทันทีที่แท็กซี่จอดหน้าคฤหาสน์ของฮิบาริ หญิงสาวถึงกับต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ หัวใจของเธอเต้นตุบๆ เมื่อหาของบางอย่างในกระเป๋าสตางค์ไม่เจอ

    ของที่ว่านั่นก็คือ...

    เงิน!!!

    เธออยากจะทึ้งหัวตัวเองแรงๆ หรือเอาหัวไปโขกกับกำแพงให้รู้แล้วรู้รอด เธอลืมไปได้ยังไงว่าที่ตัวไม่มีเงินสดเลย แล้วเธอก็ลืมบัตรเครดิตไว้บนห้องเสียด้วย มีเพียงบัตรเอทีเอ็มที่ใช้ไปกดตังค์มาจ่ายค่าอาหารส่วนตัวเองให้ยามาโมโตะจนหมด...ไม่เหลือสักเยนเดียว

    ในขณะที่กำลังตกอยู่ในความมืดแปดด้านอยู่นั้น ประตูฝั่งข้างคนขับก็เปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของร่างสูงสุดคุ้นตา

    จะนั่งอยู่อีกนานมั้ยโคลมรู้สึกเหมือนสวรรค์มาโปรด เธอหันไปบอกคนขับให้รอแป๊บหนึ่ง ก่อนจะเดินลงไปประจันหน้ากับฮิบาริ

    คือ...คุณเมฆาคะหญิงสาวเอ่ยด้วยความประหม่า คือฉัน...ขอยืมเงินหน่อยได้มั้ยคะ

    ใบหน้าของชายหนุ่มปรากฏให้เห็นถึงความแปลกใจได้อย่างชัดเจน เขาเลิกคิ้ว ก่อนจะปรายตาไปมองคนขับแท็กซี่ที่นั่งทำหน้าตาบูดบึ้งอยู่ในรถ ฮิบาริเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างถ่องแท้ภายในเวลาอันสั้น เขาหันกลับไปทางแท็กซี่คันนั้น ก่อนจะยื่นแบงก์ห้าพันเยนให้พร้อมกับเอ่ยปากไล่โดยไม่ต้องการเงินทอนสักเยน

    เมื่อแท็กซี่ขับห่างออกไปแล้ว ร่างสูงก็หันมาจ้องหน้าคนตัวเล็กกว่าอย่างเอาเรื่องทันที เขาเดินเข้าไปประชิดตัวเธออย่างไม่ค่อยพอใจนัก ส่วนคนที่อยู่ในฐานะต่ำต้อยกว่าก็ได้แต่ยืนก้มหน้ายอมรับชะตากรรม

    ทำไมถึงไม่รู้จักเตรียมพร้อม ไม่มีเงินสดติดตัวยังกล้าขึ้นแท็กซี่อีกเขาดุเธอเสียงเข้ม ระอาในความไม่คิดหน้าคิดหลังของคนตัวเล็กกว่าอย่างเหนื่อยใจ

    ขอโทษค่ะ

    แล้วบัตรเครดิตล่ะ ไม่มีรึไง

    มีค่ะ แต่ฉันลืมไว้บนห้อง

    ของสำคัญแบบนั้นจะเอาออกจากกระเป๋าตังค์ทำไมโคลมรู้สึกได้ว่าฮิบาริตอนนี้ดุยิ่งกว่าหมา ทำไมเขาถึงทำให้ความรู้สึกผิดและละอายใจเล็กๆ ของเธอดูใหญ่หลวงขึ้นมาได้นะ เขาช่างมหัศจรรย์จริงๆ

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตัวลีบจนต่อกรอะไรไม่ได้แล้ว ฮิบาริจึงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินนำเข้าไปในคฤหาสน์ คุซาคาเบะยืนรอทั้งคู่ตรงหน้าประตูอยู่แล้ว มือขวาของฮิบาริส่งรอยยิ้มปลอบใจให้เธอเบาๆ เพราะเขาเองก็ไม่สามารถขัดอะไรผู้เป็นนายได้ โคลมส่งยิ้มแหยๆ กลับไป เธอเดินตามฮิบาริไปยังห้องรับรองอันเว่อร์วังของเขา ก่อนจะนั่งลงบนเบาะตามอีกฝ่าย

    บรรยากาศระหว่างเขาและเธอน่าอึดอัดมาก โคลมรู้สึกว่าถ้าเธอขยับตัวแม้แต่นิด เธอจะตายเพราะสายตาคมกริบที่จ้องมองมาอย่างเอาเรื่องคู่นั้นแน่ๆ เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกกลัวฮิบาริมากขนาดนี้ แม้แต่มุคุโร่เวลาโกรธยังน่ากลัวน้อยกว่าผู้ชายคนนี้เลย

    จ๊อก~

    โคลมสะดุ้งหลังตรงทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นดังออกมา ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความอาย นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอท้องร้องต่อหน้าฮิบาริ

    ให้ตายเถอะ...

    ไปกินข้าวมาไม่ใช่รึไงเขาถามเนิบๆ ดวงตาคมกริบทั้งสองข้างยังจ้องเธอไม่วางตา หรือไปทำอย่างอื่น...คำถามมีความนัยน์แฝงของฮิบาริทำให้เธอประหลาดใจ ทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น เธอกับยามาโมโตะเนี่ยนะ...เหอะ เป็นไปไม่ได้หรอก

    ปะ...เปล่านะคะ ฉันไปทานข้าวมาจริงๆเธอส่ายหน้าเป็นพัลวันเหมือนตุ๊กตาหน้ารถ แต่ฮิบาริก็ไม่มีท่าทางว่าจะเชื่อเธอสักนิด ดวงตาสีดำแห่งรัตติกาลยังคงจดจ่ออยู่ที่เธอ เหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่างจากดวงตาสีอะเมทิสต์ข้างเดียวนี้

    เหรอเขารับคำสั้นๆ ก่อนจะลุกออกไปจากห้อง ฮิบาริหายออกไปสักครู่ใหญ่แล้ว แต่เธอยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่จากไปไหน ในหัวของโคลมตอนนี้มีแต่ความคิดที่อยากพูดความจริงให้เขาฟัง อยากจะแก้ไขสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังเข้าใจเธอผิด ถ้าเธอเดินไปบอกเขาว่าที่เธอยังไม่ได้กินอะไรเพราะมัวแต่คิดถึงคำพูดของเขา...ฮิบาริจะเชื่อเธอมั้ยนะ

    หญิงสาวถอนหายใจ เขาไม่มีวันเชื่อเธอหรอก...คำแก้ตัวของเธอมันฟังไม่ขึ้น ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตาม โคลมถอดใจและได้แต่ปล่อยให้มันเลยตามเลย เธอเองก็ไม่ใช่คนที่อยากให้คนอื่นมาเข้าใจและวุ่นวายกับชีวิตของเธออยู่แล้ว เธอเตรียมตัวลุกเพื่อเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง แต่ประตูบานเลื่อนก็ถูกเปิดออกเสียก่อน ฮิบาริยืนอยู่ตรงหน้าของเธอพร้อมกับใบหน้าเรียบเฉยที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ คนที่ถูกบุกรุกเข้ามาปั้นสีหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ หรือเขาอาจจะลืมของไว้?

        สิ่งที่เธอพอจะทำได้...คือกลับขึ้นไปบนห้องของเธอซะ โคลมค้อมหัวให้ฮิบาริอย่างเก้ๆ กังๆ ตามสไตล์ผู้หญิงที่อยู่ยุโรปมานาน ก่อนจะเดินผ่านหน้าของเขาไป แต่สัมผัสบางอย่างบนต้นแขนพร้อมกับแรงฉุดกระฉากเบาๆ ทำให้เธอเสียหลักจนเกือบจะล้มคว่ำลงไปที่พื้น แต่โชคดีที่มือหนาของเขารับร่างของเธอไว้ทัน

    คะ...คุณเมฆาเธอครางออกมา ม่านตาข้างเดียวขยายใหญ่ขึ้น พร้อมกับความตกใจที่พุ่งแล่นเข้ามา ใบหน้าของเธอและเขาห่างกันไม่ถึงเซน เมื่อได้มาอยู่ในระยะประชิดขนาดนี้...มันทำให้โคลมตระหนักได้อย่างถ่องแท้เลยว่าฮิบาริเป็นผู้ชายที่มีโครงหน้าหล่อเหลามากจริงๆ เขาสมบูรณ์ไปหมดทุกอย่าง ทั้งใบหน้าที่สามารถกระชากใจผู้หญิงเกือบครึ่งโลกได้อย่างง่ายดาย รูปร่างและผิวขาวติดจะซีดที่ดูดีเกินมาตรฐาน ไหนจะฐานะทางการเงินที่สามารถซื้อประเทศนี้ให้เป็นของเขาได้โดยขนหน้าแข้งไม่ร่วง

    ทำไมผู้หญิงอย่างเธอถึงมาอาศัยร่วมชายคาเดียวกันกับเขาได้นะ...

    จะขยำชุดผมอีกนานมั้ยประโยคที่ออกมาจากปากฮิบาริทำให้โคลมสะดุ้งตัวโยง ก่อนจะพบว่ามือของเธอกำลังกระชากคอเสื้อชุดยูกาตะผ้าชั้นดีของเขาอยู่จริงๆ เธอรีบปรี่ออกมาจากผู้ชายทรงเสน่ห์คนนี้อย่างเร็วไวพลันก้มหัวขอโทษ เห้อ...เวลาอยู่กับฮิบาริทีไร เธอต้องมีท่าทีเหมือนคนสติไม่เต็มทุกทีสินะ

    ขอโทษค่ะคุณเมฆา ฉันไม่ได้ตั้งใจฮิบาริไม่สนใจคำขอโทษของอีกฝ่าย เขาปรายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา

    เมื่อไหร่จะเลิกแต่งตัวแบบนี้ในบ้านของผม

    เอ๊ะ?

    เธอทำงานในผับหรือไงคำถามของฮิบาริทำให้เธอก้มลงมองชุดตัวเอง โคลมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ มันก็แค่ชุดหนังรัดรูปสีดำเท่านั้น ความสั้นก็เลยเข่ามาประมาณสิบห้าเซนเอง ผู้ชายคนนี้ไม่เคยอ่านนิตยสารแฟชั่นเลยหรือไง ถึงได้กล้าถามคำถามดูถูกเธอแบบนั้นออกมา เธอจะไปแต่งตัวแบบนี้ที่ไหนก็ช่าง แต่ต้องไม่ใช่บ้านของผม

    การยื่นคำขาดของฮิบาริเปรียบเสมือนฝ่ามือที่ฟาดลงมาบนหน้าของเธอแรงๆ โคลมเม้มปากแน่น เล็บนิ้วโป้งทั้งสองข้างจิกลงบนฝ่ามืออย่างพยายามข่มอารมณ์

    ที่คุณเมฆามาหาฉัน...เพราะจะมาพูดเรื่องการแต่งตัวเหรอคะเธอถามออกไป ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำเสียงที่ใช้นั้นสั่นมากแค่ไหน

    เปล่า เธอไม่ใช่สาเหตุให้ผมต้องเดินลงมาจากห้องหรอกเขาตอบเสียงเรียบ ใบหน้าไม่ฉายให้เห็นถึงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ฮิบาริเดินผ่านหน้าของเธอไป ก่อนจะเอื้อมมือลงไปหยิบหนังสือภาษาญี่ปุ่นเล่มเท่าฝ่ามือจากใต้โต๊ะ ผมมาเอาสิ่งนี้” ฮิบาริชูหนังสือให้เธอดู ก่อนจะเดินจากไป 

    โคลมชื่นชมในความสามารถของฮิบาริจริงๆ ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเขาก็สามารถทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองได้มากขนาดนี้ เป็นครั้งที่สองที่เขาทิ้งให้เธอจมดิ่งลงไปกับสภาวะอารมณ์ที่สุดแสนเลวร้าย โคลมเลื่อนประตูออกและเดินตรงไปยังห้องของเธอ หลังจากปิดประตูลง หญิงสาวก็ไม่ลังเลเลยที่จะล้มตัวลงนั่งบนพื้น หลังของเธอชนอยู่กับประตูห้อง ปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์

    เธอกำลังรู้สึกไม่ดี ทั้งขุ่นเคือง เสียใจและผิดหวัง

    แต่กลับไม่มีน้ำตาออกมาจากดวงตาสวยข้างเดียวของเธอสักหยด โคลมเอื้อมมือไปปลดผ้าปิดตาออก เธอทอดมองผ้าปิดตาสีดำในมือ รู้สึกคิดถึงมุคุโร่ขึ้นมาจับใจ สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ของเธอจริงๆ

    ทั้งๆ ที่คิดว่าเริ่มปรับตัวได้แล้ว แต่เปล่าเลย...คนอย่างฮิบาริ เคียวยะไม่เคยคิดจะญาติดีกับเธอ เขาและเธอไม่มีวันใช้ชีวิตร่วมกันได้...ไม่มีวัน...

     

     

    จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บเสียงร้องของสิ่งมีชีวิตบางอย่างทำให้เธอไม่สามารถนอนต่อไปได้ โคลมค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้น

    สีเหลือง...

    นั่นคือสิ่งที่เธอเห็นเป็นอันดับแรกทันทีที่ลืมตาขึ้น นกตัวสีเหลืองอ๋อยกำลังกระพือปีกอยู่ตรงหน้าเธอ โคลมกระเด้งตัวลุกจากที่นอนทันที ทำไมถึงได้มีนกหน้าตาเหมือนเป็ดมาอยู่ในห้องของเธอได้!?

    ขะ...เข้ามาได้ยังไงน่ะเธอถามออกไป ในมือกำผ้าห่มผืนหนาเอาไว้แน่น ก่อนจะเหลือบไปเห็นหน้าต่างที่เธอเปิดค้างไว้เมื่อคืน หญิงสาวจึงหายข้องใจ แต่ก็แปลกใจอยู่ดีว่านกตัวนี้มาจากไหน

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะประตูทำให้โคลมเลิกสนใจเจ้านกสีขมิ้นที่กำลังร้องจิ๊บๆ น่าหนวกหูอยู่ เธอเดินไปเปิดประตูแล้วชะโงกหน้าออกไป ไม่อยากให้ผู้มาเยือนเข้ามาเห็นว่าในห้องของเธอมีนก

    อรุณสวัสดิ์ครับคุณโคลมคุซาคาเบะทักทายพร้อมกับส่งรอยยิ้มกว้างมาให้ดั่งเช่นทุกที

    อรุณสวัสดิ์ค่ะโคลมตอบกลับ แล้วกระชับบานประตูให้ชิดลำตัวมากขึ้น มีอะไรรึเปล่าคะ

    เอ่อ...คุณโคลมพอจะเห็นนกของคุณเคียวรึเปล่าครับ?

    ...นก?

    ครับ นกตัวสีเหลืองๆ ชื่อฮิเบิร์ดน่ะครับหญิงสาวเกือบหลุดขำเมื่อคุซาคาเบะพูดชื่อนกออกมา บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่มีเซ้นส์ในการตั้งชื่อสุดๆ คือคุณเคียวกำลังตามหามันอยู่ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าหายไปไหน เผื่อมันหลงมาในห้องคุณโคลม...แต่คงไม่มีใช่มั้ยครับ

    นกของฮิบาริงั้นเหรอ...

    อืมค่ะ ฉันไม่เห็นเลย

    เหรอครับ งั้นผมขอตัวก่อน คุณโคลมอย่าลืมลงไปทานอาหารเช้านะครับ

    ค่ะคุซาคาเบะค้อมตัวให้เธออย่างนอบน้อมผิดกับนิสัยของผู้ชายบางคน โคลมปิดประตูแล้วลงกลอนเสร็จสรรพ เธอหันไปจ้องเจ้านกตัวสีเหลืองอ๋อยที่กำลังบินวนไปวนมาในห้องของเธอ หญิงสาวเดินไปปิดหน้าต่างเพื่อทำให้เป็นห้องปิดตาย

    เจ้านกตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของฮิบาริสินะ...

    อืมมม ถ้าอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขไม่ได้ เธอคงต้องทำข้อต่อรองบางอย่างเสียแล้วล่ะ 




    __________________________

    กรี๊ดดดด โคลมจังจะเริ่มร้ายแล้วววว

    เม้นท์ให้ด้วยน้าตัววววว 


    ? cactus
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×