คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Episode 16
Episode 16
“มีอะไรน่าตกใจรึไง” เมื่อเห็นว่าเจ้าของร่างเล็กไม่ปริปากพูดอะไรสักคำหลังจากที่เขาประกาศเจตจำนงของตัวเองไป
ฮิบาริก็ค่อยๆ ลดตัวลงมานอนให้เสมอกับเธอ
ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเส้นผมสีลาเวนเดอร์เบาๆ อย่างอ่อนโยน “พูดอะไรบ้างสิ”
“ฉัน...เอ่อ...” โคลมไม่กล้าแม้แต่จะสบตาฮิบาริ
เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงมากจนจะกระเด็นออกมาจากอกอยู่แล้ว!
พระเจ้า...เขากล้าพูดประโยคแบบนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับรูปปั้นได้ยังไง!
“เป็นอะไร” เมื่อเห็นท่าทีที่แปลกไปของคนตัวเล็ก
ร่างสูงจึงเอื้อมมือไปเชยคางของเธอให้เงยขึ้นมาสบตากับเขาตรงๆ
แต่เจ้าของนัยน์ตาสีลาเวนเดอร์ข้างเดียวก็มิวายหลบสายตาเขาอยู่ดี “ไม่พอใจงั้นเหรอ...”
“ไม่...ไม่ใช่นะคะ” โคลมยกมือขึ้นปฏิเสธแทบจะทันที
ไม่มีทางที่เธอจะไม่พอใจหรือรู้สึกแย่กับสิ่งที่เขาพูดมาหรอก
แต่มันแค่ตกใจและเหลือเชื่อมากจริงๆ ที่จู่ๆ
ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของวองโกเล่มาพูดประโยคราวกับจะขอเธอแต่งงานอย่างนั้น!
แล้วจะให้เธอรับมือไหวได้ยังไง “ฉันแค่...ตกใจน่ะค่ะ”
“ทำไม” ฮิบาริเลิกคิ้ว
การกระทำของเขามันน่าตกใจขนาดนั้นเลยรึไง
เขาก็แค่ตอบสนองความต้องการของเธอก็เท่านั้นเอง ในเมื่อเธอบอกว่าอยากได้ ‘ฐานะ’ ของการอยู่เคียงข้างเขา
“ก็จู่ๆ มาพูดอะไรแบบนี้...” โคลมหลุบตาต่ำด้วยใบหน้าสีแดงก่ำราวกับมะเขือเทศสุก
“คุณฮิบาริจะให้ฉันตั้งตัวยังไงล่ะคะ” เธอพูดเสียงเบาหวิวพลางช้อนสายตามองเขาอย่างขวยเขิน
ใบหน้าเขินอายของโคลมและท่าทีที่ดูเหมือนกำลังจะเสียการควบคุมอยู่รอมร่อนั้นทำให้ชายหนุ่มเผลอใจเต้นแรง
ฮิบาริเบือนหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากให้คนตรงหน้าจับได้ว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร
ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปากเพื่อปกปิดอาการเขิน
“อย่า...”
“คะ?”
“อย่าไปทำท่าแบบนี้กับใครเป็นอันขาด” ชายหนุ่มกำชับเสียงเข้มพลางดึงคนตัวเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
ก่อนจะฝังใบหน้าลงกับเส้นผมนุ่มที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกมา
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่กลิ่นหอมอ่อนๆ
จากตัวของโคลมได้กลายมาเป็นกลิ่นโปรดของเขาไปแล้ว
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ” โคลมตอบเสียงอู้อี้พลางดันหน้าอกของฮิบาริออกเพื่อสบตากับนัยน์ตาดำคมกริบ
แต่ไม่นานก็ถูกคนแข็งแรงกว่าดึงเข้าไปไว้ในอ้อมกอดอีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ
“ไม่ต้องเถียง” ฮิบาริพูดเสียงเข้มอย่างไม่สบอารมณ์
แค่คิดภาพว่าโคลมต้องตกไปอยู่ในมือของผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เขา
อารมณ์แห่งความหงุดหงิดก็พุ่งขึ้นจนอยากจะอาละวาดให้เละเลยก็ว่าได้
“ก็ฉันไม่เข้าใจคุณจริงๆ นี่คะ” โคลมถอนหายใจ
สบตากับร่างสูงอย่างจริงจัง “อาทิตย์ก่อนยังทำท่าทีเย็นชาใส่อยู่เลย
ทำไมจู่ๆ ถึงกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะคะ”
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ภูเขาไฟวิสุเวียสทีไร
หน้าอกของเธอก็บีบแน่นด้วยความเจ็บปวดทุกที
คำพูดอันสุดแสนเย็นชาของฮิบาริยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่ไปไหน
โคลมไม่เคยลืมสายตาคู่นั้นที่จ้องมองมาอย่างไม่เป็นมิตร
ทุกการกระทำของเขามันทำให้เธอเชื่อว่าเขาคงเกลียดเธอเข้าแล้วจริงๆ
ถึงจะยังไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัดก็เถอะ แต่พอมาวันนี้...เขากลับมาบอกให้เธอกลับไปอยู่ญี่ปุ่นด้วย
แถมในฐานะ ‘เมีย’ ของเขาเนี่ยนะ! โคลมต้องไม่ใช่คนแล้วมั้งถึงจะสามารถปรับอารมณ์ให้ทันตามความต้องการของฮิบาริได้น่ะ
“ยังคิดมากเรื่องนั้นอยู่เหรอ”
เฮอะ แล้วมันไม่น่าคิดมากตรงไหนไม่ทราบ! โคลมอยากจะสวนเขาไปแบบนี้เสียจริง
แต่ติดตรงที่ว่าเธอไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำอะไรแบบนั้นเนี่ยสิ
“...เปล่าค่ะ” เธอโกหก
แถมไม่แนบเนียนเอาซะเลย
“ฉันมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น” ฮิบาริอธิบายด้วยท่าทีเรียบๆ
ถึงแม้คนตัวเล็กจะทำท่าเหมือนไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ “มันเป็นทางเดียวที่ฉันจะช่วยเธอได้”
“ยังไงคะ” โคลมเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
เขาคงจะสอบตกเรื่องการสื่อสารแหงๆ ถึงได้พูดจากำกวมและฟังดูไม่เคลียร์เลยสักนิด
“มันยาว และฉันก็ขี้เกียจอธิบาย” ฮิบาริหลับตาลงอย่างหนีปัญหา
นั่นทำให้โคลมรู้สึกเคืองเบาๆ แต่ก็เลือกที่จะเงียบ
เพราะการเอะอะโวยวายเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการไม่ใช่สไตล์เธอ หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะตัดสินใจได้แล้วว่าเธอต้องรู้ให้ได้ว่ามุคุโร่กำลังพยายามจะทำอะไร
มันส่งผลร้ายต่อแฟมิลี่จริงๆ เหรอ? แล้วฮิบาริรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้แค่ไหนบ้าง เพราะฉะนั้นการย้ายกลับไปอยู่ญี่ปุ่นกับฮิบาริน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้
อย่างน้อยเธอก็พอมีที่ซุกหัวนอน
“ตกลงค่ะ...ฉันจะไปอยู่ญี่ปุ่นกับคุณ” คำตอบของโคลมทำให้ฮิบาริลืมตาตื่นทันที เขามองใบหน้านวลนั่นสักพัก
ก่อนจะขยับตัวไปจุมพิตริมฝีปากรูปกระจับเบาๆ หนึ่งทีอย่างอดใจไม่อยู่ “คุณฮิบาริ! เอาเปรียบฉันอีกแล้วนะคะ”
“ไม่ชอบเหรอ” คำถามของฮิบาริทำให้โคลมอยากจะมุดลงดินด้วยความอาย
จู่ๆ ก็มาถามว่าไม่ชอบเหรอเนี่ยนะ ใครมันจะไม่ชอบกันเล่า! แต่จะให้สารภาพออกไปตรงๆ
ก็ยิ่งเข้าทางคนเจ้าเล่ห์ไปใหญ่ ทุกวันนี้เธอก็เป็นฝ่ายที่ต้องศิโรราบอยู่แล้วนะ!
“ทำไมไม่ตอบล่ะ”
“แล้วคุณฮิบาริอยากให้ตอบว่าอะไรล่ะคะ”
“แล้วแต่เธอ”
“งั้นจะถามทำไมกัน...” โคลมแอบมุ่ยปากพลางบ่นกับตัวเองเบาๆ
แต่คนที่นอนอยู่ข้างๆ ก็ดันหูดีจนน่าโมโหอีก เพราะเธอเห็นเขายกยิ้มอย่างพอใจด้วย
“ไม่ว่าเธอจะตอบว่าชอบหรือไม่
การกระทำของฉันมันก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอกนะ” พูดจบก็เอื้อมมือมาจับใบหน้าของเธอไว้แน่น
ก่อนจะทาบทับริมฝีปากบางเฉียบลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
โคลมที่ตอนแรกไม่สบอารมณ์อยู่ก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปโอบรอบคอเขาอย่างคุ้นเคย
ฝ่ามือหนาที่ตอนแรกควรจะอยู่บนใบหน้านวลก็ค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปยังหน้าท้องเรียบ
สัมผัสอุ่นๆ จากฮิบาริบริเวณหน้าท้องทำให้โคลมขนลุกซู่
ก่อนจะพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา แต่มันก็ไม่เป็นผล
เพราะคนตัวสูงไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
เขายังคงรังแกริมฝีปากของเธอไม่เลิกจนโคลมเริ่มรู้สึกว่ามันช้ำไปหมดแล้ว
แถมยังมิวายเลื่อนต่ำลงมาฝากรอยจ้ำแดงๆ ไว้บริเวณซอกคออีก!
ทำไมฮิบาริ เคียวยะถึงได้ซุกซนขนาดนี้นะ
“อย่านะคะคุณฮิบาริ...อื้อ...” เสียงครางของโคลมเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงชิ้นดีที่ทำให้ไฟปรารถนาที่อยู่ในใจของเขารุกโชน
ใบหน้าของฮิบาริเลื่อนต่ำลงไปทุกที ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ตรงทรวงอกรูปสวยเปล่าเปลือย
โคลมรีบยกมือขึ้นมาปิดของรักของหวงเธอไว้แทบทันที เธอถลึงตามองเขาอย่างโมโห
แต่ดูเหมือนคนเอาแต่ใจจะไม่ได้สนอะไรเลย เมื่อมือหนาค่อยๆ
เอื้อมไปแกะมือเล็กทั้งสองข้างออก “คุณฮิบาริ!”
โคลมคิดว่าตัวเองกำลังจะไหม้ตายเพราะความร้อนผ่าวบนใบหน้า
นี่มันน่าอายเสียยิ่งกว่าพ่ายแพ้ให้ศัตรูซะอีก! ถึงในหัวจะคิดอย่างนั้น
แต่ร่างกายเจ้ากรรมดันไม่ตอบสนองเลยเสียนี่ เธอยอมปล่อยให้ฮิบาริทำตามอำเภอใจเหมือนคนสิ้นไร้ไม้ตอก
สัมผัสจากฝ่ามือของเขาที่อยู่บนทรวงอกทั้งสองข้างของเธอทำให้โคลมใกล้จะบ้า
สัมผัสของเขามันทั้งวาบหวาม ร้อนแรงแต่ก็อ่อนโยนไปในเวลาเดียวกัน
หญิงสาวหอบหายใจแรงพอๆ กับคนที่กำลังง่วนอยู่กับการรังแกเธอ ฮิบาริเองก็เริ่มสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเหมือนกัน
ทำไมร่างกายของโคลมมันถึงได้นุ่มนิ่มไปทั้งตัวแบบนี้นะ
ถ้าจะโทษใครสักคน...ก็คงต้องโทษเธอนั่นแหละที่มีเรือนร่างยั่วยวนเขาแบบนี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ขอบคุณสวรรค์! แทบจะทันทีที่โคลมดันตัวของฮิบาริออก
ถึงจะไม่รู้ว่าคนหลังประตูคือใคร
แต่ก็ต้องขอบคุณที่เข้ามาช่วยเธอจากการโดนเขารังแกไว้ได้ทันเวลาพอดี ผิดกับฮิบาริที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆ
เธอสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้ฮิบาริหงุดหงิดจนอยากตรงเข้าไปขย้ำคนที่กล้ามาขัดจังหวะความสุขของเขา
โคลมไม่รอช้า
เธอหยิบเสื้อผ้าที่ถูกถอดออกด้วยฝีมือของเขามาใส่อย่างเร็วไว
หญิงสาวจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมลวกๆ ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตู
ไม่ลืมที่จะแง้มออกเพียงแค่ครึ่งเดียวเพื่อไม่ให้คนข้างนอกมองเข้ามาเห็นสภาพร่างอันเปล่าเปลือยของฮิบาริที่นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่บนเตียง
“คุณโคลม โดคุโร่ใช่มั้ยครับ” ตรงหน้าของเธอคือชายหนุ่มในชุดสูทสีดำดูดี
เธอไม่แน่ใจว่าเคยเห็นหน้าของเขามาก่อนหรือเปล่า
แต่ถ้าให้เดา...คงเป็นใครสักคนที่ทำงานในวองโกเล่ล่ะมั้ง
“...ใช่ค่ะ” เธอตอบ
ก่อนจะเลิกคิ้วเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายยื่นซองเอกสารขนาดครึ่งเอสี่มาให้
“คุณซาวาดะฝากนี่มาให้คุณครับ”
“บอสน่ะเหรอ...”
“ครับ ท่านฝากมาบอกว่าขอโทษที่ไม่ได้เอามาให้ด้วยตัวเอง”
คนตรงหน้าบอกอย่างสุภาพ “แล้วท่านก็บอกด้วยว่าอยากให้คุณโคลมไปให้ได้ครับ”
“...อือ” เธอรับคำเบาๆ “ขอบคุณนะคะ”
โคลมปิดประตู ก่อนจะค่อยๆ แกะซองเอกสารนั่นออก
พร้อมกับพบว่าสิ่งที่อยู่ด้านในคือการ์ดเชิญงานแต่งของสึนะและเคียวโกะ
เธอยกมือขึ้นปิดปากเพื่อปกปิดเสียงสะอื้น น้ำตาแห่งความดีใจไหลอาบลงแก้มนวล
ฮิบาริที่ใส่กางเกงเสร็จเรียบเหลือทิ้งไว้เพียงท่อนบนก้าวยาวตรงมาที่เธอ
ก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา ความจริง...คนอย่างเขาไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรแบบนี้สักนิด
แต่พอเป็นเธอ...ทุกอย่างมันก็กลับตาลปัตรไปหมด
“บอส...บอสเขา...” โคลมสะอื้นไห้
ฮิบาริลูบหัวเธอเบาๆ ถึงเธอไม่บอก เขาก็พอจะเดาออกว่าข้างในซองนั่นคืออะไร
คนอย่างซาวาดะ สึนะโยชิไม่มีทางทำร้ายแฟมิลี่แน่นอน ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ยอมกลายมาเป็นผู้พิทักษ์ในหมอนั่นหรอก
โคลมไม่คิดเลยว่าสึนะจะยังนึกถึงเธออยู่ เธอคิดว่าเขามองว่าเธอคือคนทรยศเหมือนคนอื่นๆ แต่มันกลับไม่ใช่ แค่นั้นมันก็มากพอสำหรับคนอย่างเธอแล้ว
“เมื่อไหร่”
“คะ...?” คำถามของฮิบาริทำให้เธอหยุดร้องไห้
“งานแต่งของเจ้าสัตว์กินพืชน่ะ...เมื่อไหร่”
“เอ่อ...” เธอเปิดการ์ดงานแต่งของสึนะกับเคียวโกะออกเพื่อหาวันที่จัดงาน
“คะ...คืนนี้ค่ะ”
“จะไปมั้ย”
“เอ่อ...”
“ทำไมต้องลังเล”
“ก็...ก็ฉันไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะไปได้นี่คะ” เธอถอนหายใจ ใช่...ตอนนี้สถานะของเธอคือ ‘คนทรยศ’
ต่อวองโกเล่ มันสมควรแล้วรึไงที่เธอจะถูกเชิญไปร่วมงานมงคลแบบนั้น
ถึงแม้เธออยากจะแสดงความยินดีต่อทั้งคู่มากๆ ก็เถอะ
“แต่เจ้าสัตว์กินพืชนั่นอยากให้เธอไปไม่ใช่รึไง”
คำพูดของฮิบาริทำให้เธอชะงักไป แววตาคมกริบที่จ้องมองมาของเขาแฝงไปด้วยความอบอุ่น
ทั้งๆ ที่ทุกครั้งมันมีแต่ความเย็นชาหรือไม่ก็เบื่อหน่ายแท้ๆ “ฉันจะไปกับเธอเอง”
“แต่คุณไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ ไม่ใช่เหรอคะ”
“ก็ใช่”
“แล้วทำไม...”
“เพราะมีเธออยู่...”
“...!?”
“เพราะมีเธอ...มันเลยไม่เป็นไร”
อา...อีกแล้วนะ อีกแล้วที่เขาพูดจาหวานมากๆ
ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งอย่างนั้น โคลมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮิบาริรู้สึกจริงๆ อย่างที่พูดรึเปล่า
แต่เธอนี่สิ! ดีใจจนจะลอยไปถึงดาวอังคารได้แล้วมั้ง
เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นจุ๊บเขาที่ผิวแก้มเบาๆ คนตัวสูงที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ไม่คิดเลยว่าคราวนี้เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แถมพอชิงหอมแก้มเขาเสร็จ ยังมาทำท่าเขินอายอย่างน่ารักน่าฟัดอีกต่างหาก
“เธอกำลังอ่อยฉันอยู่รึไง”
“...เปล่าค่ะ” โคลมหลุบตาต่ำ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขา
“งั้นเธอก็คงอยากถูกฉันขย้ำสินะ”
“...!?” โคลมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ให้ตายเถอะ...เธอไม่น่ายื่นอ้อยจ่อปากช้างเลย
รู้ทั้งรู้ว่าเขาทั้งเจ้าเล่ห์และอันตราย แต่ก็ยังเปิดทางให้เขาเนี่ยนะ
ทำไมถึงได้ซื่อบื้อขนาดนี้
“ล้อเล่นน่ะ” ร่างสูงเอ่ยหน้าตาย
เธอเลยลอบถอนหายใจอย่างหายกังวล “เดี๋ยวค่อยรวบยอดทีเดียว”
ที่มีคนบอกว่าฮิบาริอันตราย
คงไม่ใช่แค่เรื่องการต่อสู้แล้วมั้ง!
_________________________________________
มาอัพแล้วจ้าาาา
ช่วงนี้มีไฟก็เลยจะอัพไวหน่อย 55555555
ตอนนี้เป็นตอนที่เสี่ยงที่สุดเลยอ่าาาา
เสี่ยงจะโดนแบนนี่แหละไม่ใช่อะไร! ผ่ามมมม
แต่ยังไงก็ฝากเม้นต์กันด้วยน้าาาา
ถ้ากำลังใจดี เราจะขยันอัพจ้าาา!! สัญญาาาาาา
? cactus
ความคิดเห็น