ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn] 1896 No one matters but you

    ลำดับตอนที่ #3 : Episode 1

    • อัปเดตล่าสุด 19 ม.ค. 60











    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง






    Episode 1


    #ศูนย์บัญชาการใหญ่วองโกเล่แฟมิลี่ ประเทศอิตาลี

    ตึก ตึก ตึก

    เสียงรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วดังกระทบกับพื้นหินอ่อนอย่างเป็นจังหวะ ก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าห้องประชุมใหญ่ที่มักใช้ประชุมเรื่องสำคัญ หญิงสาวผ่อนลมหายใจช้าๆ แล้วจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเคาะหลังมือสวยของตัวเองลงบนแผ่นประตูไม้หนาที่แลดูมีประวัติยาวนานมาเกือบร้อยปี

    ประตูไม้ใหญ่ค่อยๆ ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของโคลม โดคุโร่ หนึ่งในผู้พิทักษ์ธาตุสายหมอกของวองโกเล่แฟมิลี่ เธอค้อมตัวให้ทุกคนในห้องประชุมเล็กน้อย ก่อนจะมุ่งตรงไปยังเก้าอี้ว่างที่อยู่เกือบท้ายสุดของโต๊ะตัวใหญ่

    มาแล้วเหรอโคลมผู้มีอำนาจสูงสุดของที่นี่เอ่ยถาม โคลมพยักหน้าให้บอสของเธอเล็กน้อย แล้วกุลีกุจอเปิดเอกสารที่แบกมาด้วย

    โคลมมองตัวหนังสือภาษาอิตาลีมากมายก่ายกองที่อยู่บนแผ่นกระดาษด้วยความเหนื่อยใจ เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่าอีกไม่นานเธอก็คงชินไปเอง โคลมไม่ค่อยมีโอกาสได้เรียนอย่างผู้พิทักษ์คนอื่นๆ เท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะเข้าใจอะไรได้ยากกว่าใครๆ ในห้องนี้

    เอาล่ะ อย่างที่ฉันได้พูดไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีศัตรูของวองโกเล่เกิดขึ้นมาก คนที่จ้องจะทำลายแฟมิลี่ของเราก็เยอะพอตัว...ซาวาดะ สึนะโยชิสูดลมหายใจเต็มปอด ก่อนจะเอ่ยต่อ เพื่อเป็นการปกป้องคนของเรา ฉันอยากให้ทุกคนย้ายที่ประจำที่อยู่ ณ ตอนนี้

    คำพูดของสึนะทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วเรียวสวยมุ่น นั่นแปลว่าเธอจะต้องย้ายจากอิตาลีไปที่อื่นงั้นเหรอ? งั้นที่ไหนล่ะ...

    โคลมเสียงเรียกชื่อทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งเบาๆ ก่อนจะหันไปสบตาผู้เป็นบอส แล้วกระพริบตาปริบๆ

    คะ?

    สามวันก่อนหน้านี้...ฉันได้ข่าวว่าโคลมถูกลอบทำร้ายงั้นเหรอ

    เอ่อ...หญิงสาวอึกอักเมื่อสายตาทั้งห้องประชุมจับจ้องมาที่เธอเกือบหมด ค่ะ แต่ฉันไม่ได้เป็นไรมาก

    โคลมเลี่ยงที่จะพูดเกี่ยวกับบาดแผลบริเวณแผ่นหลังของเธอ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่น่าพูดถึงสักนิด มีแต่จะทำให้ทุกๆ คนในที่นี้ลำบากใจเปล่าๆ แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่อยากให้ใครๆ มองว่าเธอเป็นตัวถ่วงด้วย

    ถึงจะอย่างนั้นมันก็ไม่ปลอดภัยสึนะพูดเสียงเครียด ฉันได้ปรึกษากับคนอื่นๆ แล้วล่ะ

    ปรึกษา?โคลมทวนคำของสึนะงงๆ

    ฉันจะส่งเธอไปประจำที่อื่นก่อนคำพูดของสึนะทำเอาโคลมเบิกตากว้าง

    ที่อื่น? ที่ไหนคะบอสหญิงสาวถามเสียงเครียดไม่แพ้กัน

    ...ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่น...ให้เธอไปอยู่กับใครล่ะ!? ถ้าต้องย้ายไปญี่ปุ่นก็หมายความว่าเธอจะไม่ได้อยู่กับมุคุโร่ เคน จิกุสะน่ะสิ

    บอสคะ ฉัน...

    ฉันเข้าใจนะว่าโคลมอยากจะอยู่กับมุคุโร่สึนะสบตาของเธอด้วยความหนักใจ แต่นี่ก็เพื่อตัวเธอเอง อีกอย่างมุคุโร่ก็เป็นคนเลือกที่จะตัดสินใจแบบนี้ด้วย

    ประโยคต่อมาของสึนะเปรียบเสมือนมือหนักๆ ที่ฟาดลงมาบนหน้าเธออย่างแรง โคลมอึ้งจนเธอพูดไม่ออก ทำไมมุคุโร่ถึงเลือกจะผลักไสเธอ? ถึงแม้จะทำด้วยความเป็นห่วงหรืออะไรก็ตามแต่

    หรือเพราะมุคุโร่ไม่ต้องการเธอแล้ว? มุคุโร่ที่ออกมาจากคุกวินดิเช่แล้วจะต้องการเธอไปเพื่ออะไรกัน...

    ท่านมุคุโร่อยากให้ฉันไปญี่ปุ่นเหรอคะ

    ...อืมสึนะพยักหน้าเบาๆ

    รับทราบค่ะบอสนั่นเป็นเพียงประโยคสุดท้ายของโคลม ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องประชุมนี้ไป โคลมไม่รู้ว่าเธอเดินออกมาตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็มานอนร้องไห้ที่ห้องเสียแล้ว...

     

     

    #สนามบินฟูมิชิโน อิตาลี

    วันนี้คือวันที่เธอต้องเดินทางไปยังญี่ปุ่น โคลมกวาดตามองสนามบินที่กว้างใหญ่ ผู้คนมากมาย แต่หัวใจของเธอกลับอ้างว้างชอบกล ร่างเล็กอ้อนแอ้นกระชับกระเป๋าในมือแน่นก่อนจะเดินไปยังที่โหลดกระเป๋า เธอมองตั๋วเครื่องบินในมือแล้วถอนหายใจออกมา

    จนกระทั่งวันสุดท้ายของการอยู่ที่นี่...มุคุโร่ก็ไม่มาหาเธอ น่าขำสิ้นดี นี่เธอกำลังหวังอะไรอยู่?

    ในระหว่างที่เดินทางไปยังญี่ปุ่น โคลมก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ เธอเปิดก๊อกน้ำในอ่างเล็กๆ ห้องน้ำบนเครื่องบินช่างคับแคบจนน่าอึดอัด หลังจากล้างมือเสร็จ เธอก็เงยหน้ามองกระจกเพื่อเช็กความเรียบร้อยของตัวเอง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ใช่ภาพของเธอแต่อย่างใด... กลับกันมันคือภาพของผู้ชายสูงโปร่งที่มีผมน้ำเงินเข้มแสนคุ้นตา

    ท่านมุคุโร่...โคลมครางชื่อของคนในกระจกออกมาเบาๆ

    สวัสดีครับโคลมที่น่ารักของผมคำทักทายของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวใจเต้นแรง เธอนึกว่าเขาจะไม่มาเสียแล้ว

    ฉันคิดว่า...

    ถึงผมจะยุ่งแค่ไหน ผมก็ต้องมาหาคุณครับมุคุโร่พูดพร้อมกับระบายยิ้มบางๆ เราอาจจะต้องห่างกันสักพัก แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะรีบสะสางงานที่นี่ให้เสร็จ แล้วทำให้เรากลับมาอยู่ด้วยกันอีก

    โคลมพยักหน้าแรงๆ ทั้งน้ำตา เธอเชื่อมั่นในตัวเขา ไม่ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาจะจริงหรือเท็จ แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อโดยไม่มีข้อกังขา

    แล้วพบกันนะครับ

    ค่ะมุคุโร่หายไปแล้ว แต่หัวใจของหญิงสาวยังคงพองโตไม่หาย เธอรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาพบเขา

    ได้พบกับ โรคุโด มุคุโร่

     

     

    #สนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น

    ในระหว่างที่โคลมกำลังลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่กว่าตัวออกจากช่องผู้โดยสารขาเข้านั้น สายตาของเธอก็ไปสะดุดกับแผ่นป้ายใหญ่ๆ ที่มีชื่อของเธอเขียนอยู่ โคลมกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะเดินไปยังผู้ชายที่แต่งตัวดูดี ใส่สูทผูกไทเรียบร้อย แต่เธอก็ติดใจกับทรงผมที่ดูแหวกแนวสุดๆ ของเขาไม่เคยหาย ไม่ว่าจะเห็นมันกี่ครั้งก็ไม่เคยรู้สึกคุ้นชินเสียที

    สวัสดีครับคุณโคลมชายตรงหน้าทักเธอเสียงใส พร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง

    เอ่อ...สวัสดีค่ะ คุณคุซาคาเบะ?หญิงสาวพูดเสียงแผ่ว เพราะเธอไม่มั่นใจว่าพูดชื่อของอีกฝ่ายถูกมั้ย เนื่องจากไม่ได้เจอกันมาหลายปี

    ครับ รถจอดอยู่ทางด้านนู้น เดี๋ยวผมพาไปนะครับ

    ดะ...เดี๋ยวค่ะก่อนที่เขาจะออกตัว เธอก็ได้เอ่ยปากรั้งไว้เสียก่อน ทำไมคุณคุซาคาเบะถึงมารับฉันล่ะคะ? หรือว่าบอสส่งให้ฉันมาอยู่กับคุณ

    อ้าว นี่คุณวองโกเล่รุ่นสิบไม่ได้บอกคุณโคลมหรือครับว่าต้องไปอยู่กับใคร...คุซาคาเบะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกใจ หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ อย่างช่วยไม่ได้ อืม ก็ไม่เชิงว่าอยู่กับผมหรอกครับ

    คะ?

    เอาเป็นว่าเราไปที่รถกันก่อนเถอะครับโคลมได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของคุซาคาเบะที่เดินจากไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเธอ ทำไมเขาถึงไม่ตอบคำถามเธอกันนะ? จะว่าไป...โคลมก็รู้สึกคุ้นๆ อยู่เหมือนกันว่าคุซาคาเบะคือลูกน้องของใคร แต่ไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเสียที

    สุดท้ายแล้ว หญิงสาวจึงจำใจเดินตามคุซาคาเบะไป

     

    ถึงแล้วครับคุซาคาเบะหยุดรถเบนต์ลี่ย์สีดำหน้าประตูไม้บานหนึ่ง โคลมก้าวเท้าลงมาจากรถ ก่อนจะเงยหน้ามองที่อยู่อาศัยใหม่ของเธอด้วยความงงงวย

    สมัยนี้มีใครเขาสร้างบ้านญี่ปุ่นอยู่กัน? เธอได้แต่ถามตัวเองในใจแบบนั้น แล้วเดินตามคุซาคาเบะเข้าไป

    หลังจากเปิดประตูไม้ออก ภาพที่เห็นตรงหน้าก็คือสวนขนาดใหญ่ที่มีสไตล์ญี่ปุ่นแท้ เธอมองบรรยากาศโดยรอบด้วยสายตาเป็นประกาย โคลมไม่เคยอะไรแบบนี้มาก่อน ไหนจะตัวบ้านที่ใหญ่ดุจดั่งปราสาทตรงหน้านี้อีก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองนั่งไทม์แมคชีนย้อนกลับมาสมัยยุคโชกุนยังไงยังงั้น

    คุณคุซาคาเบะ...หญิงสาวเอ่ยเรียกคนตรงหน้าเบาๆ

    ครับ?

    นี่ฉัน...ต้องอยู่ที่นี่เหรอคะ?

    เอ่อ...ครับ คุณโคลมมีปัญหาอะไรรึเปล่าเขาถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้ายังตกตะลึงไม่หาย

    มะ...ไม่ค่ะโคลมส่ายหน้าเป็นพัลวัน ...แค่แปลกใจนิดหน่อย

    คุซาคาเบะพยักหน้ารับเบาๆ แล้วเดินนำเข้าไปในบ้านหลังใหญ่สไตล์ญี่ปุ่น เขาถอดรองเท้าอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โคลมได้แต่ทำตามอย่างเก้ๆ กังๆ เธอเดินตามเขาต้อยๆ โดยไม่รู้จุดหมาย ภายในตัวบ้านนั้นตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ญี่ปุ่นแท้จนเธอรู้สึกอึดอัด โคลมไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ มันทำให้เธอเกร็งไปหมด...

    ต่อมาคุซาคาเบะก็เลื่อนประตูออกอย่างเบามือ เขาค่อยๆ ย่อตัวลงก่อนจะเดินเข่าเข้าไป โคลมได้แต่มองพฤติกรรมของคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ นี่เธอกำลังจะไปพบใครกันแน่? ทำไมทุกอย่างมันดูมีพิธีเยอะจัง

    เชิญครับคุณโคลมน้ำเสียงของคุซาคาเบะปลุกให้โคลมตื่นจากภวังค์ ก่อนที่เธอจะถลาเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

    โคลมเผลอสะดุดขาตัวเอง เธอล้มลงไปกับพื้นตามแรงโน้มถ่วงโลก หญิงสาวหลับตาปี๋เพื่อรอรับแรงกระแทกที่จะตามมาในอีกไม่ช้า แต่สัมผัสที่เธอได้รับกลับต่างไปจากที่คิด โคลมรู้สึกได้ถึงเนื้อผ้านุ่มๆ บริเวณผิวแก้ม เธอจึงค่อยๆ ปรือตาขึ้นช้าๆ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ใช่พื้นเสื่อสีเขียวแต่อย่างใด กลับกันมันคือตักของใครสักคน!

    หญิงสาวรีบกระเด้งตัวขึ้นด้วยความตกใจ ก่อนจะเบิกตากว้างยิ่งกว่าเก่าเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าของเธอคือใคร

    ไรผมสีดำขลับซอยสั้น ผิวขาวติดจะซีดนิดหน่อย ดวงตาเฉียบคมที่ฉายแววไม่เป็นมิตรตลอดเวลา โคลมกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะขบริมฝีปากแน่นด้วยความประหม่า

    ฮิบาริ เคียวยะในชุดยูกาตะสีดำกำลังมองเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสุดๆ

    คะ...คุณ...โคลมตะกุกตะกัก

    ...

    ...เมฆา

    โคลมไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่เธอสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตบางอย่างกำลังแผ่ตัวกว้างออกมาจากผู้ชายตรงหน้า เพียงแค่ฮิบาริจ้องมองเธอด้วยแววตาดุจราชสีห์นั่น มันก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของเธอหยุดเต้นแล้ว

    อะ...เอ่อ คุณโคลมครับ...คุซาคาเบะที่สังเกตได้ถึงบรรยากาศมาคุแปลกๆ เอ่ยขึ้นเบาๆ นี่คือคุณฮิบาริ เคียวยะครับ

    หญิงสาวตรงหน้ารู้ดีว่าเขาคือใคร แต่ไม่รู้ทำไมถึงเรียก คุณเมฆาซะจนติดปาก ทั้งๆ ที่ผู้ชายคนนี้ก็เคยมาหามุคุโร่หลายต่อหลายครั้ง แต่โคลมก็เลือกที่จะเรียกเขาว่า คุณเมฆาเหมือนแต่ก่อน

    ...สวัสดีค่ะเธอเอ่ยทักทาย แต่ฮิบาริหาสนใจไม่ เขาเพียงหยิบชาขึ้นมาจิบต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะหันไปมองหน้าลูกน้องคนสนิท

    เท็ตสึเพียงแค่ฮิบาริเอ่ยชื่อ คุซาคาเบะก็เข้าใจหน้าที่ของตัวเองได้อย่างถ่องแท้

    มาครับคุณโคลม เดี๋ยวผมพาไปเก็บของเขาผายมือให้หญิงสาวอย่างมีมารยาท โคลมได้แต่เดินออกไปอย่างงงๆ เธอกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตอนนี้อยู่

    เธอจะต้องอยู่ที่นี่...กับฮิบาริ เคียวยะ

    ผู้ชายที่มุคุโร่ไม่ถูกชะตาด้วย...

    แล้วทำไมมุคุโร่ถึงยอมให้เธอมาอยู่กับเขาได้?

    โคลมได้แต่เฝ้าถามตัวเองอยู่แบบนั้น แล้วเธอจะอยู่ร่วมกับเขาได้อย่างสงบสุขมั้ย

     

     

     

     

     

     

     -------------------------------------------------------------

    ตอนแรกอาจจะไม่มีอะไรเลย 555555

    (ไม่มีจริงๆ นั่นแหละ ออกแนว Introduction หน่อยๆ)

    ยังไงก็เดี๋ยวจะมาต่อให้เร็วที่สุดค่ะ ^_________^

    สุดท้ายนี้....ฝากเม้นท์ด้วยนะค้าาาา 

     

     

     

     

     

     

     


    ? cactus
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×