คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Episode 1
Episode
1
#ศูนย์บัญชาการใหญ่วองโกเล่แฟมิลี่ ประเทศอิตาลี
ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วดังกระทบกับพื้นหินอ่อนอย่างเป็นจังหวะ
ก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าห้องประชุมใหญ่ที่มักใช้ประชุมเรื่องสำคัญ
หญิงสาวผ่อนลมหายใจช้าๆ แล้วจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
ก่อนจะเคาะหลังมือสวยของตัวเองลงบนแผ่นประตูไม้หนาที่แลดูมีประวัติยาวนานมาเกือบร้อยปี
ประตูไม้ใหญ่ค่อยๆ ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของโคลม
โดคุโร่ หนึ่งในผู้พิทักษ์ธาตุสายหมอกของวองโกเล่แฟมิลี่
เธอค้อมตัวให้ทุกคนในห้องประชุมเล็กน้อย ก่อนจะมุ่งตรงไปยังเก้าอี้ว่างที่อยู่เกือบท้ายสุดของโต๊ะตัวใหญ่
“มาแล้วเหรอโคลม” ผู้มีอำนาจสูงสุดของที่นี่เอ่ยถาม โคลมพยักหน้าให้บอสของเธอเล็กน้อย
แล้วกุลีกุจอเปิดเอกสารที่แบกมาด้วย
โคลมมองตัวหนังสือภาษาอิตาลีมากมายก่ายกองที่อยู่บนแผ่นกระดาษด้วยความเหนื่อยใจ
เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่าอีกไม่นานเธอก็คงชินไปเอง
โคลมไม่ค่อยมีโอกาสได้เรียนอย่างผู้พิทักษ์คนอื่นๆ เท่าไหร่นัก
เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะเข้าใจอะไรได้ยากกว่าใครๆ ในห้องนี้
“เอาล่ะ
อย่างที่ฉันได้พูดไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีศัตรูของวองโกเล่เกิดขึ้นมาก
คนที่จ้องจะทำลายแฟมิลี่ของเราก็เยอะพอตัว...” ซาวาดะ
สึนะโยชิสูดลมหายใจเต็มปอด ก่อนจะเอ่ยต่อ “เพื่อเป็นการปกป้องคนของเรา
ฉันอยากให้ทุกคนย้ายที่ประจำที่อยู่ ณ ตอนนี้”
คำพูดของสึนะทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วเรียวสวยมุ่น
นั่นแปลว่าเธอจะต้องย้ายจากอิตาลีไปที่อื่นงั้นเหรอ? งั้นที่ไหนล่ะ...
“โคลม” เสียงเรียกชื่อทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งเบาๆ
ก่อนจะหันไปสบตาผู้เป็นบอส แล้วกระพริบตาปริบๆ
“คะ?”
“สามวันก่อนหน้านี้...ฉันได้ข่าวว่าโคลมถูกลอบทำร้ายงั้นเหรอ”
“เอ่อ...” หญิงสาวอึกอักเมื่อสายตาทั้งห้องประชุมจับจ้องมาที่เธอเกือบหมด
“ค่ะ แต่ฉันไม่ได้เป็นไรมาก”
โคลมเลี่ยงที่จะพูดเกี่ยวกับบาดแผลบริเวณแผ่นหลังของเธอ
เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่น่าพูดถึงสักนิด มีแต่จะทำให้ทุกๆ คนในที่นี้ลำบากใจเปล่าๆ
แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่อยากให้ใครๆ มองว่าเธอเป็นตัวถ่วงด้วย
“ถึงจะอย่างนั้นมันก็ไม่ปลอดภัย”
สึนะพูดเสียงเครียด “ฉันได้ปรึกษากับคนอื่นๆ
แล้วล่ะ”
“ปรึกษา?” โคลมทวนคำของสึนะงงๆ
“ฉันจะส่งเธอไปประจำที่อื่นก่อน”
คำพูดของสึนะทำเอาโคลมเบิกตากว้าง
“ที่อื่น? ที่ไหนคะบอส” หญิงสาวถามเสียงเครียดไม่แพ้กัน
“...ญี่ปุ่น”
ญี่ปุ่น...ให้เธอไปอยู่กับใครล่ะ!? ถ้าต้องย้ายไปญี่ปุ่นก็หมายความว่าเธอจะไม่ได้อยู่กับมุคุโร่
เคน จิกุสะน่ะสิ
“บอสคะ ฉัน...”
“ฉันเข้าใจนะว่าโคลมอยากจะอยู่กับมุคุโร่”
สึนะสบตาของเธอด้วยความหนักใจ “แต่นี่ก็เพื่อตัวเธอเอง
อีกอย่างมุคุโร่ก็เป็นคนเลือกที่จะตัดสินใจแบบนี้ด้วย”
ประโยคต่อมาของสึนะเปรียบเสมือนมือหนักๆ
ที่ฟาดลงมาบนหน้าเธออย่างแรง โคลมอึ้งจนเธอพูดไม่ออก
ทำไมมุคุโร่ถึงเลือกจะผลักไสเธอ? ถึงแม้จะทำด้วยความเป็นห่วงหรืออะไรก็ตามแต่
หรือเพราะมุคุโร่ไม่ต้องการเธอแล้ว?
มุคุโร่ที่ออกมาจากคุกวินดิเช่แล้วจะต้องการเธอไปเพื่ออะไรกัน...
“ท่านมุคุโร่อยากให้ฉันไปญี่ปุ่นเหรอคะ”
“...อืม” สึนะพยักหน้าเบาๆ
“รับทราบค่ะบอส” นั่นเป็นเพียงประโยคสุดท้ายของโคลม ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องประชุมนี้ไป
โคลมไม่รู้ว่าเธอเดินออกมาตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็มานอนร้องไห้ที่ห้องเสียแล้ว...
#สนามบินฟูมิชิโน อิตาลี
วันนี้คือวันที่เธอต้องเดินทางไปยังญี่ปุ่น โคลมกวาดตามองสนามบินที่กว้างใหญ่
ผู้คนมากมาย แต่หัวใจของเธอกลับอ้างว้างชอบกล ร่างเล็กอ้อนแอ้นกระชับกระเป๋าในมือแน่นก่อนจะเดินไปยังที่โหลดกระเป๋า
เธอมองตั๋วเครื่องบินในมือแล้วถอนหายใจออกมา
จนกระทั่งวันสุดท้ายของการอยู่ที่นี่...มุคุโร่ก็ไม่มาหาเธอ
น่าขำสิ้นดี นี่เธอกำลังหวังอะไรอยู่?
ในระหว่างที่เดินทางไปยังญี่ปุ่น
โคลมก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ เธอเปิดก๊อกน้ำในอ่างเล็กๆ ห้องน้ำบนเครื่องบินช่างคับแคบจนน่าอึดอัด
หลังจากล้างมือเสร็จ เธอก็เงยหน้ามองกระจกเพื่อเช็กความเรียบร้อยของตัวเอง
ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ใช่ภาพของเธอแต่อย่างใด... กลับกันมันคือภาพของผู้ชายสูงโปร่งที่มีผมน้ำเงินเข้มแสนคุ้นตา
“ท่านมุคุโร่...” โคลมครางชื่อของคนในกระจกออกมาเบาๆ
“สวัสดีครับโคลมที่น่ารักของผม”
คำทักทายของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวใจเต้นแรง
เธอนึกว่าเขาจะไม่มาเสียแล้ว
“ฉันคิดว่า...”
“ถึงผมจะยุ่งแค่ไหน
ผมก็ต้องมาหาคุณครับ” มุคุโร่พูดพร้อมกับระบายยิ้มบางๆ “เราอาจจะต้องห่างกันสักพัก แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ
ผมจะรีบสะสางงานที่นี่ให้เสร็จ แล้วทำให้เรากลับมาอยู่ด้วยกันอีก”
โคลมพยักหน้าแรงๆ ทั้งน้ำตา เธอเชื่อมั่นในตัวเขา
ไม่ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาจะจริงหรือเท็จ แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อโดยไม่มีข้อกังขา
“แล้วพบกันนะครับ”
“ค่ะ” มุคุโร่หายไปแล้ว
แต่หัวใจของหญิงสาวยังคงพองโตไม่หาย เธอรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาพบเขา
ได้พบกับ ‘โรคุโด มุคุโร่’
#สนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น
ในระหว่างที่โคลมกำลังลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่กว่าตัวออกจากช่องผู้โดยสารขาเข้านั้น
สายตาของเธอก็ไปสะดุดกับแผ่นป้ายใหญ่ๆ ที่มีชื่อของเธอเขียนอยู่ โคลมกระพริบตาถี่ๆ
ก่อนจะเดินไปยังผู้ชายที่แต่งตัวดูดี ใส่สูทผูกไทเรียบร้อย แต่เธอก็ติดใจกับทรงผมที่ดูแหวกแนวสุดๆ
ของเขาไม่เคยหาย ไม่ว่าจะเห็นมันกี่ครั้งก็ไม่เคยรู้สึกคุ้นชินเสียที
“สวัสดีครับคุณโคลม” ชายตรงหน้าทักเธอเสียงใส พร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง
“เอ่อ...สวัสดีค่ะ คุณคุซาคาเบะ?”
หญิงสาวพูดเสียงแผ่ว เพราะเธอไม่มั่นใจว่าพูดชื่อของอีกฝ่ายถูกมั้ย
เนื่องจากไม่ได้เจอกันมาหลายปี
“ครับ รถจอดอยู่ทางด้านนู้น
เดี๋ยวผมพาไปนะครับ”
“ดะ...เดี๋ยวค่ะ” ก่อนที่เขาจะออกตัว เธอก็ได้เอ่ยปากรั้งไว้เสียก่อน “ทำไมคุณคุซาคาเบะถึงมารับฉันล่ะคะ? หรือว่าบอสส่งให้ฉันมาอยู่กับคุณ”
“อ้าว นี่คุณวองโกเล่รุ่นสิบไม่ได้บอกคุณโคลมหรือครับว่าต้องไปอยู่กับใคร...”
คุซาคาเบะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกใจ หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ อย่างช่วยไม่ได้
“อืม ก็ไม่เชิงว่าอยู่กับผมหรอกครับ”
“คะ?”
“เอาเป็นว่าเราไปที่รถกันก่อนเถอะครับ”
โคลมได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของคุซาคาเบะที่เดินจากไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเธอ
ทำไมเขาถึงไม่ตอบคำถามเธอกันนะ? จะว่าไป...โคลมก็รู้สึกคุ้นๆ อยู่เหมือนกันว่าคุซาคาเบะคือลูกน้องของใคร
แต่ไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเสียที
สุดท้ายแล้ว หญิงสาวจึงจำใจเดินตามคุซาคาเบะไป
“ถึงแล้วครับ” คุซาคาเบะหยุดรถเบนต์ลี่ย์สีดำหน้าประตูไม้บานหนึ่ง โคลมก้าวเท้าลงมาจากรถ
ก่อนจะเงยหน้ามองที่อยู่อาศัยใหม่ของเธอด้วยความงงงวย
สมัยนี้มีใครเขาสร้างบ้านญี่ปุ่นอยู่กัน? เธอได้แต่ถามตัวเองในใจแบบนั้น
แล้วเดินตามคุซาคาเบะเข้าไป
หลังจากเปิดประตูไม้ออก
ภาพที่เห็นตรงหน้าก็คือสวนขนาดใหญ่ที่มีสไตล์ญี่ปุ่นแท้
เธอมองบรรยากาศโดยรอบด้วยสายตาเป็นประกาย โคลมไม่เคยอะไรแบบนี้มาก่อน
ไหนจะตัวบ้านที่ใหญ่ดุจดั่งปราสาทตรงหน้านี้อีก
เธอรู้สึกเหมือนตัวเองนั่งไทม์แมคชีนย้อนกลับมาสมัยยุคโชกุนยังไงยังงั้น
“คุณคุซาคาเบะ...” หญิงสาวเอ่ยเรียกคนตรงหน้าเบาๆ
“ครับ?”
“นี่ฉัน...ต้องอยู่ที่นี่เหรอคะ?”
“เอ่อ...ครับ คุณโคลมมีปัญหาอะไรรึเปล่า”
เขาถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้ายังตกตะลึงไม่หาย
“มะ...ไม่ค่ะ” โคลมส่ายหน้าเป็นพัลวัน “...แค่แปลกใจนิดหน่อย”
คุซาคาเบะพยักหน้ารับเบาๆ
แล้วเดินนำเข้าไปในบ้านหลังใหญ่สไตล์ญี่ปุ่น
เขาถอดรองเท้าอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โคลมได้แต่ทำตามอย่างเก้ๆ กังๆ
เธอเดินตามเขาต้อยๆ โดยไม่รู้จุดหมาย
ภายในตัวบ้านนั้นตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ญี่ปุ่นแท้จนเธอรู้สึกอึดอัด
โคลมไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ มันทำให้เธอเกร็งไปหมด...
ต่อมาคุซาคาเบะก็เลื่อนประตูออกอย่างเบามือ
เขาค่อยๆ ย่อตัวลงก่อนจะเดินเข่าเข้าไป
โคลมได้แต่มองพฤติกรรมของคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ นี่เธอกำลังจะไปพบใครกันแน่?
ทำไมทุกอย่างมันดูมีพิธีเยอะจัง
“เชิญครับคุณโคลม” น้ำเสียงของคุซาคาเบะปลุกให้โคลมตื่นจากภวังค์
ก่อนที่เธอจะถลาเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
โคลมเผลอสะดุดขาตัวเอง
เธอล้มลงไปกับพื้นตามแรงโน้มถ่วงโลก หญิงสาวหลับตาปี๋เพื่อรอรับแรงกระแทกที่จะตามมาในอีกไม่ช้า
แต่สัมผัสที่เธอได้รับกลับต่างไปจากที่คิด โคลมรู้สึกได้ถึงเนื้อผ้านุ่มๆ
บริเวณผิวแก้ม เธอจึงค่อยๆ ปรือตาขึ้นช้าๆ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ใช่พื้นเสื่อสีเขียวแต่อย่างใด
กลับกันมันคือตักของใครสักคน!
หญิงสาวรีบกระเด้งตัวขึ้นด้วยความตกใจ
ก่อนจะเบิกตากว้างยิ่งกว่าเก่าเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าของเธอคือใคร
ไรผมสีดำขลับซอยสั้น ผิวขาวติดจะซีดนิดหน่อย
ดวงตาเฉียบคมที่ฉายแววไม่เป็นมิตรตลอดเวลา โคลมกลืนน้ำลายลงคอ
ก่อนจะขบริมฝีปากแน่นด้วยความประหม่า
ฮิบาริ เคียวยะในชุดยูกาตะสีดำกำลังมองเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสุดๆ
“คะ...คุณ...” โคลมตะกุกตะกัก
“...”
“...เมฆา”
โคลมไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองหรือเปล่า
แต่เธอสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตบางอย่างกำลังแผ่ตัวกว้างออกมาจากผู้ชายตรงหน้า
เพียงแค่ฮิบาริจ้องมองเธอด้วยแววตาดุจราชสีห์นั่น มันก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของเธอหยุดเต้นแล้ว
“อะ...เอ่อ คุณโคลมครับ...”
คุซาคาเบะที่สังเกตได้ถึงบรรยากาศมาคุแปลกๆ เอ่ยขึ้นเบาๆ “นี่คือคุณฮิบาริ เคียวยะครับ”
หญิงสาวตรงหน้ารู้ดีว่าเขาคือใคร
แต่ไม่รู้ทำไมถึงเรียก ‘คุณเมฆา’ ซะจนติดปาก ทั้งๆ ที่ผู้ชายคนนี้ก็เคยมาหามุคุโร่หลายต่อหลายครั้ง
แต่โคลมก็เลือกที่จะเรียกเขาว่า ‘คุณเมฆา’ เหมือนแต่ก่อน
“...สวัสดีค่ะ” เธอเอ่ยทักทาย แต่ฮิบาริหาสนใจไม่
เขาเพียงหยิบชาขึ้นมาจิบต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะหันไปมองหน้าลูกน้องคนสนิท
“เท็ตสึ” เพียงแค่ฮิบาริเอ่ยชื่อ
คุซาคาเบะก็เข้าใจหน้าที่ของตัวเองได้อย่างถ่องแท้
“มาครับคุณโคลม
เดี๋ยวผมพาไปเก็บของ” เขาผายมือให้หญิงสาวอย่างมีมารยาท
โคลมได้แต่เดินออกไปอย่างงงๆ เธอกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตอนนี้อยู่
เธอจะต้องอยู่ที่นี่...กับฮิบาริ เคียวยะ
ผู้ชายที่มุคุโร่ไม่ถูกชะตาด้วย...
แล้วทำไมมุคุโร่ถึงยอมให้เธอมาอยู่กับเขาได้?
โคลมได้แต่เฝ้าถามตัวเองอยู่แบบนั้น
แล้วเธอจะอยู่ร่วมกับเขาได้อย่างสงบสุขมั้ย…
-------------------------------------------------------------
ตอนแรกอาจจะไม่มีอะไรเลย 555555
(ไม่มีจริงๆ นั่นแหละ ออกแนว Introduction หน่อยๆ)
ยังไงก็เดี๋ยวจะมาต่อให้เร็วที่สุดค่ะ ^_________^
สุดท้ายนี้....ฝากเม้นท์ด้วยนะค้าาาา
? cactus
ความคิดเห็น