ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : รักนะครับคุณชายของพวกผม # Chapter 3
ร่างบางในชุดสูทขาวเดินตามหลังเด็กหนุ่มเจ้าของขอบตาดำคล้ำ ลัดเลาะไปตามทางเดินของปราสาท
" ขอโทษนะครับ ผมขอถามชื่อคุณได้ไหมครับ " เสียงเรียบถามขึ้นระหว่างเดินทำลายบรรยากาศความเงียบเชียบ
" ภาม ส่วนคุณก็...ชินะ " เด็กหนุ่มตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
" กรุณาเรียกผมว่าคุณชายชินะด้วยครับ เราเพิ่งจะรู้จักกัน " เด็กหนุ่มยังคงเดินไปเรื่อย คุณชายเองก็พยายามตามเด็กหนุ่มไม่ห่างพร้อมคอยสังเกตสิ่งรอบๆ
... ตุบ ...
ร่างหนาของกลุ่มชายฉกรรย์ที่ไม่รู้ว่ากระโดดมาจากไหน ยืนขวางทางทั้งคู่
" น่าเบื่อ คุณชายรู้มั้ย นายน่ะหาตัวง่าย แต่เรื่องยุ่งยากมาก " ภามพูดก่อนจะสับลงที่คอเพื่อให้ชินะสลบไป แล้วหันกลับมาแสยะยิ้มให้กลุ่มชายชกรรย์ที่ตอนน้ีกลายเป็นฝูงไฮยีน่าเรียบร้อยแล้ว
.
.
.
.
" ให้ตายเถอะ ไอ้คุณชายเจ้าสำอางไปอยู่ไหนของมันกัน " การินสบถออกมาอย่างหงุดหงิด " ช่างมัน จะไปตายที่ไหนก็ช่าง! " ถึงจะพูดออกมาแบบนั้นแต่ในใจกลับกระวนกระวายว่าจะหาชินะเจอรึเปล่า
" หืม แถวนี้กลิ่นเลือดฟุ้งชมัด " อคินย่นจมูก นึกเกลียดจมูกที่ไวต่อกลิ่นของตัวเอง ร่างสูงเดินตามกลิ่นไปเรื่อยๆ ในขณะที่คนอื่นเดิมตามไปแบบงงๆ จนมาหยุดอยู่ที่ตรงทางเดินที่เกลื่อนไปด้วยคราบเลือดและศพไฮยีน่า
" กลิ่นเลือดยังสดอยู่ " อคินพูดขึ้น
" ไอ้ศาสดาปาหี่ แกลองใช้พลังหลอกเด็กของแกดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น "
" คิก เหมือนจะมีคนมาแย่งความรักจากคุณชายชินะเพิ่มนะครับ " พูดจบก็เปิดประตูห้องที่ใกล้มือที่สุดเข้าไป
" นาย!! " ภาพตรงหน้าคือเด็กหนุ่มผมสีคาราเมลสวมหมวกแกะนั่งอยู่ข้างเตียงเรือนใหญ่ บนเตียงมีร่างโปร่งบางนอนหลับตาพริ้มอยู่
" แก! ทำอะไรไอ้คุณชาย " การินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อภามอย่างแรงและเหวี่ยงไปทางเกรย์ที่เงียบตั้งแต่เข้าตัวปราสาท โชคดีที่ภามยังทรงตัวไปทัน
" ผมก็แค่มาช่วยเท่านั้นเอง " ภามตอบกลับหน้าตาย
" ฉันไม่เชื่อแกหรอก " การินยังคงคาดคั้น
" ผมกับอคินรู้จักเขาครับ และเท่าที่รู้จักกันมาเขาก็ไม่น่าจะเป็นต้นเหตุเรื่องนี้นะครับ ใช่ไหมครับ ท่านศาสดา " แคปเปอร์พูดตัดการิน พร้อมหันหน้าไปทางเชียร ที่หัวเราะคิกคิกกลับมาให้
" เอาล่ะ งั้นช่วยบอกหน่อยสิครับ ว่าคุณชายเป็นอะไรไป " เรวินถามขึ้น เพราะดูเหมือนในที่นี้ทุกคนจะรู้จักกันดี ยกเว้นเขาที่รู้จักแค่การินที่เคยร่วมงานกันมาก่อน
" อ่า ผมขอออกไปเดินสำรวจรอบๆดีกว่า " เป็นเกรย์ที่ขอตัวออกไปด้วยท่างทางที่ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนสะเท่าไร หลังจากที่เกรย์ออกไป บรรยากาศภายในห้องก็เข้าสู่ความกดดันเช่นเดิม ซึ่งแหล่งที่มาของออร่าดำมืดก็คงเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่การิน
" ผมก็แค่จะมาแลกความตายตามปกติ ตอนทำสัญญายกความตายก็ว่าง่ายๆนะ แต่ไม่คิดว่าจะมาติดพันเรื่องยุ่งยากเข้า แล้วก็นะ ตอนแรกว่าจะทิ้งเขาแล้วสิ แต่เขา'น่ารัก'ขนาดนี้ผมคงทิ้งไม่ลง "
... ผึง ...
ความอดทนเส้นสุดท้ายของการินขาดผึง ร่างสูงตรงเข้าไปปล่อยหมัดเข้าแก้มของภามเต็มๆ ภามเองก็สวนกลับอย่างไม่ยอมเหมือนกัน แล้วสงครามขนาดย่อมก็เกิดขึ้น
.
.
.
" อือ โอ๊ย " อ่า นี่มันอะไรกัน ปวดคอที่สุด มันคือความรู้สึกแรกที่ตื่นมาแล้วผมสัมผัสได้ ผมนึกถึงเรื่องก่อนที่จะสลบ ผมไม่ใช่พวกนางเอกเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วจะตกใจโวยวายหรอกนะ
... โครม ...
ผมหันไปตามที่มาของเสียง ภาพที่เห็นทำให้ผมรู้สึกดีใจมากๆ มากเสียจนเผลอปล่อยให้หยดน้ำอุ่นใสร่วงหล่นจากดวงตา
" หยุดทะเลาะกันได้แล้ว ผมตื่นแล้วนะ " ผมพูดออกไป พร้อมกับเดินไปกอดเข้าด้านหลังของใครสักคนที่ผมคิดว่าใกล้มือมากที่สุด เจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อย เขาแกะมือผมออกแล้ว หันกลับมาสบตากับผม
" ร้องไห้ทำไมครับ คิดถึงผมมากหรอ " เป็นเรวินเองที่ผมกอด นิ้วอุ่นเกลี่ยน้ำตาให้ผมเบาๆ สายตาเราสบกัน ผมสัมผัสได้ถึงประกายความอ่อนโยนที่เขามีให้ผมเสมอมา
" พวกนั้นรอคุณชายอยู่นะครับ " เรวินจับผมหันไปทางคนอื่นๆ ความรู้สึกตื้นตันเอ่อล้นออกมา ผมก้มหน้าปล่อยโฮร้องไห้แบบเด็กๆ ผมควรจะเมินเฉยเหมือนทุกครั้งแท้ๆ แต่ทุกครั้งที่ผมอยู่กับคนพวกนี้ผมไม่เคยทำแบบนั้นได้เลย ผมไม่รู้ว่าจะพูดว่ายังไงระหว่าง ' พวกเขาทำให้ผมไม่เป็นตัวเอง ไม่ฝืนเมินเฉยเหมือนที่ควรจะเป็น ' กับ ' พวกเขาทำให้ผมเป็นตัวเองมากที่สุด ทำให้ผมแสดงสีหน้า อารมณ์ต่างๆ ได้ตามที่ผมต้องการ '
... หมับ ...
อ้อมกอดอบอุ่นถูกมอบให้แก่ผม ที่สำคัญ คนที่กอดผมคือการิน เขามักจะพูดจาก้าวร้าว ว่าร้ายผมต่างๆนานา แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะไม่ลงท้ายด้วยคำว่า 'ที่พูดเพราะเป็นห่วงหรอกนะ' ผมรู้การแสดงออกของเขาแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แต่ความรักไม่ได้น้อยกว่าเลย สงสัยพวกเขาคงคิดว่าผมยังเขินไม่พอใช่ไหม ถึงได้ว่ากันมาพูดว่า'รักนะ'ใส่หูผมกันทุกคนแบบนี้ หัวใจผมเต้นรัวจนเหนื่อยแล้วนะ เจ้าพวกบุคคลอันตราย
" เลิกร้องไห้รึยัง " เสียงคุณอคินพูด
" เพราะใครล่ะครับ " ผมเถียงกลับ ผมพูดความจริงนะ พวกเขาอ่ะผิดเต็มๆ
" ครับๆ คุณเวลาเขินนี่น่ารักจังนะ " ว่าจบคนผมแดงยาวสวยคนเดียวในห้องก็โน้มหน้าลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ แล้วก็หัวเราะคิกคิกแบบเฉพาะตัว บ้าที่สุด! แบบนี้ผมเขินนะ
" เอาล่ะๆ ผมว่าเราควรรีบๆออกจากที่นี่กันได้แล้วนะครับ จากที่ไปเดินสำรวจมาผมเจอทางออกแล้วล่ะ " เป็นเกรย์เองที่พูด จริงสิ ผมไม่ทันสังเกตเลยว่าเมื่อกี้ยังมีคุณภามที่ไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราอยู่ในห้องและ...เห็นหมดทุกอย่าง
" คุณภามครับ เมื่อกี้... "
" อ่อ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวอีกหน่อยผมก็คงเป็นหนึ่งในนั้น "
" ค...ครับ " ผมรู้สึกว่าหน้าชักจะร้อนเกินไปแล้วสิ หัวใจก็เต้นแรงเกินไปแล้ว พวกคนเห็นแก่ตัวเอาแต่ใจ ทำอะไรเคยคิดถึงคนอื่นบ้างไหม เฮ้อ บอกไปก็เท่านั้น และตอนนี้คุณเชียรก็กำลังทำแบบนั้นอยู่ โดยการยกตัวผมลอยหวือเข้าไปแนบกับอกแกร่งสะแล้ว ป่วยการที่จะต่อว่า.... ต่อจากนี้หวังว่าพวกเราจะหนีออกไปอย่างปลอดภัยนะ
" ขอโทษนะครับ ผมขอถามชื่อคุณได้ไหมครับ " เสียงเรียบถามขึ้นระหว่างเดินทำลายบรรยากาศความเงียบเชียบ
" ภาม ส่วนคุณก็...ชินะ " เด็กหนุ่มตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
" กรุณาเรียกผมว่าคุณชายชินะด้วยครับ เราเพิ่งจะรู้จักกัน " เด็กหนุ่มยังคงเดินไปเรื่อย คุณชายเองก็พยายามตามเด็กหนุ่มไม่ห่างพร้อมคอยสังเกตสิ่งรอบๆ
... ตุบ ...
ร่างหนาของกลุ่มชายฉกรรย์ที่ไม่รู้ว่ากระโดดมาจากไหน ยืนขวางทางทั้งคู่
" น่าเบื่อ คุณชายรู้มั้ย นายน่ะหาตัวง่าย แต่เรื่องยุ่งยากมาก " ภามพูดก่อนจะสับลงที่คอเพื่อให้ชินะสลบไป แล้วหันกลับมาแสยะยิ้มให้กลุ่มชายชกรรย์ที่ตอนน้ีกลายเป็นฝูงไฮยีน่าเรียบร้อยแล้ว
.
.
.
.
" ให้ตายเถอะ ไอ้คุณชายเจ้าสำอางไปอยู่ไหนของมันกัน " การินสบถออกมาอย่างหงุดหงิด " ช่างมัน จะไปตายที่ไหนก็ช่าง! " ถึงจะพูดออกมาแบบนั้นแต่ในใจกลับกระวนกระวายว่าจะหาชินะเจอรึเปล่า
" หืม แถวนี้กลิ่นเลือดฟุ้งชมัด " อคินย่นจมูก นึกเกลียดจมูกที่ไวต่อกลิ่นของตัวเอง ร่างสูงเดินตามกลิ่นไปเรื่อยๆ ในขณะที่คนอื่นเดิมตามไปแบบงงๆ จนมาหยุดอยู่ที่ตรงทางเดินที่เกลื่อนไปด้วยคราบเลือดและศพไฮยีน่า
" กลิ่นเลือดยังสดอยู่ " อคินพูดขึ้น
" ไอ้ศาสดาปาหี่ แกลองใช้พลังหลอกเด็กของแกดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น "
" คิก เหมือนจะมีคนมาแย่งความรักจากคุณชายชินะเพิ่มนะครับ " พูดจบก็เปิดประตูห้องที่ใกล้มือที่สุดเข้าไป
" นาย!! " ภาพตรงหน้าคือเด็กหนุ่มผมสีคาราเมลสวมหมวกแกะนั่งอยู่ข้างเตียงเรือนใหญ่ บนเตียงมีร่างโปร่งบางนอนหลับตาพริ้มอยู่
" แก! ทำอะไรไอ้คุณชาย " การินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อภามอย่างแรงและเหวี่ยงไปทางเกรย์ที่เงียบตั้งแต่เข้าตัวปราสาท โชคดีที่ภามยังทรงตัวไปทัน
" ผมก็แค่มาช่วยเท่านั้นเอง " ภามตอบกลับหน้าตาย
" ฉันไม่เชื่อแกหรอก " การินยังคงคาดคั้น
" ผมกับอคินรู้จักเขาครับ และเท่าที่รู้จักกันมาเขาก็ไม่น่าจะเป็นต้นเหตุเรื่องนี้นะครับ ใช่ไหมครับ ท่านศาสดา " แคปเปอร์พูดตัดการิน พร้อมหันหน้าไปทางเชียร ที่หัวเราะคิกคิกกลับมาให้
" เอาล่ะ งั้นช่วยบอกหน่อยสิครับ ว่าคุณชายเป็นอะไรไป " เรวินถามขึ้น เพราะดูเหมือนในที่นี้ทุกคนจะรู้จักกันดี ยกเว้นเขาที่รู้จักแค่การินที่เคยร่วมงานกันมาก่อน
" อ่า ผมขอออกไปเดินสำรวจรอบๆดีกว่า " เป็นเกรย์ที่ขอตัวออกไปด้วยท่างทางที่ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนสะเท่าไร หลังจากที่เกรย์ออกไป บรรยากาศภายในห้องก็เข้าสู่ความกดดันเช่นเดิม ซึ่งแหล่งที่มาของออร่าดำมืดก็คงเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่การิน
" ผมก็แค่จะมาแลกความตายตามปกติ ตอนทำสัญญายกความตายก็ว่าง่ายๆนะ แต่ไม่คิดว่าจะมาติดพันเรื่องยุ่งยากเข้า แล้วก็นะ ตอนแรกว่าจะทิ้งเขาแล้วสิ แต่เขา'น่ารัก'ขนาดนี้ผมคงทิ้งไม่ลง "
... ผึง ...
ความอดทนเส้นสุดท้ายของการินขาดผึง ร่างสูงตรงเข้าไปปล่อยหมัดเข้าแก้มของภามเต็มๆ ภามเองก็สวนกลับอย่างไม่ยอมเหมือนกัน แล้วสงครามขนาดย่อมก็เกิดขึ้น
.
.
.
" อือ โอ๊ย " อ่า นี่มันอะไรกัน ปวดคอที่สุด มันคือความรู้สึกแรกที่ตื่นมาแล้วผมสัมผัสได้ ผมนึกถึงเรื่องก่อนที่จะสลบ ผมไม่ใช่พวกนางเอกเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วจะตกใจโวยวายหรอกนะ
... โครม ...
ผมหันไปตามที่มาของเสียง ภาพที่เห็นทำให้ผมรู้สึกดีใจมากๆ มากเสียจนเผลอปล่อยให้หยดน้ำอุ่นใสร่วงหล่นจากดวงตา
" หยุดทะเลาะกันได้แล้ว ผมตื่นแล้วนะ " ผมพูดออกไป พร้อมกับเดินไปกอดเข้าด้านหลังของใครสักคนที่ผมคิดว่าใกล้มือมากที่สุด เจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อย เขาแกะมือผมออกแล้ว หันกลับมาสบตากับผม
" ร้องไห้ทำไมครับ คิดถึงผมมากหรอ " เป็นเรวินเองที่ผมกอด นิ้วอุ่นเกลี่ยน้ำตาให้ผมเบาๆ สายตาเราสบกัน ผมสัมผัสได้ถึงประกายความอ่อนโยนที่เขามีให้ผมเสมอมา
" พวกนั้นรอคุณชายอยู่นะครับ " เรวินจับผมหันไปทางคนอื่นๆ ความรู้สึกตื้นตันเอ่อล้นออกมา ผมก้มหน้าปล่อยโฮร้องไห้แบบเด็กๆ ผมควรจะเมินเฉยเหมือนทุกครั้งแท้ๆ แต่ทุกครั้งที่ผมอยู่กับคนพวกนี้ผมไม่เคยทำแบบนั้นได้เลย ผมไม่รู้ว่าจะพูดว่ายังไงระหว่าง ' พวกเขาทำให้ผมไม่เป็นตัวเอง ไม่ฝืนเมินเฉยเหมือนที่ควรจะเป็น ' กับ ' พวกเขาทำให้ผมเป็นตัวเองมากที่สุด ทำให้ผมแสดงสีหน้า อารมณ์ต่างๆ ได้ตามที่ผมต้องการ '
... หมับ ...
อ้อมกอดอบอุ่นถูกมอบให้แก่ผม ที่สำคัญ คนที่กอดผมคือการิน เขามักจะพูดจาก้าวร้าว ว่าร้ายผมต่างๆนานา แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะไม่ลงท้ายด้วยคำว่า 'ที่พูดเพราะเป็นห่วงหรอกนะ' ผมรู้การแสดงออกของเขาแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แต่ความรักไม่ได้น้อยกว่าเลย สงสัยพวกเขาคงคิดว่าผมยังเขินไม่พอใช่ไหม ถึงได้ว่ากันมาพูดว่า'รักนะ'ใส่หูผมกันทุกคนแบบนี้ หัวใจผมเต้นรัวจนเหนื่อยแล้วนะ เจ้าพวกบุคคลอันตราย
" เลิกร้องไห้รึยัง " เสียงคุณอคินพูด
" เพราะใครล่ะครับ " ผมเถียงกลับ ผมพูดความจริงนะ พวกเขาอ่ะผิดเต็มๆ
" ครับๆ คุณเวลาเขินนี่น่ารักจังนะ " ว่าจบคนผมแดงยาวสวยคนเดียวในห้องก็โน้มหน้าลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ แล้วก็หัวเราะคิกคิกแบบเฉพาะตัว บ้าที่สุด! แบบนี้ผมเขินนะ
" เอาล่ะๆ ผมว่าเราควรรีบๆออกจากที่นี่กันได้แล้วนะครับ จากที่ไปเดินสำรวจมาผมเจอทางออกแล้วล่ะ " เป็นเกรย์เองที่พูด จริงสิ ผมไม่ทันสังเกตเลยว่าเมื่อกี้ยังมีคุณภามที่ไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราอยู่ในห้องและ...เห็นหมดทุกอย่าง
" คุณภามครับ เมื่อกี้... "
" อ่อ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวอีกหน่อยผมก็คงเป็นหนึ่งในนั้น "
" ค...ครับ " ผมรู้สึกว่าหน้าชักจะร้อนเกินไปแล้วสิ หัวใจก็เต้นแรงเกินไปแล้ว พวกคนเห็นแก่ตัวเอาแต่ใจ ทำอะไรเคยคิดถึงคนอื่นบ้างไหม เฮ้อ บอกไปก็เท่านั้น และตอนนี้คุณเชียรก็กำลังทำแบบนั้นอยู่ โดยการยกตัวผมลอยหวือเข้าไปแนบกับอกแกร่งสะแล้ว ป่วยการที่จะต่อว่า.... ต่อจากนี้หวังว่าพวกเราจะหนีออกไปอย่างปลอดภัยนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น