ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    'Short Story Princess'

    ลำดับตอนที่ #1 : Short Story Princess 1 : หญิงสาวไร้มือ

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 50



    หญิงสาวไร้มือ

    ....ในป่ามีมารร้ายอาศัยอยู่....
     
     
    ในร้านเล็กๆแห่งหนึ่งที่พักพิงของชาวบ้าน
    อิสตรีผิวขาว เรือนผมสีทอง ใบหน้างดงาม เฉกเช่น กับความละเอียดของผิวกาย นิ้วมือเรียวยาวพิณคันงาม สายแต่ละเส้นถูกนิ้วมือดีดบรรเลงเป็นเสียงทำนอง ริมฝีปากก็ขยับขับร้องเพลง
     
    เธอชื่อ เซลิน่า .. ที่หมายถึง พระจันท์
     
    และเมื่อเสียงเพลงจบลงเสียงปรบมือของเหล่าผู้ฟังที่ดีก็ดังขึ้น
    เสียงเพราะนุ่มนวลเหมือนเคยนะ
    เพลงของเซลิน่า ฟังแล้วหานเหนื่อยจากการทำงานเลย
    ไว้คราวหน้ามาเล่นให้ฟังอีกนะ เซลิน่า
     
    เซลิน่ายิ้มรับคำพูดของแต่ละคนเอาไว้ ก่อนเอ่ยว่า ขอบคุณ
     
    เฮ้ เซลิน่า!” เด็กหนุ่มวัยใกล้เคียงกับเซลิน่า ตะโกนพร้อมวิ่งเข้ามาหา
    ลอร์ฟ มาแล้ว ไปก่อนนะคะเซลิน่าเอ่ยลาทุกคนก่อนวิ่งไปหาเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า ลอร์ฟ
    คิดเรื่องนั้นหรือยังลอร์ฟถาม ลอร์ฟเป็นเด็กหนุ่มร่างสูง ผมสีทอง ตาสีฟ้า หน้าตาไม่จัดว่าดีเหมือนเซลิน่า แต่ก็ถือว่า ดูดี สำหรับหมู่บ้านทีเดียว
    อื้อ..เซลิน่าเอ่ยน้ำเสียงไม่ร่าเริงแบบลอร์ฟ ยังลังเลใจอยู่นิดหน่อยน่ะ..ถ้าข้าไปแล้วใครจะดูแลน้องๆกับแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ
     
    มัวมาจมปลักกับบ้านนอกแบบนี้นานแค่ไหน ก็ไม่ดีขึ้นหรอก เข้าเมืองหลวงไปปักธงกันเถอะ เจ้าเป็นคนสวย ฝีมือเล่นพิณกับเสียงของเซลิน่ารับรองหาผู้อุปถัมภ์ได้แน่ จะได้มีเงินส่งมาที่บ้านไงลอร์ฟเข้าไปกอดคอเซลิน่า พร้อมยกมือให้ทำนองว่า ถ้าเป็นเจ้าล่ะก็ ทำได้แน่
     
    อือ..นั่นสินะ ตกลงความลังเลใจหายไปเกือบหมด เพราะคำพูดของชายหนุ่มเบื้องหน้า
     
    เย็นวันนั้น ทั้งสองตัดสินใจเก็บกระเป๋าและเดินทางเพื่อเข้าเมือง..
    ป่าต้นสนสูงใหญ่ ทำให้ท้องฟ้าที่มืดอยู่แล้วมืดลงไปอีก ความหวาดกลัวจับเข้าที่หัวใจของเซลิน่า
    ลอร์ฟ เมื่อไรจะถึงล่ะ ข้ากลัว..
     
    อื้อ? คงใกล้ถึงแล้วล่ะมั้งลอร์ฟตอบ พร้อมเสยผมสีทองขึ้น พร้อมหันมองซ้ายมองขวา
    แต่ก่อนที่ เซลิน่าหรือลอร์ฟจะรู้ตัว ดาบเล่มหนึ่งก็ถูกพาดไว้ที่คอของลอร์ฟ
    ชาย..ผู้สวมหน้ากากครึ่งหน้า ขี่อาชาสีดำทมิฬ ถือดาบคมกริบราวกับตัดทุกสิ่งบนโลกได้พาดได้ตรงคอของชายหนุ่ม..
     
    รู้ไหม๊ บุกรุกเขตปราสาทของข้าต้องตายน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชาจนบาดลงไปถึงขั้วหัวใจของชาย-หญิงทั้งสอง ร่างของทั้งสองสั่นระริกด้วยความหวาดหลัว..ความเย็นเยียบของโลหะที่เรียกว่าดาบทำให้ลอร์ฟไม่กล้าที่จะขัดขืน ได้แต่นั่งสั้นราวลูกไก่ในกำมือ
     
    เดี๋ยวค่ะ!!” เซลิน่าทำใจกล้าตะโกนออกไป ชายผู้สวมหน้ากากครึ่งหน้าหันมามองเซลิน่า
     
    ร..เราไม่ใช่คนร้าย พวกเราแค่หลงทางมา ได้โปรดอภัยเซลิน่าอ้อนวอน ได้โปรดเถอะ
     
    “..แม่หญิง..ที่มีน้ำใจต่อคนรักถ้าเช่นนั้น..” บุรุษผู้สวมหน้ากากครึ่งหน้าเอ่ยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะอ่อนโยน ทำให้เซลิน่าเผยรอยยิ้มเล็กไม่รู้ตัว แต่ชั่ววินาที รอยยิ้มโหดเหี้ยมของบุรุษผู้นั้นก็เผยออกมาพร้อมกับเสียงออกค่อนตะโกน
     
    เจ้าจงรับโทษแทนซะ!”
     
    สิ้นเสียง เซลิน่าได้เห็นเพียงคมดาบตวัดจากบนบ่าของลอร์ฟ เข้าหาเธอแทน
    พร้อมกับ มือทั้งสองข้างกระเด็นลงบนพื้นและเสียงของแฟนหนุ่มตะโกนเรียกชื่อเธอลั่น
     
    เซลิน่า!!!!!!!!!!”
     
    …………………..
     
    นิ้วมือเรียวยาวของเธอ กำลัง ดีดพิณคันสีทอง สมบัติชิ้นเดียวของเธอที่มิได้ขายเพื่อเลี้ยงปากท้องของครอบครัว ..วินาทีนั้น เสียงของพิณที่บรรเลงก็ต่างไป ราวกับสายขาด..แต่ไม่ใช่หรอก
     
    เอ๊ะ!?
     
    เธองุนงง หันมองที่พิณ ..
     
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
     
    เธอกรีดร้อง ..มือของเธอ นิ้วของเธอที่เคยบรรเลงเพลงมันหายไปแล้ว..
     
    .........................................
     
    เธอสะดุ้งตื่นขึ้น ถอนหายใจว่ามันเพียงฝันร้าย
    เธอนอนอยู่บนเตียงสุดหรู..อย่างที่คนจนๆอย่างเธอมิเคยเห็น
    เธอเห็นสาวชราคนหนึ่งในชุดแม่บ้าน เธอจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
     
    “…ที่นี่คือ?”
     
    ปราสาทของท่านลอร์ดวิคเตอร์ค่ะหญิงชราตอบ พร้อม ส่งยิ้มที่ดูแหยๆให้
     
    ในใจของเซลิน่า ไม่ได้สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ ได้แต่ครุ่นคิด และ มองเพดานสีขาวสะอาด
     
    ท่านลอร์ด ?
     
    ทำไม?
     
    ข้าถึงอยู่ในปราสาท?
     
    ลอร์ฟเรียกชื่อข้า?
     
    แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น เสียงเปิดประตู ก็ทำให้เธอต้องเหลียวมอง
     
    ฟื้นแล้วรึบุรุษผู้สวมหน้ากากครึ่งหน้าคนนั้น..ปีศาจร้ายที่อาศัยในป่า
     
    ท่านคือ..ท่านลอร์ด?” เซลิน่าเอ่ยเบาๆอย่างไม่คิดจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ เมื่อเห็น หญิงรับใช้คนนั้นออกจากห้องไปตามที่ท่านลอร์ดคนนั้นสั่ง
     
    ได้โปรดปล่อยข้ากลับบ้านเถอะ ถ้าครอบครัวไม่มีข้า ครอบครัวมีหวังอดตายเซลิน่าร่ำร้องพร้อมพยุงตัวขึ้นนั่ง แต่ความรู้สึกเจ็บก็แล่นตัวล่าง ลามจากต้นแขนมา
     
    ท่านลอร์ดยิ้มเยาะ มือแบบนั้นจะไปทำอะไรได้
     
    เอ๋ ..
     
    เซลิน่า ตกใจ ยกมือทั้งสองของตนขึ้น หวาดกลัวว่าความฝันจะเป็นจริง..
    แต่เธอก็แทบจะกรีดร้องอีกครั้ง แต่กลับไม่มีเสียง เมื่อฝันร้ายมันกลายเป็นจริง
    มือทั้งสองข้าง นิ้วทั้งสิบ ของเธอหายไป..และเธอก็จำได้อย่างชัดเจนแล้ว ว่า มารร้ายเบื้องหน้าเป็นคนทำ
     
    เซลิน่าจ้องมองท่านลอร์ดราวกับว่าเขาเป็นมารร้ายไปแล้วจริงๆ มิใช่แค่คำเปรียบเทียบ..
     
    มารร้ายส่งสัญญาณให้หญิงชราคนรับใช้ออกไป
     
    มารร้าย ย่างก้าวเข้ามาใกล้เตียง ก่อนขึ้นมาบนเตียง
     
    ท่านจะทำอะไรน่ะ!” เซลิน่าร้อง พยายามเขยิบนี้ แต่เธอไม่มีแรงพอ...
     
    ท่านลอร์ดขึ้นคร่อมร่างวัยเยาว์ของเซลิน่า
     
    ถามอะไรไร้เดียงสาซะจริงพูดพร้อมกลั้วหัวเราะ
     
    ก่อนโน้มหน้าลงมาจูบเธอ เอาลิ้นลื่นๆและน่าขยะแขยง..เข้าไปในปากของเธอฉีกเสื้อเธอราวกับสัตว์ป่าที่กระหาย..
     
    ไม่!” เซลิน่าร้องพร้อมตวัดแขนที่ไร้มือตบเข้าที่หน้าของมารร้าย แต่พลาดไปโดนหน้ากากที่บดบังครึ่งหน้าเอาไว้ เผยให้เห็นแผลเป็นไฟไหม้น่ากลัว
     
    หน้าตาข้าน่ากลัวสินะ..แต่อย่าขัดขืนเลย..เพราะเจ้าเป็นเจ้าสาวของข้า เสียงนั้น ราวกับ เสียงของมารร้ายในนรก สำหรับเซลิน่า..
     
    ไม่..เซลิน่าขืนตัว ไม่ยอม แต่แรงบุรุษที่ไม่พิการอะไร กับ อิสตรีที่ไร้มือ ผลย่อมรู้ๆกันอยู่
     
    คนรักทิ้งเจ้าไม่ไยดี..เดี๋ยวก็ลืมเจ้ามารร้ายเอ่ยทำร้ายจิตใจ พร้อมกับ ล่วงล้ำร่างกายของเธอ เข้าไป
     
    ความเจ็บแล่นทั่วร่าง จาก หว่างขาขึ้นไปยังหัวใจ
     
    ญาติพี่น้องก็พึ่งพาไม่ได้..
     
    หัวใจกับร่างกายที่ถูกมารร้ายทำร้าย ได้แต่ร่ำร้อง กรีดร้องในใจ ผู้ชายเลวๆ...ทั้งชายคนนี้ ทั้งลอร์ฟ...
     
    ..แถมมือคู่นี้มิอาจเล่นพิณได้อีกแล้ว..เล่นพิณสิ่งเดียวที่เราทำได้
     
    .....................................
     
    นับจากวันนั้น วันแรกของปราสาท วันที่เธอเสียความบริสุทธิ์ วันที่เธอรู้ว่ามิอาจเล่นพิณได้อีกแล้ว
    เธอได้แต่เฝ้านั่งเฉยๆให้ คนรับใช้ของมารร้าย บรรจงแต่งเติมเธอ เพื่อรอให้มารร้ายมาเหยียบย่ำร่างกายของเธอทุกคืน..
     
    เธอเป็นเหมือนตุ๊กตา..แม้เพียงหยิบ ดาบ ฆ่าตัวตาย หรือ ผูกคอตาย ก็ไม่ได้..
    เธอได้ชื่อว่าเป็นเจ้าสาวของมารร้าย แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นเพียงทาสที่ช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้เลย
     
    .....................................
     
    โต๊ะอาหารยาว เธอนั่งอยู่ท้ายโต๊ะ มารร้ายตนนั้นนั่งอยู่หัวโต๊ะ ห่างไกลกันเกือบ3เมตร
    อาหารดูเลิศหรู..เลิศหรูเกินกว่าที่เธอเคยลิ้มรส..
     
    เอาเลยกินตามสบาย..มารร้ายเยาะ ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าเธอไร้มือ มันต้องการให้เธอก้มกินราวกับสุนัข
     
    ผู้ชายทุเรศ!
     
    แต่หากเธอดื้อแพ่งมิยอมทำตามก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากเธอจะปวดท้องอดตายเท่านั้น เธอจึงยอมทิ้งศักดิ์ศรีจนหมดสิ้น..ก้มลงกินราวกับสุนัข
     
    ฮะ ฮะ ฮ่า เหมือนหมาเลย เด็ดมากมารร้ายหัวเราะเยาะเสียงดังกึกก้องอย่างอารมณ์ดี
     
    เซลิน่าได้แต่คิดในใจ..ซ้ำไปซ้ำมา อย่าร้องไห้ หากไม่มีอะไรตกถึงท้องจะไม่มีแรงวิ่ง
    เซลิน่าตั้งใจจะหนี ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ กลับไปหาครอบครัว..
     
    แต่แล้ว..
     
    เธอออกมาห่างปราสาทได้ไม่ถึง 1 กิโลเมตร มารร้ายตนนั้นก็ขี่อาชาสีดำตัวเดิม..ตัวเดิมกับวันที่ตัดมือของเธอ มารร้ายควบม้าเข้ามาใกล้ ง้างมือใหญ่ หนา และ หยาบกร้าน ขึ้นตบเข้าที่หน้าของเซลิน่า
     
    ถ้าหนี ข้าจะฆ่าพี่น้องของเจ้าน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชากว่าครั้งไหน มิต้องสงสัยเลยว่า เขานั้นมิได้เพียงแค่ขู่ แววตามองดูเธอราวกับว่าเธอเป็นทาสที่มิอาจหลีกหนีพ้น
     
    ท่าน..เซลิน่าที่ก้มหน้าเพราะแรงตบ ก็ เงยหน้าขึ้นตวาดเสียงดัง ท่านไม่ใช่คน ถ้าชิงชังข่านักก็ฆ่าข้าสิ! อย่าปล่อยให้ข้าตายทั้งเป็น
     
    ข้าไม่สนว่าเจ้าจะตายทั้งเป็นหรือต้องการอะไร ข้าซื้อเจ้ามาแล้ว มารร้ายเอ่ยเสียงเย็น
     
    ซื้อข้า..เซลิน่าทวนเสียงสั่น
     
    ใช่..แถมครอบครัวเจ้าก็รับเงินอย่างดีอกดีใจ ไม่ถามถึงว่าเจ้าเป็นยังไงเลยด้วยซ้ำมารร้ายยิ้ม เหยียบย่ำหัวใจของเซลิน่า..ยิ่งตอกย้ำว่าเธอไม่มีที่จะให้กลับไปอีกแล้ว ไม่มีครอบครัวอีกแล้ว..
     
    ใช่แล้ว..เจ้าเป็นของข้า เซลิน่า..เสียงนั้นตอกย้ำความเป็นจริงอันน้อยนิด ในชีวิตของเธอ..
     
    ..................................................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×