คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Bap Coffee Shop MyBaby : 3
บทที่ 3
(Zelo Talk)
ตอนพักเที่ยงวันต่อมา
“เบื่อๆๆๆๆๆๆๆ โว้ย!!!!!” และเสียงๆนั้นก็คือเสียงผมเอง
“เฮ้ยเป็นไรว่ะ ไอเซโล่” จงออบเพื่อนที่สนิทกับผมมากที่สุดในโรงเรียนเอ่ยถาม
“ก็แค่เบื่อกลับชีวิตว่ะ จงออบ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงหงุดหงิดแบบนี้”
“หงุดหงิดเรื่อง นาอึนสินะ” จงออบนั่งทิ้งตัวมาข้างๆผม
“ก็ใช่…….เอ้ย!!! ไม่ใช่ๆๆๆ เข้าใจผิดแล้วโว้ย จงออบ!!!” ผมพลักจงออบทีหนึ่ง
“ถ้าใช่ก็พูดมาเถอะน่า~~~ หนุ่มน้อย เซโล่ วันหลังเรียกฉันว่าฮยองซะด้วยล่ะ อย่าลืม”
“ฮยองก็ ฮยองก็ได้ว่ะ และนี่ ไม่ไปซ้อมเต้นบีบอยหรอกเหรอ” ผมหันไปจงออบอย่างหัวเสีย
“มี…….อืม......แต่เดี๋ยวก็ไปแล้วล่ะ เห็นนายมานั่งซึมนะเนอะ ก็เลยมาคุยเป็นเพื่อน”
“อ้อ นายคงนึกว่าฉันเหงาสินะ”
“อ้าวแล้วนายคิดว่านายเหงามั้ยล่ะ”จงออบลูบหัวผมทีหนึ่ง เห็นผมเป็นเด็กอีกแล้วเนี่ย
“อืม......”
“อ้าว ถ้านายเหงาทำไมถึงไม่เข้าชมรมบีบอยของเราล่ะ หื้อ”
“ผมกลัวจะไม่มีเวลาว่างไปซ้อมน่ะสิ ก็เราเป็นนักร้องของค่ายทีเอสไม่ใช่เหรอ”
“นั่นมันก็จริง แต่เราก็ควรมีเวลาว่างฝึกแบบนี้มั่งสิ ไม่ใช่เอะอะเลิกเรียนก็ไปซ้อมที่ค่ายตลอดน่ะ คนเราต้องหาประสบการณ์ในชีวิตประจำวันบ้างนะ รู้มั้ย” ทำไมหมู่นี้จงออบฮยองพูดมากจังนะ
“มันก็จริงนะ”
“เออ.....ขอเปลี่ยนเรื่องนิดหนึ่งและกัน นาอึนรู้ห่รือยังว่าเราเป็นนักร้องของค่ายนี่น่ะ”
“ดูท่าจะไม่รู้นะ ผมไม่คิดจะบอกเอด้วยซ้ำว่าเราทำงานเป็นนักร้องด้วย”
“และถ้าเกิดวันหนึ่งนาอีนรู้ขึ้นมาล่ะ นายจะทำยังไง”
“ผมว่านาอึนรู้แล้วล่ะมั้ง”
“อ้าวเฮ้ย!!!! แล้วตกลงมันยังไงกันแน่เซโล่ นายกำลังทำให้ฉันงงนะ เฮ้ย!!!”
“งั้นผมขอเปลี่ยนคำพูดและกัน” จงออบส่ายหัวกับคำพูดของผม อารมณ์ของผมแปรปรวนไปเรื่อยนั่นล่ะนะ ต้องเข้าใจ
“แล้วทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ เซโล่” จงออบมองหน้าผมนิ่ง
“ก็หลายครั้งแล้วที่เธอมักจะเดินหนีผมน่ะ แค่มีสาวๆมารุมล้อมให้ขวัญผมหน่อยนะ เธอก็หายไปเลย เธอคงจะรู้ตั้งนานแล้วล่ะ” ผมยิ้มแห้งๆออกมา
“นายพูดอย่างกับนายชอบนาอึนยังไงอย่างนั้นน่ะ”
“เฮ้ย!!! ไม่ใช่แบบนั้นนะ ผมไม่ได้ชอบซะหน่อย”
“จะไม่ใช่ได้ยังไง ในเมื่อนายแคร์ความรู้สึกนาอึนตลอด มองหาเธอตลอด ตามหาเธอไปทั่ว แบบนี้จะไม่ใช่ได้ยังไง นายไม่รู้ใจตัวเองเลยเหรอเนี่ย”
“ไม่ใช่ๆๆๆ ไม่ใช่เด็ดขาด เธอเป็นเพื่อนกับผมมาตั้งนานจะให้คิดเกินเพื่อนได้ยังไง แบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดน่ะ” ผมส่ายหัวรัว
“แต่ถ้าคิดเกินเพื่อนได้ล่ะ”
ผมเงียบไปกลับคุพุดของจงออบเมื่อกี้นี้ อาจจะคิดได้สินะ
“งั้นนายลองนึกดู เวลาที่นายไม่มีใคร นายจะหาใครเป็นอันดับแรกเลยล่ะ”
“ไม่ก็นาย หรือไม่ก็นาอึน”
“โอเค และนายคิดว่าเวลานายอยู่กับใครแล้วมีความสุขที่สุด”
“ไม่รู้สิ” ผมส่ายหัวอย่าง งงๆ คิดยากเหมือนกันแหะ
“งั้นพรุ่งนี้นายก็ลองทดสอบใจตัวเองนะ วันนี้ก็ลองหลบหน้านาอึนไปซักหนึ่งวันก่อนและก็คอยดูท่าทางของนาอึนเป็นยังไงเวลาที่นายไม่อยู่ โอเคมั้ย” จงออบยิ้มมาทางผม
“ก็ได้ผมจะลองดู”
“งั้นก็แทดมือกัน” จงออบยกมือขึ้น
“โอเค ได้เลย” ผมแทคมือไปที่จงออบทีหนึ่งดีล่ะ ตั้งแต่วันนี้ผมจะลองทดสอบใจตัวเองดูล่ะ ลองดูว่าจะเป็นยังไงนะ
พักเที่ยง
(Naeun Talk)
ทำไมวันนี้รู้สึกหงุดหงิดชะมัดเลยนะ เหมือนขาดอะไรไปอย่างเลยแหะ ตอนนี้พักเที่ยง แต่ทำไมไม่หิวเลยเนี่ย แปลกชะมัดเลยแหะ ขาดอะไรไปนะ ฉันนั่งอยู่ในห้องนี้นานเท่าไหร่แล้วนะ ฉันหันไปมองรอบๆตัวอีกรอบ ยังไม่มีใครขึ้นมาเล้ย
ว่าแต่ เซโล่หายไปไหนล่ะเนี่ย เห็นทุกทีจะขึ้นมานั่งคุยเป็นเพื่อน มากวนตลอดเลยนี่หน่า วันนี้แปลกหายไปตั้งแต่เช้า หายไปซะดื้อๆ ไม่เห็นแม้แต่เหงาเลยแหะ ฉันหันหน้าซ้ายขวา พยายามตามหา เซโล่
แต่ไม่พบอะไรซักอย่าง ตกลงฉันจะเจอเซล่มั้ยเนี่ยวันนี้ โอหงุดหงิดจังเลย ฉันขยี้หัวตัวเองทีหนึ่งก่อนลุกขึ้น ไปร้านกาแฟดีมั้ยนะ ไม่ใช่ฉันอยากเจอแดฮยอนหรอกนะ แต่ฉันแค่อยากไปลองชิมกาแฟ พี่ฮิมชานดูเท่านั้นล่ะ
ร้านกาแฟ
ฉันคิดในใจมาได้ไม่เท่าไหร่ฉันก็ถึงร้านกาแฟจนได้ ตอนนี้ยืนอยู่หน้าร้อนกาแฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คึๆๆๆ และฉันก็เปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ทำไมถึงรู้สึกเหมือนมีคนมองเลยนะ แปลกชะมัดเลย
“อ้าว~~~~สาวน้อยคนนั้นนั่นเอง รอตั้งนานแน่ะ” ฮิมชานโอป้าเดินมาทางฉันอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลเล้ย
“โอป้ารอฉันจริงๆเหรอค่ะเนี่ย” ฉันเอียงคอสงสัย
“ก็ใช่น่ะสิ ไหนๆมาและลองชิมมอลค่าดูหน่อยและกัน” ฮิมชานโอป้าเดินมากอดไหล่ฉันและดันตัวฉันให้นั่งลงและยื่นกาแฟมาให้
“เออ......พอดีหนูไม่ชอบกินน่ะค่ะ”
“ลองกินเถอะนะๆ มีส่วนประกอบของช็อกโกแลตด้วย คงไม่เป็นอันตรายอะไรหรอก ลองกินดูๆ” พี่ฮิมยิ้มหวานมาให้ฉัน ฉันเลยมองลายบนหน้ากาแฟเป็นรูปตัวอักษรเขียนว่า B.A.P คุ้นๆนะ
“ก็ได้ค่ะ ว่าแต่..... B.A.P นี่คืออะไรเหรอค่ะ”
“ชื่อวงของโอป้าเองน่ะ”
“วง? โอป้ามีวงเป็นของตัวเองด้วยเหรอ”
“อื้มใช่......วงเต้นอ่ะนะ”
“เอ๊ะ!!! เป็นวงเต้นแต่ทำไมถึงมาทำงานร้านกาแฟที่นี่ล่ะ” ฉันถามอย่างสงสัย
“อืม....จะว่าเป็นรายได้เสริมก็ได้นะ โอป้าไม่ว่าหรอก”
“เป็นนักร้องแล้วทั้งทีแปลกจังเลยนะ ทำไมโอป้าถึงไม่ดังนะ”
“ดังสิ สาวน้อยไม่รู้จักวงของโอป้าจริงๆเหรอ” ฮิมชานโอป้ายื่นหน้มาใกล้ฉัน
ฉันเลยได้แต่ส่ายหัวอีกรอบ เลยทำให้ฮิมชานโอป้าถอยลงไปนั่งที่เดิม
“ถ้ารู้จักก็ดีนะ โอป้าจะได้ร้องเพลงใหม่ให้ฟัง” ร้องเพลง?
“ร้องเพลงเหรอค่ะ เพลงอะไรเหรอ” ฉันถามอย่างตื่นเต้น
“เพลง coffee shop น่ะ เป็นชื่อร้านกาแฟนี้ล่ะ แต่ถ้าจะให้ร้องนะ โอป้าคงร้องไม่ได้หรอก พอดีท่อนที่โอป้าร้องไม่ค่อยเยอะน่ะจ้ะ ต้องพนักงานเสริฟ์ที่ร้านเราอย่างแดฮยอนร้องให้ฟังนู่น” ฮิมชานชี้นิ้วไปทางด้านหลังฉัน เลยทำให้ฉันมองตามนิ้งที่เค้าชี้ไป เลยทำให้เห็นแดฮยอนโอป้ายกกาแฟมาเสริฟ์ลูกค้าอยู่นั่นเอง
“อยากให้เค้าร้องให้ฟังมั้ยล่ะ เดี๋บวเรียกเค้ามาร้องให้ฟัง”
“ไม่ๆๆ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เกรงใจเปล่าๆ”
“งั้นเหรอ เสียดาย อุตสาห์จะได้ลูกค้ารายใหม่ แล้วเชียว”
“ห่ะ!!! อะไรนะค่ะ”
“ช่างมัน อย่าได้ใส่ใจเลยนะ คึๆ ก่อนอ่านกินดูหรือยังล่ะ มอคค่าน่ะ” ฮิมชี้มาทางฉัน ฉันเลยจิบขึ้นไปคำหนึ่ง อร่อย รสชาติใช้ได้เลย
“อร่อยจัง ใครเป็นคนชงค่ะเนี่ย” ฉันถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น
“กุ๊กกี้!!! กุ๊กกี้เป็นคนทำนะ หึๆ ^_^”
“อื้ม ไม่น่าเชื่อเห็นหน้าโหดๆแบบนั้นไม่น่าชงกาแฟได้อร่อยแบบบนี้เลยนี่หน่า”
“กุ๊กกี้เค้าเป็นคนแบบนี้ล่ะ หน้าตาเค้าดดูดุ แต่นิสัยดีมากเลยล่ะ กุ๊กกี้น่ะ”
“จะเรียกแบบบนั้นไปถึงไหนกัน ฮิมชาน!!!” ยงกุกโอป้าเดินเข้ามาหน้าบึ้งเช่นเคย
“ก็ฉันชอบเรียกนี่หน่า จะห้ามก็ไม่ได้ล่ะนะ กุ๊กกี้ =3=” ฮิมชานโอป้าทำหน้ามุ่ย
“ถ้าฉันห้ามได้ล่ะ จะหยุดเรียกมั้ย!!!”
“ไม่!!!” ฮิมนชานโอป้าหันหน้าเชิด เหมือนผู้หญิงยังไงๆ ก็ไม่รู้
“ก็ได้ สาวน้อย ช่วยไปนั่งที่อื่นได้มั้ย หรือไม่ก็ไปนั่งกับยองแจที่กำลังนั่งเขียนงานอยู่ก็ได้ โอเคมั้ย” ยงกุกโอป้าพูดและยิ้มาทางฉันอย่างอ่อนแบบแปลกๆ ฉันเลยทำได้แค่พยักหน้าและลุกขึ้นเดินไปหายองแจโอป้าทันที
“ยองโอป้านั่งทำอะไรอยู่เหรอค่ะ” ฉันนั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ข้างหน้ายองแจโอป้าช้าๆ
“อ๋อ นั่งทำตารางงาน ที่จำจัดกิจกรรมในโรงเรียนเราไง ฉันเป็นประธานนี่เนอะ งานยุ่งยากนิดหนึ่ง” ยองแจโอป้ามองหน้าฉันนิดหนึ่งและก็ก้มนั่งเขียนอะไรก็ไม่รู้ต่อ จริงด้วยสินะ ยองแจโอป้าเค้าเป็นประธานนักเรียนของมหาลัยนี่ล่ะเนอะ
“ว่าแต่เธอไม่มีการบ้านต้องทำเหรอ ถึงมานั่งอยู่ที่นี่น่ะ” ยองแจโอป้าถามฉันขึ้นมาในขณะที่หน้ายังก้มเขียนงานอยู่
“ก็มีนะค่ะ แต่ส่วนใหญ่เป็นงานในชั่วโมงเลย เลยไม่มีการบ้านน่ะค่ะ”
“อ้อ ดีกว่าฉันเยอะเลยนะเนี่ย ฉันเนี่ยไม่น่าเรียนเก่งเลยนะ เอาจริงๆ หึ” ยองแจโอป้าขำออกมานิดหนึ่งและก็นั่งเขียนงานต่อ และฉันและยองแจโอป้า ต่างคนต่างเงียบไปซักพัก ฉันก็เข้าสู่โหมดคิดในใจ ยองแจโอป้าก็นั่งเขียนอยู่อย่างนั้น เฮ้ย ทำไมรู้สึกอึดอัดจังนะ ไม่เข้าใจเลย
“ยองแจทำไมทำงานอยู่คนเดียวแบบนั้นว่ะ ทำไมไม่ให้ช่วยเล่า ฉันเป็นผู้ช่วยนายไม่ใช่หรือยังห่ะ!!!!” เสียงแดฮยอนดังมาทางด้านหลังฉัน แต่แปลก ทำไมครั้งนี้ฉันถึงไม่กล้าหันหลังไปมองเลยล่ะ ตัวแข็งไปหมดเลยนะ
“เออ.....มาก็ดีและ มาช่วยเขียน เหนื่อยชะมัด” ยองแจโอป้าโยนปากกาทิ้ง และแดฮยอนก็หยุดอยู่ที่ต๊ะที่ฉันและยองแจโอป้านั่งทันทีและเค้าก็พูดออกมา
“เธอ.......” เค้าลากเสียงยาว จนทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออก ทำไมล่ะ ฉันถึงตัวแข็งทำตามที่ใจสั่งไม่ได้เลยนะ
“แดฮยอน มัวยืนทำซากอะไรเล่า ลื่นเก้าอี้มานั่งช่วยงานสิ เดี๋ยวก็ไม่เสร็จกันพอดี” ยองแจโอป้าพูดขึ้นมา ทำให้แดฮยอนโอป้าไปลื่นเก้าอี้ตะข้างๆมานั่งจริงๆ ฝ่ายฉันที่นั่งนิ่งตัวไม่กระดิกไม่รู้จะพูดอะไร รู้เกร็งไม่หมดให้ตายเถอะ เป็นอะไรกันนะเรา
“แดฮยอน นายช่วยเขียนส่วนนี้ให้หน่อยโอเคมั้ย” ยองแจโอป้าสั่งให้แดฮยอนโอป้าทำตามที่สั่ง
“อืม......” ทำไมตอบแค่คำเดียวล่ะ ฉันเลยเงยหน้าขึ้นมองเข้าอีกที และก็พบว่าเค้ามองหน้าฉันอยู่ มองทำไมกันน่ะ อย่ามองสิ ฉันรีบก้มหน้าอย่างรวดเร็ว
“เธอ.......ตอนนั้น” แดฮยอนพุดออกมาไม่เท่าไหร่ แต่ทำกลับทำให้ร่างกายฉัน รีบลุกขึ้นยืนขึ้นมาและพูดขึ้นมาว่า
“ยองแจโอป้า ฉันกลับก่อนนะค่ะ ทำงานให้เสร็จไวๆนะค่ะ ไปล่ะค่ะ” ฉันก้มหัวให้ยองแจโอป้าทีหนึ่งและรีบเดินออกจากที่นั่งนั้นอย่างรวดเร็ว
“อ้าว!!! สาวน้อย จะรีบกลับไปไหนน่ะ” ฮิมชานโอป้าพุดขึ้นมาเสียงดัง”
“ฉันจะกลับแล้วน่ะค่ะ ลืมไปว่ามีเรียนคลาสต่อไป ไปก่อนนะค่ะ” ฉันหยุดยืนและก้มหัวให้เค้าทีหนึ่งและรีบเดินออกจากร้านอย่างรวดเร็ว
(Daehyun Talk)
ทำไมเธอต้องรีบหนีไปแบบนั้นด้วย ผมไม่เข้าใจเลยแหะ หรือเธอกลัวผมเรื่องเมื่อวาน ที่จริงผมจะน่าจะขอโทษเธอไปนะ แต่ช่างเถอะ พรุ่งนี้ถ้าผมได้เจอเออีกผมคงได้ขอโทษเธอล่ะนะ
“เฮ้ย!!! แดฮยอนมัวทำอะไรอยู่เล่ารีบเขียนงานสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องรีบสั่งไปให้ ผอซ พรุ่งนี้นะ เดี๋ยวก้เวสร็จไม่ทันหรอก เข้าใจเปล่า” ยองแจเร่งผมให้รีบทำ
“ก็ได้.....”
“ขอถามไรอย่าง เมื่อกี้นายยจะด่าเธออีกใช่มั้ย”
“เฮ้ย ไม่ใช่ฉันจะขอโทษเธอต่างหากเล่า”
“อ้าวแล้วทำไม่ไม่รีบพูดเล่าพูดแบบนั้นเธอก็กลัวน่ะสิ นายนี่แปลกจริงๆเล้ย ช่างมันๆ รีบทำเขียนงานต่อเถอะ เฮ้อ~~~~”
“ยองแจ ว่าแต่ว่า เธอคนนั้นชื่ออะไรเหรอ” ผมถามยองแจอย่างสงสัย
“นาอึน เธอชื่อนาอึน นายจำเธอได้แล้วงั้นเหรอ”
“ห่ะ จำเธอได้”
“ช่างเถอะๆๆๆ นึกซะว่าเธอเมื่อกี้ฉันไม่ได้พูอะไรและกันนะ จำไม่ได้สินะ” ประโยคของยองแจพูดเสียงเบาลง แต่ผมกลับได้ยิน แต่ก็ทำได้แค่ไม่พูดอะไรออกมาแค่นั้นเองล่ะ
“ทำงานต่อเถอะ” ผมพูดเสียงลากออกยองแจก็นั่งลงมือทำงานต่อ
“ทำไมปนระโยคที่ยองแจกับนาอึนพูดถึงเหมือนกันเลยนะ ตอนนั้นนาอึนนาอึนก็พูดว่าจำไม่ได้สินะ แบบนี้ ตอนนี้ยองแจก็พูดอีก แปลกจัง ทำไมผมรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อของเธอนะ เหมือนจชื่อๆนั้นผมพูและเรียกบ่อยยังไงอย่างนั้นล่ะ สงสัยชะมัด เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมคงได้เจอเธออีก ถ้าผมได้เจอเธออีก
ผมขอขอโทษเธอ เรื่องที่พูดไส้ตอนนั้นหวังว่าคงได้เตจอเธออีกนะ
“หนุ่มรีบปั่นงานเร็วเข้าล่ะ ร้านเราจะเปิดทำงานแล้วไง เร็วเข้า รีบๆเข้าล่ะ” ฮิมชานฮยองยิ้มอย่างร่าเริงหลังจากที่เค้าทะเลาะกับยงกุกฮยองมาเป็นเวลานานหลังจากที่นาอึนกลับไปแล้ว ผมกับยองแจก็ปั่นงานจนเสร็จจนได้
“แดฮยอนมาเอาเอสเปรสโซไปเสริฟ์ลูกค้าโต๊ะที่เจ็ดสิ” ยงกุกฮยองสั่งผม ปมเลนรีบไปเสริฟ์ให้ หลังจากที่เสริฟ์เสร็จผมก็เดินออกมานั่งข้าวนอกถอนหายกินลมไปวันๆ เหมือนทุกๆครั้ง เฮ้ ทำไมเธอไม่มาอีกนะ ผมรู้สึกคุ้นเคยกับเธอจริงๆนะ
“เฮ้ย!! แดฮยอนแอบอู้งานเหรอว่ะ”
“จะคิดแบบนั้นก็ได้นะ” ผมหันไปยิ้มมุมปากให้ยองแจ ยองแจเดินมานั่งข้างผมและก็พูดออกมา
“นั่งนึกเรื่องของนาอึนอยู่สินะ”
“เฮ้ย ไม่ใช่ ฉันไม่มีความร็สึกคุ้นเคยกันนาอึนเลยนะ นายคิดมากไปแล้ว ไม่เลย”
“ความคุ้นเคยอะไรกัน ฉันยังไม่ถามนานเลยนะ บ้าไปหรือเปล่า ความลับเปิดเผยหมดแล้ว นายนึกถึงนาอึนอยู่ชัว”
“เออ...รู้ทันจนได้นะ”
“นิสับนายเป็นแบบนี้ตลอดนั่นล่ะ เวลาใครถามอะไร จับผิดตรงจุดนายเมื่อไหร่ นายก็จะพูดออกมาเลยตลอดนี่หน่า”
“ฉันรู้สึกเกลียดตัวเองตรงนี้ชะมัดเลย” ผมพุดอย่างหัวเสียออกมา
“หึ นายล่ะ เสมอเลยล่ะ เรื่องนี้” ยองแจส่ายหัวช้าๆ
“ยองแจ ว่าแต่ว่านาอึนแต่ก่อน เคยเป็นอะไรกับผมงั้นเหรอ”
“เคยสิ ตั้งแต่เกิดเหตุกาลแบบนั้น นายก็จำอะไรไม่ได้เลย”
“เหตุกาล? จำไม่ได้เลย? มันยังไงกันแน่ยองแจพูดให้มัน เข้าใจหน่อยสิ”
“เหอะน่า เดี๋ยวสักพักนายก็จะรู้เองล่ะ แดฮยอน ถ้านายอยากรู้มากก็ไปถามนาอึนซะ แล้วนายก็จะรู้เอง”
“จะถามยังไงล่ะ ตอนนี้นาอึนน่ะ.....”
“อ้อ ลืมไป ไม่สิ นายตั้งขอโทษนาอึนเค้าก่อน แต่ต้องรีบพุดนะ ไม่ใช่เหมือนวันนี้อีก พูดช้าเกิดไป จนเอกลัวจนหนีเลยเนี่ย หึ”
“โอเค จัดไปเลยและกันนะ”
ผมพยักหน้าช้า และหันหน้าไปทางเดิม มองเหม่อไปข้างนอกพร้อมๆยองแจ เวลาผมเบื่อหรือเซ็งอะไนรผมจมักจะทำแบบนี้ล่ะ เวลามองเหม่อๆแบบนี้มันรู้สึกปลดปล่อยไปอีกแบบนี้เนี่ย
“หนุ่มๆสองคน คิดจะโดงานอีกอีกแล้วเหรอ~~~” เสียงนี้มัน....
“ฮิมชานฮยอง!!!” ผมกับยองแจพูดประสานเสียงกัน
“ตอนนี้ลูกค้าเต็นร้านแล้ส มานั่งทำอะไรตรงนี้เน่าย รีบไปเสริฟ์กาแฟเดี๋ยวนี้เลย ไอ้พวกนี้ คิดจะโดดงั้นเหรอ!!!”
“ผมจะไปทำแล้วคร้าบบบบบบ” ผมกับยองแจพุดพร้อมกันอีกเที่ยว และรีบลุกขึ้นมารีบวิ่งเสริฟ์กาปฟทันที
จะบอกอะไรไว้ให้เห็นฮิมชานฮยองน่าตาดูเป็นมิตรแบบนี้เวลาโกรธเป็นคนล่ะอย่างกันเลยนะ ยงกุกฮยองยังจะดีซะกว่าอีก แต่คำสั่งนิดหน่อย แต่กับทำให้ผมรีบแบบนี้ ฮิมฮยองเค้าสุดยอดจริงๆเลย เชื่อผมสิ เหอะๆ
และเวลาก็ผ่านไปไหวเหมือนโกหก
“ทุกคยหลังจากเก็บข้าวเก็บของปิดร้านเสร็จเราจะไปซ้อมซ้อมเต้นที่ค่ายต่อนะ ใครยังเก็บอุปกรณ์ส่วนไม่ครบก็เก็บซะ เร็วๆ” ยงกุกฮยองสั่งออกมา
“เก็บเรียบร้อยแล้วครับ ยงกุกฮยอง” ยองแจพูดออกมา
“โอเค งั้นก็ไปกัน” ยงกุกฮยองเดินนำ แต่......
“ไปกันเถอะ กุ๊กกี้~~~~” ฮิมชานฮยองเดินเค้ากอดไหล่ ยงกุกอย่างอัตโนมัติ
“เฮ้ย เลิกเรียกแบบนั้นยได้แล้ว มันขนลุกโว้ย”
“โธ่~~~ ขอเรียกหน่อยไม่ได้เหรอ ชื่น่ารักดีออก”
“ชิ!!!!” ยงกุกฮยองกัดปากตัวเอง นิ่ง
“ยงกุกฮยอง...ฮิมชานฮยอง ผมลืมุดซ้อมเต้นไว้ทีบล้านน่ะ ผมขอตัวกลับไปเอาก่อนนะครับ ส่วนผมพวกฮยองไปก่อนก้ได้เดี๋ยวผมตามไปนะครับ” ผมเป็นคนพูดเองล่ะ
“ได้สิ รีบไปเลยนะ และก็ไม่ต้องมาเลยด้วย ถ้าจะให้ดี ยองแจไปเป็นเพื่อนเค้าเลยนะ” ฮิมชานฮยองพูดออกมา เอ๊ะ คิดอะไรกันอยู่น่ะ ฮิมชานฮยอง
“อะไรกัน ทำไมผมต้องไปด้วยเล่าให้เค้าไปคนเดียวสิ ฮยอง”
“ยองแจก้พูดถูกนะครับ ผมไปเอาคนเดียวได้ ผมไปนะครับ ฮยอง” ผมเดินตีตัวออกห่างพวกฮยองเดเนมุ่งหน้าไปทางป้ายรถเมล์
แต่แปลกฮิมชานฮยองคิดอะไรกับยงกุกฮยองหรือเปล่านะทำไมถึง พูดออกมาแบบนั้น ชายชอบชายเหรอ ขนลุกไปนะ ผมว่าแต่ช่างเถอะ
หลายครั้งเลยนะ ที่ผมเคยคิดว่า นาอึนอาจจะเคยเป็นมากกว่าเพื่อนกับผมหรือเปล่า แค่ผมกับไม่เชื่อแบบนั้น แต่ผมรู้สึกคุ้นเคยกับหน้าตาของเธอ ตอนที่ผมเจอเธอแรกๆ แต่ก็ทำได้แค่ทำได้แค่ จำอะไรไม่ได้เลย ก็ผมจำอะไรไม่ได้จริงน่ะสิ
ถ้าระหว่างทางกลับบ้านผมได้เจอเธออีกผมจะขอโทษเธอและถามเธอถึงเรื่องที่ผมสงสัยอีก ถ้าได้เจอล่ะนะ
ซึ่งคนๆนั้นก็คือ นาอึน
ผมได้เวลาถามเธอแล้ว
มันคงไม่ใช่บังเอิญแล้วล่ะ ผมจะไปถามเธอและขอโทษเธอ
นี่คงเป็นโอกาสของผมสินะ
ผมก้าวเท้าเข้าไปหาเธอที่ยืนอยู่แบบนั้น
ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้าย
ผมก็หยุดยืนข้างเธอจนได้
และเธอก็หันมา.......
# จบแบบนี้อีก เราชอบมีแรงบันดาลใจวเลานี้ล่ะ คึๆๆๆๆๆ แต่หนุกกันมั้ยเอ่ยยย มาติดตามกันได้เลยนะ คึๆๆๆๆๆ ตอนต่อไปอาจจะฟินกว่านี่อีก ติดตามกันได้ต่อไปจร้าาาาาา
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว วันนี้เลยอยากเอารูปนี้มาฟินกันซักหน่อย อิ เริ่มต้นที่ภาพแรก
ออบ.............คือทำไมต้อ
ประเดิมด้วยภาพต่อไป
เอ๊ะๆๆๆ มันคิดอะไรกัน ทำไมสองคนนี้จับมือกัน เค้าเป็นอะไรกันนร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ฟินกันทั่วโลก
แด้กับโล่นั่นเอง เห็นในเรื่องต่อยกันไม่ใช่เรอะ มาผิดทีและ
ภาพนี้เป็นส่วนหนึ่งของ mv จ้ะ
ุ้
ถ้าอยากดูแบบเคลื่อนไว
ไปดูได้ในคลิปที่โพสไว้ในหน้าหลักได้เลย
ดูตอนท้ายๆ
แล้วจะเห็นจร้าาาาา
จบอาการฟิน ชายรักชาย
แต่เพียงเท่านี้
คึๆๆๆ
:-Daisy ✿
ความคิดเห็น