คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chepter 2
Chapter 2
“เชนจ์...”เสียงเรียบของลุงดิออสเรียกชื่อเค้า จากหน้าหัวโต๊ะรับประทานอาหาร จนทำให้เชนจ์ต้องผละมือจากช้อนซ้อมและเงยหน้าขึ้นมาสบตาคุณลุง
“ฉันจะส่งเธอไป...”ดิออสกล่าวเสียงเรียบแต่ถูกเสียงโวยวายขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ดิออส!!!!”เสียงแหลมของรินร่าดังขึ้น “เชนจ์เพิ่งได้ออกจากห้องนั้นนะ ให้เชนจ์ได้ทำใจก่อนไม่ได้หรือไงค่ะ!”
“...งั้นตามใจ...แต่อีก 3 วันเชนจ์ต้องเตรียมตัวแล้ว เพราะฉันส่งจดหมายไปให้มานอพ์แล้วด้วยบอกให้เชนจ์เตรียมตัวด้วยล่ะกัน”ดิออสร่ายคำยาวรวดเดียวจบแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้โต๊ะรับประทานอาหาร เดินเข้าไปในห้องสมุดส่วนของตัวเอง
เชนจ์มองคุณป้ากับคุณลุงของตัวเองพูดอย่างงงๆ
“มีอะไรเหรอคับคุณป้า”เชนจ์ถามป้ารินร่าด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“กินข้าวให้เสร็จก่อนเถอะจ้ะเดี๋ยวป้าเล่าให้ฟัง”รินร่ากล่าวแล้วฉีกยิ้มแบบฝืนๆให้เชนจ์ ซึ่งเชนจ์รู้ว่ามันเป็นยิ้มที่ปรับแต่งขึ้น เพราะเค้าก็ฝืนยิ้มบ่อยๆจนรู้ ซึ่งเค้าก็ไม่ซักไซ้อะไรเพราะไม่ยากให้ป้าของเค้าลำบากใจ
“คับ....”เชนจ์ยิ้มรับคำ
“อ้าว...นั้นคริฟลูกจะออกจากบ้านไปไหน...จะไปเล่นอีกแล้วงั้นเหรอ นี้มันเย็นแล้วนะ”รินร่าเหล่มองไปที่ประตูบ้านเห็นคริฟเตอร์กำลังผูกเชือกรองเท้าของตัวเอง
“ง่า....โดนจับได้...แย่จัง”คริฟหน้าเหยเกเมื่อโดนจับได้
และแล้วคริฟเตอร์เองก็โดนเทนศ์อีกนานยกนาน
**************************************
ตอนนี้ผมได้รู้เรื่องที่คุณลุงของเค้าจะส่งเค้าให้ไปอยู่กับคุณอาที่เป็นพี่ชายของพ่อผมที่เสียชีวิตไปแล้ว...หลังจากกินข้าวสิ่งอาเค้าบอกมา ซึ่งผมฟังแล้วก็รู้สึกใจหายแต่มันก็สมควรสำหรับผมสินะ เพราะผมมันเป็นตัวซวยที่ทำให้ตระกูลนี้เสียชื่อเสียง ดังนั้นผมก็ไม่ควรเอาแต่ใจตัวเองสินะ... ผมต้องไป
นัยต์ตาสีน้ำตาลดำเหม่อลอยมองไปบนท้องฟ้าที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน บัดนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีแดง
อาจจะดีก็ได้...จะได้ไม่ต้องเป็นภาระคนอื่นเขา
เชนจ์เอนตัวพิงขอบหน้าต่างและเอามือจับหัวสร้อยคอเงินคริสตันสีน้ำเงินประกายสวยที่สวมอยู่อย่างเคยชิน ซึ่งสร้อยคอคริสตันนี้คือของดูต่างหน้าที่พ่อแม่ของเขาทิ้งไว้ ตั้งแต่เขาจำความได้เขาก็ได้มาอยู่ที่บ้านหลังซึ่งเป็นของคุณลุงดิออส เขาจำได้ว่าเขาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่เขา แต่โชคดีที่คุณลุงดิออสมีรูปพ่อแม่ของเขาอยู่เลยได้รู้จักหน้าตาพ่อแม่ของเขาและทำให้เขานั้นได้รู้ว่าเขาน่าตาเหมือนใครมากที่สุด
เชนจ์เอามืออีกข้างล้วงกระเป่ากางเกงตัวเองหยิบรูปภาพรูปนึงขึ้นมา ซึ่งภาพนั้นเป็นภาพชายหญิงคู่หนี่งที่ยืนคู่กัน ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าได้ว่าชายในภาพนั้น หน้าตาเหมือนออกมาพิมพ์เดียวเหมือนเชนจ์แต่ที่แตกต่างคือสีผมและสีตาของเชนจ์ ซึ่งเหมือนผู้หญิงที่ยืนข้างกายของชายในภาพ ทำให้เขามั่นใจว่าคนในภาพนี้คือ พ่อแม่ ของเขานั้นเอง
**************************************
วันออกเดินทาง
“เชนจ์ดูแลตัวเองดีนะ...เป็นเด็กดีเชื่อฟังผู้ใหญ่นะ...และอย่าลืมแปรงฟันก่อนนอนทุกครั้งด้วยล่ะ”ป้ารินร่าพร่ำพูดแล้วกอดเชนจ์แน่นในอ้อมกอดเหมือนจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ซึ่งเชนจ์เองพยักหน้าหงึกหงักอย่างรับฟังคำคำสั่งในอ้อมอกของป้ารินร่า จนกระทั่งจนแล้วจนเหล่าก็ไม่ยอมปล่อยเชนจ์ออกมาสักทีและยังพร่ำข้างหูเชนจ์อย่างไม่หยุด จนบุคคลสามคนซึ่งอยู่ดูเริ่มรำคาญและรอจนเมื่อย ก็ดูเหมือนว่ารินร่าก็ยังไม่ยอมปล่อยเชนจ์จากอ้อมกอดสักที จนต้องเอ่ยปากพูด
“...รินร่าปล่อยเชนจ์มันไปได้แล้ว...”ดิออสซึ่งอดทนรอไม่ไหวเลยต้องเอ่ยขึ้น
“ช่าย...ผมเนี่ยรอแม่พร่ำสั่งเสียจนเบื่อแทนเจ้าแทนมันแล้วนะแม่”คริฟเตอร์กล่าวส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย
“ใช่...มันได้เวลาต้องออกเดินทางแล้วด้วย ถ้าช้าไปกว่านี้ละก็อาจจะไปท่าเรือบินไม่ทันก็ได้”ฟิลล์นักเดินทางรับจ้างชายฉกรรณ์หนุ่มล่ำสันซึ่งคุณลุงดิออสจ้างมา กล่าวเตือน จกรินร่ายอมปล่อยเชนจ์จากอ้อมกอด แต่เธอก้ไม่วายลูบหัวเชนจ์และเอ่ยคำลาอีกครั้ง
“แข็งแกร่งเข้าไว้นะเชนจ์...”รินร่าตีหน้าเศร้าเอ่ยน้ำตาคลอ เชนจ์เข้ามาเช็ดน้ำตาให้หล่อน
“คับ...ผมจะแข็งแกร่งให้มากขึ้นเรื่อยๆ”เชนจ์กล่าวอย่างหนักแน่นและหันหลังเดินตามฟิลล์ซึ่งเป็นนักเดินทางไป
ความคิดเห็น