ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] หัวหน้าไค | Kailu Chanhun Feat.exo

    ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER TWO 100%

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 58


     

    เสียงนกร้องและลมหนาวปลุกให้ลู่หานตื่นขึ้นมาในเวลา6โมงเช้า เมื่อคืนนี้ลู่หานหลับสบายมาก อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าจากการขับรถมาทั้งวันบวกกับบรรยากาศสดชื่นเย็นสบายทำให้เค้าผ่อนคลายจนหลับสนิทตลอดคืน

     

    เจ้าตัวลุกขึ้นจากเตียงด้วยอาการสะลึมสะลือ เซเล็กน้อยเพราะยังไม่สร่างดี ปกติลู่หานไม่ใช่คนตื่นเช้าอะไรหรอก แต่เพราะชีวิตในเมืองที่ทุกอย่างรีบเร่งทำให้เค้าต้องเร่งนาฬิกาชีวิตตามไปด้วย สองขาเดินออกมานอกระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านพัก นั่งห้อยขาลงกับชานระเบียง สูดอากาศริสุทธ์เข้าเต็มปอด

     

    ที่จริงแล้วลู่หานไม่ใช่พวกคลั่งอุดมการณ์ถึงขนาดจะยอมละทิ้งความสุขสบายส่วนตัวแล้วมาใช้ชีวิตอยู่บ้านนอกบ้านนากลางป่ากลางเขาหรอกนะ ดูจากรถที่ขับ(คันละ23ล้านกว่า) เสื้อผ้าที่ใส่ ล้วนแล้วแต่แบรนเนมทั้งนั้น ไม่ได้อวดรวยหรอกนะแต่บ้านเค้าฐานะดีอ่ะให้ทำไง ที่ยื่นเรื่องขอย้ายมาประจำการที่นี่ก็เพราะอยากพิสูจน์ตัวเองมากกว่า

     

    แล้วที่เรียนสัตวแพทย์นี่ก็ไม่ได้รักสัตว์มากมายก่ายกองอะไรหรอกเพราะนอกจากหมาแมวกับปลาทองที่เลี้ยงไว้ที่บ้านเค้าก็ไม่ค่อยถูกกับสัตว์ชนิดไหนอีกเลย ลู่หานก็แค่อยากเป็นหมอ แต่ไม่อยากเป็นหมอรักษาคนเพราะขี้รำคาณและรู้ตัวดีว่าตัวเองปากหมา จะให้มาคีพลุ๊คเป็นคุณหมอหน้าใสหัวในมุ้งมิ้งคอยส่งยิ้มใจดีให้คนไข้มันไม่ใช่แนวเค้า เจ้าตัวจึงตัดสินใจเรียนสัตวแพทย์ แต่จบมาเปิดคลินิกรักษาสัตว์(ด้วยเงินของป๊าอีกตามเคย)ก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นมากนักหรอก เพราะลู่หานยังไงก็เป็นลู่หาน ปากเสียยังไงก็ยังปากเสียอยู่อย่างนั้น ยิ่งเวลาเจอเจ้าของสัตว์ที่พูดไม่รู้เรื่องโวยวายเกิดเหตุลู่หานนี่อยากจะวิ่งไปปล่อยอีกัวน่าในกรงใส่

    ท้ายที่สุดก็ต้องปิดกิจการ ไม่ใช่เพราะผลประกอบการไม่ดี แต่เป็นเพราะเค้าหมดไฟต่างหาก และนั่นเป็นสาเหตุที่ป๊าต้องยื่นมือเข้ามาช่วย?อีกครั้งด้วยการฝากฝังไว้กับเพื่อนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในกรมฯให้มาทำงานในฐานะเป็นหมออาสา ทีแรกก็ทำอยู่ด้านมวลชนสัมพันธ์ ให้คำปรึกษาชาวบ้านเรื่องการดูแลสัตว์และการอยู่ร่วมกันของคนและสัตว์ป่านิดๆหน่อยๆ หลังๆมาก็เป็นพวกควาญช้างในปางช้าง ทำอยู่ได้หลายเดือนเค้าก็ได้รับความไว้วางใจ?จากผู้ใหญ่ให้ย้ายมาประจำการที่นี่ นั่นแหละ เรื่องราวคร่าวๆของชีวิตคุณหมอลู่หาน

    ลู่หานเพิ่งสังเกตว่าบ้านพักหลังข้างๆที่ป้าแม่บ้านบอกว่าเป็นบ้านพักของหัวหน้าเกรียงไกรนั้นเป็นบ้านต้นไม้รูปทรงค่อนข้างแปลกตา

    “เป็นลิงรึไง สูงขนาดนั้นยังอุตส่าห์ปีนขึ้นไปอยู่” พึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนตั้งท่าจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่ก็มีเสียงตะโกนเรียกเค้าไว้ก่อน

     

    “คุณหมออออ คุณหมอครับ” ลู่หานหันมองหาต้นเสียงสักครู่ ก็เห็นว่าเป็นเด็กผู้ชายตัวขาวตาตี่ที่ดูเผินๆอายุน่าจะประมาณม.ปลายที่ร้องตะโกนเรียกเค้าจากทางด้านล่าง

     

    “มีอะไรครับ” ไม่รู้หรอกว่าคนตะโกนเป็นใคร แต่ตะโกนมาลู่หานก็ตะโกนกลับ


    “แม่ให้มาดูว่าคุณหมอตื่นรึยัง ถ้าตื่นแล้วไปกินข้าวเช้าที่โรงครัวนะครับ แม่ทำเสร็จแล้ว” เด็กหนุ่มยิ้มให้คุณหมอที่พยักหน้ารับคำแล้ววิ่งปร๋อกลับไปยังโรงครัว ก็หลังเดียวกันกับที่คุณป้าแม่บ้านบอกเค้าเมื่อคืนว่าพักอยู่นั่นแหละ เด็กหนุ่มคล้อยหลังได้ไม่นานก็มีเตียงเอ็ดตะโรดังเล็ดรอดมาเข้าหูคุณหมอหนุ่ม

     

    “เอ็งนี่มันจริงๆเลยไอ้แบค ใครใช้ให้ไปตะโกนเอะอะอย่างนั้น ถ้าคุณหมอเค้ายังไม่ตื่นจะว่าไง”


    “ถ้าไม่ตื่นแล้วหมอเค้าละเมอตอบผมหรอ แม่นี่ไม่รู้เรื่องเลย”


    “เอ๊ะไอ้นี่ ไปปลุกน้องเลยไป”


    “เนี่ยๆ เถียงไม่สู้แล้วก็มาทำเป็นไล่ มันยังไม่ตื่นหรอก เมื่อคืนคุยโทสับกับผู้ชายถึงตี2” เด็กหนุ่มว่าพลางชู2นิ้วก่อนจะวิ่งหนีตะหลิวในมือแม่ไปบ้านพักอีกหลังที่อยู่ถัดไป

     

    ลู่หานได้แต่มองภาพสองแม่ลูกเถียงกันยิ้มๆ


    อ่า...เค้าคงต้องไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วแหละ ป่านนี้คุณหัวหน้าคงออกจากป่าแล้ว จะได้เจอกันซักที อยากรู้เหมือนกันว่าหัวหน้าเกรียงไกรผู้ชื่อเสียงเลื่องลือระบือไกลไปถึงในกรมฯตัวเป็นๆจะหน้าตาดีอย่างที่สาวๆในกรมฯเค้าหวีดให้ฟังรึเปล่า


    50%


    กว่าจะจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จก็ปาไปเกือบ7โมงครึ่ง เพราะลู่หานมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้า รู้ตัวอีกทีก็ตอนเด็กแบคมาตะโกนบอกอีกรอบว่าหัวหน้ากลับมาแล้ว เจ้าตัวถึงได้รีบแต่งตัวด้วยชุดกึ่งทางการวิ่งแจ้นลงมา

     

              “อรุณสวัสดิ์ครับป้า”

     

              “ค่ะคุณหมอ นั่นอาหารเช้านะคะ เชิญตามสบายเลย ป้าต้องไปดูบ้านพักแขกก่อน มีอะไรเรียกใช้ไอ้แบคมันได้เลยนะคะ ถ้ามันขี้เกียจมาฟ้องป้าได้เลย” ยังไม่ทันที่คุณหมอจะได้ซักถามอะไรคุณป้าแม่บ้านก็เอ่ยขอตัวไปทำงานก่อนแล้ว คุณหมอลู่หานได้แต่รับคำพลางเกาท้ายทอยแก้เก้อ

     

              “สวัสดีอีกรอบครับคุณหมอ เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ยครับ” ลูกชายป้าแม่บ้านทักทายพลางตักข้าวใส่จานให้คุณหมอก่อนจะตักให้ตัวเองด้วยอีกจาน

     

              “ก็สบายดีนะ ที่นี่อากาศดี”


              “แล้ววว....คุณหมอรู้สึกถึงอะไรแปลกๆมั่งป่ะ แบบ เสียงกุกๆกักๆตอนดึกๆ หรือเสียงอะไรแปลกๆแบบไม่รู้สาเหตุอ่ะ”

     

              “ไม่มีนะ ทำไมหรอ”

     

              “เปล่าครับ ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว แต่ถ้าดึกๆมีเสียงผู้หญิงมาเรียกคุณหมออย่าขานรับนะครับ” เด็กตรงหน้าเอามือป้องปากทำซุบซิบราวกับว่ามันเป็นเรื่องความลับร้ายแรงเสียเต็มประดา แล้วอย่างนี้คนขี้ใส่ใจอย่างลู่หานจะยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆหรอ ไม่มีทาง

     

              “มันมีอะไร”

     

              “หมออย่าถามเลยนะครับ ผมลำบากใจจะตอบ”

     

              “อ่า..หมอขอโทษทีนะ ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร เอาไว้หมอไปถามคนอื่นก็ได้ เห้อ..อันที่จริงหมอเอาPS4ติดมาด้วย แต่เล่นคนเดียวมันคงไม่หนุก เอาไว้วันหลังหมอค่อยชวนเค้ามาเล่นด้วยดีกว่า”

     

              “โอ๊ยหมอ ทำไมต้องไปถามคนอื่นให้ยุ่งยากละครับ ถึงจะลำบากใจแต่ผมยินดีเล่านะ แม่บอกมีอะไรให้ถามผมได้ไม่ใช่หรอ นี่ไง ถามผมดีกว่า ผมนี่รู้ทุกอย่างเลยนะหมอ”

     

              “แบคไม่ลำบากใจแล้วหรอ”

     

              “วู้ยยย ลำบ่งลำบากอะไร เราคนกันเองหมอ ยังไงหมอก็ต้องอยู่ที่นี่อีกนาน คืองี้ หมอพึ่งมาอาจยังไม่รู้อะไร แต่คนในนี้แล้วก็ชาวบ้านเค้ารู้กันหมดว่านี่นี่อ่ะ มีผี”

     

              “ฮ่าๆ ทำเป็นมีลับลมคมใน นึกว่าเรื่องอะไร ผีเผออะไรมันไม่มีจริงหรอกน่า”

     

              “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ไปนะหมอ เมื่อต้นปีอ่ะมีพวกนักศึกษาเค้ามาดูงานที่นี่ แล้วก็พูดจาลบหลู่แบบหมอเนี่ยแหละ แล้วหมอรู้ป่ะว่าเกิดรัยขึ้น”

     

              “ผีหลอกหรอ”

     

              “ไม่อ่ะ ปกติดีทุกอย่าง”

     

              “อ้าว แล้วพูดทำไมวะเนี่ย”

     

              “ใจเย็นหมอ อย่าพึ่งขึ้นน่า ผมล้อเล่น” เด็กหนุ่มรีบฉุดแขนคุณหมอที่ทำท่าจะลุกหนีไว้พลางหัวเราะแหะๆ

     



              “มีรัยกินมั่งไอ้แบค” เสียงทุ้มของผู้มาใหม่ทำให้ลู่หานหันมามอง ภาพชายวัย30กว่าๆใส่เสื้อกล้ามยืดย้วยตัวเก่าที่คาดว่าครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วมันน่าจะเคยเป็นสีขาว นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวเดินโทงๆมากลางโรงครัวทำให้ลู่หานคิ้วกระตุกหน่อยๆแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คงเป็นคนที่พักอยู่ที่นี่เหมือนกับกับตนนั่นแหละ

     

              “ก็มีเท่าที่เห็นแหละเฮีย” แบคตอบกลับอย่างกวนๆ แล้วก็ได้รับฝ่ามืออรหันต์ฟาดกลางกบาลกลับมาเบาๆทีนึง

     

              “อรุณสวัสดิ์นะครับ” เป็นใครไม่รู้หรอก แต่ด้วยความมารยาทดีคุณหมอหนุ่มจึงทักทายคนมาใหม่ที่นั่งลงข้างๆ แถมยังยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่ได้รับกลับมาเพียงแค่การพยักหน้าเบาๆทีนึงกับประโยคที่ว่า “อืม”

     

              คุณหมอหน้าตึงเป็นอย่างแรง เหอะ ไม่มีมารยาทซะจริงๆ แต่งตัวก็ไม่ให้เกียรติสถานที่ ทำตัวอย่างกะคนป่า ดูจากสภาพนี่น่าจะยังไม่อาบน้ำด้วย มากินข้าวนี่ไม่รู้แปรงฟันรึยัง หน้าตาก็ดี แต่ซกมกที่สุด

     

    ฝ่ายแบคเมื่อเห็นคุณหมอหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัดก็รีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะบรรยากาศดีๆแบบนี้เค้าไม่อยากให้คนแก่?สองคนมาทำเสีย

     

              “แต่มันมีตำนานจริงๆนะหมอ ตรงท้ายอุทยานอ่ะมีหน้าผาอยู่ชื่อผานางเมิน มันมีเรื่องเล่าว่ามีชายหญิงสองคนเค้ารักกันเป็นแฟนกัน ผู้ชายทำงานอยู่ที่นี่แหละ ส่วนผู้หญิงเป็นคนอีกหมู่บ้านนึง ก็ตามสเต็ปแหละหมอ รักกัน แต่ฐานะไม่เท่าเทียมกัน คนนึงเป็นข้าราชการจนๆอีกคนเป็นลูกคนมีฐานะ พ่อแม่ฝ่ายหญิงเค้าไม่อยากให้ลูกคบกับคนจนๆเลยจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายนักการเมืองท้องถิ่น”

     

    “อย่างกะละครหลังข่าว” ลู่หานเบะปากเบาๆกับเรื่องเล่าที่ได้ฟังมาโดยมีอีตาลุงไร้มารยาทนั่งซัดข้าวโบ้มๆอย่างคนหิวโซอยู่ข้างๆ

     

    “นั่นแหละหมอ ชีวิตจริงนี่มันยิ่งกว่าละคร แต่ฝ่ายลูกสาวก็ไม่ได้ยอมนะ มีการไปนัดแนะกับคนรักว่าจะพากันหนี ฝ่ายผู้ชายก็บอกจะรออยู่ที่หน้าผาท้ายอุทยานนี้ พอถึงเวลานัดจริงๆผู้หญิงก็ไม่มา ฝ่ายผู้ชายก็น้อยใจคิดว่าโดนสาวเมินเลยโดดหน้าผาตาย แล้วเรื่องมันพีคตรงไหนรู้ป่ะ”

     

    “ว่ามา”

     

              “ก็ผู้หญิงอ่ะเค้ายังไม่ได้แต่งงานไง เค้าหนีออกมาได้ แต่ช้ากว่ากำหนดที่นัดแนะกัน พอมาถึงก็เห็นแฟนนอนขาพับอยู่ข้างล่างเลยกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตาม ความพีคคือผู้ชายอ่ะไม่ตาย แค่ขาหัก แต่ผู้หญิงอ่ะ ตายคาที่เพราะตกลงมาหัวกระแทกพื้นหินด้านล่าง มันเลยเป็นตำนานของผานี้ วันดีคืนดีก็จะมีคนได้ยินเสียงร้องไห้โหยหวนของผู้หญิง บางทีก็มีนักท่องเที่ยวที่มาพักในอุทยานเจอวิญญาณผู้หญิงชาวบ้านมาตามหาผะ..แฟนด้วย”

     

              “แล้วหน้าผานี้มันมีจริงป่ะ” ลู่หานไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องเล่านี้นัก เจ้าตัวแค่ถามไปตามเรื่องตามราว

     

              “ก็ถ้ามันไม่มีจริงผมจะพูดมาซะยืดยาวขนาดนี้ทำไม หมอก็ ตอนเกิดเรื่องพ่อผมก็อยู่ในเหตุการณ์เหอะ แต่ตอนนั้นพ่อยังตัวเท่าเอวผมเองมั้ง เด็กมากอ่ะ” เด็กหนุ่มตอบจริงจัง ซ้ำยังลุกขึ้นยืนเปรียบเทียบความสูงของตนกับพ่อในตอนนั้นให้ดูด้วย

     

              “โอเค เรื่องตำนานหมอเชื่อก็ได้ แต่เรื่องวิญญาณยังไงหมอก็ไม่เชื่ออยู่ดี แต่เอาไว้วันไหนว่างๆแบคพาหมอไปดูได้ป่าว อยากเห็นของจริงอ่ะ”

     

              “สบายมากครับคุณหมอ ผมชอบแอบไปอู้ เอ่อ..พักผ่อนแถวนั้นประจำ บรรยากาศดีมากเลยนะหมอ ยิ่งตอนพระอาทิตย์ขึ้นนี่สุดยอดเลย” ว่าพลางยกนิ้วโป้งเป็นการการันตีว่าบรรยากาศตอนเช้ามันดีจริงๆ “แต่พระอาทิตย์ตกนี่ไม่ไหวนะหมอ หลังหกโมงเย็นไปนี่ไม่มีใครกล้าไปเดินแถวนั้นหรอก ทั้งมืด ทั้งเปลี่ยว ทั้งวังเวง จะมีก็แต่หัวนั่นแหละที่ชอบไปเดินตากลมแถวนั้น”

             

              “พูดถึงหัวหน้า เค้าเป็นคนยังไงหรอแบค ได้ยินคนในกรมเค้าพูดถึงว่าหล่อนักหล่อหนา ทั้งหล่อทั้งเก่ง” ถ้าจะเสียสละเวลาเม้ามอยหันมาสนใจคนข้างๆซักนิด ลู่หานก็จะเห็นว่าผู้มาใหม่หยุดกินแล้วกำลังตั้งใจฟังประโยคสนทนาของตนกับเด็กหนุ่มอยู่

     

              “ก็หล่อนะหมอ หน้าตาดี หุ่นดี การศึกษาก็ดี รักสัตว์ รักป่า รักเด็ก เอาโดยรวมนะ หล่อจากภายในทะลุหนังกำพร้าออกมาเลย นี่ไม่ได้โม้นะ ดีกว่าหัวหน้าก็บวชอยู่ในวัดโน่นแหละ” แล้วถ้าเอะใจซักนิดกับประโยคยกยอเกินจริงนั่นด้วยก็จะดีมาก

     

              “ขนาดนั้นเชียว? แล้วหมอกับหัวหน้าใครหล่อกว่ากันอ่ะ” สายตากดดันของลู่หานและคนข้างๆทำให้เด็กหนุ่มอยากจะนอนเอาขาก่ายหน้าผากซะเดี๋ยวนั้น แต่เด็กหนุ่มก็มีไหวพริบมากพอที่จะเอาชีวิตรอดจากประโยคชี้เป็นชี้ตายนั่น

     

              “อูย หล่อคนละแบบครับ หัวหน้าหล่อแบบเข้มๆแมนๆ หมอหล่อแบบคุณชายๆ อารมณ์แบบหมอพุฒิภัทรอ่ะ คนละสไตล์”

     

              “ฉลาดตอบนะเราอ่ะ”

     

              “แหม สมัยนี้หล่ออย่างเดียวไม่ได้หรอกหมอ ต้องฉลาดด้วย”

     

              “ขี้โม้จริงๆ แล้วนิสัยหล่ะ เป็นไง โหดป่ะ ได้ข่าวว่าขี้เก๊กแล้วก็ปากจัดมากเลย”

     

              “เรียกว่าเป็นคนตรงๆดีกว่าครับหมอ”

     

              “ความหมายมันก็เหมือนๆกันนั่นแหละ เป็นหัวหน้าแล้วคิดจะข่มใครก็ได้งั้นหรอ หึ”

     

              “หมออย่าไปพูดอย่างนี้ให้หัวหน้าได้ยินนะครับ หัวหน้าไม่ชอบ”

     

              “เห้ย ลืมไปเลยอ่ะ เดี๋ยวพี่ไปหาหัวหน้าก่อนนะแบค สายแล้ว” ลู่หานรีบผุดลุกขึ้นทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าต้องไปรายงานตัว

     

              “เดี๋ยวหมอ หมอจะไปหาหัวหน้าที่ไหน”

     

              “ก็สำนักงานไง

     

              “ไม่ต้องไปแล้วหมอ หัวหน้าไม่ได้อยู่นั่น”

     

              “แล้วอยู่ไหนอ่ะ” ตอนนี้คุณหมอหนุ่มอารมณ์ไม่ได้ปกติดีนัก ดูได้จากท่ายืนที่เหมือนจะพร้อมมีเรื่องกับทุกคนได้ทุกเมื่อและการถลกแขนเสื้อขึ้น มันเป็นอาการเวลาหงุดหงิดหรือลนลานของเจ้าตัว

     

              “แถวนี้แหละหมอ ไม่ต้องไปไหนหรอก”

     

              “แล้วอยู่ไหนเล่า อ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้ เดี๋ยวปั๊ดโบก”

     

              “รังแกเด็กนี่ไม่ดีนะครับคุณหมอ” คนที่นั่งซัดข้าวอยู่ข้างๆโผลงขึ้นขัดจังหวะคนใจร้อนที่เงื้อมือเตรียมจะลงฑันณ์เด็กหนุ่มเต็มที่ ลู่หานลดมือลงแล้วหันมาเอาเรื่องกับคนข้างๆแทน

     

              “แล้วลุงรู้มั้ยครับว่าหัวหน้าอยู่ไหน ผมต้องรีบไปรายงานตัวอ่ะ”

     

              “อือ ผมรู้แล้ว เชิญตามสบายนะคุณหมอลู่หาน แต่จะดีมากถ้าในอนาคตไปทำงานที่อื่นแล้วรู้จักหาข้อมูลมาดีๆ และไม่นินทาผู้บังคับบัญชา จะได้ไม่ทำให้ตัวเองเสียหน้า” ลู่หานอ้าปากเหวอกับประโยคยาวๆรั้งแรกของคนข้างๆ “และคนที่ฝากฝังมาผิดหวัง” และหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคถัดมา โดยคนพูดเพียงแค่ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วหยิบเอาจานที่กินแล้วไปวางไว้ที่ซิงก์ก่อนจะเดินเกาก้นออกไปจากโรงครัว

     

              “ลุงนี่ใครวะ”

     

              “ก็หัวหน้าไคไงครับ”

     

    อ๋อ เป็นหัวหน้านี่เอง มิน่าถึงได้กร่างนัก หะ ห๊ะ!! หัวหน้าหัวหน้าไค

    ขอยาดมหน่อย พี่จะล้ม //แบค:ยื่นยาดม

     

    #ฟิคหัวหน้าไค

     

    100%แล้วจ้า

    เป็นการเจอกันครั้งแรกที่โรแมนติกมากกกกก? มาช้าไปหลายวันต้องขอโทษคนที่รออ่านด้วยนะคะ

    ตอนนี้ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความขี้โม้ขี้เม้าของลู่แบค และความลุงของอิตาหัวหน้า 5555




    ปล. นี่รถและบ้านพักหมอลู่นะคะ อยู่ป่าอยู่เขาเราต้องเน้นเรียบง่าย

     


       





    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×