คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Prologue (By : Fah)
Prologue
Romeo & Juliet
“โรมิโอกับจูเลียต บทประพันธ์และบทละครอมตะตลอดกาลของ “วิลเลียม เช็กสเปียร์” กวีและนักเขียนบทละครชื่อดังของอังกฤษ และบทประพันธ์ของเขาไม่ได้มีเพียงโรมิโอกับจูเลียตแต่เพียงเท่านั้น ยังมีกวีและบทละครอื่น ๆ ที่โด่งดังอีกมากมายและหลากหลายประเภทด้วยกัน ทั้งเรื่องเศร้า เรื่องตลกขบขัน หรือแม้แต่ประวัติศาสตร์ และวิลเลียม เช็กสเปียร์ ยังได้รับการยกย่องจากเบนจามิน โจนสัน กวีและนักเขียนบทละครในยุคเรเนสซองส์ว่า “เขาไม่ใช่เพียงนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค แต่เขาเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล”
หากพูดถึงโรมิโอกับจูเลียต ทุกคนจะนึกถึงรักต้องห้าม เหตุใดจึงเป็นรักต้องห้าม? หากมิใช่เพียงว่าทายาทของสองตระกูลที่เป็นศัตรูกันมารักกัน มันคงไม่ใช่รักต้องห้ามใช่หรือไม่?
เรื่องราวเริ่มต้นที่เมื่อโรมิโอแห่งมอนตะคิวได้ลักลอบเข้าไปในงานเลี้ยงของตระกูลคาปุเล็ต และได้พบกับจูเลียต เพียงแค่สบตาทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันทันที และนั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด ความรักที่ก่อเกิดขึ้นบนความขัดแย้งของสองตระกูลคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ จริงไหม?
เด็ก ๆ และวัยรุ่นหลาย ๆ คนอาจมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซึ้งและโรแมนติกสุดจะบรรยาย แต่สำหรับผู้ใหญ่ เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่สื่อถึงความรักชิงสุกก่อนห่าม ไม่ใช่ความรักที่เป็นนิรันดร์หรือความรักที่ควรจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะทั้งโรมิโอและจูเลียตต่างอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือยังไม่บรรลุนิติภาวะทั้งคู่
อย่างไรก็ตาม บทละครนี้ก็ถูกนำมาสร้างเป็นละครเวทีและโอเปราหลายต่อหลายครั้ง และถูกนำมาดัดแปลงเป็นบทละครถึงหกครั้งหรืออาจมากกว่า โดยหนึ่งในนั้นใช้ชื่อเรื่องว่า West Side Story”
เด็ก หนุ่มวัยสิบเจ็ดปีเจ้าของเรือนผมสีทองและดวงตาสีฟ้าใสกวาดสายตาอ่านข้อความ ในแผ่นกระดาษก่อนจะอ่านออกเสียงให้เด็กหนุ่มอีกแปดคนซึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะตัว ยาวซึ่งน่าจะเป็นโต๊ะประชุมฟังด้วยเสียงก้องกังวาน
“จิ อ๊อตโต้... พี่แน่ใจเหรอว่าเราจะแสดงเรื่องนี้น่ะ?” เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีรูปร่างเล็กกว่าเด็กหนุ่มวัยเดียวกันเอ่ยขึ้นด้วยเสียง สั่น ๆ เขารู้สึกไปเองรึเปล่าว่า...บทละครเรื่องนี้มันน่ากลัวประหลาด
“หึ! นายกลัวก็บอกมาเถอะ” เสียงเย็นดังขึ้นจากเด็กหนุ่มวัยสิบหกปีเจ้าของเรือนผมและดวงตาสีดำ “อิเอยะสึมุ่งมั่นที่จะแสดงเรื่องนี้ นายคิดว่าอะไรล่ะ?”
“เพราะพวกเราทุกคนมีหนังสือเรื่องนี้สินะครับ” เสียงทุ้มฟังแล้วดูกวนประสาทดังขึ้นจากเด็กหนุ่มวัยสิบหกเจ้าของเรือนผมทรงสับปะรด และดวงตาเรียวคมสองสีดูแล้วโดดเด่น
“เป็นเหตุผลที่ถูกต้องที่สุด” เด็กหนุ่มผู้อ่านข้อความในแผ่นกระดาษในตอนแรกเอ่ยขึ้น ดวงตาสีฟ้าใสฉายแววแน่วแน่
“แล้ว...เรา ต้อง...เปลี่ยนแปลงอะไรรึเปล่า?” เด็กหนุ่มหน้าหวานวัยสิบห้าปีเจ้าของเรือนผมซอยยาวประบ่าสีน้ำตาลอ่อนและดวง ตาสีฟ้าใสเอ่ยถาม
“ถ้าไม่เปลี่ยน เราจะเป็นโรมิโอทุกคนได้ยังไงกันล่ะ?”เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปี เจ้าของเรือนผมสีขาวและดวงตาสีม่วงคู่สวยเอ่ยพร้อมกับหยิบมาร์ชเมลโล่ขึ้นมากิน
“ห๊ะ?! เป็นโรมิโอกันทุกคน?! บ้าไปแล้วแน่ ๆ !!” เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีเจ้าของเรือนผมและดวงตาสีทับทิมสดเอ่ยขึ้น
“ใช่แล้ว! แล้วเราจะหาจูเลียตมาจากไหนตั้งเก้าคน!” เด็กหนุ่มวัยสิบห้าเจ้าของเรือนผมเหยียดตรงถึงปลายคางสีควันบุหรี่และดวงตา สีเดียวกันเอ่ยขึ้น “ผู้หญิงโรงเรียนเราที่มีนิสัยไร้เดียงสาใกล้เคียงกับจูเลียตมันแทบจะหาไม่ ได้เลยนะ!”
“นั่นก็แปลว่าพวกเราต้องหาใช่มั้ยล่ะ? ฮ่ะ ๆ” เสียงตัดบทแบบกลั้วหัวเราะดังขึ้นมาจากเด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีหุ่นนักกีฬาท่าทางแข็งแรงเอ่ยขึ้น
“ใช่แล้วล่ะ! ฉันเองก็กำลังจะพูดแบบนั้นอยู่พอดี” เด็กหนุ่มเรือนผมสีทองเอ่ย “และนั่นเป็นหน้าที่ของพวกนาย ที่คืนนี้ต้องกลับไปนั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิดที่บ้านมาว่าจะหาใครมาเป็นจูเลียตของตัวเอง”
ความคิดเห็น