ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` ( vixx ) six boys in da house.

    ลำดับตอนที่ #1 : ( leo x n ) ห่วง ㅡ 1OO%

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 57


         
     

     


    ห่วง

    leo x n


     
    © themy butter
     

          

     

              ชา ฮักยอนเป็นคนน่ารัก เขามักจะห่วงคนนู่นคนนี้ไปทั่ว แต่ฮักยอนไม่เคยห่วงตัวเอง ชอบทำตัวเป็นเข้มแข็งทั้งทีก็แทบจะเปราะบางที่สุดในวง เพราะหน้าที่ลีดเดอร์และคนที่อายุเยอะที่สุด ฮักยอนเลยต้องทำหน้าที่หนักกว่าใคร ทั้งๆที่เขาไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้แต่เขาเลือกที่จะทำเพราะน้องๆที่เหลือ

     

     

     

              “พี่ฮักยอนไม่สบายแล้วจะขึ้นเวทีไหวหรอ” ฮงบินที่ไปคุยกับพี่เมเนเจอร์เรื่องที่ฮักยอนป่วย ทุกคนลงความเห็นว่าไม่ให้ฮักยอนขึ้นเวที แต่ความดื้อของฮักยอนเยอะพอๆกับความเข้มของสีผิว ดึงดันจะขึ้นเวทีให้ได้ แต่พอยี่สิบนาทีก่อนขึ้นแสดงกลับมานั่งพิงไหล่แรปเปอร์ของอย่างอ่อนล้า โดยที่มีฮยอกคอยเอาผ้าเย็นเช็ดตามเนื้อตัว แจฮวานที่ปกติจะชอบเสียงดังแต่วันนี้กลับเงียบไปเพราะกลัวว่าเสียงแหลมๆของเขาจะทำให้คนเป็นลีดเดอร์ปวดหัวมากกว่าเดิม

     

     

     

                ราวีได้แต่ถอนหายใจกับความดื้อของพี่ก่อนจะรั้งคนตัวบางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน กลายเป็นว่าตอนนี้ร่างของฮักยอนเกยอยู่บนตัวของราวี่ครึ่งหนึ่ง ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะเอ่ยปากพูดอะไรมาก นานๆทีที่วงของพวกเขาจะมีบรรยากาศแบบนี้

     

     

     

                อยู่ดีพี่รองของวงก็สาวขายาวๆออกจากห้องไป ด้วยความสงสัยปนกับไม่ชอบบรรยากาสในห้องแต่งตัวสักเท่าไรแจฮวานจึงตัดสินใจเดินตามออกมาทันที ตามทางเดินที่มีศิลปินเตรียมขึ้นแสดงกับเสียงดังจากในคอนเสิร์ตไม่ได้ทำให้แทคอุนรู้สึกตัวว่ามีอีกคนเดินตามออกมา ขายาวก้าวมาหยุดอยู่หน้าตู้เครื่องกดน้ำอัตโนมัติ ตาเรียวสอดสายตาไปทั่ว ตามหานมกล้วยที่คนป่วยชอบ ได้แต่คิดแล้วคิดอีกว่าถ้ากินเข้าไปจะดีขึ้นหรือจะแย่ลง แต่ในทฤษฎีของแทคอุนแล้ว การได้กินของโปรดในตอนที่ไม่สบายคงจะดีขึ้นไม่มากก็น้อย

     

     

     

              แจฮวานที่ตามมาเงียบๆ ถึงกับยิ้มเพราะความน่ารักของแทคอุนทันทีที่เห็นคนเป็นพี่หยิบกล่องนมกล้วยออกมาจากช่องจ่ายน้ำข้างล่าง ก็รีบออกตัววิ่งกลับห้องแต่งตัวเตรียมไปฟ้องคนป่วยว่าคนที่อยากให้มาดูแลกำลังจะมาดูแล แต่พอเข้ามาในห้องกลับเห็นคนป่วยนอนซบอยู่บนอกแรปเปอร์ของวงเหมือนเดิม ก่อนจะปิ๊งไอเดียออกมุมปากยกยิ้มก่อนน่ารักก่อนจะผลักบานประตูเข้าไปแล้วตะโกนเรียกบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้อง

     

     

     

                “ราบีย่าห์ พีดีเขาให้มาตามนายไปสัมภาษณ์ นายด้วยนะฮยอก” วางแผนเสร็จสรรพในใจก่อนจะลากทั้งสองคนออกจากห้องสวนกับพี่รองที่เดินเก๊กขรึมมาแต่ไกล

     

     

     

                “เดี๋ยวมานะฮยอง” ได้แต่มองตามน้องงงๆ ที่อยู่ดีๆก็เดินออกจากห้องไปแทนทีจะดูแลฮักยอนที่อยู่ในห้อง จิกตามองอย่างไม่เข้าใจแล้วจึงเดินเข้าห้องแต่งตัวไป

     

     

     

                อีกฝ่ายเมื่อก้าวเข้ามาในห้องก็เห็นคนป่วยนอนพิงโซฟาอยู่ ขายาวก้าวไปใกล้วางนมกล้วยไว้บนโต๊ะเล็กหน้าโซฟาก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างอีกคน ท่าทางที่เงอะงะของจองแทคอุนถ้าเป็นเวลาปกติฮักยอนคงพุ่งตัวเข้าชาร์จเพราะแพ้ความน่ารักของคนยิ้มยากแต่ในเวลานี้แค่ฝืนลืมตาหรือขยับแขนขยับขายังไม่มีแรง

     

     

     

                มือขาวแนบลงกับหน้าผากของคนที่นอนซมอยู่ คนที่โดนพิษไข้เล่นงานอยู่ได้แต่ครางรับในลำคอเมื่อคนตัวขาวถามว่าหนาวมั้ย เสื้อเชิ้ตขึ้นไลฟ์ถูกปลดกระดุมลงสองสามเม็ดเพื่อไม่ให้คนป่วยรู้สึกอึดอัด แขนเสื้อถูกถลกขึ้นมาพับไว้ที่ข้อแขน เมื่อจัดการทำให้คนป่วยรู้สึกสบายตัวขึ้นแล้วก็หยิบผ้าขนหนูที่ฮยอกที่ไว้มาบิดหมาดๆก่อนจะซับตามเนื้อตัวของอีกคนเว้นไว้เพียงหน้าเท่านั้นเพราะเกรงว่าจะไปลบเมคอัพของอีกคน

     

     

     

                พอเห็นอีกคนเริ่มจะหลับตาพริ้มลงอีกรอบก็ดึงคนตัวเล็กกว่ามานั่งพิงอกเหมือนที่ราวี่ทำเพียงแต่รอบนี้พิเศษกว่าก็ตรงที่ฮักยอนเกยหน้าไว้ตรงอกของอีกคนแถมมือขาวของคนที่โดนพิงก็เอามือสอดกระชับเอวอีกคนให้อีกคนหายหนาว กลิ่นหอมอ่อนๆของกลุ่มผมสีเข้มของอีกคนที่อยู่ระดับปลายจมูกทำให้เผลอโน้มศีรษะไปประทับรอยเบาๆอย่างลืมตัว คนถูกกระทำได้แต่ระบายยิ้มบางเหนื่อยๆ

     

     

     

                “แทคอุนอ่าห์” กว่าจะพูดได้แต่ละคำสูบพลังงานไปมากมายยิ่งกว่าไล่ตีน้องๆในวงกว่าตอนยังปกติดีซะอีก ฮักยอนไม่ชอบเวลาตัวเองป่วยเลยสิให้ตาย

     

     
     

                “หืม”

     

     

                “อยากกินนมกล้วย” ผละออกจากอกอุ่นๆแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองอีกคน เมื่อกี้เขาเห็นว่าแทคอุนวางนมกล้วยไว้บนโต๊ะ ไม่มีทางที่แทคอุนจะซื้อมากินเองแน่ๆ ฮักยอนขอคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยละกันว่านมกล้วยบนโต๊ะถูกซื้อมาเพื่อเขา

     

     

                “มันเย็นอยู่ กินเข้าไปเดี๋ยวเจ็บคอ”

     

     

              “ขอกินหน่อย” ว่าจบก็ไถหัวลงกับอกของอีกคนถ้ารู้ว่าป่วยแล้วจะขี้อ้อนแบบนี้แทคอุนยอมให้ฮักยอนป่วยตลอดชีวิตเลยเหอะ ถอนหายใจเบาๆก่อนดันอีกคนให้พิงกับโซฟาอีกครั้งก่อนจะเอื้อมหยิบนมกล้วยมาเปิดฝาออก

     

     

                “มันเย็นไป”

     

     

                “นิดหนึ่งก็ได้” ชั่งใจสักพัก ในฐานะที่เป็นพี่รองถ้าเกิดคนป่วยกินอะไรเย็นๆจะไม่ทำให้เสียงหายหรอ เสียงยิ่งแย่ลงด้วย ถึงเจ้าตัวจะไม่มีอาการเจ็บคอหรอไอแม้แต่นิดเดียว ถ้าไม่ให้กินก็กลัวอีกคนจะงอแงไปมากกว่านี้ยิ่งตากลมๆที่มองอ้อนนั้นด้วย จอง แทคอุนกำลังคิดมาก

     

     

              “นิดนึงนะ” ยกขวดนมจรดปากของตนเองปล่อยให้นมเข้าปากไปพอประมาณก่อนจะผละออกจากขวดนมเปลี่ยนเป้าหมายมาที่คนป่วยที่หลับตาพริ้มอยู่ สัมผัสนุ่มหยุ่นทำให้อีกคนเบิกตาขึ้นมามองอย่างช่วยไม่ได้คนตัวสูงขบเม้มปากของอีกคนให้เผยออกก่อนจะเอียงคอให้ได้องศาแล้วปล่อยของเหลวที่เคยเย็นแต่พอผ่านอุณหภูมิของร่างกายกลับอุ่นลงให้ไหลผ่านปากไป คนตัวเล็กที่ดูจะตกใจในตอนแรกกลับตอนนี้กลับกลืนของเหลวลงคอไปอย่างไม่รังเกียจ ปากเรียวที่ตอนแรกแค่จะป้อนนมอีกคนเฉยๆกลับดูดซับรสนมในปากของอีกคนก่อนจะถอนจูบอย่างเสียดาย ถ้าไม่ติดว่าอีกคนป่วยเขาคงจูบฮักยอนจนกว่าจะมีใครมาเห็นแน่ๆ

     

     

     

                ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเลยคำว่าเพื่อนและสมาชิกร่วมวงมาแล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นจูบแรกของทั้งสอง มากสุดก็แค่หอมแน่นอนฮักยอนเป็นคนเริ่ม ไม่มีใครพูดคำว่ารักออกมาพวกโตจนพอจะเลิกงี่เง่าในเรื่องที่ว่าต้องมีคำพูดมายืนยันความสัมพันธ์

     

     

     

                “หน้าแดงหมดแล้วแทคอุนอ่าห์” ยื่นนิ้วมาเขี้ยแก้มขาวๆที่ตอนนี้ขึ้นริ้วแดงก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ คนตัวขาวตอนนี้ผิดกับก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด แทคอุนนี้น่ารักจริงๆเลยน้า

     

     

     

                “นี่” เมื่ออีกคนเริ่มเงียบ ฮักยอนกสะกิดเรียกอีกคนที่หันหน้าหนีเขาเพราะโดนแซวว่าหน้าแดง “แทคอุนอ่าห์ กอดหน่อยได้มั้ย” พออีกคนหันหน้ามาก็เอ่ยปากขอไปก่อนจะยิ้มแบบที่อีกคนเคยบอกว่าน่าหมั่นไส้ แต่ฮักยอนเคยเก็บมาคิดซะที่ไหนละ ก็แทคอุนของเราปากไม่ตรงกับใจที่สุดในโลกเลยนะสิ

     

     

     

                ไม่พูดอะไรแต่เขยิบตัวมานั่งซ้อนหลังอีกคนรั้งเอวบางให้แผ่นหลังอีกคนแนบกับอก โน้มหัวอีกคนมาพิงไหล่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา ปล่อยให้หัวใจทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆดีกว่า คนที่ทุกคนบอกว่าไม่เคยยิ้มกลับมีมุมที่อ่อนโยนจนไม่น่าเชื่อ นอกจากหมาแมวเด็กน้อยก็มีฮักยอนอีกคนได้สัมผัสกับอีกมุมของจอง แทคอุน

     

     

     

                ชา ฮักยอนนี้โชคดีที่สุดในโลกเลย

     

     

                สักพักน้องๆที่เหลือก็ตามเข้ามาในห้อง อาจจะแปลกใจนิดหน่อยกับท่าทางของพี่ๆแต่ก็ไม่ใครพูดอะไรออกมาได้แต่อมยิ้มน้อยๆกับความน่ารักของสองพี่ใหญ่

     

     

              “วิกซือสแตนบายด์หลังเวทีครับ” พีดีที่ชะโงกหัวผ่านบานประตูที่แง้มไว้ก่อนจะตะโกนเรียกเมมเบอร์แต่ละคนที่กระจายตัวอยู่ตามมุมห้องให้สนใจ มีเสียงขานรับพร้อมกับโค้งลงเล็กน้อยตามมารยาท

             

     

                เมมเบอร์แต่ละคนเรื่มเช็คความพร้อมของตัวเองเตรียมตัวขึ้นแสดง ฮักยอนที่เคยนอนคอพับอยู่บนไหล่คนตัวสูงก็ลุกขึ้นมาจัดแจงเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบมือเล็กที่กำลังพยายามติดกระดุมเสื้ออยู่นั้นโดนหยุดโดยมือที่ใหญ่กว่า จับมือของเขาออกมาวางข้างกายก่อนจะลงมือติดกระดุมให้อย่างเบามือ แขนเสื้อที่เคยถลกไว้ตรงข้อพับถูกรั้งกลับมาให้อยู่ในสภาพเดิม แถมมือคู่นั้นยังดึงมือของเขาไปกอบกุมหน้าตาเฉย จอง แทคอุนรู้ตัวบ้างมั้ยว่ากำลังทำเขาไข้ขึ้น ได้แต่กล่าวโทษอีกคนในใจก่อนจะก้าวตามอีกคนไปสแตนด์บายหลังเวที

     

     

     

                การแสดงบนเวทีในวันนี้ถือว่าเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ในแบบที่พวกเขาคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นกับหัวหน้าวง ยกตัวอย่างเช่นเสียงหาย จำบล็อกผิด เต้นผิดท่อน รวมไปถึงเป็นลมกลางเวที แต่มีท่อนหนึ่งที่เมมเบอร์คนอื่นต้องดันลีดเดอร์ให้ยืนขึ้น แต่ฮักยอนดันวูบซะงั้นเกือบพลาดหัวทิ่มลงเวที แต่โชคดีที่ได้มือคู่เดิมประคองเขาไว้ไม่ให้ล้มลง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรผิดพลาดอีกเลย

     

     

                อาการของคนป่วยดูจะหนักขึ้นยิ่งกว่าก่อนขึ้นแสดง เจ้าตัวแสดงอาการออกทั้งท่าทางและสีหน้า ปากที่เคยออกสีสดตอนนี้กลับจางลงจนหน้าใจหาย อุณหภูมิความร้อนในร่างกายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

     

     

                พี่เมเนเจอร์ช่วยกันหิ้วคนตัวบางกลับไปที่รถ พาอีกคนกลับไปพักผ่อนที่หอ เมมเบอร์คนอื่นก็ทยอยเดินตามออกมา แฟนคลับที่ปกติจะพยายามเข้าถึงตัวพวกเขาวันนี้กลับแหวกทางออกพร้อมตะโกนให้กำลังใจคนที่ป่วยอยู่

     

     

                หากเป็นสถานการ์ณปกติบนรถตู้ของพวกเขาจะมีเสียงเอะอะตลอดการเดินทางถ้าหากพวกเขาไม่หลับซะก่อนแต่ทั่วทั้งคันรถมีเพียงเสียงหอบหายใจของคนป่วย และเป็นอีกครั้งที่ไหล่ของแรปเปอร์ถูกยึดพื้นที่ด้วยหัวทุยๆของลีดเดอร์ ความอ่อนเพลียครอบคลุมไปทั่วร่างกายของเขา ไอความร้อนของคนเป็นพี่ทำเอาเจ้าของไหล่กว้างเหงื่อไหล แต่ในเวลานี้ใครจะกล้าทักท้วงอะไรออกไป ถึงจะปวดไหล่ขนาดไหน ตอนนี้ขอแค่คนเป็นพี่นอนสบายก็พอ

     

     

               

                ไม่รู้ว่าฮักยอนหลับไปนานแค่ไหน แต่ตื่นมานอนจากความนุ่มของเตียงที่แผ่นหลังสัมผัสอยู่กับความอุ่นที่วิ่งไปทั่วตัว ผ้าน่วมผืนใหญ่ถูกคลุมไว้ตั้งแต่ต้นคอยันปลายเท้า ดิ้นขลุกขลักเพราะความอุ่นของผ้านวมเริ่มทำให้ฮักยอนร้อนแต่อยู่ดีๆแขนยาวของใครซักคนก็รั้งเอวเขาเข้าไปกอดแนบตัวก่อนจะกระซิบเสียงเบา

     

               

                “อย่าดิ้นสิน้องนอนกันหมดแล้ว” เสียงนุ่มที่ติดจะแหบอยู่นิดหน่อยพูดชิดใบหูก่อนจะซุกหน้าลงกับซอกคอของเขา คนตัวบางที่ดูจะงงๆกับคำสั่งของอีกคนแต่กลับยินยอมทำตาม ไม่ใช่เพราะกลัวโดนดุแต่เพราะโดนคนตัวใหญ่กอดแล้วมันรู้สึกสบายกว่าห่มผ้านวมซะอีก ครางรับในลำคอเป็นอันรับรู้ก่อนจะปิดเปลือกตาลงแล้วจมสู่ความฝันอีกรอบ



     

    50%



     

    ไม่รู้หรือเพราะยาแก้ไขแก้ไอแก้นู่นแก้นี่ล้านแปดเม็ดที่โดนพี่เมเนเจอร์จับกรอก หรือเพราะกอดของคนตัวใหญ่ที่ทำให้เขาหลับลากยาวจนถึงเกือบบ่ายของอีกวัน ตารางงานทั้งหมดภายในอาทิตย์นี้ถูกเลื่อนเพราะอยากให้ลีดเดอร์คนเก่งของวงพักผ่อน

     

     

     

                ฮักยอนตื่นนานแล้ว แต่เขาไม่อยากลุกจากที่นอน ก็จริงที่วันนี้ไม่ได้ปวดหัวตัวร้อนเท่าเมื่อวาน ตอนนี้ฮักยอนก็แค่ขี้เกียจ ฝูกริมสุดถูกผ้านวมผืนใหญ่ครองผืนที่ไว้เกือบหมดโผล่ออกมาแค่หัวกลมๆเพื่อรับอากาศเข้าปอด แนบหน้าซุกไอเย็นจากหมอนหลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น

     

     

     

                “ฮักยอน” เสียงเปิดประตูกับเสียงเรียกชื่อที่มาจากบุคคลเดียว ดูก็รู้ว่าหงุดหงิด แน่ละจะไม่ให้หงุดหงิดได้ไงก็อีกคนอุตส่าห์เรียกชื่อคนที่นอนอยู่บนฝูกเป็นสิบรอบละก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาจนข้าวต้มที่เขาตั้งใจว่าจะรอให้อุ่นตอนนี้กลับเย็นจนต้องเอาไปอุ่นอีกรอบ

     

     

                “ฮักยอน” เสียงเรียกใกล้เข้ามา ก่อนที่ผ้าห่มจะถูกเลิกขึ้นด้วยฝีมือของบุคคลเดิม ลืมตาขึ้นมองอย่างไม่พอใจก่อนจะซุกหน้าลงกับหมอนอีกรอบ เสียงบ่นอู้อี้ๆที่ดังรอดหมอนออกมาทำให้คนตัวขาวหงุดหงิดกว่าเดิม ป่วยแล้วดื้อ

     

     

                ที่แทคอุนพอจะจับใจความได้ในตอนนี้มีเพียงแค่ไม่หิว ง่วง ปวดหัว อยากนอน ตอนแรกพอรู้ว่าป่วยก็กะจะตามใจอีกคนสักหน่อย คิดว่าแค่จะปลุกขึ้นมากินข้าวกินยาละจะปล่อยอีกคนพักผ่อนไป แต่พอดื้อมายังงี้จะมีใครอยากโอ๋ละ

     

     

                “ดื้อ” หลุดปากออกมาแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนในห้องนอนหน้าหงิกต่อไป เอาจริงๆถ้าแทคอุนพูดเยอะกว่านี้เขาก็คงลุกละ ตอนนี้แค่ฟอร์มเฉยๆเหอะ รั้งผ้าห่มเข้ามากอดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูโซเชียลต่างๆ ทั้งแฟนคาเฟ่ ทวิตเตอร์ คาทกรวมถึงข้อความที่ถูกส่งเข้ามา ก็พอจะหายหงุดหงิดได้นิดหน่อย

     

     

                “ป่วยละยังจะเล่นโทรศัพท์อีก” คนที่ออกจากห้องไปเมื่อกี้กลับเข้ามาพร้อมกับถ้วยข้าวต้มในมือ เดินเข้ามาทรุดตัวลงข้างๆฝูกของอีกคน ซึ่งความจริงมันเป็นฝูกของเขาแต่เพราะกลัวว่าถ้านอนอยู่ข้างน้องคนอื่นจะทำให้ติดไข้กันระนาว

     

     

                จิ๊ปากอย่างไม่พอใจแถมมีการหน้ามุ่ยเมื่ออีกคนเลื่อนข้าวต้มมาใกล้ เป็นเชิงว่าให้กินเอง จอง แทคอุน!!!!!! นี้คนป่วยนะจะให้กินเองได้ยังไง วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวก่อนจะลุกขึ้นนั่งหันหน้าเข้าหาอีกคน

     

     

                “ป่วย”

     

     

                “รู้”

     

     

                “ป้อน”

     

     

                “มือก็มี”

     

     

                “ไม่มีแรง”

     

     

                “ฮักยอน”

     

     

                “อะไร”

     

     

               

     

     

                “อยากให้ป้อน”

     

     

                ยอมแพ้ก็ได้ แค่ป้อนข้าวนี้มันยากมากงั้นดิจอง แทคอุน เบะปากใส่อีกคน ก่อนจะหยิบช้อนที่วางอยู่ข้างถ้วยมาคนข้าวต้ม พอจะตักใส่ปากมือขาวก็แย่งช้อนเขาไปตักข้าวต้มในถ้วยขึ้นมาเป่าให้หายเย็นแล้วยื่นช้อนมาจ่อที่ปากเขา

     

     

                จอง แทคอุน ไอ้คนปากแข็ง

     

               

                อ้าปากงับข้าวต้มที่อีกคนตั้งใจป้อน หน้าที่เคยดำกลับมีเลือดฝาดขึ้นมาจนเห่อแดงอย่างช่วยไม่ได้ ข้าวต้มที่ว่าร้อนแล้ว จะสู้อะไรกับหน้าฮักยอนตอนนี้ได้ละ จากที่เคยเป็นคนพูดมากตอนนี้กลับเงียบแข่งกับคนพูดน้อยที่ตั้งใจเป่าข้าวต้มให้เย็นลงอยู่ตรงหน้านี้เลยละ

     

     

     

                “อิ่มแล้ว” ข้าวต้มที่หายไปเกือบครึ่งกับคำพูดของคนป่วยทำให้เขาหยุดเป่าข้าวต้มก่อนจะเดินหายเอาถ้วยข้าวไปเก็บโดยที่มีคนตัวบางมองตามตาละห้อย ดูหน้าก็รู้ว่าอยากให้ไปอยู่ด้วย ระบายยิ้มมุมปากที่เห็นอีกคนทำท่าทางน่ารักๆออกมาอย่างที่ไม่รู้ตัว มือขาววางถ้วยข้าวต้มไว้ในครัวก่อนจะหยิบขวดน้ำที่ไม่ได้อยู่ในตู้เย็นติดมือกลับเข้าห้องไปพร้อมกับยาในมืออีกข้าง

     

     

     

                คนตัวบางยังนั่งข้างอยู่ท่าเดิม ยิ้มจนแก้มแถมแตกเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาแต่พอรู้ว่าต้องกินยาก็เปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทันตอนที่อีกคนยัดยากับขวดน้ำมาไว้ในมือ

     

     

                “ทำไมต้องกินยา”

     

     

                “ก็ป่วย”

     

     

                “ถ้าไม่กิน”

     

     

                “ก็ไม่หาย”

     

     

                “ถ้ากิน”

     

     

                “ก็หาย”

     

     

                “รู้ แต่หมายถึงถ้ากินยานายจะให้อะไรฉัน”

     

     
     

                “อยากได้อะไร”

     

     

                “จูบ”

     

     

               

     

               

                “งั้นไม่กิน”

     

     

                “ก็ได้”

     

     

                “มัดจำก่อนดิ” ใครจะไปรู้ว่าฮักยอนอยากได้จูบจากแทคอุนมากแค่ไหน ถึงเมื่อวานจะป่วยแต่ก็พอมีสตินะว่าแทคอุนทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แถมจำแม่นด้วยนะว่าปากแทคอุนน่ะนุ่มยิ่งกว่าหมอนที่เขาหนุนซะอีก แล้วมาตอนนี้ฮักยอนก็แค่อยากจูบอีก

     

     

     

                ถอนหายใจเบาๆกับความดื้อของอีกคนก่อนจะโน้มตัวไปจุ้บปากคนป่วยเบาๆ เน้นนิดนึงว่าแค่ปากแตะกัน แค่แตะกันขนาดนี้ฮักยอนยังแทบจะระเบิดตัวเองได้ละ T ___ T รีบกินยากินน้ำแก้เขินก่อนจะมุดกลับเข้าไปในผ้าห่มอีกรอบ ขอตัดสินใจไม่เอาจูบจากอีกคนจนกว่าจะหายเขินละกัน

     

     

     

                อยู่ดีๆผ้าห่มก็โดนดึงอีกรอบ พร้อมกับคนตัวโตที่เบียดเข้ามานอนใต้ห่มผืนเดียวกับเขา แถมแขนยาวๆยังรั้งเอวเขาเข้าไปกอดอีก ฮักยอนพยายามทำตัวนิ่งๆเพราะกลัวอีกคนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง เต้นดังยิ่งกว่ารัวกลองชุดอีก

     

     

                “อย่าเพิ่งนอน”

     

     

                คนตัวบางถูกจับพลิกให้หันหน้าเข้าหาอีกคน พอเปิดเปลือกตาขึ้นก็เห็นว่าหน้าห่างกันแค่คืบ ไม่มีระยะห่างระหว่างปลายจมูกด้วยซ้ำ ทำแบบนี้แล้วฉันจะหายป่วยมั้ยแทคอุนอ่า

     

     

                “ไม่อยากจูบแล้ว” หลับตาปี๋ก่อนจะก้มหน้าลงชิดอกหลบหนีสัมผัสจากอีกคน มือใหญ่ยกขึ้นมาประคองแก้มของเขาไว้ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “แต่อยากจูบแล้ว”

     

     

     

                “เดี๋ยวติดไข้”

     

     

     

                “คิดว่ากลัวหรอ” พูดจบก็รั้งใบหน้าเขาเข้าไปใกล้แล้วกดปากแนบลงมา ตอนแรกมันก็แค่ปากแตะปากแต่อยู่ดีๆพ่อคุณก็เล่นแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากของอีกคน ช่วงชิงทั้งลมหายใจทั้งความหวานในโพรงปากไป ความอุ่นแล่นวาบไปทั่วตัว สัมผัสที่อีกคนมันรู้สึกดีจนทำอะไรไม่ถูก ใครจะไปรู้ว่าปากที่นอกจากกินจะทำให้เขาแทบละลายตายคาอก ผละออกพอให้คนตัวบางได้หายใจก่อนจะประกบริมฝีปากลงไปอีกรอบ ตอนแรกก็กะจะปล่อยให้ไปนอนแล้วละ พอเห็นปากแดงๆที่เผยอโกยอากาศเข้าปอดอยู่พอรู้ตัวอีกทีก็ป้อนจูบให้อีกคนไปแล้ว

     

     

               

     

                “พอแล้วนะ” ทันทีที่อีกฝ่ายผละออกปากหนที่สอง คนตัวบางก็รีบโพล่งออกมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบนะแต่มันรู้สึกดีเกินไป อีกทั้งกลัวว่าคนตัวขาวที่นอนหันหน้าเขาหากันจะป่วยตามไปด้วย ยอมให้มานอนเบียดนี้ก็ใจดีแค่ไหนละเหอะ

     

     

     

     

                “ได้ข่าวว่าเป็นคนขอ”

     

     


     

                “ตอนนี้ได้ละไง”  พลิกตัวหนีอีกคนเพราะความเขิน ถอนหายใจหวังระบายความร้อนที่วิ่งไปทั่วหน้าเพราะสัมผัสที่อีกคนมอบให้ แขนยาวเกี่ยวเอวเล็กให้มาชิดตัวก่อนจะซุกหน้าลงกับซอกคออีกคน ลมหายใจที่เป่ารดต้นคอไม่ได้ทำให้คนตัวบางรำคานเท่าไร แต่ต้องสะดุ้งเมื่อริมฝีปากที่เขาเคยสัมผัสเมื่อกี้ กดแนบประทับความอุ่นไว้บนต้นคอเขา ได้แต่ก่นด่าในใจเพราะเขินจนทำตัวไม่ถูก

     

     

     

               

                หลังจากที่ลีดเดอร์คนเก่งได้จูบจากพี่รองของวงแล้วก็หายป่วยจนกลับมาลุยตารางงานที่พักไว้ได้ พี่ๆในกองถ่ายโฮเทลคิงก็อดตกใจไม่ได้เมื่ออยู่ดีๆคนที่ควรจะนอนป่วยอยู่บนเตียงกลับมาเป็นตัวป่วนประจำกองถ่ายได้เหมือนเดิม หลายคนที่ถามว่าเด็กชายชาประจำกองถ่ายไปทำอะไรมาถึงหายเร็ว ได้ยาดีอะไรมา ได้แต่เกาคอแก้เขินแล้วบอกไปแค่ว่าเมมเบอร์กับพี่เมเนเจอร์ดูแลดี

     

     

     

                “กลับมาแล้ว” สะบัดรองเท้าผ้าใบให้ไปกองร่วมกันคู่อื่นๆของคนในวง โยนกระเป๋าเป้ไว้กลางห้องก่อนจะโถมตัวลงโซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่น ตอนนี้มีแค่ฮยอกที่นอนจมกับกองนารูโตะที่เพิ่งไปหอบมาจากบ้านนั่งอยู่พื้นห้องข้างๆโซฟา

     

     

     

                “เออพี่ฮักยอน” อยู่ดีๆเจ้าเด็กติดการ์ตูนก็โผล่หน้าใสๆออกมาจากกองการ์ตูน แถมมองหน้าเขาอย่างคาดคั้น มองเห็นฉันเป็นลีดเดอร์หน่อยก็ได้ไอ้เด็กบ้า

     

     

                “อะไร”

     

     

     

                “เหมือนพี่จะทำพี่แทคอุนป่วยนะ” หน้าโยกกันไปเป็นแทบๆ เด็กนี้ชักจะรู้มากเกินไปละ เพราะเพลงที่ราวี่แต่งแน่ๆที่ทำเอามักเน่ที่ควรจะเป็นความภาคภูมิใจของวง(เรื่องผลการเรียน) ใจแตกได้อย่างนี้

     

     

               

                “ฉันทำอะไร”

     

     

     

                “ทำอะไรไม่รู้แต่ตอนนี้พี่หน้าแดงมากเลยนะ” หันกลับไปสนใจการ์ตูนในมือต่อแต่ไม่วายพูดออกมาเบาๆแต่หวังให้คนเป็นพี่รู้ตัว แอ๊บทำเป็นเข้มไปงั้นแหละแต่ในใจนี้กลั้นขำแทบบ้า ตั้งแต่เมื่อคืนที่พี่ใหญ่สองคนนอนก่ายนอนกอดกันอยู่ในห้องตั้งแต่บ่าย พอดึกมาก็ออกมาทำไรกินกันสองคน แถมพอพี่ฮักยอนออกไปถ่ายละคร จองแทคอุนที่เหมือนจะไม่สบายบวกกับอารมณ์ที่ตื่นมาละไม่เจอคนที่นอนกอดเมื่อคืนก็หงุดหงิดไปครึ่งวันจนต้องฝากท้องไว้กับรามยอนกากๆฝีมือเมนว้อยซ์ของวงที่วันนี้มักเน่ค้นพบละว่ามีดีแค่ร้องเพลงกับทำตัวไร้สาระไปวันๆ

     

     

     

                “นอนตายอยู่ที่เดิมอ่ะเข้าไปดูด้วยละกัน” ไม่ทันให้น้องบอกขาเรียวก็สาวเท้าเข้าห้องนอนใหญ่ไปแล้ว สภาพเดียวกันกับเขาไม่ต่างจากเมื่อวานเพียงแต่แทคอุนเหมือนคนไม่สบายมากกว่าฮักยอนที่น้องๆบอกว่าเวลานอนเหมือนคนตาย

     

     

     

                “เลโอย่าห์” เรียกอีกคนที่นอนอยู่ให้สนใจก่อนจะทรุดตัวลงบนกองผ้าห่มที่ใช้เท่าเขี่ยๆดูแล้วว่าไม่มีอะไรอยู้ข้างใต้ พอเห็นอีกคนไม่ไหวไม่ติงก็มุดตัวเข้าไปนอนใต้ผ้าห่มด้วย นอนมองอีกคนที่หลับตาพริ้มได้สักพักก็นึกหมั่นไส้ในใจที่ไม่ต้องออกไปทำงานแต่เช้าละกลับดึกเหมือนเขา มองไปมองมาสายตาก็ดันไปสะดุดเข้ากับปากบางที่เคยสัมผัสเมื่อ คืนกัดฟันอยู่นานก่อนจะเลื่อนหน้าไปประทับรอยบางๆไว้บนปากอีกคน พอเขยิบออกมาก็พบว่าตาเรียวกำลังจ้องเขาอยู่

     

     

     

               

                “ทำแบบนี้อย่างป่วยอีกรึไงชา ฮักยอน”

     




     

    100%

     

     





    talknaka!!!!!!

    ต้นเรื่องมันมาจากคลิปนี้เลย คือแบบอีพี่เอ็นมันป่วยไงละดูมือขาวๆนั้นดิกรี้ดกร้าด
    http://www.youtube.com/watch?v=pAZubRmJ20k&feature=youtu.be
    ไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งนั้นแบบแม่ขาหนูเขิน T _ T
    จะบอกว่าฉากคิสสึเป็นอะไรที่ล้างพลาญพลังงานมากเป็นคนใสใสอะไรแบบนี้แม่ห้ามไว้
    โอเคจบทอร์คเน็กซ์สเตชั่นอิสราบีนน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×