ตอนที่ 7 : Chapter -06- (แก้คำผิด)
Part Mina
หลังจากวันที่ได้ไปเที่ยวทะเลกับนายอนความสัมพันธ์ของเราก็ดีขึ้นเรื่อยๆกลายเป็นเพื่อน เพื่อนสนิท วันไหนที่ไม่มีงานก็จะไปนั่งอยู่ที่ร้านนายอน คอยช่วยปิดร้าน และเดินกลับคอนโดพร้อมกันไปส่งถึงห้องทุกครั้ง.....พอดีห้องของนายอนมันเป็นทางผ่านห้องฉันนะ บางครั้งก็ซื้ออาหารไปฝากบ้างเหมือนปกติที่เพื่อนบ้านเขาทำกัน
วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันมานั่งอยู่ที่ร้านนายอน ช่วงนี้งานไม่ค่อยเยอะเลยมานั่งเล่นร้านของนายอนบ่อยๆเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะทุกครั้งฉันก็สั่งเครื่องดื่มบ้าง ช่วยงานที่ร้านบ้าง
ฉันนั่งอยู่ที่มุมร้านที่เดิมพร้อมกับใส่หูฟังเล่นแล็ปท็อปไปเรื่อยๆอยู่ๆก็มีเสียงเอะอะโว้ยวายอยู่หน้าร้าน
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้สั่งอันนี้ ไปทำมาใหม่!!”
“อะ...เอ่อ....ก็เมื่อกี้คุณลูกค้าสั่งแบบนี้นะคะ”
ฉันลุกมาดูเหตุการณ์บริเวณหน้าร้านพบว่าเจอแก๊งวัยรุ่นชายตัวใหญ่ประมาณ4-5คน ดูเหมือนมีอิทธิพลแถวนี้หน้าดู เพราะคนรอบข้างไม่มีใครกล้ายุ่งหรือห้ามอะไรเลย
“เกิดอะไรขึ้น”ฉันเดินไปถามนายอนที่ดูเหมือนกำลังกลัวอยู่
“ก็เมื่อกี้มีลูกค้าโทรมาสั่งของ แต่บอกฉันว่าฉันทำผิดเลยอาละวาด” นายอนพูดพร้อมมองไปที่พื้นที่มีทั้งแก้วกาแฟ ขนมมากมายที่ล้มระเนระนาดอยูที่พื้น
“ก็กูบอกว่ากูไม่ได้สั่งอันนี้ มึงจะให้กูทำไงละ เห้ยกูไม่มีเวลามาเสียเวลากับพวกมึงนะเว้ยรีบๆไปทำมา!!” ชายคนหนึ่งในกลุ่มตะโกนมา
“ขะ....ขอโทษค่ะเดี๊ยวจะรีบไปทำให้ค่ะ” นายอนตกใจเสียงตะหวาดพร้อมพูเสียงสั่นๆ
นายอนกำลังจะรีบไปทำของให้ใหม่แต่ก็โดนมือของมินะรั้งไว้ก่อน
“ถึงคุณจะไม่ได้สั่งแบบนี้แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาทำลายข้าวของให้เสียหายแบบนี้นะคะ แล้วคุณจะรับผิดชอบยังไงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นตอนนี้คะ? ถ้าทางร้านจดออร์เดอร์ผิดก็ต้องขอโทษด้วยนะคะแต่ถ้าคุณสั่งไม่ผิดละคะ.....” มินะเว้นช่วงไว้ซักพักแล้วหันมาถามนายอน
“มีใบที่จดออร์เดอร์ของพวกนี้ไหม”
“มีๆอยู่บนเคาน์เตอร์”นายอนพูกพร้อมรีบวิ่งไปเอาให้มินะดู
“แล้วมึงจะรู้ได้ไงว่าที่นังนั้นจดมันจะถูก” เป็นเสียงจากผู้ชายในกลุ่มที่แทรกมาตอนที่มินะกำลังอ่านรายการที่สั่งอยู่
“งั้นทางร้านเราต้องขอโทษที่สะเพร่านะคะ...แต่คุณต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด อืมมม....ทั้งหมดก็ประมาณ400บาทค่ะแต่ถ้าไม่จ่าย.....ก็คงต้องแจ้งความข้อหาก่อกวนและทำลายทรัพย์สินนะคะ”มินะร่ายยาวพร้อมกับมองอย่างหน้านิ่งๆ นิ่งจนหน้ากลัว
ตอนนี้กลุ่มเด็กแว๊นหน้าเริ่มเสีย ไปต่อไม่ถูก
“สรุปจะจ่ายไหมคะ?”
หนึ่งในสมาชิกในกลุ่มรีบหยิบเงินในกระเป๋าให้
“ถ้าไม่ติดว่ากูมีธุระด่วนนะ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง เห้ยกลับ!!” หัวหน้ากลุ่มตะโกนขึ้นพร้อมกับรีบบึ้งมอไซต์ออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุด
“หึ นึกว่าจะแน่” มินะพูดเบาๆพร้อมหันไปหานายอนที่ตอนนี้ดูเหมือนกระต่ายตื่นตูม ดูกลัวจนตัวสั่นเล็กน้อย
“กลัวหรือคะ? หืม?” มินะถามพร้อมกับลูบหัวปลอบเบาๆ
“อืมก็ตกใจนิดหน่อยอ่ะ แล้วถ้าคร่าวหลังพวกนั้นมันมาอีกละ”
“ถ้าฉันไม่อยู่ร้านก็โทรเรียกฉันสิ เบอร์ฉันเธอก็มี”มินะพูดยิ้มๆ
“แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกโดยไม่มีฉันก็อย่าไปโต้ตอบแต่ก็ไม่ใช่ยอมให้มันปั่นหัวเล่นละเข้าใจไหม”มินะพูดพร้อมยีหัวนายอนด้วยความหมั่นไส้ที่เจ้าตัวทำหน้ากระต่ายหน้างอเหมือนมีใครมาแย่งแครอทไป
“รู้แล้วหน่า ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ”นายอนพูดพร้อมกับเดินก้มหน้าเข้าร้านไป
เธอไม่ได้กำลังเขินฉันใช่ไหม?
แต่อยู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็แทรกขึ้นมาก่อนที่ฉันจะมโนไปมากกว่านี้
“ค่ะๆเดี๊ยวจะรีบไปค่ะ” บอสโทรมาสั่งงานอีกแล้ว ฉันเดินเข้าไปบอกลานายอนก่อนที่จะรีบไปบริษัท
Part Jeongyeon
ช่วงนี้งานของฉันไม่ค่อยมีซะเท่าไรเลยมีเวลาไปเที่ยวเล่นไปตามภาษาของฉัน
ตอนนี้ฉันรู้สึกอิจฉาจื่อวีชะมัดเลย จื่อมันเจอคนที่มันควรหยุดแล้ว แต่ฉันละ? ภายนอกฉันอาจจะดูเป็นพวกเพลย์บอย แต่ฉันก็ไม่เที่ยวไปทำร้ายจิตใจใครซะหน่อย ฉันแค่ต้องการหาใครซะคนที่ฉันควรหยุดอยู่ที่เค้า เหมือนกับที่ไอ้จื่อวีหยุดอยู่ที่ซานะไง ฉันว่าคนนี้ไอ้จื่อจริงจรังแน่นอนฉันไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้มาก่อนเลย พูดแล้วก็อิจฉาโว้ยยยย!!
วันนี้ฉันออกมาเดินเล่นข้างนอก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของฉันถึงแม้ฉันจะมีงานมากมายแค่ไหนแต่อย่างน้อยฉันก็ต้องได้ออกจากห้องสี่เหลี่ยมแคบๆนั้นแน่นอน
ไม่เหมือนกับมินะหรอกรายนั้นเขาชอบเก็บตัวถึงงานจะว่างแทบไม่มีไรทำหรือจะงานหนักมากมายแค่ไหนก็ไม่เคยออกจากห้องสี่เหลี่ยมน่าเบื่อๆนั้นหรอก
มันจึงเป็นหน้าที่ของพวกฉันไงละที่ต้องค่อยชวนมันไปข้างนอกบ้างเที่ยวบ้างเพื่อไม่ให้มันเฉาตายไปซะก่อน
ฉันกับมินะเราเป็นเพื่อนกันมานานถึงแม้ว่าลักษณะนิสัยของเราจะต่างกันฟ้ากับเหวแต่ก็ไม่มีผลต่อความสัมพัน์ระหว่างเรา
ถ้าให้เปรียบเทียบ มินะก็คงเป็นเสมือนคนในครอบครัว เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามากถึงแม้จะมีทะเลาะกันรุนแรงบ้างแต่เราก็สามารถผ่านมันมาได้
เรื่องความรักเป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่าถ้าเผลอรักคนเดียวกับเพื่อนสนิทคงจะไม่ดีซะเท่าไร เราเลยสัญญากันว่าถ้าปิ้งคนไหนให้บอกอีกคนแล้วให้อีกคนช่วยจีบเพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
แต่เหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลยเพราะไอ้มินะไม่เคยปิ้งใครเลย รุ่นพี่หล่อๆก็ไม่เอา รุ่นน้องน่ารักๆก็ไม่สน มีแต่ฉันที่ไปขอร้องให้มันช่วยจีบแล้วก็นกกลับมาทุกครั้ง มันก็กลายเป็นเรื่องปกติของมินะไปซะแล้วที่ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้
ซ่าๆๆๆ
ซักพักฝนก็เริ่มตกและตกหนักขึ้นเรื่อยๆจนต้องทำให้ฉันวิ่งเข้าไปในร้านที่ใกล้ๆให้เร็วที่สุด
“สวัสดีค่ะ รับอะไร....อ้าวคุณเปียกนิ รอสักครู่นะคะเดี๊ยวไปเอาผ้าคนหนูมาให้”
ฉันวิ่งเขาร้านมาด้วยร่างกายที่เปลียกโชก ก็ได้ยินเสียงพนักงานจึงมองไปรอบๆก็พบว่าวิ่งมาหลบฝนที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
“อ่ะ นี้ค่ะผ้าขนหนู” พนักงานยื่นผ้าขนหนูให้ฉันพร้อมกับยิ้มกว้างให้หนึ่งที
รอยยิ้มของเธอเหมือนทำให้โลกหยุดหมุน....นี่ฉันไม่ได้เวอร์ไปนะ
“เอ่อ เอามอคค่าร้อนค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับเช็ดตัวไปเรื่อยๆ
“....ถ้าไม่ว่าอะไรไปหลังร้านไหมคะจะอุ่นกว่า ตรงนี้แอร์ลงแล้วตัวคุณก็เปลียกด้วย” หนักงานคนนั้นคิดเล็กน้อยจึงค่อยกล่าวชวนฉัน
ฉันก็ไม่ได้ปฎิเสธอะไรพยักหน้าแล้วเดินตามเธอมา
ตอนนี้ฉันนั่งอยู่หลังร้านซึ่งอุณหภูมิมันก็สูงกว่าตรงที่เมื่อกี้จริงๆตอนนี้ฉันคุ้มผ้าขนหนูพร้อมกับจิบกาแฟร้อนไปเรื่อยๆ
หัดชิ้ว!!
ฉันจามเสียงดังจนพนักงานคนเมื่อกี้ยื่นยามาให้ฉัน
“เอายาไหมคะ ดูเหมือนคุณจะเป็นหวัดนะ”
ตึกตักๆ
เสียงใจฉันเต้นเร็วและหน้าเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวเมื่อเธอยื่นยาพร้อมยิ้มหวานมาให้ฉัน
หรือว่านี้คือคนที่ฉันควรหยุดอยูที่เขา
ระหว่างที่รอให้ฝนซาเราก็คุยกันไปเรื่อยเปือย เราเริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็ว
เมื่อฝนหยุดตกฉันจึงต้องขอลาไปก่อนเพราะเสื้อผ้าที่ยังไม่แห้งดีจึงทำให้ฉันรีบกลับทั้งๆที่อยากจะอยู่คุยกับเธอต่อ
หลังจากออกจากร้านมาคนแรกที่ฉันนึกถึงคือมินะ ฉันพร้อมที่จะเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นให้มินะฟังแล้ว ฉันโทรไปมินะอยู่ที่บริษัทเลยนัดมาเจอกันที่บ้านฉันแทน
ฉันมารอมินะที่บ้านของฉันได้ซักพักมินะก็มา
“มึงต้องไม่เชื่อแน่ว่ากูไปเจออะไรมา” ฉันถามทันที่ที่มินะเดินเข้ามา
“อะไรอ่ะ เนื้อคู่มึงหรอ” มินะพูดแบบรู้ทันเพราะมีแค่ไม่กี่เรื่องหรอกที่ฉันจะนัดมินะมาที่บ้านของฉันแล้วขึ้นต้นประโยคทักทายแบบนั้น
“โถ่เพื่อนรักแค่มองตาก็รู้ใจ” ฉันเดินไปหามินะเพื่อจุ๊บเหม่งเป็นรางวัลแต่ก็ต้องโดนมันผลักหัวออก
ฉันเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้มินะฟัง
“กูอยากรู้วะว่าใครเป็นคนที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้ เขาชื่อไรวะ”
ฉันบิดตัวเขินไปมาไม่ยอมบอกจนมินะยกตรีนขึ้นมาเลยต้องรีบบอก
“เห้ยใจเย็นๆ เขาชื่อนายอนเว้ย”
#ficwho
//////Talk//////
สวัสดีรีดเดอร์ทุกคนนนนน
ขอโทษที่เมื่อวานไม่ได้มาอัพ เมื่อวานไรท์ปั่นงานทั้งคืนเลยไม่มีเวลา
วันนี้ก็รีบปั่นงานให้เสร็จแล้วก็รีบมาลง รีบไปดูHit the stageเตรียมหวีดมินะเต็มที่5555
เอ๊ะ! ตอนนี้เหมือนได้กลิ่นมาม่าใครต้มมาม่าหรอคะ อิอิ

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จุกแล้วนะ
แล้วมิคนแมนจะทำยังไงเนี่ย เห้อออ~
รีบๆมาต่อนะไรท์ไม่อยากต้มน้ำรอนาน
สู้ๆค่ะ😉