ตอนที่ 5 : Chapter -04- (แก้คำผิด)
....ในความมืดมิดนี้มีบางอย่างกำลังเข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เป็นผู้หญิงฟันกระต่ายมีผมหน้าม้าบางผมสีดำสนิท กำลังก้มดูฉันที่กำลังนอนอยู่ ฉันพยายามลืมตาเพื่อที่จะได้เห็นหน้าเธอชัดๆแต่ก็เปล่าประโยชน์ ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างมันพร่ามัวไปหมด
เธอลุกขึ้นเต็มตัวแล้วก็มีคนพยายามจะดึงตัวเธอไปจากตรงนี้แต่เธอไม่ยอม พยายามขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงที่ฉุดตัวเธอได้
ภาพของเธอที่ค่อยๆโดนลากจากไปเรื่อยๆ ก็ค่อยๆเลือนหายไป ความมืดก็เข้ามาแทรกช้าๆ จนไม่เห็นอะไรเลย
พรึบ!!
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นเด้งตัวขึ้นมานั่งบนเตียง เหงื่อท่วมตัวทำให้เหนียวเหนอะหนะหายใจหอบอย่างแรงและน้ำตาที่กำลังไหลที่ตาของฉัน.....
น้ำตา!?!
ฉันยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาอย่างงงๆ ฉันร้องไห้ทำไมกันทั้งๆที่ฉันไม่ได้เศร้าเสียใจหรือเจ็บปวดแต่อย่างใด หรือเกี่ยวกับฝันที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นะ
แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรมากอาการปวดหัวก็เกิดแทรกขึ้นทำให้ต้องยุติการคิดทุกอย่างแล้วเดินไปหายาพาราแทน
ตอนนี้ฉันย้ายมากินยาที่ห้องครัว ซึ่งตอนนี้มันก็เช้าแล้วเลยรวดกินข้าวเช้าด้วย
ยาพารา2เม็ดถูกใส่ปากพร้อมกับกลืนไปพร้อมกับน้ำ สองมือยกขึ้นมานวดขมับเบาๆ
“โอ้ยยย เป็นอะไรไปวะเนี้ยหรือเพราะพึ่งผ่านงานมาราธอนมา” ฉันพึมพัมกับตัวเองเบาๆ
จะให้ฉันบอกว่าปวดหัวเพราะฝันเมื่อกี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่อง ฉันว่าอาจจะเป็นเพราะทำงานหนักติดต่อกันหลายๆวันเฉยๆแหละ
พูดถึงเรื่องความฝัน ผู้หญิงที่ฝันเมื่อครู่จะใช่ยัยกระต่ายที่ฝันถึงทุกๆวันไหมนะ คร่าวนี้ฝันแล้วไม่ได้อะไรเลยมีแต่งงกว่าเดิม ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงมาหาเรา? ทำไมเธอถึงโดนคนมาลากไป? ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว
ตึ๊ง ตึ่ง
ยังไม่ทันได้คิดมากกว่านี้เสียงจากแอพพลิเคชั่นแชทก็ดังขึ้นมาทำให้ต้องกดเข้าไปดูข้อความที่ส่งมา
Tzuyoda : พี่วันนี้ไปกินข้าวกันไหมฉันเลี้ยงเอง พี่จองยอนกับพี่ซานะก็ไปนะ
Tzuyoda : ส่งสตก.อ้อน
ฉันอ่านข้อความที่จื่อวีส่งมาถึงกับงงอยู่ๆทำไมมันมาชวนไปกินข้าววะ? แต่ก็ตอบตกลงไปเพราะงานก็เสร็จแล้วไปผ่อนคลายหน่อยก็ดี
และจื่อวีก็ได้ส่งชื่อสถานที่เวลานัดมาเรียบร้อยซึ่งพอดูนาฬิกาก็ใกล้ถึงเวลานัดจึงไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกบ้านไปสถานที่ที่จื่อวีนัด
เนื่องจากวันนี้อากาศค่อนข้างร้อนเลยใส่เสื้อยืดสีเทาอ่อนกับกางเกงยีนส์ขาสั้นซึ่งแน่นอนว่ากางเกงต้องไม่ขาดเพราะว่าวันนี้นยัยซานะมาด้วยขืนถ้าฉันใส่ยีนส์ขาดมานะยัยนั้นต้องมานั่งลูบๆเล่นๆผิวที่โผล่มาจากรอยขาดของกางเกงแน่เลย
ฉันมาถึงร้านที่จื่อวีนัดไว้เป็นร้านนั่งเล่นชิวๆดูสบายๆ ถือได้ว่าเป็นร้านที่น่านั่งมากเลยทีเดียวในวันที่บรรยากาศแบบนี้
ฉันมองเข้าไปในร้านก็เห็นมีจื่อวีกับจองยอนนั่งอยู่ข้างในแล้วจึงเดินไปหาพวกนั้นที่โต๊ะ
“วันนี้มีไรหรอนัดมาแต่เช้าเลย” ฉันถามจื่อวีออกไปพร้อมกับไปนั่งข้างจองยอน
“5555ถ้ามึงได้ยินที่ไอ้จื่อพูดนะมึงต้องอึ้งเหมือนกับกูแน่เลย” จองยอนเอาศอกมาสะกิดและพูด
พอจองยอนพูดจบฉันก็หันหน้าไปหาจื่อวีซึ่งตอนนี้หน้ามันก็เริ่มแดงขึ้นมาจางๆพร้อมกับก้มหน้างุดเหมือนกำลังเขินอะไรซักอย่างนั้นยิ่งทำอยากให้ฉันอยากรู้ว่าจื่อวี่พูดอะไรกับจองยอนบ้าง
จื่อหันซ้ายหันขวาดูรอบๆเหมือนกำลังหาใครแล้วพูดประโยคที่ทำให้ฉันอึ้งเหมือนที่จองยอนบอกจริงๆ
“เอ่อคือ....คือ....เค้าคิดว่าเค้าชอบพี่ซานะอ่ะ”
ช็อคสิครับรออะไร!!! แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้คาสโนว่าอย่างไอ้จื่อมันจะมานั่งเขินก้มหน้า หน้าแดงได้ขนาดนี้เพราะยัยซานะ
“เห้ยเมื่อไร! ตอนไหน! ยังไง! เล่า!!” ยังไม่ทันที่จื่อวีจะได้ตอบคำถามฉันแม่ค้าขายอ้อย เอ้ย ซานะก็เดินเข้าร้านมาแล้วนั่งที่ว่างข้างๆจื่อวี เอาซะไอ้เด็กนั้นทำตัวไม่ถูกเลยว่ะ
“มาแล้วๆขอโทษที่มาช้ารถติดอ่ะ” และคำเบสิคที่โครตฮิตเวลามาสายก็ออกมาจากปากซานะซึ่งทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งในใจคิดว่าติดไฟแดงอีกซักที่ก็คงจะดีมากจะมาอะไรตอนนี้พอดีวะ
“มินะช่วงนี้นอนไม่หลับหรอ ดูสิตาคล้ำเหมือนหมีแพนด้าเลย” ซานะเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าเหนื่อยๆของมินะ
“เอ่อฉันกลับไปฝันถึงผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วล่ะ” ฉันตอบพร้อมกับยิ้มเหนื่อยๆ
ทุกคนในกลุ่มรู้เรื่องที่ฉันฝันถึงผู้หญิงคนนั้น เมื่อก่อนก็บอกให้ไม่ต้องคิดมากให้ปล่อยวางแต่หลังๆก็ฝันติดต่อกันเรื่อยๆจนมีบางครั้งพวกนี้จะลากฉันไปพบจิตรแพทย์ซึ่งฉันก็ปฎิเสธไป ฉันไม่อยากให้พวกนั้นห่วงจนเกินไปเลยบอกว่าไม่เป็นไรแม้จะตามตื้อ ล่อลวงให้ฉันไปแค่ไหน จนพวกนั้นล้มเลิกความคิดนั้นไป
“อย่าคิดมากหนะมินะ ผู้หญิงฟันกระต่ายคนนั้นอาจจะเป็นเค้าก็ได้....ดูนี่สิ”ซานะพูดอย่างขำๆแล้วโชว์ฟันกระต่ายให้ดู ทำให้คนทั้งโต๊ะขำในความโก๊ะของซานะ
“พี่โครตติ๊งต๊องอ่ะ 5555”จื่อวีพูดกวนๆแล้วยีหัวซานะเบาๆซานะยู่ปากงอนแล้วขอตัวไปห้องน้ำบอกว่าจื่อวีทำผมตัวเองยุ่ง
เฮ่นโหล่ววววว ยังเห็นหัวพวกกูอยู่ไหม -_-
ซักพักก็มีพนักงานมารับออร์เดอร์ซึ่งต่างคนก็ต่างสั่งมีแต่จื่อวีนั้นแหละที่รู้ว่าซานะชอบกินอะไรเลยสั่งให้แทน
แหม... มีความเตรียมพร้อม มีความศึกษามาดี
ซึ่งจื่อวีก็บอกว่าที่นัดมาก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่มานั่งเล่นนั่งคุยกันแต่ฉันว่าฉันกำลังดูหนังโรแมนติกระยะใกล้มากกว่าวะ นี่ขนาดไม่ได้เป็นแฟนกันนะถ้าแฟนกันมดคงไม่ขึ้นเลยหละ เดี๊ยวคนนี้ก็ป้อนคนนู้น เดี๊ยวคนนู้นก็เช็ดปากคนนี้
ฉันสะกิดจองยอนแล้วกระซิบเบาๆ
“เห้ยเราเป็นก ข ค เขาป่าววะ”
“เอ่อนั้นแหละไม่รู้เรียกมานั่งคุยหรือเรียกมาเป็นพยานรักวะ”
“เราควรออกไปไหม”
จองยอนพยักหน้ากับความคิดเห็นของฉัน
“จื่อ ฉันกับมินะกลับก่อนนะเว้ยพึ่งนึกได้ว่ามีงานขอบคุณที่เลี้ยง”
จองยอนกล่าวลาทุกคนและลากมือฉันออกจากสถานที่พลอดรัก(?)โดยที่จื่อวีก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากอยู่กับซานะ2คนละสิ หึฉันรู้ทันแกหรอกนะไอ้เด็กปีศาจ
Part Tzuyu
ตอนนี้พวกพี่ๆก็กลับกันไปหมดแล้วเหลือแต่ฉันกับพี่ซานะอยู่กัน2คน
อ่า....คิดแล้วเขินเหมือนกันแหะ-///-
ทำไมฉันถึงชอบพี่ซานะหน่ะหรอ
ย้อนกลับไปวันที่เราปิกนิกกันวันนั้นหลังจากที่จะกลับบ้านพี่จองยอนบอกว่ามีธุระพอดีจึงขอให้ฉันกลับกับซานะให้ซานะขับไปส่งฉันเพราะพี่ซานะเอารถมา ซึ่งตอนมาฉันมากับพี่จองยอน พี่ซานะก็ไม่ได้ขัดค้านอะไร ฉันจึงอาสาเป็นคนขับไปบ้านของฉันเอง
พอไปถึงบ้านฉันฝนก็เริ่มตกและก็ตกหนักเรื่อยๆหนักจนไม่สามารถขับรถได้ฉันจึงชวนพี่ซานะอยูที่บ้านฉันรอให้ฝนหยุดตกแล้วค่อยไปเพราะมันอันตราย
ระหว่างที่รอให้ฝนหยุดตกในบ้านของฉันเราก็ได้คุยกันมากขึ้นสนิทกันมากขึ้น
ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดว่าตังเองจะชอบพี่ซานะหรอก แต่พอเจอความอ้อย(?)ของพี่เขาแล้วรู้สึกใจเต้นแรงแปลกๆ ทำตัวไม่ค่อยถูก
บางครั้งฉันก็คิดว่าอาการโก๊ะๆมึนๆของพี่ซานะมันก็ดูน่ารักดีนะ -///-
ที่จริงที่ฉันนัดพี่ๆมาวันนี้ก็จะให้ช่วยจีบพี่ซานะนั้นแหละแต่พอทิ้งให้ฉันอยู่กับซานะ2คนฉันยิ่งอยากจะกราบขอบพระคุณมากๆ
“นี่จื่อวี จื่อวีอ่า” ซานะแตะไหล่ฉันเบาๆพร้อมมองหน้าฉันด้วยสายตาวิบวับ
พี่ซานะเรียกฉันให้หลุดจากภวังค์ เอาหวะจะจีบคนขายอ้อยใจต้องแข็งเว้ย
ฉันคิดอยู่นานแล้วตัดสินใจพูดคำนั้นออกไป
“พี่ซานะ.....เอ่อ....ไปเดทกันไหม?”
#ficwho
////Talk////
สวัสดีรีดเดอร์ทุกคนนนนน
ตอนนี้จื่อก็รุกแรงเหมือนกันนะ อิอิ
มินะกับจองยอนทำไมหรอคะอิจฉาหรอคะ 5555
ฝากติดตามและคอมเม้นท์ให้กำลังใจด้วยนะคะ.ก้มหัวอย่างนอบน้อม
อันยอง ปย๊งงงงงงง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เพิ่งเห็นจื่อรุก ก็เรื่องนี้แหละ ปกติ ยัยซาน จะรุกซะมากกว่า ไปเดทกัน~