ตอนที่ 12 : Chapter -11-
Part Nayeon
ภาพของชายคนหนึ่งกำลังเขยิบเข้ามาใกล้ๆ สายตาที่มองมาดูน่าเกียจและน่ากลัว เข้ามาใกล้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่สามารถขยับหลบหนีหรือทำอะไรได้เลย ทำได้แค่หลับตาแน่นรอรับชะตากรรม
พรึบ!!
ฉันสะดุ้งตื่นลืมตาอย่างรวดเร็ว ฉันอยากจะให้เรื่องเมื่อสักครู่เป็นเพียงฝันแต่พอรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาเมื่อพยายามจะลุกขึ้นจึงตอกย้ำได้ว่ามันไม่ใช่แค่ฝันร้ายแต่มันคือเรื่องจริง
“โอ้ย!”
ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด รู้สึกปวดหัวตึบๆและเจ็บบริเวณหน้าท้อง
สมองกำลังประมวลผล สายตามองไปรอบๆห้องที่ไม่คุ้นเคย ความกลัวเริ่มเข้ามาแทรก พร้อมกับพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ยังไม่ได้ทันได้คิด มินะก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมถือโจ๊กอุ่นๆ
“ฟื้นแล้วหรอ” เมื่อมินะเห็นฉันมินะก็ดีใจรีบวางโจ๊กที่ถือมาไว้บนโต๊ะเล็กใกล้ๆหัวเตียง
“อืม” ฉันตอบอย่างไม่มีแรงพร้อมพยักหน้าเบาๆ
“เป็นยังไงบ้าง? ปวดหัวไหม? ไหวรึป่าว?” มินะรัวคำถามมาไม่ยั้ง แต่มินะก็ไม่รอให้ฉันตอบ มือของมินะยื่นออกมาจับบริเวณหน้าผากฉันเบาๆอย่างกลัวว่าฉันจะบอบช้ำ
ตึกตักๆๆ
มินะจะรู้บ้างไหมนะว่าสายตาของมินะที่มองมาและการกระทำที่ดูเหมือนเป็นห่วงฉันมันทำให้ใจหวั่นไหว
“ปวดหัวและเจ็บท้องนิดหน่อย” ฉันตอบมินะไปอย่างยิ้มๆ ที่จริงฉันอยากจะตอบไปว่าไม่มีแรงแล้วแค่พูดยังลำบาก แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้มินะเป็นห่วงจึงเลือกที่จะโกหกไป
คิ้วที่ขมวดกันอยู่บนใบหน้าของมินะเหมือนไม่เชื่อในคำพูดของฉันซักเท่าไร
“หิวไหม กินโจ๊กอุ่นๆก่อนไหมจะได้กินยาและพักผ่อน” มินะพูดพร้อมเอื้อมมือไปหยิบถ้วยโจ๊กมา พร้อมกับตักขึ้นมาเป่าเบาๆและยื่นมาที่ปากของฉัน
อ้าม
ฉันอ้าปากรับโจ๊กอย่างเขินๆ ตั้งแต่เกิดมานอกจากคนในครอบครัวก็ยังไม่เคยมีใครป้อนข้าวให้ฉันเลย
“ร้อนไปไหม?” มินะถามอย่างเป็นห่วง
ฉันส่ายหัวเบาๆเป็นคำตอบ มินะยิ้มออกมาพร้อมกับป้อนฉันไปเรื่อยๆจนโจ๊กหมด
“เดี๊ยวกินยาแล้วก็พักผ่อนนะ” คุณหมอจำเป็นอย่างมินะออกคำสั่ง ก่อนจะลุกเอาโจ๊กไปเก็บ
ฉันหยิบยาขึ้นมากิน แล้วนั่งคิดทบทวนถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น ตอนนั้นฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมฉันต้องโทรหามินะทั้งๆที่ครั้งแรกโทรไปก็ไม่ติดน่าจะโทรหาคนอื่นแทน แต่ฉันกลับเลือกที่จะโทรหามินะไปเรื่อยๆจนกว่ามินะจะรับสาย ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าวันนั้นมินะไม่รับโทรศัพท์จะเป็นยังไง
ยอมรับเลยว่าตอนที่เห็นมินะเป็นคนเข้ามาช่วยฉัน ฉันรู้สึกปลอดภัยอย่างอธิบายไม่ถูก รู้สึกอุ่นใจทั้งๆที่อยู่ในอันตราย รู้สึกแค่ว่ามินะสามารถช่วยฉันได้แน่ๆทั้งๆที่มินะก็ไม่ได้มีวิชาป้องกันตัว หรือเก่งด้านการต่อสู้อะไรเลย
เพราะอะไรกันนะ?
คิดไปเพลินๆก็เผลอหลับเข้าสู่นิทราไปด้วยความอ่อนเพลีย
Part Mina
หลังจากที่ไปเก็บจานมาพอมาถึงห้องนอน นายอนก็ได้หลับลงไปแล้ว คงเหนื่อยมากสินะ ฉันนั่งลงบนเตียงเบาๆกลัวจะรบกวนคนที่นอนหลับไม่มีสติอยู่บนเตียง มองนายอนซักพักก็ยกมือขึ้นลูบหัวเบาๆ
“เหนื่อยมากไหมคะ?” มินะพูดขึ้นมาเบาๆโดยไม่ต้องการคำตอบของนายอน
“ขอโทษนะที่วันนั้นมาช่วยช้าไป” มินะพูดพร้อมลูบหัวนายอนไปเรื่อยๆ รู้สึกเจ็บไงไม่รู้ที่เห็นนายอนนอนอยู่ในสภาพนี้
เมื่อคืนก็นอนเฝ้าทั้งคืนเพราะกลัวว่าถ้านายอนตื่นมากลางดึกแล้วเจอห้องที่ไม่คุ้นเคยจะทำให้นายอนกลัวเลยนั่งฟุบหลับข้างๆเตียง เอาซะปวดหลังเมื่อตื่นมาในตอนเช้า แต่พอไปทำโจ๊กมาให้แล้วเดินเข้ามาเห็นนายอนนั่งอยู่ที่เตียง อาการปวดหลังก็หายเป็นปลิดทิ้ง
นั่งมองสำรวจใบหน้าของนายอน ผมสีดำปรกหน้าอยู่จึงเอื้อมมือเอาผมทัดหูเพื่อให้เห็นใบหน้าของนายอนชัดๆ ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ใบหน้าเรียวเป็นรูปไข่ จมูกโด่งๆ ปากที่เผลอออกเล็กน้อยให้เห็นถึงฟันกระต่าย แก้มขาวๆที่ดูน่าฟัด ทุกๆอย่างมันน่าดึงดูดมากจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้นมินะคงจับฟัดไปนานแล้วละ -////-
มินะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหยิบผ้าห่มมาห่มให้คนที่นอนงออยู่บนเตียงก่อนจะเดินไปทำงานที่โต๊ะข้างๆเตียงรอให้นายอนตื่นขึ้นมา
ตลอด2ชั่วโมงที่ผ่านมามินะหันไปมองดูนายอนเป็นระยะๆแต่นายอนก็ยังนอนเหมือนเดิมไม่มีท่าทีที่จะตื่น ด้วยความเป็นห่วงจึงลุกไปหานายอนแล้วเอามือจับหน้าผากเพื่อวัดไข้แต่ก็ต้องตกใจเมื่อตัวที่ร้อนเกินไปของนายอน
“นายอนๆ ตื่นเถอะไปหาหมอกันเธอตัวร้อนมากนะ” มินะเขย่าตัวนายอนเบาๆด้วยความเป็นห่วงกลัวคนตัวเล็กจะเป็นอะไรมากกว่านี้
นายอนลืมตาขึ้นมาช้าๆด้วยความปวดหัวนายอนจึงทำให้นายอนนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด มินะเห็นอย่างนั้นจึงช่วยพยุงนายอนให้นั่งพิงหัวเตียง
“เป็นไงบ้าง? ไปหาหมอกันเถอะ” เมื่อนายอนได้ยินคำว่าหมอนายอนก็ส่ายหัวทันที
“ไม่ไปไม่ได้หรอ” นายอนหน้างอเหมือนเด็กที่กลัวเข็มฉีดยา
มินะยิ้มเบาๆด้วยความเอ็นดูแต่มินะก็ไม่ยอมให้นายอนเป็นอะไรไปมากกว่านี้หรอก
“ไม่ได้นะคะเดี๊ยวจะแย่กว่านี้ กลัวหรอ? ไม่ต้องกลัวนะมินะอยู่ตรงนี้ทั้งคน” มินะพูดพร้อมลูบหัวเหมือนกำลังปลอบเด็กน้อยอยู่ แต่ดูเหมือนเด็กน้อยคนนี้จะดื้อมากส่ายหัวอย่างเดียวจนมินะต้องยอมแพ้ยกธงขาว
มินะจึงต้องโทรถามเพื่อนที่เป็นหมอแล้วอธิบายอาการของนายอน ดีที่เพื่อนเธอบอกว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาไม่ต้องกังวลกินยาไปแล้วสักพักก็หายดีจึงทำให้มินะโล่งอกมาบ้าง
มินะเดินมานั่งบนเตียงกับนายอนพร้อมบอกไม่ต้องไปหมอก็ได้แล้ว นายอนจึงยิ้มแป้นโชว์ฟันกระต่าย
“ขอบคุณมากๆนะที่วันนั้นมาช่วยฉัน”นายอนพูดพร้อมมองมาที่ตาคู่สวยของมินะ
“ฉันก็ขอโทษเหมือนกันที่มาช่วยเธอช้าเกินไป” มินะพูดพร้อมกุมมือนายอน นายอนส่ายหัวเบาๆเป็นคำตอบ
เราจ้องตากันซักพักไม่รู้ว่ามีแรงดึงดูดอะไรที่ทำให้ฉันขยับหน้าเข้าใกล้นายอนเรื่อยๆ นายอนเองก็ไม่มีท่าทีที่จะหนี นายอนก็มองเข้ามาในตาของฉัน นั้นยิ่งทำให้ฉันเลื่อนหน้าเข้าใกล้นายอนอีก
ใกล้เรื่อยๆ
จนจมูกแตะกันเหมือนนายอนจะรู้สึกตัว นายอนถอยหน้าออกเล็กน้อย
“ขอโท....”// “เดี๊ยวก็ติดหวัดหรอก” ฉันกำลังจะกล่าวขอโทษที่ทำแบบนี้แต่นายอนก็พูดขึ้นแทรกก่อนพร้อมยิ้มเขินๆก้มหน้า แก้มสีขาวของนายอนบัดนี้ได้กลายเป็นสีแดง ทำไมนายอนน่ารักได้สิ้นเปลืองแบบนี้นะ?
“ถ้าเป็นอย่างงั้นฉันยอมติดหวัดจากเธอละกัน”
#ficwho
/////talk/////
สวัสดีรีดเดอร์ทุกคนนนนนน
กรี๊สสส ตอนจบนี่พิมพ์ไปเขินไปแต่ไม่รู้ว่ารีดจะฟินกันรึป่าว5555
สารภาพเลยว่าเขียนฉากเลิฟซีนไม่ค่อยเป็น เลยไม่รู้ว่าจะโอเคไหม
แต่ตอนนี้มินะดูอบอุ่นจริงๆนะคะ -////-
ฝากติดตามและคอมเม้นท์ให้กำลังใจด้วยนะคะ.ก้มหัวอย่างนอบน้อม
อันยอง ปย๊งงงงงงง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รีบๆมาต่อเลยค่ะ อยากบิดต่อ555😂😂😂