ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love triangle (LM/ DM/ HG)

    ลำดับตอนที่ #1 : เจ็บ.....นิดๆ

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 55


     

    1. เจ็บ.....นิดๆ

     

           เมื่อสงครามระหว่างแฮร์รี่และเจ้าแห่งศาสตร์มืดลอร์ดโวลเดอมอร์ จบลงทุกอย่างเริ่มกลับคืนสู่สภาพที่ดี ความสุขที่ห่างหายไปนานกลับมาอีกครั้ง ศัตรูที่เคยเกียจรชังบัดนี้แทบจะกอดคอ ตบหัวกันได้อย่างสบายเว้นเสียแต่ว่า

    “ผมไม่ยอมญาติดีกับพวกมันแน่”เดรโกพูดเสียงแข็ง ใบหน้าแสดงความรู้สึกขัดใจ ขณะพูดกับพ่อของเขา

    “แกก็รู้ว่าตอนนี้สงครามจบลงแล้ว ทุกคนกลับมามีความสุขอีกครั้งแล้วทำไม ทำไมแกถึงยังจมปลักอยู่กับอดีตที่ผ่านมา” ลูเซียส เดินไปรอบๆตัวของลูกชาย

    “แม้สถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ผมไม่เคยคิดที่จะทำตัวเป็นมิตรกับคนอย่างไอ้เจ้าพอตเตอร์คนดีของทุกคนหรอก” เดรโกเดินไปที่ประตูบ้าน

    “แกจะไปไหน”ลูเซียสถาม เขาเบื่อพฤติกรรมของลูกชายเขาจะแย่อยู่แล้ว แล้วนี่นาร์ซิสซาก็ยังต้องมาตายไปอีก เขาควรจะทำยังไง เมื่อไม่มีภรรยาที่เมื่อก่อนเคยดูแลเอาอกเอาใจลูก ทุกอย่างมันดูยากเย็นไปหมดเมื่อเขาสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักของเขาไป

    “ผมจะออกไปข้างนอก ค่ำๆถึงจะกลับพ่อไม่ต้องรอผมนะ”เดรโกปิดประตูดังปัง! ไม่สนใจคนเป็นพ่อ ตั้งแต่แม่ตายเขาก็เหมือนคนที่ไร้ความสุข แม่ที่เคยดูแลให้คำปรึกษาที่ดี และรักเขาอย่างไม่มีข้อแม้ ตอนนี้จากเขาไปแล้ว  เขาเบื่อเหลือเกินที่ต้องมานั่งฟังทำตามคำสั่งพ่อ เมื่อก่อนพ่อสั่งเขาให้ทำแต่เรื่องเลวๆมาโดยตลอดแต่พอสงครามจบลงพ่อเขากลับมาสั่งให้เขาทำดีกับพวกพอตเตอร์ ซึ่งเขาเกลียดเข้ากระดูกดำ หรืออาจมากกว่านั้น “เจ้าพอตเตอร์ ฉันไม่มีวันญาติดีกับแต่ตามที่พ่อฉันสั่งหรอก” เขาพึมพำไปตลอดทางเดิน  และแล้วเขาก็หยุดมองสิ่งที่เขาคิดถึง หลังจากจบสงคราม และหลังจบจาก

    ฮอกวอตส์  แพนซี่ พาร์กินสัน!   เขาคิดถึงเธอเหลือเกินตอนอยู่ฮอกวอตส์เธอรักเข้ามากแม้เขาจะไม่ค่อยรักเธอเท่าไรหรืออาจไม่รักเลย แต่เขาก็คิดถึงเธอเพราะเธอเป็นคนเดียวที่ทำดีกับเขามาตลอดอยู่ข้างเขาเสมอ แต่ความรู้สึกดีๆที่เดรโกมีต่อแพนซี่ก็ต้องหมดไปเพราะ

    “แดนเนี่ยล วันนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันดีล่ะ” แพนซี่เดินควงแขนมากับชายอื่น และเมื่อแพนซี่เห็นเดรโก เธอก็ไม่ได้ทำสีหน้าสะทกสะท้านแต่อย่างใด กลับเยาะเย้ยด้วยซ้ำ

    “อ้าว ว่าไงเดรโก มัลฟอย ตั้งแต่จบจากฮอกวอตส์ ก็ ตั้ง ปีกว่าแล้วเธอคงคิดถึงฉันแย่เลย”แพนซี่เอนหัวซบชายหนุ่มข้างๆ

    “ทำไมเธอ” เดรโกพูดอะไรไม่ออก

    “อ้อ นี่คือ แดนเนี่ยลแฟนฉันเอง เข้าเคยอยู่เดิร์มแสตรง ด้วยล่ะรู้จักกันไว้สิ” แพนซี่ยิ้ม

    “ทำไมเธอทำแบบนี้กับฉันแพนซี่ เธอรักฉันไม่ใช่หรอ” เดรโกพูดอย่างหมดแรง ไม่อยากเชื่อภาพตรงหน้าที่เขาเห็น

    “ขอบอกอะไรหน่อยนะเดรโกที่รัก ฉันไม่ได้รักเธอหรอกฉันพูดไปอย่างงั้นเอง” แพนซี่พูดต่อ “เมื่อก่อนฉันคิดว่าเธอเป็นคนกล้าหาญแต่พอมาคิดดูแล้วนายมันขี้ขลาดตาขาว ไม่มีอะไรดีเลยนอกจาก หล่อแล้วก็รวยเท่านั้น” คำพูดนั้นมันเฉือนใจของชายหนุ่มราวกับมีดที่ฟันกลับไปมา เป็นร้อยรอบ

    “นังแพศยา” เดรโกกัดฟัน เขาทั้งโกรธและแค้นใจ แต่ดูเหมือนแพนซี่จะไม่พูดอะไร เธอได้แต่หัวเราะอย่างสะใจที่ได้รู้ว่าเธอทำให้คนอย่างเดรโกต้องเสียใจเพราะเธอ

    “เดรโกที่รัก แล้วเธอล่ะ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากหมาข้างถนนเลยสักนิด”แพนซี่ทิ้งท้ายก่อนจะเดินไป “ขี้ขลาด ฮ่าฮ่าฮาฮาๆๆๆ”

    “หมาข้างถนน” มัลฟอยกำหมัดแน่น หน้าแดงด้วยความโกรธ เขาจะต้องทำให้ผู้หญิงคนนี้เสียงใจเพราะเขาให้ได้ คอยดู!

     

     ........................................................................................................................................................................................

    ที่คฤหาสน์มัลฟอย

    “ฉันต้องขอขอบคุณ คุณมัลฟอยมากๆเลยที่ไม่รังเกียจ เชิญเรามาทานอาหารเย็นที่บ้าน”นางวิสลี่ย์กล่าว ขณะที่ทุกคนร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน

    “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณและคุณนายวิสลี่ย์ ยังไงๆตอนนี้ทุกอย่างสงบลงแล้วเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ใช่มั้ยครับ” แม้คำพูดจะดูเป็นมิตรแต่เสียงของนายมัลฟอยก็ไม่ต่างอะไรจากเมื่อก่อน มันเรียบเฉยและเยือกเย็น

    “แน่นอนพวกเราควรจะลืมเรื่องที่ผ่านมาให้หมด จริงมั้ยเด็กๆ”นายวิสลี่ย์ขอความคิดเห็นจากแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่

    “ครับ/ค่ะ” รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ตอบพร้อมกัน

    “ไม่ทราบว่าอาหารที่ผมสั่งจัดเตรียมไว้ให้มันไม่ถูกปากเลยใช่มั้ย คุณพอตเตอร์” ลูเซียสถาม แต่ดูเหมือนว่าแฮร์รี่กำลังใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ เลยไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่ลูเซียสถาม ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องเป็นฝ่ายแก้สถานการณ์

    “เอ่อคุณมัลฟอยคะ แฮร์รี่เขาเป็นคนที่ เอ่ออออ..แบบเนี่ยแหละค่ะที่คุณเห็น เวลาเขาทานอะไรๆที่อร่อย หน้าตาเขาก็จะเอ๋อๆหน่อยน่ะค่ะ อย่าถือสาเขาเลย” เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลย บ้าจริงใครเขาจะไปเชื่อ

    “งั้นหรอ” ลูเซียสพยักหน้า  เขาพิจารณาใบหน้าของเด็กสาวคนนี้ มันช่างงดงามเหลือเกิน ตอนเชิญเธอมาที่นี่ พอได้เห็นหน้าแล้วเขาถึงกลับตะลึงกับความงามของเธอ ลูเซียสมองเฮอร์ไมโอนี่นานมาก จนเขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังยิ้ม

    “คุณมัลฟอยผมเกือบลืมไปเลย” นายวิสลี่ย์ถาม ทำให้ลูเซียสถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่มีใครสังเกต

    “ว่ามาครับ” ลูเซียสยังคงพยายามมองไปที่ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่โดยไม่ให้เธอรู้ตัว

    “ลูกชายของคุณเขาอยู่ไหน ไม่มาทานมื้อเย็นกับพวกเราล่ะครับ” สิ้นเสียงของนายวิสลี่ย์  เสียงประตูบ้านก็ดังขึ้น แล้วก็พบร่างๆหนึ่งเดินมาอย่างคนไร้สติ พร้อมกับมีกลิ่นแอลกอฮอล์ที่แรงมาก

    “อ้าววว่างายคร๊าบบบบบบพ่อ แหมอยู่กันพร้อมหน้าเลยน้า” มัลฟอยยิ้ม อย่างคนบ้าพร้อมกับโบกมือไปให้พ่อของเขาที่อยู่หัวโต๊ะ

    “แกไปไหนมา!” ลูเซียสเดินไปหาลูกชายเพียงคนเดียวของเขาด้วสีหน้าที่ดูก็รูเลยว่ากำลังโมโห

    “ผมจาปายหนายมานก็เรื่องของผม”เดรโกเดินไปยังบันไดบ้านก่อนจะจับราวบันไดด้วยมือข้างเดียว แล้วเดินขึ้นไปสองก้าวก่อนจะเดินถอยกลับมาสามก้าวเป็นอย่างงี้ซ้ำไปซ้ำมา

    “เดี๋ยวผมกับรอนพาเขาขึ้นไปเองครับ”แฮร์รี่อาสา ก่อนะจะลากคอเสื้อของรอนที่ไม่เต็มใจนักไปด้วย  ตอนแรกเดรโกไม่ยอมให้พวกเขาทั้งสองแตะเนื้อต้องตัว แต่แล้วก็ต้องปล่อยเลยตามเลย

    “งั้นเดี๋ยวหนูไปช่วยพวกเขาก็แล้วกัน เพราะดูท่าพวกเขาคงจะมีเรื่องกันแน่เลย” เฮอร์ไมโอนี่ บอกกับนายมัลฟอย

    “ไม่ต้องหรอกคุณเกรนเจอร์ พวกเขาจัดการกันเองได้ อย่าห่วงเลย”นายมัลฟอยพูดด้วยเสียงที่เฮอร์ไมโอนี่คิดแล้วขนลุก มันฟังดูแปลกๆ

    “ค่ะคุณมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าสบตากับเขาตรงๆ เธอเดินไปนั่งเก้าอี้เดิมที่เธอเคยนั่ง

    ผ่านไปหลายนาทีแฮร์รี่กับรอนก็เดินลงมาพร้อมกับปาดเหงื่อบนใบหน้า

    “เหงื่อท่วมเลยนะพวกเธอ”เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “เดรโกคงจะอาละวาดล่ะสิ”นายมัลฟอยถามก่อนจะจิบไวน์

    “ก็ไม่เชิงหรอกฮะคุณมัลฟอย”รอนตอบ แล้วหายใจแรงด้วยความเหนื่อย

    “เอ่อ ขอโทษครับคุณมัลฟอยเขาเป็นแบบนี้ตลอดเลยหรือ” แฮร์รี่ถาม

    “ฉันเพิ่งเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ตั้งแต่ที่นาร์ซิซาตาย” นายมัลฟอยทำหน้าเศร้าเล็กน้อยเพราะคิดถึงภรรยา

    “อาหารวันนี้อร่อยมากเลยนะคะ”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มส่งกำลังใจให้นายมัลฟอย มันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างน่าประหลาด

    “ใช่แล้ว อร่อยกว่าที่ฉันทำอีกนะคะ” นางวิสลี่ย์ชม แต่ในความจริงแล้วเธอคิดว่าอาหารที่เธอทำนั้นอร่อยกว่าเป็นไหนๆ

    เมื่อดินเนอร์จบลงทุกคนพากันกลับบ้านเหลือแต่เฮอร์ไมโอนี่ เธอกำลังเดินออกจากบ้าน โดยที่ไม่ลืมที่จะกล่าวคำบอกลา

    “ลาก่อนค่ะ และก็ขอบคุณสำหรับอาหาร”เธอพูดแล้วยิ้ม

    “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณเกรนเจอร์ ต่อไปคุณอยากมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ ผมยินดีตอนรับเสมอ”

    “ค่ะ”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างเขินๆ และทุกอย่างก็เงียบลง ไมมีใครพูดอะไร มันน่าอึดอัดเหลือเกิน

    และแล้วลูเซียส มัลฟอยก็เป็นคนทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนั่นลง

    “จะรังเกียจมั้ยถ้าผมอยากจะชวนคุณไปเดินเล่นแถวๆนี้”

    “เอ่อ คือว่า”เฮอร์ไมโอนี่พยายามหาข้ออ้าง

    “จริงสินะ คุณยังไม่ค่อยไว้ใจผมเท่าไหร่เพราะเมื่อ่อนผมน่ะเลวมากจริงๆ”เขาพยายามพูดให้เธอปฑิเสธเขาไม่ออก

    “ไม่ใช่อย่างงั้นค่ะ คือฉัน” เธอจนมุมในที่สุด “งั้นก็ได้ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่จึงเดินตามลูเซียสไปโดยเธอพยายามรักษาระยะห่างให้เหมาะสม แต่เธอคงจะไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีคนยืนอยู่บนระเบียงกำลังยืนมองพวกเขาสองคนตาไม่กระพริบ

    ชายหนุ่มผมบลอนด์วัย 18 ปีกำลังจ้องมองผู้เป็นพ่อกำลังเดินกับหญิงสาวที่เขาหลงรักแทนที่จะเป็นแม่ของเขาด้วยสายตาที่ไม่สามารถบนนยายได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

     

    ...........................................................................................................................................................................





     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×