คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เจ็บ.....นิดๆ
1. เจ็บ.....นิดๆ
เมื่อสงครามระหว่างแฮร์รี่และเจ้าแห่งศาสตร์มืดลอร์ดโวลเดอมอร์ จบลงทุกอย่างเริ่มกลับคืนสู่สภาพที่ดี ความสุขที่ห่างหายไปนานกลับมาอีกครั้ง ศัตรูที่เคยเกียจรชังบัดนี้แทบจะกอดคอ ตบหัวกันได้อย่างสบายเว้นเสียแต่ว่า
“ผมไม่ยอมญาติดีกับพวกมันแน่”เดรโกพูดเสียงแข็ง ใบหน้าแสดงความรู้สึกขัดใจ ขณะพูดกับพ่อของเขา
“แกก็รู้ว่าตอนนี้สงครามจบลงแล้ว ทุกคนกลับมามีความสุขอีกครั้งแล้วทำไม ทำไมแกถึงยังจมปลักอยู่กับอดีตที่ผ่านมา” ลูเซียส เดินไปรอบๆตัวของลูกชาย
“แม้สถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ผมไม่เคยคิดที่จะทำตัวเป็นมิตรกับคนอย่างไอ้เจ้าพอตเตอร์คนดีของทุกคนหรอก” เดรโกเดินไปที่ประตูบ้าน
“แกจะไปไหน”ลูเซียสถาม เขาเบื่อพฤติกรรมของลูกชายเขาจะแย่อยู่แล้ว แล้วนี่นาร์ซิสซาก็ยังต้องมาตายไปอีก เขาควรจะทำยังไง เมื่อไม่มีภรรยาที่เมื่อก่อนเคยดูแลเอาอกเอาใจลูก ทุกอย่างมันดูยากเย็นไปหมดเมื่อเขาสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักของเขาไป
“ผมจะออกไปข้างนอก ค่ำๆถึงจะกลับพ่อไม่ต้องรอผมนะ”เดรโกปิดประตูดังปัง! ไม่สนใจคนเป็นพ่อ ตั้งแต่แม่ตายเขาก็เหมือนคนที่ไร้ความสุข แม่ที่เคยดูแลให้คำปรึกษาที่ดี และรักเขาอย่างไม่มีข้อแม้ ตอนนี้จากเขาไปแล้ว เขาเบื่อเหลือเกินที่ต้องมานั่งฟังทำตามคำสั่งพ่อ เมื่อก่อนพ่อสั่งเขาให้ทำแต่เรื่องเลวๆมาโดยตลอดแต่พอสงครามจบลงพ่อเขากลับมาสั่งให้เขาทำดีกับพวกพอตเตอร์ ซึ่งเขาเกลียดเข้ากระดูกดำ หรืออาจมากกว่านั้น “เจ้าพอตเตอร์ ฉันไม่มีวันญาติดีกับแต่ตามที่พ่อฉันสั่งหรอก” เขาพึมพำไปตลอดทางเดิน และแล้วเขาก็หยุดมองสิ่งที่เขาคิดถึง หลังจากจบสงคราม และหลังจบจาก
ฮอกวอตส์ แพนซี่ พาร์กินสัน! เขาคิดถึงเธอเหลือเกินตอนอยู่ฮอกวอตส์เธอรักเข้ามากแม้เขาจะไม่ค่อยรักเธอเท่าไรหรืออาจไม่รักเลย แต่เขาก็คิดถึงเธอเพราะเธอเป็นคนเดียวที่ทำดีกับเขามาตลอดอยู่ข้างเขาเสมอ แต่ความรู้สึกดีๆที่เดรโกมีต่อแพนซี่ก็ต้องหมดไปเพราะ
“แดนเนี่ยล วันนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันดีล่ะ” แพนซี่เดินควงแขนมากับชายอื่น และเมื่อแพนซี่เห็นเดรโก เธอก็ไม่ได้ทำสีหน้าสะทกสะท้านแต่อย่างใด กลับเยาะเย้ยด้วยซ้ำ
“อ้าว ว่าไงเดรโก มัลฟอย ตั้งแต่จบจากฮอกวอตส์ ก็ ตั้ง ปีกว่าแล้วเธอคงคิดถึงฉันแย่เลย”แพนซี่เอนหัวซบชายหนุ่มข้างๆ
“ทำไมเธอ” เดรโกพูดอะไรไม่ออก
“อ้อ นี่คือ แดนเนี่ยลแฟนฉันเอง เข้าเคยอยู่เดิร์มแสตรง ด้วยล่ะรู้จักกันไว้สิ” แพนซี่ยิ้ม
“ทำไมเธอทำแบบนี้กับฉันแพนซี่ เธอรักฉันไม่ใช่หรอ” เดรโกพูดอย่างหมดแรง ไม่อยากเชื่อภาพตรงหน้าที่เขาเห็น
“ขอบอกอะไรหน่อยนะเดรโกที่รัก ฉันไม่ได้รักเธอหรอกฉันพูดไปอย่างงั้นเอง” แพนซี่พูดต่อ “เมื่อก่อนฉันคิดว่าเธอเป็นคนกล้าหาญแต่พอมาคิดดูแล้วนายมันขี้ขลาดตาขาว ไม่มีอะไรดีเลยนอกจาก หล่อแล้วก็รวยเท่านั้น” คำพูดนั้นมันเฉือนใจของชายหนุ่มราวกับมีดที่ฟันกลับไปมา เป็นร้อยรอบ
“นังแพศยา” เดรโกกัดฟัน เขาทั้งโกรธและแค้นใจ แต่ดูเหมือนแพนซี่จะไม่พูดอะไร เธอได้แต่หัวเราะอย่างสะใจที่ได้รู้ว่าเธอทำให้คนอย่างเดรโกต้องเสียใจเพราะเธอ
“เดรโกที่รัก แล้วเธอล่ะ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากหมาข้างถนนเลยสักนิด”แพนซี่ทิ้งท้ายก่อนจะเดินไป “ขี้ขลาด ฮ่าฮ่าฮาฮาๆๆๆ”
“หมาข้างถนน” มัลฟอยกำหมัดแน่น หน้าแดงด้วยความโกรธ เขาจะต้องทำให้ผู้หญิงคนนี้เสียงใจเพราะเขาให้ได้ คอยดู!
ที่คฤหาสน์มัลฟอย
“ฉันต้องขอขอบคุณ คุณมัลฟอยมากๆเลยที่ไม่รังเกียจ เชิญเรามาทานอาหารเย็นที่บ้าน”นางวิสลี่ย์กล่าว ขณะที่ทุกคนร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณและคุณนายวิสลี่ย์ ยังไงๆตอนนี้ทุกอย่างสงบลงแล้วเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ใช่มั้ยครับ” แม้คำพูดจะดูเป็นมิตรแต่เสียงของนายมัลฟอยก็ไม่ต่างอะไรจากเมื่อก่อน มันเรียบเฉยและเยือกเย็น
“แน่นอนพวกเราควรจะลืมเรื่องที่ผ่านมาให้หมด จริงมั้ยเด็กๆ”นายวิสลี่ย์ขอความคิดเห็นจากแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่
“ครับ/ค่ะ” รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ตอบพร้อมกัน
“ไม่ทราบว่าอาหารที่ผมสั่งจัดเตรียมไว้ให้มันไม่ถูกปากเลยใช่มั้ย คุณพอตเตอร์” ลูเซียสถาม แต่ดูเหมือนว่าแฮร์รี่กำลังใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ เลยไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่ลูเซียสถาม ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องเป็นฝ่ายแก้สถานการณ์
“เอ่อคุณมัลฟอยคะ แฮร์รี่เขาเป็นคนที่ เอ่ออออ..แบบเนี่ยแหละค่ะที่คุณเห็น เวลาเขาทานอะไรๆที่อร่อย หน้าตาเขาก็จะเอ๋อๆหน่อยน่ะค่ะ อย่าถือสาเขาเลย” เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลย บ้าจริงใครเขาจะไปเชื่อ
“งั้นหรอ” ลูเซียสพยักหน้า เขาพิจารณาใบหน้าของเด็กสาวคนนี้ มันช่างงดงามเหลือเกิน ตอนเชิญเธอมาที่นี่ พอได้เห็นหน้าแล้วเขาถึงกลับตะลึงกับความงามของเธอ ลูเซียสมองเฮอร์ไมโอนี่นานมาก จนเขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังยิ้ม
“คุณมัลฟอยผมเกือบลืมไปเลย” นายวิสลี่ย์ถาม ทำให้ลูเซียสถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่มีใครสังเกต
“ว่ามาครับ” ลูเซียสยังคงพยายามมองไปที่ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่โดยไม่ให้เธอรู้ตัว
“ลูกชายของคุณเขาอยู่ไหน ไม่มาทานมื้อเย็นกับพวกเราล่ะครับ” สิ้นเสียงของนายวิสลี่ย์ เสียงประตูบ้านก็ดังขึ้น แล้วก็พบร่างๆหนึ่งเดินมาอย่างคนไร้สติ พร้อมกับมีกลิ่นแอลกอฮอล์ที่แรงมาก
“อ้าววว่างายคร๊าบบบบบบพ่อ แหมอยู่กันพร้อมหน้าเลยน้า” มัลฟอยยิ้ม อย่างคนบ้าพร้อมกับโบกมือไปให้พ่อของเขาที่อยู่หัวโต๊ะ
“แกไปไหนมา!” ลูเซียสเดินไปหาลูกชายเพียงคนเดียวของเขาด้วสีหน้าที่ดูก็รูเลยว่ากำลังโมโห
“ผมจาปายหนายมานก็เรื่องของผม”เดรโกเดินไปยังบันไดบ้านก่อนจะจับราวบันไดด้วยมือข้างเดียว แล้วเดินขึ้นไปสองก้าวก่อนจะเดินถอยกลับมาสามก้าวเป็นอย่างงี้ซ้ำไปซ้ำมา
“เดี๋ยวผมกับรอนพาเขาขึ้นไปเองครับ”แฮร์รี่อาสา ก่อนะจะลากคอเสื้อของรอนที่ไม่เต็มใจนักไปด้วย ตอนแรกเดรโกไม่ยอมให้พวกเขาทั้งสองแตะเนื้อต้องตัว แต่แล้วก็ต้องปล่อยเลยตามเลย
“งั้นเดี๋ยวหนูไปช่วยพวกเขาก็แล้วกัน เพราะดูท่าพวกเขาคงจะมีเรื่องกันแน่เลย” เฮอร์ไมโอนี่ บอกกับนายมัลฟอย
“ไม่ต้องหรอกคุณเกรนเจอร์ พวกเขาจัดการกันเองได้ อย่าห่วงเลย”นายมัลฟอยพูดด้วยเสียงที่เฮอร์ไมโอนี่คิดแล้วขนลุก มันฟังดูแปลกๆ
“ค่ะคุณมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าสบตากับเขาตรงๆ เธอเดินไปนั่งเก้าอี้เดิมที่เธอเคยนั่ง
ผ่านไปหลายนาทีแฮร์รี่กับรอนก็เดินลงมาพร้อมกับปาดเหงื่อบนใบหน้า
“เหงื่อท่วมเลยนะพวกเธอ”เฮอร์ไมโอนี่พูด
“เดรโกคงจะอาละวาดล่ะสิ”นายมัลฟอยถามก่อนจะจิบไวน์
“ก็ไม่เชิงหรอกฮะคุณมัลฟอย”รอนตอบ แล้วหายใจแรงด้วยความเหนื่อย
“เอ่อ ขอโทษครับคุณมัลฟอยเขาเป็นแบบนี้ตลอดเลยหรือ” แฮร์รี่ถาม
“ฉันเพิ่งเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ตั้งแต่ที่นาร์ซิซาตาย” นายมัลฟอยทำหน้าเศร้าเล็กน้อยเพราะคิดถึงภรรยา
“อาหารวันนี้อร่อยมากเลยนะคะ”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มส่งกำลังใจให้นายมัลฟอย มันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างน่าประหลาด
“ใช่แล้ว อร่อยกว่าที่ฉันทำอีกนะคะ” นางวิสลี่ย์ชม แต่ในความจริงแล้วเธอคิดว่าอาหารที่เธอทำนั้นอร่อยกว่าเป็นไหนๆ
เมื่อดินเนอร์จบลงทุกคนพากันกลับบ้านเหลือแต่เฮอร์ไมโอนี่ เธอกำลังเดินออกจากบ้าน โดยที่ไม่ลืมที่จะกล่าวคำบอกลา
“ลาก่อนค่ะ และก็ขอบคุณสำหรับอาหาร”เธอพูดแล้วยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณเกรนเจอร์ ต่อไปคุณอยากมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ ผมยินดีตอนรับเสมอ”
“ค่ะ”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างเขินๆ และทุกอย่างก็เงียบลง ไมมีใครพูดอะไร มันน่าอึดอัดเหลือเกิน
และแล้วลูเซียส มัลฟอยก็เป็นคนทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนั่นลง
“จะรังเกียจมั้ยถ้าผมอยากจะชวนคุณไปเดินเล่นแถวๆนี้”
“เอ่อ คือว่า”เฮอร์ไมโอนี่พยายามหาข้ออ้าง
“จริงสินะ คุณยังไม่ค่อยไว้ใจผมเท่าไหร่เพราะเมื่อ่อนผมน่ะเลวมากจริงๆ”เขาพยายามพูดให้เธอปฑิเสธเขาไม่ออก
“ไม่ใช่อย่างงั้นค่ะ คือฉัน” เธอจนมุมในที่สุด “งั้นก็ได้ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่จึงเดินตามลูเซียสไปโดยเธอพยายามรักษาระยะห่างให้เหมาะสม แต่เธอคงจะไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีคนยืนอยู่บนระเบียงกำลังยืนมองพวกเขาสองคนตาไม่กระพริบ
ชายหนุ่มผมบลอนด์วัย 18 ปีกำลังจ้องมองผู้เป็นพ่อกำลังเดินกับหญิงสาวที่เขาหลงรักแทนที่จะเป็นแม่ของเขาด้วยสายตาที่ไม่สามารถบนนยายได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
...........................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น