คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [YunJae] My dear vampire
“มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย?!” แจจุงขยี้ผมตัวเอง ขณะที่นั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขกในบ้านของตัวเอง เมื่อนึกทบทวนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
.
.
.
“กลับบ้านแล้วนะพี่” คิมแจจุง ผู้ชายหน้าสวยประจำคณะวิศวะกล่าวกับรุ่นพี่ที่สนิทกันอีกคนหนึ่ง
“เออ ตามสบาย แล้วไม่คิดจะเปลี่ยนชุดรึไง?” รุ่นพี่ทัก ก็จริงของเขา วันนี้ที่คณะมีจัดงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่ที่จบปีนี้ จึงมีการแสดงเกรียนๆจากรุ่นน้อง แล้วในฐานะที่แจจุงเป็นผู้ชายที่สวยก็เลยถูกบังคับขู่เข็ญแต่งตัวเป็นผู้หญิงและเต้นมาบอยกับเพื่อนๆผู้ชายอีกสามคนที่รูปร่างหน้าตาน่ารักพอๆกันจนผู้หญิงหลายคนยังอาย
“ไม่อ่ะพี่ อย่างงี้ก็เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ” แจจุงพูดแล้วสะบัดผมปลอมของตัวเอง แจจุงพูดแบบไม่สะทกสะท้านก็แหงล่ะ ถึงจะสวยแค่ไหนแต่ขึ้นชื่อว่าคิมแจจุงแล้วล่ะก็ ความเกรียนก็ไม่เป็นรองใคร
“เออ ระวังเหอะจะโดนฉุด”รุ่นพี่พูดตบท้ายก่อนที่แจจุงจะเดินออกไปจากสถานที่จัดเลี้ยง
“ตลกแล้ว ถ้าไม่หูตาฝ้าฟางก็น่าจะดูออกแหล่ะน่าว่าเป็นผู้ชาย” แจจุงพึมพำเบาๆกับตัวเอง แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ เพราะที่ผ่านมา สาวๆแต่ละคนที่เขาจีบ ไม่ว่าจะโบอา แทยอน ยุนอา ซอลลี่ โบรัม โซฮี ซอนมี ซอนเย โอ๊ยเยอะ! ต่างก็ไม่รับรักเขาเพราะเหตุผลที่ว่า
‘แจจุง ถ้าเรามีแฟน เราก็อยากมีแฟนหล่อๆ แจจุงนิสัยดีมากนะ แต่เราไม่อยากได้แฟนที่สวยกว่าเรา’
เฮ้อออ เป็นอย่างงี้ซะทุกราย - -
พรึบ!
แจจุงหยุดชะงักกึกเมื่อรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรผ่านหลังเขาไป
“ใครวะ?” แจจุงพูดขึ้น
“สวัสดีสาวน้อย” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมความรู้สึกเจ็บที่ต้นคอก่อนที่แจจุงจะสลบไป...
“โอ๊ย อะไรวะเนี่ย?” แจจุงฟื้นขึ้นมาในที่ที่เขาสลบลงไปเป๊ะๆ เขารีบจับที่คอตัวเอง .. ไม่เจ็บแล้วแฮะ..
“เฮ้ย!” แจจุงร้องเมื่อเห็นผู้ชายที่นอนทับตัวของเขาอยู่
“เฮ้ยคุณๆ เพิ่งกลับมาจากงานแฟนซีไงวะเนี่ย?” แจจุงสะกิด ก็ผู้ชายคนนี้แต่งตัวอย่างกะแดรกคิวล่า แถมเขี้ยวก็ทำซะเหมือนจริงอีกต่างหาก
“เอาไงดีวะ?”แจจุงคิด ถ้าปล่อยไว้ที่นี่ เดี๋ยวโดยโจรโดนขโมยปล้นไปแน่ เครื่องประดับต่างๆในตัวไอหมอนี่ยิ่งดูล้ำๆอยู่ เอาเป็นว่าเอากลับบ้านก่อนแล้วกัน
.
.
.
แจจุงก็คงไม่ต้องมานั่งคิดมากแบบนี้หรอก ถ้าเมื่อกลับบ้านมาแล้วเขาไม่พบว่าที่คอมีรอยฟันที่ดูเหมือนว่าจะพอดีกับเขี้ยวของไอคนที่เขาพากลับบ้านมาด้วย ดังนั้นแจจุงจึงเอากระเทียม ผ้ายัน พระ ไม้กางเขน และทุกอย่างที่เขาพอจะนึกออกและหาได้ไปกองไว้ในห้องนอนของเขาที่เอาผู้ชายคนนั้นไปนอนทิ้งไว้ก่อนในตอนแรกก่อนที่เขาจะเข้ามาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เอาไงดีวะเนี่ย” แจจุงพึมพำกับตัวเอง ถ้าเอาไปทิ้งที่อื่น แล้วถ้ามันไปทำร้ายใคร ต้องไม่ดีแน่ แต่จะเอาไว้เองให้มันกัดคอเรางั้นหรอ? โอ๊ยแจจุงเครียด
“นี่เจ้า กระเทียมหมดแล้ว มีเพิ่มอีกไหม ข้าอยากขออีกนิด” ผู้ชายคนที่แจจุงเอาไปไว้ในห้องนอนของเขาเปิดประตูออกมา ในมือถือเปลือกกระเทียมเดินออกมาหาแจจุงที่ห้องรับแขก
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อย่าเข้ามานะเว่ย!” แจจุงพูด ดันตัวให้ติดกับโซฟาให้ไกลผู้ชายคนนี้ให้มากที่สุด และรีบคว้าแจกันที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเป็นอาวุธ
“อะไรของเจ้า ข้าแค่ขอกระเทียมเท่านั้น ขนมขบเคี้ยวชั้นยอดที่ข้าชอบมาก ต้องขอบใจคนที่เอามาวางไว้เต็มห้องนั้น อ้าว ที่คอเจ้าโดนแวมไพร์สาวตัวไหนกัดรึ แต่เขี้ยวใหญ่เกินสตรีจริง เอ แล้วทำไมเจ้าไม่ตายล่ะเนี่ย?” ผู้ชายคนนั้นยังพูดไม่หยุดเหมือนกำลังพูดว่าพรุ่งนี้จะกินเอ็มเคหรือบาร์บีคิวพลาซ่าดี ในขณะที่แจจุงนั้นชอคไปแล้ว
“แวมไพร์สาวบ้าไรล่ะ แกนั่นแหล่ะกัดชั้น ! แล้วอย่าพูดเหมือนการตายของชั้นเป็นเรื่องปกติได้มั้ย!?” แจจุงพูดอย่างเดือดดาล เรื่องคนตายมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะเว่ย!
“ฮะ ข้าเนี่ยนะกัดเจ้า บ้าไปแล้ว ข้ากัดแต่ผู้หญิงเท่านั้น จะกัดเจ้าได้อย่างไร” ผู้ชายคนนั้นทำหน้าตกตะลึงบ้างแล้ว แล้วแจจุงจะรู้มั้ยล่ะว่ามากัดเขาได้ไง
“สรุปก็คือนายเป็นแวมไพร์ที่กินแต่เลือดผู้หญิง แต่เมื่อวานเห็นชั้นนึกว่าเป็นผู้หญิงเลยกะมากิน แต่ตามกฎถ้ากินเลือดเพศเดียวกัน พลังและชีวิตจะหายไปครึ่งนึงและคนที่ถูกกินเลือดก็จะไม่ตาย ถูกแมะ?” แจจุงสรุปเรื่องราวทั้งหมดหลังจากนั่งฟังจากผู้ชายที่บอกว่าตัวเองคือท่านเค้าท์ยุนโฮ
“ถูกแล้ว” ยุนโฮพูด
“เออ งั้นก็กลับบ้านไปได้แล้ว แล้วทีหลังก็ดูให้ถูกด้วยนะ ก่อนจะกัดใครว่าผู้ชายผู้หญิง” แจจุงพูดอย่างหงุดหงิด ก็เขาเป็นผู้ชายนี่นา มาดูว่าเขาเป็นผู้หญิงได้ยังไง
“อ่า นี่แหล่ะปัญหาเลย” ยุนโฮทำหน้าเครียดเล็กน้อย
“อย่าบอกนะว่ากลับไม่ได้” แจจุงถาม
“ใช่...”ยุนโฮก้มหน้าเล็กน้อย ก็ตลอดมาการเดินทางของเขาคือการบินมาโดยตลอดแล้วอยู่ๆพลังการบินของเขาก็หายไปแล้วเขาจะกลับยังไงล่ะ
“งั้นไปแท็กซี่มั้ย?” แจจุงถามอีก
“แท็กซี่..มันคืออะไรรึ?” ยุนโฮถาม แจจุงก็ได้แต่เอามือตบหน้าผาก
“เอางี้ แถวบ้านนายมีอะไรบ้าง?”
“อ่า.. ข้าอยู่บ้านติดกับหนูแดจังกึมน่ะ” ยุนโฮพูด
“แด..จังกึม!! เห้ย นั่นมันสมัยโชซอนเลยนะเว่ย” แจจุงพูดในฐานะแฟนพันแท้แดจังกึม เออว่ะ แวมไพร์มันอายุยืนนี่หว่า แจจุงเพิ่งคิดได้
“นั่นเป็นคนสุดท้ายที่ข้ารู้จักในระแวกบ้านน่ะนะ แต่ข้าก็ไม่รู้หรอกว่าจะไปยังไง เคยแต่บินไป ไม่เคยไปทางอื่นเลย” ยุนโฮพูด
งั้นเอางี้ อยู่ที่นี่ไปก่อน ไว้เสาร์หน้าชั้นจะพาไปส่งโอเค๊?” แจจุงพูด วันนี้วันอังคาร เขามีเรียนทุกวันจะได้หยุดก็วันเสาร์นู่น
“เจ้าหาเลือดให้ข้าด้วยได้มั้ย?” ยุนโฮถาม
“นายก็กินกระเทียมไปสิ ของโปรดไม่ใช่แงะ?” แจจุงพูดอีก แวมไพร์บ้าไรวะชอบกินกระเทียม -*-
“มันเป็นขนม กินยี่สิบล้านตันข้าก็ไม่อิ่ม กินได้แค่เลือดเท่านั้น ไม่รู้รึไง” ยุนโฮพูดอย่างหน่ายๆอย่างกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องรู้
“เอางี้ นายกินเลือดชั้นแล้วกัน” แจจุงพูด ยุนโฮรีบเงยหน้ามามองอย่างตกใจ
“เออ นั่นแหล่ะ ก็ถ้านายไปกินเลือดผู้หญิงคนอื่น เค้าก็ต้องตาย แต่ถ้านายไปกินเลือดผู้ชายคนอื่น เค้าก็มีรอยน่าเกลียดๆ เอาเป็นว่ากินเลือดชั้นนี่แหล่ะ”แจจุงอธิบาย
“แต่ชีวิตและพลังข้าล่ะ?” ยุนโฮถาม
“พูดมาก เดี๋ยวปั๊ดไปทิ้งแล้วให้หาทางกลับบ้านเองเลยหนิ” แจจุงพูด
“อ่า..ก็ได้ๆ งั้นข้าขอที่มืดๆหน่อยได้มั้ย จะเช้าแล้ว” ยุนโฮพูด ก็เขาเป็นแวมไพร์นี่นา ก็ต้องกลัวแสงเป็นธรรมดาสิ
“เออๆ อยู่ในห้องนั้นแล้วกัน เดี๋ยวชั้นจะไปเรียนแล้วเหมือนกัน” แจจุงพูดแล้วชี้ไปที่ในห้องเก็บของที่ไฟเสียชั่วคราวและมืดมาก
“ห้องนั้นน่ะนะ สกปรกจะตาย ขออยู่ห้องที่เจ้าเอาข้าไปไว้เมื่อกี้แทนแล้วกัน” ยุนโฮต่อรอง แต่แจจุงก็อึ้งไปเลย ว่ารู้ได้ไงว่าห้องมันสกปรกทั้งๆที่ไม่เคยเข้าไป
“นี่ ข้าเป็นแวมไพร์นะ มองทะลุประตูได้” ยุนโฮอธิบายเมื่อเห็นแววตาสงสัยของแจจุง
“มองทะลุประตูได้ แต่มองไม่ออกว่าผู้ชายผู้หญิง” แจจุงแขวะเบาๆ ยุนโฮได้แต่ทำหน้าหงุดหงิดเพราะเถียงไม่ออกก่อนจะเดินเข้าห้องนอนของแจจุงไป
“พี่ครับ มียาบำรุงเลือดหรืออะไรทำนองนั้นมั้ยอ่ะ?” แจจุงถามเภสัชกรร้านขายยาข้างๆมหาวิทยาลัย
“มีจ้า รอแป๊บนะ” เภสัชกรเดินไปหยิบมาให้ ถ้าถามว่าแจจุงจะเอาไปทำอะไร ... ก็แหม ต้องโดนกินเลือดทุกวันก็ต้องบำรุงหน่อยล่ะนะ
“ขอบคุณครับ” แจจุงยิ้มให้เภสัชกรหลังจากที่รับยาและจ่ายเงินเรียบร้อย
“ทำไมเราต้องมาทำอะไรอย่างงี้ด้วยเนี่ยยยยย” แจจุงส่ายหัวและยิ้มน้อยๆกับตัวเอง ก็แค่อยากให้ยุนโฮชมเขาอีกนี่นาาา เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืนเขาก็เขินขึ้นมา คืนแรกของการโดนดูดเลือดอย่างเต็มใจ ยุนโฮชมว่าเลือดเขาหอมและหวานกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยดูดมาซะอีก
“ไอแวมไพร์บ้า” แจจุงพึมพำเบาๆแล้วเดินร่าเริงกลับบ้านไป
“แจจุง” เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ใกล้จะสองทุ่ม ท้องฟ้ามืดลงยุนโฮก็ตื่นขึ้นมา
“เอ๋? อะไรเนี่ย?” แจจุงมองไปที่โต๊ะอาหารที่ยุนโฮกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง
“ข้าเกรงใจเจ้าที่ให้ข้ากินเลือดแบบไม่ถือสาอะไร เลยเอาของในตู้เย็นเจ้ามาทำอาหารที่เคยทำให้กิน” ยุนโฮพูด
“แต่ข้าทำไม่เป็นและอาจจะไม่อร่อยเท่าไหร่หรอกนะ แอบดูแม่ข้าทำน่ะนึกอะไรได้ก็ใส่ลงไปเลย” ยุนโฮทำหน้ามุ่ยเมื่อนึกถึงแม่ของเขาที่ชอบว่าเขาว่าทำอาหารก็ไม่เป็น แต่แวมไพร์ที่ไหนเค้ากินอาหารพวกนี้กันเล่า มีแต่แม่ของเขานั่นแหล่ะที่ชอบแอบไปเรียนทำอาหารกับพี่จังกึมบ่อยๆ
“อร่อยสิ” แจจุงพูดแล้วยิ้มหน้าบาน ส่วนยุนโฮก็ได้แต่ทำหน้างง ก็ยังไม่ทันกินเลยแจจุงจะรู้ได้ไงว่าอร่อย
“แต่แจจุงยังไม่กินเลยนะ จะรู้ได้ไงว่าข้าทำอร่อย”
“รู้สิ ถ้าเป็นยุนโฮทำต้องอร่อยอยู่แล้ว” แจจุงยิ้ม แล้วลงมือกินอาหารจนหมดทันที
“อ่ะ แจจุงอิ่มแล้ว ยุนโฮมากินบ้างเร็ว” แจจุงพูดอย่างอารมณ์ดี ก็ความจริงแล้วน่ะ ยุนโฮทำอาหารอร่อยสุดยอดเลย
อือ....
ก็แทนที่ยุนโฮจะกัดที่ต้นคอตามที่แจจุงได้เอียงเตรียมไว้ให้ กลับจูบมาที่ปากของแจจุง แม้จะเป็นเพียงการเอาปากมาประกบกันแต่ก็รู้สึกได้ถึงความละมุนละไมในรสจูบนี้
“ขอบคุณมากนะแจจุง” ยุนโฮพูด ก่อนจะฝังเขี้ยวลงบนคอแจจุงที่รอยเดิมอีกครั้ง ดีจะที่ทายาชาไว้ก่อนจะได้ไม่เจ็บ
“หวานกว่าเมื่อวานอีกนะเนี่ย” ยุนโฮพูดหลังจากที่ดื่มเลือดของแจจุงจนน่าจะพอประทังชีวิตต่อไปในวันพรุ่งนี้แล้ว
“บ้า” แจจุงยิ้มเขินๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถึงแม้แค่สองสามวัน แต่แจจุงกลับรู้สึกดีกับยุนโฮมากมาย และยุนโฮก็เช่นเดียวกัน
“ขออีกนิดได้มั้ย?” ยุนโฮถาม
“เลือดอ่ะนะ ไม่เอาแล้วเดี๋ยวชั้นไม่มีไปหล่อเลี้ยงสมอง พรุ่งนี้ชั้นยังมีเรียนอยู่นะ” แจจุงพูด
“ไม่ใช่เลือด จูบน่ะ” ยุนโฮพูด ทำเอาแจจุงเขินม้วนเลยทีเดียว
“อ้ะ อื้ออออ” แต่ก็เขินได้ไม่นานเพราะหลังจากที่พูดจบ แจจุงก็ถูกยุนโฮโอบเอวและเอาปากมาประกบทันทีลิ้นของยุนโฮค่อยๆแทรกซึมริมฝีปาก ไล้ไปตามฟันและเข้าไปพันกับลิ้นของแจจุงในที่สุด มือของยุนโฮก็เริ่มอยู่ไม่สุข จากโอบเอวบางก็เริ่มลูบไล้ไปที่บั้นเอว และสอดเข้ามาในเสื้อ
“คนบ้า” แจจุงพูดแก้เขินหลังจากผละจูบออกมาก่อนที่ตัวเองจะขาดอากาศหายใจ
“แวมไพร์ต่างหาก”ยุนโฮแก้ให้อย่างอารมณ์ดี
“อ่ะถ้าดูจากแผนที่นี้ บ้านนายน่าจะอยู่ตรงนี้ใช่มั้ย” แจจุงเอาปากกาวงกลมที่จุดหนึ่งในแผนที่ประเทศเกาหลีซึ่งเป็นป่ารกร้างไร้ผู้คนเพราะยุนโฮได้ร่ายมนตร์ตบตาเอาไว้
“งั้นเราก็ต้องนั่งรถจากตรงนี้ ไปตรงนี้ ต่อตรงนี้ แล้วก็จะถึงบ้านของนาย” แจจุงยังคงลากเส้นทางไปเรื่อยๆเพื่อวางแผนการเดินทางสำหรับพรุ่งนี้
“เฮ้! ฟังบ้างป่ะเนี่ย?” แจจุงถาม ยุนโฮที่มัวแต่เหม่อลอยสะดุ้งขึ้น
“พูดมาตั้งนานไม่ฟังเลยหรอเนี่ย” แจจุงบ่นน้อยใจ
“ข้าไม่อยากไปจากแจจุงเลย” ยุนโฮพูดขึ้นมา ตาของแจจุงก็เริ่มมีน้ำตาขึ้นมาเล็กน้อย เขาก็รู้สึกเหมือนกัน แต่ไม่อยากพูดอะไร เวลาเพียงสั้นๆแต่ทั้งสองก็รู้สึกผูกพันธ์กันมากมาย แต่คนกับแวมไพร์จะอยู่ด้วยกันได้ยังไง
“ข้าว่าข้ารักเจ้าล่ะ แจจุง” ยุนโฮพูดอีกครั้งก่อนจะบรรจงจูบแจจุงอีกครั้งและทั้งสองก็ไม่ได้สนใจใยดีปากกาและแผนที่นั้นอีกเลยตลอดคืน...
“โหหหหหหห สวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย” แจจุงพูดขึ้น เมื่อมาถึงบ้าน ไม่สิ เรียกว่าปราสาทจะดีกว่า ที่มีการตกแต่งอย่างหรูหราอลังการของท่านเค้าท์ยุนโฮ
“น่าอยู่มั้ยล่ะ?” ยุนโฮถามแล้วยิ้มอย่างเอ็นดูให้กับแจจุงผู้ที่วิ่งสำรวจรอบบ้านไปมาอย่างกับเด็กมาสวนสนุก
“น่าอยู่สิ ถ้าชั้นรวยๆนะ ชั้นจะซื้อแบบนี้อยู่บ้างเลยคอยดู” แจจุงยักคิ้วให้ยุนโฮขณะที่กำลังมองกระจกบานใหญ่ที่ตกแต่งอยู่ที่ฝาผนัง
“ไม่ต้องหรอก” ยุนโฮพูดแล้วเดินมาที่ด้านหลังของแจจุง
“มาอยู่ด้วยกัน กับข้าเถอะนะ” ยุนโฮยกแหวนทองคำขาวขึ้นมาต่อหน้าแจจุง ทั้งสองมองหน้ากันผ่านทางกระจก แจจุงทั้งอึ้ง และดีใจมากๆแต่..
“แต่ชั้นเป็นคนนะ เดี๋ยวอีกหน่อยก็ตาย แล้วยุนโฮล่ะ” แจจุงพูดในสิ่งที่คิดมาโดยตลอด
“ข้าคิดไว้แล้ว ถ้าข้าดื่มเลือดเจ้าทุกวัน ครั้งสุดท้ายที่ข้าดื่มเลือดแจจุง จะเป็นวันสุดท้ายก่อนหมดอายุของแจจุงพอดี และเราก็จะตายไปพร้อมกัน” ยุนโฮพูด ถึงแม้เรื่องความตายจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่แจจุงกลับมีความสุขที่ได้ยินแผนการการตายของเขาทั้งคู่มากกว่า
“ว่าไง แต่งงานกับข้าได้มั้ย แจจุง” ยุนโฮถามอีกครั้ง
“ยุนโฮเอาหัวใจชั้นแล้ว จะไม่แต่งกับยุนโฮได้ไงล่ะ” แจจุงยิ้มอย่างเขินๆ ยุนโฮรีบใส่แหวนให้แจจุงทันที
“รักแจจุงนะ เจ้าสาวของข้า” ยุนโฮจูบที่หลังมือของแจจุง
“รักนายเหมือนกัน”แจจุงยิ้ม แล้วทั้งสองก็เริ่มจูบกันนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้เพียงว่าเป็นการจูบที่เท่าไหร่ก็คงไม่พอ
“เอ๋?” เมื่อถอนจูบออกมา แจจุงก็ต้องตกใจเพราะตอนนี้ตัวเองอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ส่วนยุนโฮก็อยู่ในชุดเจ้าบ่าวสุดหล่อ ส่วนปราสาทก็ตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานาชนิด
“งานแต่งของเรา ชุดข้าเลือกแบบไม่ถูกเลยออกมาแบบนี้ แขกน้อยไปหน่อยแค่พระจันทร์ดวงเดียว ขอโทษด้วยนะ เจ้าพอรับได้มั้ย” ยุนโฮถามแจจุงอย่างไม่สบายใจนัก
“ชั้นชอบที่สุดเลย ขอแค่มียุนโฮก็เป็นงานแต่งงานที่ดีที่สุดแล้ว” แจจุงกอดยุนโฮอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มเข้าสู่โลกที่มีเพียงเขาสองคนโดยไม่สนใจแม้แต่พระจันทร์แขกของงาน รวมทั้งชุดแต่งงานที่ยุนโฮเป็นกังวลเลยแม้แต่น้อย...
....จบ....
เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากตอนเห็นรูปยุนโฮเป็นแวมไพร์ในคอนโทนแล้วอยากจะเอียงคอให้ดูดเลือด กรี๊ด ><
แต่ถ้าเราโดนคนอ่านต้องมาตบตีเราแน่นอน เพราะฉะนั้นให้แจจุงคนงามของเราโดนดีกว่าเน๊าะ อิอิ
อ่านแล้วชอบไม่ชอบบอกด้วยนะะะ : )
ความคิดเห็น