คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [YunJae] นักเขียนเงาที่รัก [1/3]
“ครับผม ได้ครับ แล้วเจอกันครับ” ชอง ยุนโฮ นักเขียนเงามือฉมังพูดกับโทรศัพท์ก่อนจะวางสาย เขาทำงานเป็นนักเขียนเงาให้กับศิลปินและนักการเมืองหลายคนซึ่งก็มีรายได้ถล่มทลายซะทุกเล่มไป และเย็นนี้ก็เช่นกันเขาจะต้องมีนัดคุยกับลูกค้ารายใหม่
“คิม แจจุง งั้นหรอ...” ยุนโฮพูดเบาๆกับตัวเอง แน่นอนก่อนที่เขาจะเข้าไปพูดคุยกับลูกค้า การหาข้อมูลก่อนก็เป็นสิ่งสำคัญ ก็ทั้งชีวิตเขาสนใจแต่หนังสือกับงานศิลปะ ดารงดาราเซเลปอะไรเขารู้จักซะที่ไหน ก็ต้องหาข้อมูลไว้ก่อนแล้วกัน
“อ่า นึกออกแล้ว มิน่าล่ะเหมือนเคยเห็นที่ไหน” ยุนโฮพูดเมื่อหันไปเจอซองกล้วยแขกของตนที่ทำมาจากหน้าหนังสือพิมพ์ที่กำลังลงข่าวของแจจุงอยู่
“ไม่ทำไม่ได้หรอพี่จินยอง ผมเข้าวงการมาไม่ถึงปีเลยนะ แล้วให้มาเขียนหนังสือแล้วเนี่ยนะ” คิม แจจุง นักร้องหน้าใหม่ของวงการที่สามารถไต่ชาร์ตเพลงฮิตสิบอันดับรวดแค่ในอัลบั้มแรกด้วยอายุเพียงสิบเก้าปี เพราะน้ำเสียงที่ใครฟังก็เหมือนต้องมนสะกด อีกทั้งหน้าตาและรูปร่างราวกับแองเจิ้ลตัวน้อย วินาทีนี้ใครไม่รู้จักคิมแจจุงก็นับว่าไม่ได้อยู่ในประเทศเกาหลีเป็นแน่...เอ่อ...ยกเว้นชองยุนโฮไว้คนนึงแล้วกันล่ะนะ
“อย่าดื้อหน่อยเลยแจจุง แกก็รู้นี่นาว่าเขียนหนังสือจะได้กระตุ้นยอดขายอัลบั้มแก ตอนนี้โกยได้ก็รีบโกย” พี่จินยอง ผู้จัดการส่วนตัวของแจจุงพูด แต่แค่อัลบั้มแรกของแจจุงก็ขายดีจนขาดตลาด แจจุงก็ไม่เข้าใจว่าจะทำหนังสือไปเพื่ออะไร
“แต่แจจุงเหนื่อยนะ” แจจุงพูดอย่างอ้อนวอนนี่ก็สิบวันติดแล้วนะที่แจจุงไม่ได้นอนเลย เพราะไหนจะอัดรายการทีวีต่างๆไปจัดมินิคอนเสิร์ตตามที่มีคนจ้างทั้งกลางวันและกลางคืน
“แจจุง....”พี่จินยองที่เริ่มใจอ่อนเห็นใจแจจุงก็เดินเข้ามาลูบหัวกลมๆของคนที่แทบจะอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนก็เอ็นดูเหมือนน้องชายแท้ๆคนนึง
“นะพี่จินยองนะ แจจุงเหนื่อยมากๆเลย” แจจุงเอาหัวซุกกับไหล่ของจินยองเพื่อเป็นการอ้อน
“งั้น...เย็นนี้ไปแค่คุยกับเค้าแล้วกันเพราะพี่นัดไว้แล้ว ส่วนงานอื่นๆพี่จะยกเลิกให้แล้วกัน จะได้พักผ่อน” จินยองพูด เพราะถึงแม้จะสงสารน้องเพียงใด แต่การทำหนังสือก็เป็นความต้องการของท่านประธานบริษัทยังไงก็ขัดไม่ได้จริงๆ
“งั้นก็ได้ แค่เย็นนี้เท่านั้นนะ พี่จินยองสัญญาแล้วนะ” แจจุงยกนิ้วก้อยเพื่อให้อีกคนสัญญาและทั้งสองก็เกี่ยวก้อยสัญญากัน
สำหรับแจจุงแล้ว พี่จินยองก็เป็นเสมือนเพื่อน พี่สาวและเป็นแม่ของเขาในเวลาเดียวกันเพราะตั้งแต่จำความได้เขาก็อยู่ในสถานสงเคราะห์มาโดยตลอด รับหน้าที่เป็นคนร้องเพลงเวลามีผู้ใหญ่ใจดีมาเลี้ยงอาหาร จนกระทั่งวันหนึ่งขณะที่แจจุงอายุได้เก้าปี นักร้องดังคนหนึ่งซึ่งมาจัดงานวันเกิดที่สถานสงเคราะห์แห่งนี้ และหลังจากที่แจจุงร้องเพลงเสร็จพี่จินยองซึ่งสมัยนั้นเป็นเพียงพนักงานเล็กๆคนหนึ่งของค่ายเพลง ก็ขอรับแจจุงมาอุปการะทันที แจจุงฝึกซ้อมอย่างหนักโดยมีพี่จินยองให้กำลังใจอยู่ข้างๆจนกระทั่งได้มาเป็นนักร้องถึงทุกวันนี้
“สวัสดีค่ะคุณยุนโฮ” พี่จินยองทักทายชายหนุ่มที่ยืนงงอยู่หน้าร้านอาหารทันทีที่มาถึงหน้าร้าน
“อ่า สวัสดีครับคุณ..จินยองใช่มั้ย?” ยุนโฮทักทายคนที่โทรนัดให้เขามาเมื่อเช้า
“ค่ะ อ่าวแล้วนี่ทำไมไม่เข้าไปในร้านก่อนล่ะคะ?”พี่จินยองถาม
“ผมไม่รู้จะทานอะไรดีเลยรอคุณอยู่ข้างหน้าก่อนน่ะครับ” ยุนโฮตอบ ทำให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังพี่จินยองต้องเงยหน้าออกมาดูคนที่ตัวเองคิดว่าตอบคำถามได้เพี้ยนจริงๆ ก็ตลอดมาไม่ว่าจะเป็นการเจรจาอะไรถ้านัดที่ร้านอาหารคนอื่นๆก็มักจะเข้าไปสั่งอะไรทานไปก่อน แล้วก็ให้พี่จินยองเป็นคนจ่ายเงินค่าอาหารด้วยซ้ำไป แต่คนคนนี้ .. แปลกจริงๆนะ
“เอ๋ อ่าค่ะ งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” พี่จินยองพูดแล้วคว้ามือเด็กหนุ่มข้างหลังจนเพื่อจะเดินเข้าร้านอาหาร
“คนนี้ใครครับ? คุณจองจงรึเปล่าครับ?” ยุนโฮที่นอกจากจะไม่เดินเข้าไปในร้านแล้วยังทักชื่อแจจุงผิดอีกต่างหาก แจจุงขมวดคิ้วทันที ตานี่เพิ่งกลับมาจากดาวอังคารรึไงถึงมาเรียกเขาผิดๆแบบนี้แถมยังถามอีกว่าเขาเป็นใคร มันน่ามั้ยเนี่ย!
“อ่า..ใช่แล้วค่ะ นี่น้องแจจุงค่ะ งั้นเข้าร้านกันดีกว่านะคะ” พี่จินยองเน้นชื่อแจจุงเป็นพิเศษแล้วรีบพาแจจุงเข้าร้านไปห้องพิเศษที่จองไว้ทันที โดยมียุนโฮค่อยๆเดินตามเข้ามา นี่พี่จินยองเลือกนักเขียนถูกคนรึเปล่าเนี่ย?
“เดี๋ยวพี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”พี่จินยองลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะแล้วไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้ทั้งสองคนนั่งเงียบกันต่อไป
“เพลงคุณแจงจุงเพราะดีนะครับ” ยุนโฮพูดหลังจากที่ทั้งสองนั่งทานอาหารเงียบๆมาเป็นเวลานาน
“ขอบคุณที่ชอบเพลงของแจจุงครับ” แจจุงเน้นชื่อตัวเองอีกรอบ ให้ตายเหอะ ชาตินี้จะเรียกชื่อไม่ให้ถูกเลยใช่มั้ยเนี่ย เดี๋ยวแม่จะทำให้จำชื่อแจจุงให้ได้อย่างเดียวในชีวิตเลยคอยดู!
“ไม่เป็นไรครับ ผมเพิ่งเคยฟังครั้งแรกหลังจากที่คุณจินยองโทรมาเมื่อเช้านี้ ยังจำได้อยู่เลยนะครับ” ยุนโฮยังพูดเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองนั้นทำให้คนอีกคนไม่พอใจแค่ไหน
“ขอบคุณครับ” แจจุงลอบกำมืออยู่ใต้โต๊ะเพื่อระบายความไม่พอใจ ตาคนข้างหน้าเขาเป็นใครกันแน่ ถึงได้เพิ่งจะเคยได้ยินเพลงเขาเนี่ย!
“กลับมาแล้วจ้า” เสียงที่เหมือนระฆังหมดยกดังขึ้นเมื่อพี่จินยองเดินกลับมาพอดีกับที่แจจุงคิดอะไรสนุกๆออก
“พี่จินยอง ไหนๆคุณยุนโฮก็เป็นนักเขียนเงาให้แจจุงแล้ว งั้นแจจุงขอไปนอนค้างบ้านคุณยุนโฮนะ” แจจุงพูด ก็ปกติแจจุงอยู่คอนโดของพี่จินยองมาโดยตลอด เรียกได้ว่านอนกอดกันแทบทุกคืน(ที่ได้นอน)เลยด้วยซ้ำ
“เอ๋?”ยุนโฮทำหน้างง ก็ที่ผ่านมา ไม่มีความจำเป็นอะไรเลยนี่นาที่คนที่เขาเขียนหนังสือให้จะต้องมานอนค้างด้วยกันแบบนี้
“จำเป็นด้วยหรอแจจุง?”พี่จินยองก็สงสัยเหมือนกัน
“นะๆพี่จินยองนะ แจจุงจะได้คุ้นเคยกับคุณยุนโฮ จะได้กล้าให้ข้อมูลคุณยุนโฮไง พี่จินยองก็รู้ว่าถ้าแจจุงไม่คุ้นกับใครก็จะไม่ยอมคุยด้วยนี่นา” แจจุงอ้างเหตุผลที่จินยองก็ต้องยอมรับ เพราะกว่าที่แจจุงจะยอมคุยดีๆเปิดใจให้จินยองจนสนิทกันทุกวันนี้ก็ใช้เวลามากโขทีเดียว
“อ่าๆก็ได้ๆ งั้นขอรบกวนด้วยนะคะคุณยุนโฮ”พี่จินยองพูดแล้วหันมายิ้มให้ยุนโฮ ยุนโฮก็ได้แต่เกาหัวอย่างงงๆ อะไรกันวะสองคนนี้ พูดเองเออเองกันสองคนแล้วตกภาระที่เขาเนี่ยนะ? ส่วนแจจุงก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา
“งั้นพรุ่งนี้รบกวนพี่จินยองเอาของมาให้แจจุงที่บ้านคุณยุนโฮด้วยนะครับ” แจจุงพูดเมื่อทั้งสามมาถึงหน้าบ้านของยุนโฮ
“จ้า คุณยุนโฮคะ ฝากแจจุงด้วยนะคะ ขอตัวกลับนะคะ” พี่จินยองหันไปพูดกับยุนโฮที่ยังงงมาจนถึงตอนนี้ นี่กูไปตกลงกับสองพี่น้องนี่ตอนไหนวะเนี่ย?
“ไปเร็วคุณยุนโฮ เข้าบ้านกัน” แจจุงพูดอย่างอารมณ์ดีแล้วลากเจ้าของบ้านเข้าบ้านไป
ความคิดเห็น