ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Haikyuu!!] Sunbeams แสงตะวัน (ฟิคแปล)

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11-2: Memories Transference (การถ่ายทอดความทรงจำ) (ครึ่งหลัง)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 113
      2
      5 พ.ค. 63

    Title: Sunbeams แสงตะวัน

    Story: Saturnalius

    Translator: KITDS

     

    Chapter 11: Memories Transference (การถ่ายทอดความทรงจำ) (ครึ่งหลัง)

    ทาดาชินิ่งไปกับภาพที่เขาเห็นตรงหน้า

    เคย์นั่งอยู่บนพื้น เวทมนต์สีฟ้าไหลรวมจากรอยแผลเป็นบนหลังของเขาไหลไปตามเรียวแขน ฮินาตะนั่งคุกเข่าอยู่ห่างไปหนึ่งช่วงแขน มือกำหมัดแน่นบนเข่าขณะจ้องเขม็งไปที่ไหล่ของเคย์ เส้นสายเวทมนต์สีแดงบางๆ จนแทบมองไม่เห็นลอยอยู่รอบๆ ร่างของเคย์ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ฮินาตะพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิด สมาธิหลุดจากตรงหน้าและขยี้ผมตัวเอง และเคย์ยิ้ม

    เวทมนต์สีฟ้านั้นสว่างขึ้นอีกระดับ และทาดาชิคงคิดว่าเขาเห็นภาพหลอกถ้าเขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มนั่น

    ทาดาชิรู้มาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่วินาทีที่เขาได้ยินว่าฮินาจะไปพบเคย์ รู้ว่ามันจะส่งผลดีต่อเพื่อนเขา เขาได้พบเทพสุริยะมาก่อนที่วัง รอยยิ้มและความอบอุ่นและเปลวไฟในดวงตาของเขา ตอนนั้นฮินาตะอยู่กับคาเงยามะ แต่ทาดาชิก็สังเกตเห็นว่าช่างตีเหล็กขี้หงุดหงิดยิ้ม

    เขาอดไม่ได้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้นกับเคย์เหมือนกัน

    คาเงยามะแนะนำพวกเขาให้รู้จักกัน ทาดาชิไม่คาดคิดว่าเขาจะสนิทกับเทพงองค์ใหม่ขนาดนี้ แต่พวกเขาก็สนิทกัน ฮินาตะถามเขาถึงเกี่ยวกับเคย์ หลังจากได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเทพจันทราแสนเก็บตัว ทาดาชิเลยบอกที่อยู่ของบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ร่วมกันไป

    เขาไม่นึกเสียใจเลย เขาไม่ได้เห็นเคย์มีความสุขขนาดนี้มานานแล้ว เขาดีใจที่ได้เห็นภาพนี้ และทาดาชิก็ไม่สนใจหากเขาจะไม่ใช่คนเดียวที่เคย์ยิ้มให้อีกต่อไป เขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้เคย์ยิ้มมากกว่านี้

    สงครามไม่แฟร์กับใครเลย แต่เคย์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่จบลงด้วยโชคชะตาอันเลวร้าย ทาดาชินั่งอยู่กับเขาที่ริมผาไม่รู้กี่คืนต่อกี่คืน และพวกเขาก็ทำแค่พูดคุยกัน เคย์มักจะคุมให้เสียงตัวเองนิ่งเรียบ ไม่สั่นคลอนเมื่อพูดถึงสิ่งที่เขาพูดได้ เขาเคยสำลักคำพูดถึงที่สิ่งที่ไม่ควรพูด แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ที่เขาเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง และมันทำให้ทาดาชิระลึกเสมอว่าเคย์ไม่ได้มีแค่ฝันร้ายของตัวเองให้จดจำ

    เพราะงั้นเขาเลยดีใจกับการได้เห็นรอยยิ้มของเคย์เมื่ออยู่กับฮินาตะ

    “ข้าทำได้แล้ว!”

    ทาดาชิรู้สึกถึงริมฝีปากตัวเองที่ขยับเป็นรอยยิ้ม

    แขนของเคย์ยังถูกปกคลุมด้วยเวทมนต์อยู่ แต่ตอนนี้มันมีแผ่นบางๆ สีออกแดงล้อมรอบ เวทมนต์สีฟ้าอ่อนแรงลงเล็กน้อยก่อนจะทลายสีแดงออกมา แล้วเคย์ก็สั่งให้มันหายไปครู่หนึ่ง

    “เกือบ” เคย์หัวเราะ

    ฮินาตะเท้าเอวแล้วแลบลิ้นใส่

    “แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี” เคย์สรุป และกับคำพูดนั้น ฮินาจะก็ลอยลิ่วร้องด้วยความดีใจ

    เขาลงพื้นมาที่ด้านหน้าของทาดาชิพอดี

    “เจ้าเห็นไหม?”

    ฮินาตะจับมือเขาและดึงเขาไปข้างหน้า ส่วนเคย์ก็ทำทุกทางเพื่อหลบสายตาของทาดาชิ

    “ข้าเห็น มันน่าประทับใจมากเลย”

    “จริงเหรอ?”

    ทาดาชินั่งลงพร้อมพยักหน้ายืนยัน

    “อาวุธของเจ้าคืออะไรเหรอ ยามากุจิ?”

    ทาดาชิทำเหมือนว่าฮินาตะไม่ได้นั่งตักเคย์ แต่ก็เพื่อเคย์เอง เทพจันทราแดงเถือกยิ่งกว่าครั้งไหนที่ทาดาชิเคยเห็น

    เขาหมุนแหวนอัญเชิญของเขา มันมีเสียงหวีดแหลมเมื่อหอกปรากฏขึ้นบนมือของเขา มันเป็นมันเงาสีเงินขณะที่หัวเป็นเส้นแสงดาวที่ไม่มีวันหักถักทอรวมกันสะท้อนเป็นประกายในแสงอาทิตย์ยามเย็น

    “โอ้ ว้าว” โชโยกล่าว ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเขายื่นตัวมาใกล้เพื่อชื่นชม

    “มันไม่ใช่อะไรน่าประทับใจขนาดนั้น-“

    “มันสุดยอดไปเลย! แสงดาวทำให้ตาบอดได้ใช่ไหม? ข้าคิดว่าโทบิโอะเคยพูดอะไรแบบนั้นอยู่ หอกของเจ้าทำแบบนั้นได้ไหม?”

    “เอ่อ ทำได้ ใช่”

    ทาดาชิไม่เคยใช้อาวุธชิ้นอื่น หอกด้ามนี้สร้างโดยคาเงยามะ เขาสามารถควบคุมมันได้โดยไม่ต้องสัมผัสมัน ควบคุมมันด้วยความเร็วสูงจนเรียกได้ว่ามองไม่เห็น

    เคย์นั่งเงียบระหว่างที่ฮินาตะกับทาดาชินั่งคุยกัน

    เขากับเคย์สนิทกัน สนิทกันมาตลอด แต่ทาดาชิก็ยังเดาใจอีกฝ่ายออกไม่หมดว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาของเคย์นิ่งเรียบ ดวงตาสีน้ำตาลเรืองสีฟ้านั้นดูล่องลอยไกลออกไป ไม่สดใสเหมือนที่มันเป็น มันเหมือนว่าเขากำลังคิดอะไรหลายอย่างอยู่ในเวลาเดียวกัน ทาดาชิเคยเห็นสีหน้านั้นตอนที่พวกเขาเตรียมพร้อมรบ ตอนที่พวกเขากำลังต่อสู้ และเมื่อเคย์กลับมาจากการใช้กุญแจ

    ทาดาชิไม่เคยชอบสีหน้านั้นเลย

    “ใช่ไหม?” โชโยกันกลับมาสนใจเคย์ เขามองข้ามมาด้านหลังตัวเองเพื่อดึงอีกฝ่ายให้มีส่วนร่วมกับบทสนทนาเกี่ยวกับแผนการมนตรา

    ทาดาชิแอบคาดว่าเคย์จะถามว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกันอยู่ แต่มันก็เป็นเพียงแค่การยักไหล่

    “มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และขึ้นอยู่กับความสามารถ มันจะเป็นแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น” เขาบอก

    ทาดาชิกำลังจะตอบ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังจากสามเทพที่กำลังเข้าใกล้

    เคย์สะกิดฮินาตะและพวกเขาพากันลุกขึ้นยืน

    เขาไม่เคยเห็นอิวาอิซึมิดูเศร้าซึมขนาดนี้มาก่อน ดวงตาเขาว่างเปล่า มือซ้ายกระตุก เขาดูอ่อนล้าเหมือนผ่านการฝึกมา ริมฝีปากเป็นรอยจนดูเหมือนมันน่าจะเลือดออกมาก่อนหน้านี้

    ไดจิเองก็ดูเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า เขาคงรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ถ้าเขาทำท่าทางแบบนั้น ผิวเขาซีดเซียว มือทั้งสองสั่นเทาเหมือนไม่เคยสัมผัสกับความสงบในจิตใจตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา เขายังแผ่อายความแข็งแกร่งและความมั่นคง แต่ทาดาชิเคยเห็นเขาแบบนี้แค่ตอนเขาอยู่ในห้องพยาบาลเท่านั้น

    แต่ไม่ว่าพวกเขาจะดูแย่ก็ไหน ก็กลายเป็นดูดีไปเมื่อเทียบกับสึกะ

    ทาดาชิจำตอนที่เขาสร้างดาวให้สึกะโดยหวังจะได้เห็นความดีใจบนดวงตาคู่นั้นได้ สึกะ ไดจิ และเทพรุ่นเก่าองค์อื่นที่ผ่านสงครามครั้งแรก พวกเขามีอายุยืนยาวเกินกว่าที่ทาดาชิจะเข้าใจได้ และตอนนี้ สึกะก็ดูเหมือนว่าเขาผ่านอะไรมามากจริงๆ ความสว่างสไวหายสิ้น ไหล่ลู่ตก และเขาดูเหมือนจะล้มลงได้ทุกเมื่อ

    ทาดาชิพอเดาได้ว่าทั้งสามคนมาที่นี่ทำไม

    “เคย์” สึกะเอ่ยเสียงอบอุ่น

    “สึกาวาระ ไดจิ อิวาอิซึมิ” เคย์ล้วงมือลงไปในกระเป๋า และทาดาชิก็รู้ทันทีว่ามันมีกุญแจอยู่ในนั้น

    เคย์ไม่ต้องพูดอะไรต่อ ทาดาชิพยักหน้าและวางมือบนไหล่ของฮินาตะ

    “เราต้องไปที่อื่นกันสักพัก ข้าจะพาเจ้าไปดูกลุ่มดาวบางส่วนของข้านะ๐

    ฮินาตะดูเหมือนอยากจะแย้ง แต่เคย์พยักหน้า และเหมือนว่าแค่นั้นเขาก็เข้าใจ ทาดาชิเสกหอกกลับไป และมองเคย์ด้วยสายตาที่สื่อว่าพวกเขาจะคุยเรื่องนี้กันทีหลัง

    เมื่อฮินาตะบินขึ้นไป ไม่นานทาดาชิก็ตามเขาไป และพวกเขาก็บินจากไป

    …………………………………………………….

    เคย์เดินพาพวกเขาไปที่ห้องทำงานของเขา

    กุญแจหนักอึ้งขึ้นทุกย่างก้าว เหมือนกับรู้ดีว่าความลับไหนที่จะถูกผนึกลงไป

    “ข้าไม่ได้มาที่นี่นานมาก” ไดจิกล่าว นิ้วลากผ่านละอองแสงและวัตถุดิบต่างๆ พวกมันเป็นประกายระยิบระยับ และไดจิก็ยิ้มบาง

    กระทั่งอิวาอิซึมิก็ดูเกร็งน้อยลง

    “เรารีบทำให้มันเสร็จดีไหม?” เคย์ถามพลางหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋า

    ไดจิและสึกาวาระนั่งบนม้านั่ง และเคย์ก้าวไปข้างหน้า

    “ผ่อนคลายไว้” เคย์เอ่ย “ข้าแค่จะดึงความทรงจำออกมาเท่านั้น”

    “เดี๋ยว แล้ว-“

    “เจ้าจะไม่ลืม ไม่ใช่แบบนั้น ข้าแค่ดึงตัวตนของความทรงจำในหัวเจ้า เพราะงั้น หากใครมองเข้าไปในความทรงจำของเขา พวกเขาจะมองไม่เห็น จากนั้นความทรงจำนั้นจะถูกถ่ายทอดลงกุญแจและกลายเป็นความลับ ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่จะดึงมันออกมาจากกุญแจได้”

    อิวาอิซึมิพยักหน้าและหายใจเข้า

    เวทมนต์ของเคย์หลั่งไหล สีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ มันทะลักออกมาจากอกเขาและห่อหุ้มตัวของอิวาอิซึมิไว้อย่างแน่นหนาจนอีกฝ่ายทรุดลงไปคุกเข่า ดวงตาของเคย์เรืองแสงสีฟ้าสะท้อนแสงเมื่อมือเขาเรืองรองสีขาวสว่าง เขาสูดหายใจเข้าลึกและเคย์ก็พาตัวเองเข้าสู่ห้วงความคิดของอิวาอิซึมิ ผ่านเข้าไปเพื่อตามหาความทรงจำ เขาพยายามเบามือเท่าที่จะทำได้ แต่มันก็ทำให้เทพอีกองค์ร้องลั่น ยิ่งเคยถ่ายทอดความทรงจำเท่าไหร่มันก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น ซึ่งการเกิดเรื่องแบบนั้นมันก็เป็นเรื่องน่ากลัวในตัวมันเอง

    เมื่อความทรงจำถูกดึงออกมาแล้ว มันก็กลายเป็นเพียงแค่กลุ่มก้อนหลากสีบนฝ่ามือของเคย์

    เพียงชั่วอึดใจ เคย์ก็ถ่ายมันลงกุญแจ ในห้องทำงานอาบย้อมไปด้วยแสงสว่างสีฟ้าเย็นยะเยือกที่เกล็ดน้ำแข็งปรากฏขึ้นตามกำแพง

    เคย์ปล่อยกุญแจ และมันก็ร่วงสร้างรอยบิ่นบนโต๊ะทำงาน เขาพยุงอิวาอิซึมิขึ้นยืน และปิศาจหนุ่มก็หนักกว่าที่เขาคิดจนเคย์เกือบจะเซล้อม อิวาอิซึมิหายใจหอบหนัก เขาสูดหายใจถี่

    “เจ้าควรจะเตือนข้า” เขาบอกอย่างเป็นมิตร

    “ถ้าข้าเตือนเจ้า เจ้าจะเกร็ง มันจะเจ็บกว่านี้อีก”

    ไดจิพยุงน้ำหนักเกือบทั้งหมดของอิวาอิซึมิ และสึกาวาระลุกขึ้นยืนพลางเขยิบเข้ามาหาเคย์

    “เจ้าดูกังวลกว่าปกตินะ” เขาเอ่ย

    “เราจะทำสงครามอย่างงั้นเหรอ โคชิ?”

    “เป็นความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น” สึกาวาระบอกโดยไม่ลังเล

    “หลังจากการแต่งตั้งโชโย?”

    “ยังไม่มีอะไรแน่นอน”

    “เข้าใจแล้ว”

    ไม่นาน สึกาวาระเดินตามหลังไดจิและอิวาอิซึมิออกไป และสักพักยามากุจิและฮินาตะก็โผล่ศีรษะเข้ามาในห้องทำงานของเขา

    ยามากุจิยิ้มอย่างเข้าใจพร้อมดวงตาเศร้าสร้อย และโชโยก็ดูเป็นกังวล

    “ทุกอย่างปกติดีไหม?”

    เคย์ไม่ต้องมองตามสายตาของยามากุจิก็รู้ว่าเขามองรอยยุบบนโต๊ะทำงาน และกุญแจดอกใหม่ดอกนั้น

    “เจ้าดูเศร้าๆ นะ” โชโยบอก เขาไม่ลังเลที่จะบินเข้ามาหา ขาทั้งสองกอดรัดบริเวณเอวของเคย์ เคย์ยกทั้งสองมือขึ้นพยุงตัวโชโยโดยไม่ต้องคิด

    “เคย์?”

    “ข้าไม่เป็นไร”

    TBC...


    ll TALK WITH TRANSLATOR ll

    สวัสดีครับผม พาร์ทครับ

    ตอนนี้ก็กึ่งหนักกึ่งเบา ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเคย์และโชโยก็ค่อยๆ คืบหน้าไปเรื่อยๆ สงครามเองก็ใกล้เข้ามา แล้วไหนจะความลับดอกใหม่ในตอนนี้อีก ยังไงก็รอติดตามกันได้ในตอนหน้านะครับผม

    แล้วก็ พร้อมรับคำติชมเสมอเช่นเคยครับ ^ ^

    ปล. สรุปเรื่องโดเนท เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ผมตัดสินใจไม่เปิดโดเนทดีกว่าครับ หลายคนหลายความเห็น ขนาดผมเองยังสองจิตสองใจ ไม่เปิดไปกันการเกิดปัญหาไปเลยดีกว่า 5555 ยังไงแค่ทุกคนตามอ่าน ตามคอมเมนต์ก็รู้สึกขอบคุณมากแล้วล่ะครับ ^ ^

    ด้วยรัก

    พาร์ท

    Killer in  the Dark Shadow

     

     

    double_B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×