คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 18: The Archives and the Underground (คลังบันทึกและองค์กรใต้ดิน)
Title: The Noah’s
Bookman 2: The Dawn Goddess บุ๊คแมนของเหล่าโนอา
ภาค เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ
Story: Saturnalius
Translator: KITDS
Chapter 18: The Archives and the Underground (คลังบันทึกและองค์กรใต้ดิน)
เป็นอีกครั้งที่การสืบหาข้อมูลต้องหยุดลงกะทันหัน
หลังจากการสำแดงพลังของเอ็กโซซิสท์ที่ตอนนี้ได้ตายไปแล้ว
บุ๊คแมนไม่สามารถกลับไปยังที่ลามันช่าและคุยกับบาทหลวงชราต่อได้
เขาคงแสดงอาการเดียวกันกับคุณพ่อเจมส์ที่ตายไปแล้วของเมืองจนๆ ในอังกฤษ
ซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดตามมา
แย่กว่านั้น
ตอนนี้เอ็กโซซิสท์ก็ตื่นตัวเต็มที่ ผู้ตรวจสอบพูดถึงราวี่
เขาคิดออกแค่ผู้ตรวจสอบที่ว่านั่นคือเพื่อนเก่าของเขา โฮวาร์ด สองไฝ ลิงก์
มันเป็นระยะเวลาสองเดือนแล้วตั้งแต่เหตุที่บ่อน้ำ
เขาก็คงจะซื่อไปถ้าเชื่อว่าเอ็กโซซิสท์ไม่เคยได้ยินเรื่องนั้น
จริงอยู่ว่าศาสนจักรมีแนวโน้มที่จะปิดบังข้อมูลของพวกเขา อย่างเช่นเรื่องของ
อัลม่า คัลม่า แต่อัลม่าก็ได้หลับใหลนิจนิรันดร์ไปแล้ว แต่โชคยังดีที่ราวี่ยังไม่ใช่แบบนั้น
จนถึงเมื่อสองเดือนก่อน
ทุกคนเชื่อว่าเขาตายไปแล้ว พวกเขาไม่เชื่อแล้ว
แต่คนร้ายที่เปิดโปงเรื่องของราวี่กลับไม่ใช่คนที่ราวี่คิด
รินาลี่ทำตามคำพูดเสมอมา บิดเบือนรายงานและปกปิดตัวตนของบุ๊คแมนหนุ่ม
เธอดูลังเลที่จะทำตามคำสั่งด้วยซ้ำ รินาลี่มีศีลธรรมที่บุ๊คแมนหนุ่มสามารถเคารพได้
น่าเสียดายที่เธออยู่ฝั่งตรงข้าม
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นต้องโทษเชาจี๋
ถ้าเขาไม่พล่าม ศาสนจักรก็คงไม่ล่าหัวเขา แต่ถ้าเขาไม่พูด อีกาก็คงไม่มาไล่เขาทั่วเมือง
และทิกี้ก็คงไม่โผล่มาช่วยเขา จริงอยู่ว่าเดี๋ยวพวกเขาก็เจอกัน ในเมื่อทิกี้ก็ตามรอยบุ๊คแมนผมแดงในแถบนั้นอยู่แล้ว
แต่ราวี่คงไม่กลับมากับโนอาง่ายดายขนาดนี้
การเปิดปากของเชาจี๋ก็มีประโยชน์อยู่บ้าง
แต่ผลร้ายจากการพูดมากของเชาจี๋มันค่อนข้างเลวร้าย
จากการที่ศาสนจักรส่งหมายฆ่าเขาทำให้การเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนของราวี่ชะงักไป เขาสามารถกลับไปยังสภาบุ๊คแมนและบอกพวกเขาว่าบันทึกชิ้นปัจจุบันไม่สามารถดำเนินต่อได้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยได้
แต่ถ้าเขาทำแบบนั้น มันจะเป็นการปิดบันทึกชิ้นนี้และพาเขาไปยังจุดหมายใหม่
เขาไม่สามารถอธิบายกับสภาได้สักเท่าไหร่ว่าเขาไปเปิดบันทึกที่ไม่สมบูรณ์ชิ้นเก่าขึ้น
มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาจะต้องวางหมากดีๆ
ถ้าอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
เจ้าของเส้นผมสีแดงยืนอยู่ตรงหน้าประตูกโถงประวัติ
เขาบอกโนอาไม่ได้ว่าเขาไปไหน บอกได้แค่ว่าเกี่ยวกับธุระของบุ๊คแมน
หลังจากเรื่องที่ลามันช่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ท่านเอิร์ลไม่ค่อยอยากให้เขาไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่บอกจุดหมาย
แต่เขาก็อธิบายสถานการณ์เท่าที่เขาทำได้ ด้วยความลึกลับที่รายล้อมตระกูลบุ๊คแมน
เขาไม่สามารถให้รายละเอียดได้มาก แต่เขาก็ให้เหตุผลเพียงพอจนท่านเอิร์ลยอมปล่อยเขามา
เมื่อเข้าไปในคลังบันทึก
ราวี่ก็รับหนังสือที่ผู้บันทึกเหตุการณ์ยื่นให้เขา และชายหนุ่มผมแดงก็ลงมือเขียน เขาอธิบายถึงตำนานเมืองชาติอังกฤษและบอกถึงตำนานของเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณที่พาเมืองเข้าสู่ความวุ่นวายยุ่งเหยิง
เว้นข้อมูลที่โนอามีส่วนเกี่ยวข้องออกไป เขาวาดภาพร่างหยาบๆ
ของรูปปั้นบิดเบี้ยวที่เขาเห็นในเมืองนั้น
และเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับรูปปั้นอื่นๆ ตามตำนานเดียวกันที่เขาพบเจอ
เขาเขียนถึงเมืองหนึ่งในเยอรมัน และรายละเอียดเกี่ยวกับลามันช่า
เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็เริ่มบิดเบือนความจริง
เขาเปลี่ยนให้เอ็กโซซิสท์กลายเป็นคนธรรมดา และถูกต้องมนต์ให้กลายเป็นบ้าด้วยตำนานนั้น
มันเป็นเรื่องเดียวกับที่เกิดขึ้นในเมืองในอังกฤษ ตามที่เขาเขียนไว้
เขากลับไปใช้นิสัยเดิม
บิดเบือนปรุงแต่งประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของโลกเพื่อปิดร่องรอยของตัวเอง
ไม่สามารถให้สภาหรือผู้บันทึกเหตุการณ์รู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้
เรื่องที่ว่าโนอาได้เจอตัวเขา และเขากลับไปอยู่กับพวกนั้นโดยไม่ไตร่ตรอง
มันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามเต็มรูปแบบ
ปล่อยให้บันทึกชิ้นหนึ่งไปพัวพันกับอีกหนึ่งชิ้น
จริงอยู่ว่าตอนนี้เขามีโอกาสได้เติมเต็มบันทึกของโนอาที่สาปสูญ
แต่เขาก็ไม่สามารถจบบันทึกชิ้นนั้นได้อย่างเป็นทางการ เขาไม่สามารถเดินไปหาทางสภาแล้วบอกว่าเขาแอบจดบันทึกที่สอง
ที่เคยปิดไปแล้วพร้อมกันได้
บุ๊คแมนไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดปิดบันทึกแต่ละชิ้นได้ตามใจชอบ
เพราะฉะนั้น
นี่เลยเป็นอีกครั้งที่เขาปกปิดเรื่องราว และการโต้ตอบ โนอาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
รวมถึงเอ็กโซซิสท์ด้วย แต่มันก็มีปัญหาหนึ่งที่เขาไม่สามารถปิดได้
ในบันทึกโนอาของเขา เขาได้เขียนถึงเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ
ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงอย่างละเอียดและความจริงเบื้องหลังตำนาน
และอีกครั้งที่เขามาเขียนเกี่ยวกับรูปปั้นพวกนี้ และเรื่องที่พวกมันทำให้คนเป็นบ้า
ความเชื่อมโยงมันอยู่ตรงนั้น แต่ในเมื่อสภาและผู้บันทึกเหตุการณ์เชื่อว่าโนอาได้ตายไปแล้วและปิดบันทึกไป
ความเชื่อมโยงนั้นก็ขาดลง
การเขียนเรื่องของรูปปั้นลงไปในบันทึกเป็นส่วนสำคัญและให้แพะรับบาปที่ดีว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถค้นคว้าเกี่ยวกับตำนานพวกนี้ต่อไปได้
วันเวลาผ่านไป
ขณะที่เขาบันทึกทุกรายละเอียด จนในที่สุดเขาก็เสร็จสิ้น
คืนหนังสือให้กับผู้บันทึกเหตุการณ์ที่ไม่หลับนอนที่นำหนังสือไปเก็บบนชั้นสูง
กำแพงสูงหลายชั้นจนถึงเพดานนั้นเต็มไปด้วยหนังสือไม่ระบุชื่อ
แต่ละเล่มมีเรื่องเล่า บันทึก
เศษเสี้ยวประวัติศาสตร์ลับที่เขียนขึ้นโดยบุ๊คแมนแต่ละคนตลอดหลายศตวรรษ
มีเพียงผู้บันทึกเหตุการณ์เท่านั้นที่รู้ว่าแต่ละเล่มเกี่ยวกับอะไร
ประวัติศาสตร์เดียวที่บุ๊คแมนหนุ่มรู้คือสิ่งที่อาจารย์เขาได้สอนมา
สืบทอดรุ่นสู่รุ่นจากคนก่อนหน้าเขาอีกที เสริมด้วยประสบการณ์ของเขาเอง
คลังบันทึกเป็นเพียงโถงประวัติที่ยืดยาวไปหลายกิโลเมตรในหลุมใต้อาคารบ้านเมืองด้านบน
มีเสาใหญ่เป็นระยะเพื่อค้ำเพดานโค้งด้านบน
อุณหภูมิในคลังบันทึกนั้นเย็นสบายตามความลึกที่มันอยู่ใต้ดินลงมา
ป้องกันไม่ให้หนังสือเก่าๆ ย่อยสลายจางไป
ราวี่อยู่ในส่วนที่ค่อนข้างปัจจุบันของคลังบันทึก
ชั้นหนังสือเต็มไปเพียงบางส่วนเมื่อบุ๊คแมนพากันกลับมาจากหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายและจดลงหนังสือเปล่าตามชั้น
หนังสือเปล่าที่ใหม่กว่าขึ้นชั้นเตรียมรอเรื่องราวของพวกมันเอง
หนังสือสร้างขึ้นในอีกส่วนหนึ่งของโถง ส่วนที่เขาไม่เคยไปเลย
มันมีอะไรอีกมากเกี่ยวกับโถงที่ราวี่และคงไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ กระทั่งในตระกูลส่วนมากก็ไม่รู้ว่าภายในทำงานกันยังไง
มันเป็นของมันแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องของเขา
เขาเลี้ยวไปยังทางเดินหนึ่ง ผู้บันทึกเหตุการณ์กำลังยุ่งกับการปัดฝุ่นจากชั้นหนังสือเก่า
พวกมันดูคร่ำครึ จากสันปกบอกได้ว่าน่าจะราวๆ คริสตศักราชที่ 500 ตัวสันยังอยู่ดีและดูคล้ายหนังสือประดับปกที่ใช้กับเอกสารตัวเขียนสีวิจิตร*
หนังสือหุ้มด้วยหนังเนื้อหนา แต่งสีด้วยเงินและทอง แต่ละเล่มหน้าตาเหมือนกันจนเครื่องประดับบนหนังสือเสียเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ไป
ราวี่เดินผ่านหนังสือพวกนี้ทุกครั้งที่มา
และเดินคิดไปพลางว่าพวกมันเก็บงำความลับอะไรไว้ มันมีประวัติศาสตร์โลกมากมายที่เขาไม่รู้
สายของเขามักเกี่ยวข้องกับกรีกโรมันโบราณ ผสมกับอียิปต์นิดหน่อย
เรื่องราวที่เล่าถึงความจริงเบื้องหลังความเชื่อปรัมปราและตำนานต่างๆ ความจริงของชีวิตเหล่าจักรพรรดิและฟาโรห์
ประวัติศาสตร์ส่วนมากลืมเลือนยุคยิ่งใหญ่ในอดีต ทิ้งไว้เพียงในสมองของสายตระกูลบุ๊คแมนบางสายและในคลังบันทึก
ที่สุดทางเดินเป็นหนังสือในยุคนั้น
กระดาษปาปิรุสเย็บเล่มด้วยใยกกเส้นหนาซึ่งน่าจะเขียนด้วยหมึกและแปรงชั้นยอด
มันคงเป็นดิกชันนารี่รวมตัวอักษรภาพเฮียโรกลิฟที่เขียนถึงเรื่องราวที่ถูกลืมเลือนเกี่ยวกับการเดินทางและเผชิญหน้าสิ่งต่างๆ
ตอนที่เขาเด็กกว่านี้ เขามักจะอยากดึงหนังสือเก่าๆ พวกนี้ออกมาจากชั้นแต่ก็กลัวว่ามันจะสลายคามือ
แล้วไม่นานเขาก็ได้เรียนรู้ว่าการกระทำแบบนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามชัดเจน
[เข้ามา สภาจะพบเจ้าตอนนี้]
ผู้บันทึกเหตุการณ์กล่าวด้วยภาษาที่มีแต่บุ๊คแมนที่เข้าใจ
เขาแต่งตัวสุภาพ ฮู้ดดึงปรกหน้าและไม่มีลวดลายใดบนใบหน้าเขา เสื้อคลุมยาวลากพื้น บริเวณไหล่แต่งด้วยดื้นเงินและเพชรพลอย
สีเสื้อคลุมสีดำขาวแสดงถึงสถานะผู้บันทึกเหตุการณ์ระดับสูง หนึ่งในผู้อาวุโสและจัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ของตนเอง
ราวี่เดินผ่านประตูเข้าไป ตัวห้องกว้างขวาง
เสาขนาดใหญ่สูงจนแตะเพดานโค้ง เชิงเทียนประดับอยู่สองฝากประตูและที่อีกฟากของห้อง
ฝั่งตรงข้ามประตูเป็นป้ายสัญลักษณ์ขนาดใหญ่สีแดงดำแต่งลวดลายสัญลักษณ์ของตระกูลบุ๊คแมน
สมาชิกสภาทั้ง5นั่งอยู่เบื้องหน้าป้ายนั้น ทั้งหมดแต่งตัวคล้ายผู้บันทึกเหตุการณ์อาวุโส
แต่สีชุดเป็นแดงดำ พวกเขานั่งอยู่หลังโต๊ะไม้ประดับเงินขนาดใหญ่
โต๊ะตัวนั้นเป็นสิ่งที่เก่าแก่ที่สุดในตระกูล
คงอยู่มานานนับพันปีและยังคงใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
[ได้เวลาพอดี] สมาชิกสภาสูงสุดเชิญให้ราวี่ขยับไปข้างหน้า [เรามีหน้าที่ที่เหมาะกับความสามารถพิเศษของเจ้า]
[ข้าก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าถึงยังซ่อนมันไว้ใต้ผ้าปิดตานั่นอยู่]
สมาชิกสภาหญิงทางด้านซ้ายเอ่ยขึ้น
ราวี่เพียงยักไหล่ตอบ จริงอยู่ว่าเขาไม่จำเป็นต้องใส่ผ้าปิดตา
และดวงตาปริศนาข้างซ้ายของเขานั้นคือตัวแปรที่ทำให้เขาได้มาเป็นบุ๊คแมน [ภาพที่รับเข้ามามันมากเกินไป] เขาตอบ ด้วยตาข้างเดียวเขาก็เห็นชัดเจนและบันทึกเหตุการณ์ได้ละเอียดระดับนาที
เขาไม่จำเป็นต้องใช้ดวงที่สองเพื่อรับข้อมูลเข้ามาเพิ่ม มันไม่ใช่ปริมาณธรรมดาด้วย
มันบอกถึงเรื่องราวในระดับที่ต่างกันออกไป
คำตอบตามปกติของเขา สมาชิกสภาหญิงนิ่วหน้าเล็กน้อย
เขามักจะตอบเหมือนเดิมเสมอ และเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องถามทุกครั้ง แต่มันก็เป็นแบบนั้น
บางทีเธออาจจะอยากให้เขาเปลี่ยนใจ เพื่อจะได้บันทึกประวัติศาสตร์ในมุมมองแบบที่ไม่มีใครทำได้
[เข้าใจได้]
[ไม่ว่าเจ้าจะอยากใช้ทัศน์พิเศษหรือไม่]
ชายผู้ดำรงตำแหน่งสภาสูงสุดเอนตัวมาเท้าโต๊ะ
มือทั้งสองประสานเข้าหากัน [บันทึกชิ้นถัดไปก็เหมาะกับความสามารถนั้น]
ราวี่ซุกมือลงกระเป๋า ในใจคิดว่าบทสนทนานี้จะดำเนินต่อไปทางไหน
เขาได้รับความสามารถมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ได้รับชื่อเสียงค่อนข้างดังว่าสามารถรับมือกับบันทึกที่กินเวลานานได้ ส่วนมากก็เป็นเพียงคำลวง
ในเมื่อเขาปรุงแต่งบันทึกกว่าค่อนเกี่ยวกับโนอา นามแฝงชื่อก่อนที่กินระยะเวลาเกือบสองปีนั้นเป็นเรื่องที่ถูกบิดเบือนออกไป
แต่เขาก็ยังได้ชื่อเสียงว่าสามารถรับมือกับเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติได้ด้วย
หลักฐานนั้นไม่ใช่แค่เพียงบันทึกของโนอา บันทึกสองชิ้นก่อนหน้านั้น นามแฝงที่20
และ 25 ทั้งสองชิ้นนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องผีเฮี้ยนหลอกหลอนที่กลายเป็นเพียงของปลอม
[เราจะให้เจ้ากลับไปจัดการเรื่องเหนือธรรมชาติอีกครั้ง]
สมาชิกสภาสูงสุดกล่าวต่อ [มันเป็นบันทึกคู่
แต่เราเชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกัน ข้ามั่นใจว่าเจ้ารับมือมันได้]
ราวี่ไม่เคยบันทึกทีเดียวสองชิ้นมาก่อน
แบบนี้มันจะเป็นการสืบข้อมูลของสองเหตุการณ์ในเวลาเดียวกัน
สองเหตุการณ์ที่เชื่อว่าเชื่อมโยงกัน บันทึกคู่จัดว่าเป็นบันทึกแบบที่ยากที่สุด
เมื่อบุ๊คแมนต้องเข้าหาทั้งสองฝ่าย เรียกความเชื่อใจจากพวกเขา
และบันทึกทั้งสองเรื่องราวในเวลาเดียวกันโดยไม่สับสน
[มันไม่ใช่บันทึกธรรมดา] สมาชิกสภาทางขวาเสริมขึ้นมา [เราจะเปิดบันทึกชิ้นเก่าของเจ้าขึ้น]
ราวี่เกือบจะหลุดท่าทีนิ่งสงบ
และจ้องสภาตรงหน้าอยู่พักหนึ่ง [ชิ้นไหน?]
[บันทึกเพียงชิ้นเดียวที่ไม่สมบูรณ์ของเจ้า] เขาตอบ [ดูเหมือนว่าตระกูลโนอาบางส่วนจะกลับมาอีกครั้ง
เจ้าได้บอกไว้ว่านางชื่อ โร้ด คาเมล็อต คนที่เราเชื่อว่าถูกสังหารไปตั้งแต่สงครามศักดิ์สิทธิ์ลับ]
ราวี่กัดริมฝีปากไม่ใช่เผยยิ้ม
มันเข้าทางเขาพอดี เขาไม่ต้องฝ่าฝืนข้อห้ามของตระกูลมากไปกว่านี้
เขาสามารถอยู่กับครอบครัวโนอาและบันทึกเรื่องราวที่ไม่จบลงได้ นามแฝงที่ 5
เองก็ไม่จบ แต่มันก็ไม่เคยเริ่มด้วยเช่นกัน
[มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน]
สมาชิกสภาหญิงบอก [ไม่เคยมีครั้งไหนที่เราเปิดบันทึกที่ปิดไปแล้ว
แต่สถานการณ์นี้มันพิเศษออกไป เหมือนว่าโร้ด คาเมล็อตจะกลับมา และเธอมาครองตำแหน่งค่อนข้างสำคัญในสภาอังกฤษของพ่อเธอคืน
จากจุดยืนของเจ้ากับตระกูลโนอา
เจ้าเป็นบุ๊คแมนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบันทึกชิ้นนี้แล้ว]
[เจ้าต้องเข้าใจว่าเราไม่ชอบให้บันทึกสำคัญแบบนี้ลอยนวลไป] สมาชิกสภาสูงสุดเสริม [เจ้าไม่ใช่คนแรกที่สืบค้นเรื่องนี้
แต่เจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถนำเรื่องราวกลับมาได้]
มันเป็นครั้งแรกที่ราวี่รู้ว่ามีคนอื่นด้วย
ท่านเอิร์ลและโนอาคนอื่นๆ ไม่เคยพูดถึงบุ๊คแมนคนอื่นมาก่อน
แต่มันก็อธิบายว่าทำไมพวกเขาถึงรู้ว่าเขาเป็นใครตอนเจอกันครั้งแรก
โดยเฉพาะท่านเอิร์ลและโร้ด
[แต่การสืบข้อมูลเรื่องของโร้ดไม่ใช่หน้าที่เดียวของเจ้า]
สมาชิกสภาหญิงเอ่ย [เราเชื่อว่าท่านหญิงคนหนึ่งที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับราชวงศ์อังกฤษอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
มีรายงานมาว่าโร้ดพบปะกับท่านหญิงเอเวอลีน แอทเทนโบโรห์ในงานเลี้ยงหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้และโอกาสอื่นๆ
ด้วย ในขณะที่เราให้บุ๊คแมนคนหนึ่งบันทึกเรื่องราวใต้ดินของอังกฤษ
พวกเราต้องการอีกมุมมองหนึ่งด้วย]
สมาชิกสภาสูงสุดพยักหน้า [ใช้เส้นสายของเจ้าที่มีต่อโร้ด คาเมล็อตเข้าหาเอเวอลีน แอทเทนโบโรห์และบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับโลกใต้ดินที่แอทเทนโบโรห์มีส่วนข้องเกี่ยวเสีย]
บันทึกชิ้นนี้มันน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ
เลย สภายังไม่สังเกตว่าราวี่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองสาวและเรื่องที่โร้ดกลับมาแล้ว
แต่ความเกี่ยวข้องกับโลกใต้ดินเป็นเรื่องที่เขาเพิ่งได้ยิน แต่มันก็ทำให้เขาสนใจ เขาคิดว่าบุ๊คแมนเจ้าของนาม
‘เอโลอีส’ ที่เขาเจอในงานเลี้ยงเต้นรำนั้นกำลังบันทึกเรื่องของโลกใต้ดินอยู่
เขาแค่ต้องเขียนบันทึกชิ้นนี้ให้ดีกว่าเธอ
[ดำเนินการต่อด้วยนามแฝงเก่าของเจ้า]
สมาชิกสภาหญิงเอ่ย [มันจะทำให้การติดต่อง่ายขึ้น]
[รับทราบ] ราวี่น้อบรับพร้อมโค้งเคารพ
TBC…
ll WORDS FROM WRITER ll
ตอนนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการดูช่องสารคดีประวัติศาสตร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน
ll LITTLE TALK WITH TRANSLATOR ll
สวัสดี สวีดัด ครับผม ตอนนี้แอบรายละเอียด
(น้ำ) เยอะนิดหน่อยครับ 555555 แต่ผมชอบนะ แปลมันส์มาก เป็นพรืดเลย
ยอมรับว่าตาลายสุดๆ 55555
ทีนี้ โนอาจะไม่ใช่แค่โนอากับเอ็กโซซิสท์
แต่จะมีอีกหลายเรื่องเข้ามาพัวพันเลยล่ะครับ โลกใต้ดินเกี่ยวข้องยังไงกับท่านเอิร์ลกัน?
แล้วโร้ดมีส่วนอะไรกับเรื่องนี้แค่ไหน? เอาเป็นว่า ไว้พบกันใหม่ตอนหน้านะครับผม!
แล้วก็ อย่าลืมนะครับ ! ตอนนี้ยังเปิดพรีออเดอร์เล่มแรกอยู่นะครับผม สนใจคลิกลิงก์เลย
>> CLICK
ปล. ขอขยายระยะเวลาจองพรีออเดอร์ออกไปอีก 1 เดือนนะครับ เผอิญ เดือนนี้ผมค่อนข้างยุ่งนิดนึง
ด้วยรัก
พาร์ท
Killer in the Dark Shadow
ความคิดเห็น