ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic D.Gray-man] TNB 2: The Dawn Goddess บุ๊คแมนของเหล่าโนอา ภาค เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ (ฟิคแปล)

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 14: Lavish Parties (งานเลี้ยงหรูหรา)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 602
      29
      30 ส.ค. 61

    Title: The Noah’s Bookman 2: The Dawn Goddess บุ๊คแมนของเหล่าโนอา ภาค เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ

    Story: Saturnalius

    Translator: KITDS

     

    Chapter 14: Lavish Parties (งานเลี้ยงหรูหรา)

    “เกือบจะลืมไปแล้วว่าพวกของทางการพวกนี้มันน่าอึดอัดขนาดไหน”ราวี่ขมวดคิ้วพร้อมมองเงาตัวเองในกระจก เขาถูกบังคับให้สวมชุดเครื่องแบบทางการ ชุดสูทสีดำสุภาพทับเสื้อกั๊กสีเขียวเข้มเข้าคู่กับหูกระต่ายนุ่มนิ่ม ชายหนุ่มดึงจับเจ้าหูกระต่ายพยายามทำให้มันเข้าที่

    ชายหนุ่มผมแดงได้เดินทางไปยังคฤหาสน์คาเมล็อตหลังจากการเดินทางไปยังเยอรมันก่อนหน้าเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานเทศกาลหรูหรา ท่านเอิร์ลเรียกมันว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเหล่าโนอา แม้ราวี่จะบอกได้ว่าเธอเพียงอยากสนุกและสร้างเรื่องเพียงเพื่อเฉลิมฉลองเท่านั้น ท่านเอิร์ลมีความชอบงานเลี้ยงฉลอง เช่นเดียวกับเธอคนก่อน และจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ต้องการเหตุผลเพื่อจัดมันสักเท่าไหร่

    จากการค้นคว้าของเขาพบว่ามันไม่ใช่นิสัยใหม่ ท่านเอิร์ลเป็นเคาท์เตสประจำถิ่น และเป็นท่านเอิร์ลด้วยสิทธิ์ชอบธรรมของเธอเองโดยไม่ต้องแต่งงานเพื่อให้ได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ เธอมีอำนาจมากและมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับราชวงศ์อังกฤษ งานเลี้ยงเป็นงานอดิเรกของหญิงสาว และแม้ตอนนี้เธอจะเป็นท่านขุนนางพันปีคนปัจจุบัน เธอก็ยังจัดงานเลี้ยงอยู่บ่อยครั้ง

    และตอนนี้ที่ราวี่ได้รวมตัวกับครอบครัวของเขาอีกครั้ง เธอก็บังคับให้เขาร่วมงานด้วย และถ้ามันไม่ใช่เพราะชุดงานเลี้ยงน่าอึดอัดที่โร้ดเตรียมไว้ให้เขา ราวี่ก็คงไม่อะไรกับงานเลี้ยงพวกนี้เท่าไหร่ พวกมันเป็นที่ที่เขาจะสืบเสาะข้อมูล เหตุการณ์ปัจจุบันและข่าวลือไร้สาระได้อย่างดี

    “มันดูน่าอึดอัดนะคะ คุณบุ๊คแมน”แซนดี้ขมวดคิ้วพลางจัดเสื้อตัวนอกด้านหลังให้เขา เธอมีเวลาให้คุ้นเคยกับหน้าที่แม่บ้านและคนดูแลคฤหาสน์คาเมล็อต โร้ดให้ตำแหน่งค่อนข้างสูงกับเธอ ทำให้เธอมีอิสระกับการจัดการทุกอย่างในบ้านและมีเวลาได้อยู่กับโรนัลด์ในเวลาที่เขาไม่ยุ่งงานท่วมหัว หญิงสาวเริ่มคุ้นเคยกับงานและตำแหน่งนั้นก็เข้ากับความสามารถของเธอด้วย “ฉันคิดไม่ออกเลยว่าโรนัลด์รับมือกับมันได้ยังไง”

    “สักทางหนึ่งแหละนะ”ราวี่ยักไหล่ “ทั้งโร้ดและท่านขุนนางต่างชอบงานเลี้ยงทั้งคู่ ยังไงเขาก็ต้องทำตัวให้ชิน”

    “คุณเองก็ดูไม่เหมือนคนชอบงานเลี้ยงหรูหราพวกนี้นะ”แซนดี้ทำหน้านิ่วพร้อมเก็บหนังสือที่กระจัดกระจายบนพื้น บุ๊คแมนไม่เคยทำตัวเหมือนคนร่ำคนรวยและพูดจาไม่เหมือนพวกเขาด้วย เขาดูค่อนไปทางซกมก ทิ้งหนังสือกระจัดกระจายเป็นรูปแบบแปลกๆ ไปทั่วห้องตัวเองในคฤหาสน์คาเมล็อต ชายหนุ่มมีหนังสือมากมายในห้อง ทั้งที่นี่และที่บ้านของท่านเอิร์ล

    “ใช่ แต่พอเจอสักพักก็ชิน”ราวี่พยักหน้า เคาะหัวรองเท้ากับพื้นให้มันเข้าที่ แต่มันก็เหมือนจะไม่เข้า เมื่อราวี่มันจะเจอรอยรองเท้ากัดที่ส้นเท้าตลอด “แต่กับเสื้อผ้าเนี่ยไม่เท่าไหร่”

    แซนดี้ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอลังการขนาดนั้น สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก่อนหน้านี้คือการแบ่งถั่วกับมันฝรั่งจะได้มีอาหารทานนานยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้เธอมีของกินมากเกินกว่าจะเข้าใจได้ ครอบครัวเธอจะไม่มีวันหิวโหยอีก

    หญิงสาวกลับหลังหัน แต่แทนที่จะวางหนังสือลงบนโต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆ เธอกลับทำมันหล่นด้วยความตกใจ

    “นายไม่เคยใช้ประตูเก่งเลยสินะ?”ราวี่ส่ายหัวมองเงาสะท้อนของทิกี้ในกระจก เหมือนกับตัวเขาคนก่อนหน้า เขาเพียงแค่เดินทะลุผ่านประตูแทนที่จะเปิดประตูให้ลำบาก บุ๊คแมนหนุ่มคิดว่ามันเป็นนิสัยของจอยด์ที่สืบทอดมาในพันธุกรรมจากจอยด์คนก่อนสู่คนถัดไป

    และเขาก็รู้ว่าทิกี้คงไม่ทำอะไรแบบนั้นถ้ามันเป็นคนอื่นที่อยู่ในห้องกับเขา แซนดี้ยังไม่ชินกับพลังเหนือธรรมชาติพวกนี้และยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่ามันคืออะไร โดยเรียกพวกมันว่าพลังของเทวดา มันฟังดูสมเหตุสมผลสำหรับเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอก็เลยปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น แต่ความคิดนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าพลังพวกนั้นจะไม่ทำให้เธอตกใจเป็นครั้งเป็นคราว

    ทิกี้ดันแว่นขึ้นจมูกด้วยนิ้วชี้อย่างเคยชิน ก่อนจะคุกเข่าลงไปเก็บหนังสือที่ร่วง “การกลับคืนชีพของดานุ”เขาอ่านชื่อหนังสือ “ของท่านเอิร์ลสินะ?”

    “แน่นอน”ราวี่ตอบพลางยุ่งกับหูกระต่ายให้เข้าที่ “ตำนานเกี่ยวกับเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณของไอร์แลนด์”

    ทิกี้เงยขึ้นมองชายหนุ่มแดงในกระจก “เลิกยุ่งกับมันได้แล้ว ถึงเวลาไปปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่และคอยดูไม่ให้โรนัลด์หลงในทะเลหญิงสาวแล้ว นายก็รู้ว่าพวกเธอเป็นยังไง”

    แซนดี้เกือบจะทำหนังสือที่เพิ่งเก็บตกอีกรอบ

    “ไม่ต้องห่วง แซนดี้”ราวี่ยืนยัน “พวกเราจะบอกพวกเธอเองว่าเขาแต่งงานแล้ว โอเค?”

    บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่พูดง่ายกว่าทำ เมื่อราวี่และทิกี้เข้าสู่ห้องเต้นรำที่คฤหาสน์ของท่านเอิร์ล พวกเขาก็พบว่าโรนัลด์ได้ดึงความสนใจของสาวๆ วัยอ่อนกว่าให้เข้ามาขอเขาแต่งงานเรียบร้อยแล้ว พวกเธอเข้ารุมประดังประเดเขาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มดันแว่นกรอบบางขึ้นด้วยความประหม่าในขณะที่พยายามจะล้มเลิกความตั้งใจรุกของหญิงสาวมากมาย

    “คุณผู้หญิงครับ ได้โปรด”ทิกี้เข้าแทรก “ญาติที่รักของผมคนนี้ได้หมั้นหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

    หญิงสาวบางส่วนโอดโอยพลางถอยห่าง กระจายตัวตามหาหนุ่มโสด โรนัลด์ถอนหายใจยาว “ฉันไม่ชินกับเรื่องพวกนี้จริงๆ” มันเป็นคำพูดที่กล่าวน้อยกว่าจริงไปมาก โรนัลด์ใช้ชีวิตภายใต้ความยากจนมาโดยตลอด วิถีชีวิตฟุ้งเฟ้อของตระกูลโนอานั้นตัดกันโดยสิ้นเชิง

    ขณะที่ทิกี้ชวนโรนัลด์ไปดื่มไวน์สักแก้ว ราวี่ก็ใช้เวลานี้เก็บเกี่ยวรอบตัว มันเป็นเวลากว่าห้าปีแล้วที่เขาเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มันประดับหรูหรางดงาม อาหารเต็มทุกมุมห้อง บุฟเฟ่ต์อาหารประณีตตำหรับยุโรปแท้ พนักงานบริการแต่งตัวหัวจรดเท้าในชุดสูทและผ้ากันเปื้อน คอยรับใช้แขกเหรื่อ บริการออเดิร์ฟและไวน์บนถาดเงิน

    ตัวห้องนั้นกว้างขวางโอ่อ่า ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทั้งเต้นรำและโต๊ะเก้าให้นั่งและวางอาหารที่ริมห้อง พื้นหินอ่อนสีขาวเข้ากับผ้าม่านสีเดียวกัน ผนังห้องทาด้วยสีทองสวย โคมไฟระย้าคริสตัลกลายอันแขวนอยู่บนเพดานขัดเงาวับปราศจากใยแมงมุม

    แขกร่วมงานต่างแต่งชุดที่สวยหล่อที่สุด ชายหนุ่มในชุดทักซิโด้เรียบกริบและหญิงสาวในชุดกระโปรงตัวเก่ง วงดนตรีตั้งวงอยู่ด้านหนึ่งของห้อง ใกล้บันไดหลักที่พาขึ้นชั้นสอง ซึ่งส่วนมากเป็นเครื่องดนตรีเครื่องสาย วงดนตรีเล่นเพลงวอลซ์เพื่อคนเต้นรำที่พากันเต้นตามจังหวะเกือบจะพร้อมเพรียงกัน

    ราวี่มองผู้คนไปมาและคิดถึงวันเก่าๆ เขาทิ้งชีวิตนี้ไปหลายปีก่อนตอนที่โนอาถึงจุดจบ และกลับไปใช้ชีวิตแบบนักเดินทางยาจกคนหนึ่ง มันเข้ากับบันทึกของเขาและทำให้เขาสามารถคุยกับคนธรรมดาได้อย่างเท่าเทียม พวกเขาโต้ตอบกับเขาได้อย่างสบายใจ มอบข้อมูลต่างๆ ที่เขาต้องการ บันทึกส่วนมากของเขามักจะเกี่ยวข้องกับคนแบบนั้น พวกเขาถูกหลอกง่ายเมื่อมีการศึกษากันไม่สูง เขาสามารถทำให้อีกฝ่ายเชื่อตามที่เขาต้องการได้

    ชนชั้นสูงนั้นอาจจะยากจะโน้มน้าวกว่าหน่อย ตอนแรกเขาคิดอย่างนั้น แต่หลังถูกบังคับอย่างไร้ปราณีให้เข้าร่วมหลายงานเลี้ยง เขาก็เรียนรู้ เฝ้ามองและสังเกตคนอื่นๆ เลียนแบบท่าทางและวิธีการพูดของพวกเขา เขาพบว่าชนชั้นสูงเองก็ชักจูงง่ายเหมือนคนอื่นๆ พูดจาป้อยอและหว่านเสน่ห์ให้ถูกจริตอีกฝ่ายสักหน่อย ไม่ช้าพวกเขาก็จะตกอยู่ในกำมือ

    และเขาห่างหายมันไปนาน ชายหนุ่มซุกมือลงกระเป๋ากางเกงขณะที่มองทุกอย่าง ฝูงชนนี้ต่างจากแขกที่เคยร่วมงานของท่านเอิร์ลคนก่อน มันก็พอคาดได้เมื่อมันต่างที่กัน

    บทเพลงจบลงและผู้คนก็ขยับ บางส่วนเลือกเดินออกจากลานเต้นรำ บางส่วนยังคงเต้นต่อ จากอีกฟากห้อง ราวี่มองเห็นคนคุ้นตาที่เขาไม่คาดคิดว่าจะเจอ หญิงสาวตัวไม่สูงมากแม้ส้นสูงใต้ชายกระโปรงและซับกระโปรงหลายชั้นจะเสริมให้เธอสูงขึ้นมาอีกสองสามนิ้ว เธอมีผิวกายสีแทนบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ถึงต้นกำเนิดจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน เส้นผมสีดำหนาถักเป็นเปียต่ำยาวถึงแผ่นหลัง ชุดกระโปรงเธอเป็นเสื้อแจ็กเก็ตสีเขียวต้นหญ้าสดทับกระโปรงยาวเข้าคู่กันที่ยกจีบขึ้นด้านหลังตามแฟชั่นยุคปัจจุบันแถวนี้ ราวี่มองหญิงสาวด้วยความสงสัยว่าเธอมาทำอะไรที่นี่

    “กำลังสนุกอยู่เหรอ ราวี่ปอน~?”

    ราวี่เหลือบสายตากลับมาเจอท่านเอิร์ลที่ยืนอยู่ข้างเขาพร้อมแก้วไวน์และจานเล็กใส่ชีสในมือ เธอสวมชุดรูปแบบคล้ายๆ ของเด็กสาว แม้ชุดของท่านเอิร์ลจะเป็นแจ็กเก็ตสีฟ้านกยูงสดที่มีเน็คไทค่อนข้างผู้ชายกับกระโปรงยาวระพื้นสีเขียว เธอประดับหมวกที่สวมเพิ่มด้วยขนนกยูงสามเส้นที่ใหญ่จนเขามองไม่เห็นหน้าหญิงสาว

    “สักพักแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้น่ะ รู้มั้ย?”เขามองเด็กสาวในชุดสีเขียวเดินไปหยิบไข่ปิศาจ*จากโต๊ะที่อยู่ไกล เธอมองกลับหลังมาและเหมือนจะพยักหน้าให้ราวี่ก่อนจะกลับไปคุยต่อ

    “มีมากกว่านี้แน่นอน~”ท่านเอิร์ลยิ้มกว้างใต้หมวกใบโตยวบยาบ “ฉันล่ะชอบงานเลี้ยงดีๆ พวกนี้มาก~

    ราวี่กลับไปสนใจผู้คนอีกครั้งก่อนจะเห็นคู่งุ่มง่ามคู่หนึ่ง “ดูนั่นสิ”เขาทึ่ง “โร้ดพยายามจะสอนโรนัลด์เต้นรำล่ะ”

    โร้ดลากโรนัลด์มาริมห้องไม่ไกลจากจุดที่ราวี่และท่านเอิร์ลยืนอยู่ โร้ดยังไม่แต่งตัวเข้ากับสไตล์ปัจจุบันเท่าไหร่และยังคงใส่ชุดตัวเดิมที่เธอเคยใส่ก่อนหน้านี้ เธอสวมที่คาดผมบนผมชี้โด่ชี้เด่ของเธอเข้ากับชุดกระโปรงระบายเป็นชั้นสีม่วงและรองเท้าส้นตึกสีแดง ส่วนโรนัลด์นั้นแต่งตัวตรงข้ามกับเด็กสาวด้วยเส้นผมสีดำปนเทาและสีหน้าเหนื่อยอ่อน เขาดูเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางกับชุดทักซิโด้ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของบริกร แต่เขาก็ยืนปนกับแขก เอร็ดอร่อยกับอาหารในงานและเลี่ยงจะเต้นรำ แต่ยังไงซะ โร้ดมักจะได้สมใจหวังเสมอ

    “โอโฮะโฮะ~” ท่านเอิร์ลหัวเราะ “เขาเข้ากับครอบครัวคนอื่นได้ดีเหลือเกิน ฉันล่ะภูมิใจจริงๆ~

    ขณะที่มองโรนัลด์พยายามเต้น ราวี่ก็ได้ยินบทสนทนาใกล้เคียง อันหนึ่งพูดถึงข่าวลือแปลกๆ ว่าเมืองยากจนในเขตการดูแลของคาเมล็อตถูกภัยพิบัติเข้าโจมตีด้วยผีเสื้อสีดำมากมาย นั่นคือ ทีซ อย่างแน่นอน ราวี่สรุปได้เพียงว่าเมืองนั้นคือหมู่บ้านที่เขาเคยตั้งร้านหนังสือและเกือบเสียชีวิตสองครั้งในอาทิตย์เดียว ทิกี้ฝังทีซไว้ในหัวใจของช่างตีเหล็กตอนที่พวกเขาจากมา ซึ่งคงออกมาโลดแล่นไม่นานหลังจากนั้นและปรากฏเป็นภัยพิบัติประหลาด

    “เอ่อ ขออนุญาตนะคะ”เสียงของเธอแผ่วเบาเมื่อเธอผลักเด็กสาวถักเปียมาทางราวี่และท่านเอิร์ล

    “ลิซซ่า ขอร้องล่ะ”เด็กสาวผมเปียต่อต้านแม้จะไร้ผล แม้จะตัวเล็กกระจิดริดแต่ลิซซ่าก็สามารถผลักเด็กสาวฝ่าฝูงชนมาได้อย่างไม่ลำบาก

    “ไม่ ไม่ล่ะ เธอต้องเขาตั้งแต่เขามาถึงแล้ว เอโลอีส!”ลิซซ่าแย้ง “เอาเลย ขอเขาเต้นรำสิ!

    “ผมยินดีครับ”ราวี่ยิ้มพลางยื่นมือให้ เอโลอีซจับมือเขาอย่างมั่นใจและพวกเขาก็เดินไปยังฟลอร์เต้นรำ ลิซซ่าเวิ่นเว้อกับเสน่ห์ของชายหนุ่มผมสีแดง หนึ่งก้าว สองก้าว และพวกเขาก็เต้นรำอย่างง่ายดายเหมือนเคยเต้นด้วยกันมาก่อน

    เอโลอีสเงยหน้าขึ้นมาคู่เต้นรำของเธอ เพ่งเขาด้วยดวงตาสีเขียวมรกต “นายเลิกทำตัวมากเสน่ห์ได้แล้ว บุ๊คแมน มันใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอกนะ”มันมีสำเนียงบางๆ ติดอยู่ในน้ำเสียงเธอ แม้จะแทบฟังไม่ออก เหมือนจะเป็นตุรกีไม่ก็กรีก

    “มันหว่านเสน่ห์เธอไม่ได้เพราะเธอก็ทำเหมือนกัน บุ๊คแมน”เขายิ้มติดเจ้าเล่ห์ใส่เธอ มันนานมากแล้วที่เขาเจออีกฝ่าย แม้บุ๊คแมนจะมีมากมาย เขาแทบไม่เคยเจอคนที่ออกมาทำงานข้างนอก เขาเคยสภาบุ๊คแมนมาก่อน แต่พวกเขาเป็นนักจัดเก็บ เป็นผู้ที่ถือครองบันทึกโลกฉบับสมบูรณ์ เอโลอีสที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นนักประวัติศาสตร์ที่ทำงานอยู่ เดินทางทั่วโลกเหมือนกับราวี่

    “ไม่เจอกันนานเลยสินะ เร้ด?”

    “มันเท่าไหร่นะ 10ปีแล้วมั้ง?”ราวี่พยักหน้า

    “ฮะ”เธอหัวเราะแค่นเสียง “นายพูดเหมือนนายไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนจนถึงระดับนาที”

    “เอาเถอะ ถ้าเธอจะพูดแบบนั้น”ราวี่ยักไหล่ แต่มันก็เป็นเรื่องจริง เขาจำได้ชัดเจนว่าวันและเวลาที่เขาได้เจอ เอโลอีส ครั้งแรกและวันเวลาที่พวกเขาแยกทางกัน มันเป็นเวลา 10 ปี 2 เดือน 15 วันตั้งแต่บันทึกพวกเขาเกี่ยวข้องกัน มันเป็นการพบปะเพียงชั่วครู่ เป็นบันทึกที่ต้องการการสังเกตสองมุมมองพร้อมเพรียงกัน แม้ตอนนั้นราวี่จะมีประสบการณ์แล้ว แต่เขาก็ยังเป็นแค่บุ๊คแมนฝึกหัด และยังคงทำเรื่องง่ายๆ ผิดพลาด ขณะที่เอโลอีสมองจากมุมหนึ่ง ราวี่และอาจารย์ของเขาก็ดูจากอีกมุม พวกเขาพบกันที่จุดเริ่มต้นและจุดจบของการต่อสู้ในเมืองเล็กๆ ในรัสเซีย เมื่อบทสรุปมาถึง พวกเขาก็จากกันมา และเจ้าของเส้นผมสีเพลิงก็ไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีก

    “ในเมื่อนายเหมือนจะทำงานให้กับเคาท์เตสแอทเทนโบโรห์ ฉันคิดว่าเราจะเจอกันอีก”เอโลอีสยิ้ม

    ราวี่เหลือบมองไปทางท่านเอิร์ลที่ดูพึงพอใจจากริมห้องกับจานชีสและหมวกขนนกใบเขื่อง เขาเพิ่งรู้ชื่อของอีกฝ่ายจากการค้นคว้า เอเวอลีน แอทเทนโบโรห์ หรือรู้จักทั่วไปในนาม อีฟ และมันก็เข้าที จริงๆ นะ เมื่อชื่อของท่านเอิร์ลคนก่อนคืออดัม

    “ทำตามที่ขอหน่อยนะ เร้ด”เอโลอีสเสริมเมื่อเพลงจบลง “อยู่ให้ห่างปัญหานะ เข้าใจมั้ย?”

    ราวี่เพียงแค่ยิ้มและพยักหน้า ถ้าแค่เธอรู้ว่าเขาถลำเข้ามาในเรื่องนี้ลึกแค่ไหนล่ะก็นะ

    TBC….

     

    ll WORDS FROM WRITER ll

    ตอนที่ฉันลงมือเขียนตอนนี้ครั้งแรก ฉันตั้งใจจะโฟกัสกับโร้ดและโรนัลด์มากกว่านี้ ฉันมีความคิดที่จะเล่นกับไอเดียที่บุ๊คแมนมาเจอกันสักพักแล้ว แต่ฉันก็คิดไม่ออกว่าจะให้มันออกมาในรูปแบบไหนโดยที่บุ๊คแมนไม่ถูกฆ่า เพราะทุกคนเหมือนจะพากันตายไปหมดในเรื่องนี้

    งานเลี้ยงเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดสำหรับการพบปะอย่างเรียบง่ายระหว่างทั้งสองคน ขณะที่ราวี่เลือกจะทำงานกับข่าวลือของชนชั้นล่างและสังคมลับ ฉันจินตนาการให้เอโลอีสมักจะง่วนอยู่กับโลกขุนนาง จัดการกับความลับของชนชั้นสูงและองค์กรที่พวกเขาควบคุมอยู่เบื้องหลัง

    และฉันคิดว่าพวกเขาต่างรู้เทคนิคขุดคุ้ยข้อมูลเพื่อบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดของโลกใบนี้

     

    ll TALK WITH TRANSLATOR ll

    ห่างหายไปสักพัก ทั้งที่ตั้งใจจะมาอัพให้เร็วกว่านี้ แต่ผมดันงานเข้ากะทันหัน บวกกับแอบอู้ไปแต่งฟิคฉวนจื๋ออีกหน่อยนึงด้วย 5555 เรียกได้ว่าช่วงนี้รับงานแปลจนขี้เกียจแปลก็ไม่ผิดนักครับ ทั้งๆที่เดือนนี้ตั้งใจจะอัพถี่หน่อยแท้ๆ งานดันเข้าเสียก่อนนี่เลยต้องทำงานก่อน ในตอนนี้มีเรื่องที่อยากจะอธิบายเพิ่มเติมกับคำแปลนิดหน่อยครับ

    มันก็คือเรื่องของชุดกระโปรงของเอโลอีสกับท่านเอิร์ล เผื่อใครไม่เห็นภาพจะให้จิ้มจึกตรงนี้ครับ เป็นชุดเดรสสมัยวิคตอเรียน ช่วงปี 1883-84 โดยประมาณ เขาจะเป็นเดรสสองชิ้น คือมีเสื้อแจ็กเก็ตทับชุดกระโปรงที่เป็นสุ่มๆไม่เท่ากระโปรงสุ่มของฝรั่งเศษด้านหลังอีกทีหนึ่ง กว่าผมจะหาจำเพาะให้ได้ว่าเป็นเสื้อยุคไหนนี่สักพักเลย 5555

    ก็ไว้พบกันใหม่ตอนหน้านะครับผม ^ ^

    Killer in the Dark Shadow

     

     

     

     

    TF:)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×