ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Wolf Trap สยบร้าย! ยัยจอมวางแผน

    ลำดับตอนที่ #2 : 1.หมาป่า

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 58


                แหม...ฉันน่ะตั้งใจว่าจะเชียร์พี่มายาสุดฤทธิ์สุดเดชให้จับเจ้าหมาป่านั่นให้ได้ แต่ไหงเหมือนพี่จะไม่สนใจเขาสักนิดเลย >O< อ๊ากกกก ช่วยทิ้งนิสัยหยิ่งๆ ของพี่ได้ไหม ทำเพื่อน้องบ้างสิ!!

                ดีนะ! ที่ครอบครัวของฉันยังขออยู่ต่อคุยกับครอบครัวนธารากูล ทำให้ฉันพอมีเวลาที่จะขอแทรกตัวเข้าไปคุยกับหนุ่มจอมเย็นชานั่น (หลายฉายาเกิ๊นนนนนน) แถมตอนนี้เขาก็ดูเหมือนจะขอแยกตัวออกไปนั่งที่สวนหลังบ้าน ทำให้ฉันสามารถปลีกตัวออกไปหาเขาเงียบๆ ได้

                ก็พอรู้อ่ะนะว่าครอบครัวของฉันคงเชียร์ฉันกับนายไทเกอร์นั่นอยู่ เพราะเขาเป็นลูกคนที่สาม แต่เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาเลิฟๆ ~ มันเป็นเวลาทองที่ฉันจะทำเพื่อตัวเอง และพี่สาว คิดดูสิว่าฉันเป็นน้องสาวดีแค่ไหน หุๆๆ ^^

                เอ๋...เผลอแป๊บเดียวเอง หายไปไหนของเขากันนะ แล้วไอ้สวนหลังบ้านจะใหญ่ไปไหนกัน ยังดีที่ทางเดินมันเป็นหินนำพาไปยังศาลาหลังสวน แถมสวนหลังบ้านยังถูกประดับประดาด้วยโคมไฟสวยๆ หลายจุด สมกับเป็นบ้านของสถาปนิก (เมื่อก่อน) มือฉมังเลย

                ยอมรับๆๆ -/\-

                อ๊ะ! เห็นแล้ว เขากำลังนั่งอยู่ในศาลา กำลังทำงาน ? ทำงานเหรอ OoO ตอนกลางคืนเนี่ยนะ! ว้าวๆๆ พี่มายาต้องชอบแน่ๆ เลย เป็นคนที่ใช้ได้ ถึงจะดูร้ายกาจแบบเงียบๆ ก็เถอะนะ แต่ถ้าได้รักพี่มายาแล้ว คงจะถอดเล็บเองนั่นแหละ ฉันต้องเข้าไปทำความสนิทสนมในฐานะน้องสะใภ้ซะแล้ว

                “สวัสดีค่ะ ^_^

                “...”

                กึก -__- เมินเหรอ

                “เอ่อ...ทำไมคุณไม่อยู่กับทุกคนล่ะคะ”

                เมินได้เมินไป นายไม่รู้หรอกว่าลูกตื้อของฉันสามารถทำให้คนเกลียดกันกลับมารักกันได้

                “ฉันไม่ชอบคนเยอะๆ”

                แกร๊กๆๆ

                พูดไปกดคีย์บอร์ดไป ฉันอยากจะกราบนายจริงๆ เลย -__- ให้เกียรติกันบ้างเซ่ ฉันอุตส่าห์จะช่วยให้นายสมหวังในความรักนะ

                “เหรอคะ...” ไอ้ความเย็นที่แผ่ออกมารอบๆ ตัวของเขามันคืออะไรกัน ทำเอาฉันแทบพูดไม่ออก แล้วรู้สึกเหมือนหน้าเริ่มแตกขึ้นเรื่อยๆ แล้ว “แล้วชอบพี่มายาหรือเปล่าคะ”

                เอาว่ะ! ถามมันตรงๆ นี่แหละ ถ้านายชอบฉันจะอาสาเป็นพรรคพวกนาย คราวนี้พอทั้งสองรักกัน ฉันจะได้รับความเชื่อใจ งานของฉันก็จะสำเร็ว เย้ๆๆๆ ^O^

                “...”

                งะ...เงียบเหรอ -*- หรือว่าไม่ได้ยิน เอ๊ะ! แต่ก็พูดเสียงปกตินี่น่า แถมสวนก็ไม่มีใครอยู่ เงียบอย่างกับป่าช้า ถ้าไม่ได้ยินก็เว่อร์ไปแล้ว หรือเขาจงใจจะไม่ตอบกัน ช่างเถอะ ยังไงงานของฉันคือทำให้พวกเขาสองคนรักกันให้ได้

                “ถ้าคุณสนใจพี่มายาสาวสวยสุดของบ้าน ฉันช่วยได้นะคะ คุณอยากรู้ข้อมูลอะไรบอกมาเลย จ้าวฟ้าคนนี้รู้หมด เอ๊ะ! หรือว่าถ้าคุณสนใจคนอื่นที่ไม่ใช่พี่มายา ฉันก็ช่วยได้เหมือนกัน ยังไงซะก็ขอแค่ให้เป็นพี่ในตระกูลบดีรักษ์วิกูลก็พอ ดีไหมคะ...” พูดจบก็ฉีกยิ้มให้กว้างที่สุด เท่าที่จะทำได้

                “...ครับ” O_O ขะ...เขาพูดแล้ว “แต่ผมไม่สนใจใครนอกจาก...”

                “นอกจากใครคะ”

    พูดให้จบไม่ได้หรือยังไง มันจะยากอะไรแค่พูดชื่ออกมา รู้จักหมดทุกคนแล้วไม่ใช่หรือยังไงกัน -*-

    ปึก!

    “จะกลับเข้าไปแล้วเหรอคะ” ฉันถามขึ้น เมื่อเห็นเขาปิดหน้าจอคอมโน๊ตบุ๊คส์และเหมือนกำลังจะลุกขึ้นอีกต่างหาก แถมพอฉันเรียกเขาก็หยุดลงทันใด แล้วก็พลางหันมามองฉัน พร้อมกับหรี่ตาลงเล็กน้อย

    “ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ”

    “คือ...คุณยังไม่บอกเลยว่าคุณชอบใคร”

    “ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้ผมคงไม่อยากให้ใครรู้นอกจากตัวผม คุณคิดว่ามันแปลกมั้ยครับ”

    ฉันถามไปแล้วจะถามกลับทำไม >O<;;

    “ก็ไม่...ค่ะ”

    “นั่นล่ะเหคุผลที่ผมจะไม่บอกคนอื่น”

    เล่นแบบนี้เลยเรอะ –[]- คิดว่าจะสะบัดฉันหลุดหรือไง ง่ายไปแล้วมั้ง ถ้าฉันตั้งใจจะทำอะไร ก็จะทำให้ได้ เหมือนกับหมาแก่ที่ไม่ยอมจนมุมเด็ดขาด แต่ถ้าจนมุมแล้วก็จะกัดแหลก ไม่ปล่อยด้วย!

    “แล้วคุณจะสามารถรู้จักคนที่คุณชอบได้ยังไงกันคะ ในเมื่อคุณคุยได้เพียงคนเดียวคือพี่มายา มันก็จะดีหน่อย ถ้าคนที่คุณสนใจคือพี่มายา แต่ถ้าเป็นคนอื่น...คุณจะหลอกถามจากพี่มายาเหรอคะ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะพี่เป็นคนฉลาดมากกกก การที่ฉันยื่นมือช่วย คุณปฏิเสธแบบนี้ ไม่คิดว่าโง่ไปหน่อยเหรอคะ คุณ CEO

    “อืม...ก็จริงนะ” เขาพยักหน้าน้อยๆ เหมือนจะเคลิ้มกับคำพูดฉันแล้ว “แต่ผมน่ะเวลาสนใจใครแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลหรอกครับ เพราะไม่มีใครที่หนีรอดออกไปสักราย...”

    “ยกเว้นสาวๆ ตระกูลบดีรักษ์วิกูลค่ะ!

    เขาคงไม่รู้สินะ ว่าทุกคนในตระกูลล้วนฉลาดกันหมด แม้กระทั่งน้องเล็กข้าวทิพย์ ถึงดูใสๆ น่ารักแบบนั้น แต่เข้าหายากมากถึงมากที่สุด การที่ใครสนิทด้วย ถือว่าคนนั้นโชคดี และไม่ต้องพูดถึงพี่พิรุณเลย เพราะคนนั้นเขาห่างไกลกับคำว่ารักมากกกก การที่จะเข้าไปรู้จักหรือสนิทสนมยากขึ้นไปอีกสามเท่า และคนสุดท้ายพี่มายา คนนี้อาจจะดูร้อนแรงเหมือนไฟ อย่างกับสาวๆ สมัยนี้ แต่พี่ก็ฉลาดมาก สามารถทำให้คนที่ชอบแปรเปลี่ยนไปเป็นเกลียด ถือว่าเป็นอะไรที่ยากเข้าไปใหญ่

    ถ้าฉลาดหน่อยก็น่าจะอยากได้ฉันเป็นพวกสิ!

    “ดูเหมือนคุณอยากจะช่วยพี่น้องของคุณจังเลยนะครับ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วเหมือนมือขางขวาจะล้วงเอาอะไรบางสิ่งบางอย่างออกมา “ก็ได้ครับ ผมจะให้คุณช่วย...ช่วยบอกเบอร์ด้วยครับ”

    ^O^ สำเร็จด้วยดี! ไม่คิดเลยว่าฉันจะสามารถทำขั้นที่หนึ่งสำเร็จเร็วขนาดนี้ ต่อไปก็เป็นขั้นที่สอง ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าเขาช่วยใคร จะได้ทำให้รักไวๆ แต่ว่าสายตาแบบนั้น...ให้ความรู้สึกว่าถ้าใครเป็นเหยื่อไม่น่ารอดอย่างที่เขาบอกจริงๆ เฮ้อ~ ชักเป็นห่วงพี่ๆ และน้องไม่ได้เลย

    นี่เราเลวเกินไปหรือเปล่า แอบยัดเหยียดแบบนี้ (สายไปแล้วที่จะสำนึกผิดย่ะ) แต่เราเป็นน้องและพี่ที่ดีนะ คิดในแง่บวกเข้าไว้ ยังไงตอนจบก็ต้องแฮปปี้แอนดิ้งอยู่แล้ว

    “เป็นอะไรของเธอน่ะยัยฟ้า เห็นเดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวเศร้า ตั้งแต่ตอนเดินออกจากสวนแล้วนะ” พี่มายาขมวดคิ้ว จ้องมายังนัยน์ตาสีดำของฉันเหมือนกำลังหาบางสิ่งบางอย่าง

    “พูดอะไรน่ะพี่ ฟ้าจะยิ้มหรือจะเศร้าก็เรื่องของฟ้า ว่าแต่พี่เถอะ!

    “พี่ทำไม -*-

    “ชอบผู้ชายที่ชื่อโลเวลนั่นเปล่า”

                “พี่น่ะเหรอ...” พี่มายาย่นคิ้วลง ทำหน้าแบบเหมือนอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด “คิดว่าพี่ชอบคนแบบนั้นเหรอ บ้าหรือเปล่ายัยจ้าวฟ้า”

                “อ้าว! ไมอ่ะ เขาก็ดูเป็นผู้ชายที่สุขุมดีนะ พี่ไม่ชอบคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่หรอกเหรอ”

                บ้าจริง! ผิดแผนๆ ไม่คิดว่าพี่มายาไม่ชอบ ตอนแรกก็นึกว่าน่าจะถูกใจสักนิด ก็ทั้งสุขุม เป็นผู้ใหญ่ อีกอย่างหล่อแบบนั้น ทำไมไม่ชอบกันนะ ตลกหรือเปล่า...

                “ชอบกับผีสิ เป็นผู้ชายที่ไร้อารมณ์อยู่ด้วยแล้วเบื่อ ถามแบบนี้ แสดงว่าเราชอบล่ะสิ”

                “เห้ย! จะใช่ได้ไง พี่บ้าแล้ว” จะชอบได้ยังไง ในเมื่อฉันอยากจะให้เขาชอบพี่อยู่เลย “ไปดีกว่า ไม่อยากคุยกับพี่แล้ว” ฉันกำลังจะวิ่งออกไป แต่พี่มายาก็วางมือบนไหล่ของฉัน ทำให้ฉันหันกลับไปมองอัตโนมัติ

                “ระวังด้วยนะ เธอเข้าไปในอาณาเขตของหมาป่าเข้าแล้วสิ” พี่มายาพูดแค่นั้น ก็เดินนำฉันไปขึ้นรถตู้กลับบ้าน ทิ้งฉันให้ยืนคิดกลับคำพูดของพี่ตรงระหว่างทางเดิน

                “อะไรของพี่! เข้าไปในอาณาเขตของหมาป่านี่มันหมายความว่าอะไร -*-“ ฉันเกาหัวสองสามที ก่อนจะได้ยินเสียงเรียกทุกคนในรถให้รีบขึ้นมา ฉันก็เลยต้องหยุดคิดและรีบขึ้นไปนั่ง กะว่าจะถามเรื่องที่พี่พูดทิ้งท้ายสักหน่อย แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว ดูเหมือนพอหนังท้องอิ่ม หนังตาก็หย่อน

                กว่าจะหลับใหลในค่ำคืนยามราตรี คำว่าหมาป่ายังลอยวนเวียนในหัวไม่หายไปไหนเลย...วิธีรับมือกับหมาป่า พอจะมีเขียนไว้ในหนังสือหรือเปล่านะ ?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×