ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TIMELESS (NewJiew TS1)

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 2 : คืนข้ามปี (2) : ยังรักกันอยู่ไหม?

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 57


    บทที่ 

     

     

    คืข้ามปี (2) : ยังรักกันอยู่ไหม?

     

     

     

     

     

    January 1, 2014 (WED)| 1 : 30 AM

     

     

    นิวตัดสินใจขับรถพาจิ๋วมาค้างที่บ้านของตนหลังกลับจากงานเลี้ยงปีใหม่ หากพากลับไปที่บ้านของจิ๋วเองคงได้แตกตื่นกันทั้งบ้าน และนี่ก็ดึกมากแล้วเดี๋ยวจะวุ่นวายกันไปเปล่า ๆ จิ๋วหลับไปร่วมชั่วโมงระหว่างที่นิวแวะส่งรุ่นพี่ที่เมาไม่รู้เรื่องพอกันกับเจ้าตัว

     

    นิวเหลือบมองคนที่หลับไม่ได้สติอย่างชั่งใจก่อนปลุกอีกฝ่ายด้วยการเขย่าตัวเบา ๆ

               

    “จิ๋ว ถึงบ้านแล้ว ตื่นเถอะ”

     

                “อื้อ” เสียงครางแผ่วเบาหลุดลอดจากลำคอ มือเล็กปัดป่ายอย่างนึกรำคาญ แต่ยังไม่ยอมตื่น สงสัยเสียงเธอคงดังไม่พอ

     

    นิวถอนหายใจเฮือกใหญ่ สีหน้าเคร่งเครียดขณะที่ลงมือปลดเข็มขัดนิรภัยให้คนตัวเล็ก ก่อนลงจากรถอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อพาตัวคนเมาออกมา เอื้อมมือไปหมายจะประคองร่างนั้นขึ้นจากเบาะก็ต้องพบกับความยุ่งยากอีกครั้ง เพราะกลิ่นน้ำหอมเจือกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ รบกวนสมาธินิวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งใกล้ก็ยิ่งใจสั่น เกิดความลังเลไม่รู้จะจัดการกับอีกคนอย่างไร

     

    ลมหายใจของคนหลับที่เคยผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอก็เริ่มผิดจังหวะเมื่อถูกรบกวน ไออุ่นที่แผ่ออกมาจากผิวนวลเนียนบวกกับกลิ่นกายหอมละมุนที่อยู่ใกล้เพียงปลายจมูก ส่งผลให้นิวแทบสูญเสียการควบคุม  แม้แต่ลมหนาวที่พัดแรงอยู่นอกตัวรถยังทำอะไรเธอไม่ได้เลยในเวลานี้ ความรู้สึกภายในใจมันร่ำร้องโหยหา แต่สำนึกที่ขัดแย้งบอกให้รีบพาอีกฝ่ายเข้าไปนอนพักในบ้านเพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง

     

    ที่ผ่านมาชั่วโมงก่อนมันก็มากพอแล้วสำหรับความใกล้ชิดที่เสี่ยงต่อความผิดพลาด

     

    “นิว” เสียงหวานปนแหบพร่ากระซิบเรียกอยู่ข้างหู ดึงสายตาคมที่กำลังโลมไล้ผิวกายให้เลื่อนมาจับจ้องใบหน้าของเธอแทน

     

    “ตื่นแล้วเหรอ เข้าบ้านนิวกันนะ ดึกมากแล้ว” นิวคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้จิ๋ว เป็นรอยยิ้มที่ปราศจากความหมายใด ๆ แอบแฝง เมื่อความรู้สึกมากมายทีเอ่อท้นขึ้นมาในยามเผลอตัวถูกสะกดเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ

     

                ทว่า… อีกฝ่ายกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือเอาเสียเลย

     

                “มึนหัวจัง หนาวด้วย” จิ๋วยกมือกอดอกห่อตัวให้เล็กลงเมื่อกายต้องลมหนาว ปรือตามองนิวอย่างเว้าวอนเหมือนกำลังออดอ้อนขอความเห็นใจ นัยน์ตากลมใสเป็นประกายแวววาวเมื่อหยอกล้อกับแสงไฟที่ลอดผ่านเข้ามาในตัวรถ

     

    จิ๋วอาจจะกำลังลืมตัวเพราะความมึนเมา ปราการที่สร้างไว้กางกั้นจึงถูกลดความแน่นหนาลง และมันทำให้นิวสับสน ความว้าวุ่นปรากฏชัดในดวงตาคู่คม แต่เพียงไม่นานความคิดเหล่านั้นก็ถูกขับไล่ออกไปในทันที

     

                ก็ดื่มซะหนัก ไม่มึนได้ไง  มา เข้าบ้านกันเดี๋ยวนิวช่วยจิ๋วพยักหน้าและยอมให้นิวช่วยประคองเข้าไปในบ้าน ความมืดมิดที่กลืนกินทุกสรรพสิ่งทำให้จิ๋วมองไม่เห็นอะไรเลย นิวเองก็ไม่ได้เปิดสวิทช์ไฟ อาจเพราะกลัวรบกวนคนในบ้าน แต่ก็สามารถพาจิ๋วขึ้นไปจนถึงห้องนอนได้โดยสวัสดิภาพ อาศัยจากความคุ้นเคยที่อยู่มานานตั้งแต่เล็กจนโต

     

                ไฟในห้องนอนของนิวถูกเปิดจนสว่างหลังจากพาคนตัวเล็กมาถึงเตียงนอนได้สำเร็จ จิ๋วหลับตาหนีแสงเจิดจ้าเพราะยังไม่คุ้นชิน เอนตัวพิงหมอนใบโตที่นิวจัดแจงให้ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน

     

                “จิ๋วคอแห้งมั้ย เดี๋ยวนิวไปเอาน้ำมาให้”  

     

                “อื้อ.. ขอบคุณนะ” ทันทีที่จิ๋วตอบรับความช่วยเหลือนิวก็เผ่นแผล็วออกไปจากห้องอย่างว่องไว

     

    พอคล้อยหลังอีกคนไป จิ๋วจึงมีโอกาสได้มองสำรวจห้องนอนของเจ้าตัวได้อย่างสะดวกใจ สภาพที่เห็นก็ไม่ต่างจากเดิมนัก ตุ๊กตาสนู๊ปปี้ตัวโตก็ยังคงวางอยู่ในที่ของมันอย่างเดิม เพียงแต่ในห้องดูสะอาดสะอ้านและเรียบร้อยกว่าเมื่อก่อน คงเป็นเพราะเจ้าของของมันไม่ค่อยได้กลับมาใช้งานบ่อยนัก

     

                มือเล็กคลี่ผ้าห่มผืนหนาที่พับอย่างเรียบร้อยขึ้นมาคลุมกาย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเจ้าของห้องติดอยู่บนเครื่องนอนทุกชิ้น ลอยอบอวลอยู่รอบกายเหมือนถูกโอบกอดด้วยอ้อมแขนของนิวไม่มีผิดเพี้ยน จิ๋วกระชับชายผ้าห่มขึ้นแนบอก ม่านบาง ๆ ของหยาดน้ำตาเอ่อคลอจนพร่ามัว ต้องเงยหน้าขึ้นขับไล่ให้มันไหลย้อนกลับลงไปอย่างเดิม แม้จะคิดถึงอ้อมกอดนั้นแทบขาดใจแต่เธอรู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร เพราะที่ผ่านมาเธอเป็นคนเลือกให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้เอง 

     

                อยู่ใกล้กันเพียงเอื้อมมือแต่ก็ต้องหักห้ามความต้องการของหัวใจ ไฟที่มอดดับกำลังปะทุขึ้นมาอีกครั้ง คนที่เจ็บก็คือเธอหากอีกฝ่ายคิดไม่ตรงกัน

     

     

     

     

     

    เสียงฝีเท้าดังแว่วมาจากบันได จิ๋วหลับตาลงเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึก ก่อนที่นิวจะโผล่เข้ามาในพร้อมขวดน้ำเย็น ๆ หนึ่งขวดและแก้วน้ำอีกหนึ่งใบ

     

    “หลับแล้วเหรอ” นิวถามอย่างเกรงใจ

     

    “ยังหรอกแค่พักสายตาน่ะ”

     

    นิววางของทั้งสองสิ่งลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อนรินน้ำใส่เต็มแก้วแล้วส่งให้จิ๋ว ร่างเล็กลืมตาขึ้นเพื่อรับน้ำมาดื่ม

               

    “ดื่มน้ำเยอะ ๆ จะได้ขับพิษแอลกอฮอล์ด้วย” นิวบอกระหว่างที่มองจิ๋วกระดกน้ำในแก้วอย่างกระหาย เพียงไม่กี่อึดใจก็น้ำเย็น ๆ ก็หมดเกลี้ยงไม่แทบไม่เหลือซักหยด

     

                “อีกแก้วมั้ย?” นิวถามเมื่ออีกฝ่ายยื่นแก้วเปล่ากลับมาให้

     

                “ไม่ล่ะ พอแล้ว”

     

                พอได้คำตอบจากจิ๋วนิวก็ลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้า ค้นหาอะไรในนั้นกุก ๆ กัก ๆ อยู่ครู่เดียวก็หันกลับพร้อมผ้าขนหนูและเสื้อผ้าชุดหนึ่งในอ้อมแขน

     

                “อาบน้ำก่อนนะค่อยนอน จะได้สบายตัว” นิวเดินเข้ามาใกล้ ยื่นผ้าที่พับเรียบร้อยในมือให้จิ๋ว คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยอย่างแปลกใจ นึกสงสัยมาสักพักแล้วว่าอะไรที่ทำให้นิวกลายเป็นคนละเอียดอ่อนและใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้นขนาดนี้ แต่คำถามในใจก็ถูกเก็บไว้อย่างเดิม ที่ทำคือรับของที่นิวยื่นให้และส่งยิ้มให้แทนคำขอบคุณ

     

                “งั้น.. จิ๋วก็นอนที่นี่ล่ะนะ เดี๋ยวนิวจะไปนอนกับหลาน” 

     

                “นี่มันห้องนิวนะ ทำไมไม่นอนที่นี่ล่ะ อย่าลำบากเพราะจิ๋วเลย”

     

                เห็นนิวทำท่าอึกอักตัดสินใจไม่ได้จิ๋วก็รีบพูดต่อ “ถ้านิวจะไม่นอนที่นี่จิ๋วก็ไม่นอนในห้องนี้เหมือนกัน”  เมื่อได้สบตาก็รู้ได้ทันทีว่าจิ๋วจะทำตามอย่างที่พูดแน่นอน เถียงกันไปก็ไม่ช่วยอะไรนิวจึงต้องยอมรับอย่างหนักใจ

     

                “โอเค ๆ งั้นไปอาบน้ำเถอะ นิวนอนที่นี่ก็ได้” นิวยืนยันคำพูดด้วยการขยับไปนั่งอีกฟากของเตียง นั่นทำให้จิ๋วยอมลุกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ แต่อาการมึนเมาทำให้เธอเสียหลัก คนที่คอยมองเธออยู่ทุกฝีก้าวรีบกระโดดข้ามฟากเข้าไปประคองแทบไม่ทัน

     

                “ไหวมั้ยเนี่ย นิวพาไปนะ”

     

                “ขอบคุณค่ะ” ร่างเล็กปล่อยตัวพิงอกคนที่สูงกว่าโดยไม่ขัดขืน อาจเป็นเพราะความต้องการจากส่วนลึกสั่งให้ทำเช่นนั้น

     

                “อาบน้ำไหวมั้ย หรือจะเช็ดตัวดี” พอส่งอีกคนเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็ยังไม่วายถามด้วยความเป็นห่วง มือดันประตูไว้ไม่ให้ปิดลงจนกว่าจะแน่ใจว่าจิ๋วปลอดภัย

     

                “ไหวสิ ไม่เป็นไรหรอก เมื่อกี๊แค่เสียหลักน่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ”

     

                นิวหัวเราะเบา ๆ เมื่อจิ๋วพูดจบ คนตัวเล็กเอียงคอมองอย่างไม่เข้าใจ

     

                “หัวเราะอะไร”

     

                “เปล่า” นิวยักไหล่ “แค่รู้สึกว่าวันนี้จิ๋วพูดคำว่าขอบคุณกับนิวบ่อยเป็นพิเศษแค่นั้น… จิ๋วอาบน้ำดีกว่านะ ถ้ามีอะไรก็เรียกแล้วกัน นิวอยู่ในห้องนี่แหละ”

     

    จบประโยคประตูห้องน้ำก็ปิดลง   

     

     

     

     

     

                นิวกอดอกยืนพิงผนังข้างประตู เงี่ยหูฟังเสียงคนข้างในอยู่ตลอดเวลา เผื่อว่าจิ๋วต้องการความช่วยเหลือจะได้มาถึงทันท่วงที เสียงกุกกักปนกับเสียงซู่ซ่าของน้ำจากฝักบัวดังแว่วมาจากในห้องน้ำอย่างสม่ำเสมอ ทำให้นิวคลายความกังวล

     

    เปลือกตาบางปิดลงอย่างอ่อนล้าก่อนทอดถอนใจ  วันที่ต้องใช้เวลาอยู่กับจิ๋วนานกว่าทุกครั้งทำให้นิวสูญเสียพลังงานในการห้ามความรู้สึกของตนไปไม่น้อย เหนื่อยเป็นสองเท่าของการทำงานในสตูดิโอทั้งเสียอีก คืนนี้ยังต้องนอนบนเตียงเดียวกัน ไม่รู้ว่านิวจะข่มตาให้หลับลงได้หรือเปล่า

     

     

    แกรก..

     

    ประตูที่เปิดออกพรวดพราดทำให้นิวที่คิดอะไรเพลิน ๆ หลบจากตรงนั้นไม่ทัน เป็นเหตุให้ต้องประสานสายตากันอีกครั้ง

     

     “…”

     

    “….”

     

    ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากของทั้งคู่อยู่อึดใจใหญ่…เวลาไม่ถึงนาที..แต่ยาวนานเหลือเกินในความรู้สึก…..

     

     นาน…. จนเกือบทำให้ใครสักคนหลุดคำพูดที่ไม่สมควรออกมา

     

    “รอเข้าห้องน้ำเหรอ” เป็นจิ๋วที่หลบตาก่อนและทำลายความเงียบนั้นลงในที่สุด เรื่องที่เกิดขึ้นในผับยังเลือน ๆ ในความมทรงจำ แต่จิ๋วก็พอจะรู้ว่าตนได้ก่อเรื่องน่าอับอายเอาไว้ มานึกขึ้นได้อีกทีตอนอาบน้ำเสร็จ เธอชักไม่อยากจะสู้หน้านิวแล้วสิ

     

    “อื้ม ใช่” นิวรับสมอ้าง แม้จะดึงสายตาออกจากคนตรงหน้าได้แล้วแต่ความอ่อนไหวที่เข้าครอบงำจิตใจยังไม่สิ้นมนต์สะกด มันส่งผลให้นิวเคลื่อนไหวผิด ๆ ถูก ๆ แทนที่จะหลบให้จิ๋วออกมาก่อนกลับเดินสวนช่องประตูที่คับแคบเข้าไป เป็นเหตุให้ไหล่ของทั้งคู่กระแทกกันอย่างแรง แน่นอนว่ามันทำให้คนที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายมากกว่าทรงตัวไม่อยู่

     

    ร่างเล็กเกือบเสียหลักล้มหากไม่คว้าตัวอีกคนไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มกระแทกพื้น และสัญชาตญาณของนิวก็ไวกว่าความคิด สองมือยึดเอวคอดเอาไว้ก่อนกระชับกอดคนตัวเล็กแนบแน่นอย่างใจหาย

     

    “ไม่เป็นไรนะ” เสียงที่แสดงความห่วงใยของนิวดังชิดข้างหู จิ๋วหลับตาลงซึมซับเอาความอ่อนโยนจากอีกคนอย่างหมดทางต่อต้าน กำแพงแห่งความรู้สึกผิดที่เพียรสร้างขึ้นเพื่อปิดบังความต้องการของหัวใจทลายลงจนหมดสิ้นในนาทีนั้น หัวใจสองดวงเต้นประสานกันถี่รัวไม่เป็นจังหวะ ต่างฝ่ายต่างก็รับรู้ได้จากร่างกายที่แนบชิด

     

    มือเล็กที่เคยเกาะไหล่อีกฝ่ายเอาไว้เพื่อพยุงตัว บัดนี้กำลังเคลื่อนขึ้นไปโอบรอบลำคอเพื่อลดช่องว่างระหว่างกันให้หมดไป ไม่ว่าจะด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือแรงขับเคลื่อนจากภายในที่ทำให้เธอกล้าแสดงความรู้สึกต่อหน้านิวเป็นครั้งแรก

     

    ดวงตาคู่หวานหลับพริ้ม…ปล่อยให้หัวใจได้ทำหน้าที่ของมันอย่างที่ควรจะเป็นมานาน

     

     “คิดถึงกันบ้างมั้ย” จิ๋วเอ่ยถามออกไปเหมือนคนละเมอ อ้อมกอดที่แน่นอยู่แล้วในตอนแรกยิ่งแนบแน่นขึ้นอีกเมื่อสิ้นคำถาม แต่เธอกลับไม่รู้สึกอึดอัด พอใจจะให้นิวกอดอย่างนี้มากกว่าต้องแสร้งทำเป็นเพื่อนกันอย่างที่ผ่านมา ...ทั้งที่ไม่เคยต้องการอย่างนั้น

     

    “คิดถึงสิ.. คิดถึงที่สุด”

     

    ทั้งที่บอกกับตัวเองแล้วว่าทำใจได้หากต้องทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม แต่พอได้ใกล้ชิดก็ยิ่งโหยหา นานวันก็ยิ่งทรมานกับการเก็บซ่อนความรู้สึก

     

    “ยังรักกันอยู่รึเปล่า” ช่วยไม่ได้ที่น้ำเสียงของจิ๋วจะสั่นเครือและไม่หนักแน่น เพราะน้ำตาหยดแล้วหยดเล่ากำลังไหลรินอาบสองแก้ม ใช้ลาดไหล่ของคนตัวสูงกว่าแทนผ้าเช็ดหน้า ซับน้ำตาที่เหมือนไม่มีวันเหือดแห้งจนเชิ้ตสีขาวเปียกชุ่ม น้ำอุ่น ๆ ซึมผ่านเข้าไปสัมผัสผิวกายของอีกคน

     

    “นิวยังเหมือนเดิม… เคยรักจิ๋วยังไง…ตอนนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยน” คำตอบเจือสะอื้นทำให้เธอรับรู้ว่านิวเองก็กำลังร้องไห้ไม่ต่างกัน 

     

    หมดแล้วความเคลือบแคลงสงสัย เมื่อได้รู้ว่าอีกคนยังมีความรู้สึกที่ตรงกัน ใบหน้าอาบน้ำตาเคลื่อนเข้าใกล้กันอย่างช้า ๆ …กระทั่งริมฝีปากอุ่นประทับกันแนบสนิท เรียวปากขยับทักทายอีกฝ่ายด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ รสเค็มปร่าของน้ำตาที่หลั่งรินไม่ขาดสายยิ่งทวีความโหยหาให้รุนแรง แอลกอฮอล์จาง ๆ ที่ยังกรุ่นในลมหายใจกระตุ้นให้อยากสัมผัสกันและกันมากขึ้น เหตุผลมากมายถูกลืมเลือนไปในที่สุด

     

    เรียวลิ้นเก็บกวาดควานหาความหวาน กระหวัดเกี่ยวรึงรัดเหมือนไม่มีวันยอมพรากจาก ร่างเล็กกว่าถูกดันจนชิดผนังเย็นเฉียบของห้องน้ำ ลมหายใจกำลังถูกลิดรอนด้วยจุมพิตดูดดื่ม หากอีกคนไม่หยุดความร้อนแรงลงเธอคงขาดใจตายอยู่ตรงนี้ แต่ถึงอย่างนั้นร่างเล็กกลับสนองตอบด้วยความเร่าร้อนไม่แพ้กัน นิ้วเรียวเล็กแทรกข้าไปในกลุ่มผมสีบลอนด์ ออกแรงขยุ้มเบา ๆ พร้อมกับดึงรั้งเข้ามาชิดเพื่อแลกเปลี่ยนสัมผัสที่ลึกซึ้งกว่า ราวกับยินยอมมอบชีวิตให้หากคนตรงหน้าต้องการมัน
     

    >> cut scene บทที่ ๒ คืนข้ามปี (2) - ยังรักกันอยู่ไหม (word)<<

    >>cut scene บทที่ ๒ คืนข้ามปี (2) - ยังรักกันอยู่ไหม (pdf)<<

    (ตัดออกไปสำหรับคนที่ไม่อยากอ่าน ฉากโคมไฟเวอร์ชั่นเต็มอยู่ในเอกสาร pdf กับ word ข้างบนให้เลือกโหลดไปอ่านนะคะ เค้าไม่กล้าเอาลงถึงมันจะไม่แรงแต่เพื่อความชัวร์ แปะลิงก์ดีกว่า ฮ่า ๆ) 
     

    .

    .

    .                                                                                       

     

    ความเคลื่อนไหวเพียงแผ่วเบาภายในห้องกำลังปลุกให้ร่างที่นอนหลับใหลฟื้นคืนสติ โดยที่ยังไม่รู้ตัวว่าภาพเย้ายวนของตนบนเตียงนุ่มกำลังถูกคนมือดีบันทึกไว้ภาพแล้วภาพเล่า

     

    แผ่นหลังเปล่าเปลือยที่ถูกผ้าห่มคลุมไว้อย่างหมิ่นเหม่ถูกสายตาคมมองสำรวจอย่างชื่นชม มุมปากปรากฏรอยยิ้มแห่งความสุขขณะลดกล้องดิจิตอลในมือลง

     

    คนหลับเริ่มขยับตัวขยุกขยิกทำให้นิวนึกสนุก ยกกล้องในมือขึ้นบันทึกภาพคนตัวเล็กอีกครั้ง นิ้วกดชัตเตอร์รัวเร็วพร้อมกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ อยากเห็นสีหน้าตอนที่จิ๋วรู้ตัวว่าถูกแอบถ่ายไว ๆ คงจะตลกพิลึก

     

    “ฮื่อ…” ร่างเล็กครางเบา ๆ ขณะพลิกตัวนอนหงาย กระชับผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายเมื่อผิวเนียนสัมผัสอากาศหนาวเย็น ซุกตัวเข้าไปในผืนผ้าห่มเพื่อต่อเวลานอนให้ยืดยาวออกไปอีกนิด ในเมื่อตอนนี้เธออยู่ในช่วงหยุดพักงานจะนอนตื่นสายเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะตื่นไปทำงานไม่ทัน เช้าที่ปราศจากเสียงของนาฬิกาปลุกช่างเป็นเช้าที่น่ารื่นรมย์สำหรับนักร้องชื่อดังอย่างเธอเหลือเกิน

     

     ทว่า… กลิ่นเครื่องนอนที่แปลกออกไปจากทุกวันทำให้หญิงสาวนึกเอะใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกโพลงขึ้นในทันที เมื่อนึกได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างเธอและเจ้าของเตียงกว้างหลังนี้

     

    “นิว” พอคิดได้ก็ลุกพรวดพราดขึ้นจากเตียง หันมองข้างกายกลับพบเพียงความว่างเปล่า โดยหารู้ไม่ว่าคนร่วมเตียงกำลังจ้องมองอาการลนลานของเธอผ่านเลนส์กล้องด้วยความขบขัน มือสั่นจนกดชัตเตอร์แทบไม่ได้ สุดท้ายก็กลั้นขำไม่ไหวหลุดเสียงหัวเราะออกมาดัง ๆ ให้คนตัวเล็กได้ยิน

     

    “นิว ทำอะไรเนี่ย!” เสียงแหลมสูงหวีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อหันมาอีกทางพบนิวและกล้องในมือ ร่างเล็กกระโจนเข้าหาหมายจะคว้ากล้องไปจากนิวโดยลืมไปว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าห่มผืนเดียว และตอนนี้มันก็หล่นลงไปกองอยู่กับพื้นเป็นที่เรียบร้อย คนมองทำตาวาวอย่างชอบใจ

     

    “โอ๊ะโอ... อยากต่อรอบเช้าก็ไม่บอกกันดี ๆ มายั่วกันอยู่ได้” นิวยกกล้องหนีมือเล็กที่กำลังไขว่คว้าอย่างเอาเป็นเอาตาย มือข้างที่ว่างโอบเอวบางไว้หลวม ๆ ก่อนก้มลงกระซิบข้างหูแกล้งอีกคน ไม่พูดเปล่าฝ่ามืออุ่นยังลูบไล้ผิวอ่อนละมุนอย่างหยอกเย้า กายส่วนหน้าแนบชิดกันตลอดทั้งร่างจนสัมผัสได้ถึงความอวบหยุ่นของคนที่ตัวเล็กกว่า แม้ว่าบนร่างของนิวจะมีชุดคลุมอาบน้ำสวมใส่อยู่อีกชั้นก็ตามที

     

    นั่นทำให้อีกคนรู้ตัว ก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วก็หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย ยิ่งเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นสายตาซุกซนของนิวก็ยิ่งอายหนักจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี มือเล็กยกขึ้นปิดบังสายตาอีกคน ส่วนอีกข้างก็ตะครุบมือซุกซนที่ป้วนเปี้ยนอยู่กับเอวคอดเอาไว้

     

    “ห้ามมอง ใครเค้าอยากจะทำอะไรด้วย เอากล้องมาลบแล้วรูปออกเดี๋ยวนี้” จิ๋วพยายามข่มความเขินอายเอาไว้ บังคับเสียงให้เด็ดขาดเพื่อออกคำสั่งกับอีกคน แต่ปลายเสียงก็ยังไม่วายสั่นอยู่ดี

     

    “ถ้าถ่ายแล้วลบจะถ่ายทำไมคะคุณ” นิวพูดยียวน กดยิ้มเจ้าเล่ห์ตรงมุมปากจนเห็นลักยิ้มเล็ก ๆ ข้างแก้ม มันดูดีก็จริงแต่ขณะเดียวกันก็สร้างความหมั่นไส้ให้จิ๋วได้ไม่น้อย ในช่วงที่ห่างกันไปกว่าห้าปีกว่าไม่รู้ใครสั่งใครสอนให้ทำตัวแบบนี้

     

    “ไม่ต้องมาปากดี จะลบไม่ลบ” เสียงเล็กเริ่มข่มขู่ แต่มันไม่ทำให้คนฟังเกิดความกลัวอย่างที่เธอต้องการ

     

    “ไม่” นิวตอบหนักแน่น

     

    “งั้นก็ไม่ต้องมาพูดกัน” จิ๋วผลักนิวออกแรง ๆ จนอีกคนเซไปหลายก้าว มือคว้าเอาผ้าห่มที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาห่อตัวไว้เหมือนดักแด้ เดินฟึดฟัดไปเปิดตู้เสื้อผ้าของนิวด้วยความคุ้นเคย

     

    “งอนเค้าเหรอ” นิวเริ่มหน้าเสียเมื่อเห็นอีกคนเงียบไปเหมือนโกรธกันจริง ๆ ขยับเข้าไปประชิดตัวจากด้านหลัง รออยู่นานแต่จิ๋วก็ยังไม่ตอบ เลือกหยิบเสื้อผ้ากับผ้าขนหนูที่อยู่ในตู้ออกมา แล้วสลัดผ้าห่มเทอะทะออกเปลี่ยนเอาผ้าขนหนูผืนหนามาพันกายแทน

     

    นิวถอนหายใจเบา ๆ ก่อนยื่นกล้องไปตรงหน้าอีกคน “โอเค งั้นจิ๋วลบเองละกัน”

     

    ไม่รอให้พูดซ้ำมือเล็กฉวยเอากล้องจากอีกคนมาถือไว้แล้วกดดู พอได้เห็นภาพที่ถูกบันทึกไว้ก็เกิดอาการหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้งด้วยความอับอาย นิวถ่ายภาพสวยข้อนี้เธอยอมรับ แต่ภาพที่ออกมาแต่ละภาพมันดูเซ็กซี่เกินจริงไปสักหน่อย

     

    “ตั้งแต่จิ๋วไม่อยู่… ถ้าไม่ใช่งาน นิวก็แทบไม่ได้ถ่ายรูปให้ใครเลย” คนข้างหลังเปรยขึ้นมาเบา ๆ รั้งให้ปลายนิ้วที่กำลังจะกด delete ต้องชะงักเพื่อหยุดฟัง

     

    “จำได้มั้ยที่นิวเคยบอกว่าจิ๋วคือนางแบบคนเดียวของนิว จนตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่นะ”  น้ำเสียงเศร้า ๆ ของนิวละลายหัวใจเธอจนอ่อนยวบ ความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่เหมือนคลื่นซัดฝั่ง ม่านน้ำตาบาง ๆ เอ่อคลอเต็มสองตา

     

    คำพูดไม่กี่ประโยคสามารถเปลี่ยนใจเธอได้อย่างง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ เพียงเพราะมันมาถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของคนที่เธอรักหมดหัวใจ…. จิ๋วตัดสินใจเก็บภาพเหล่านั้นเอาไว้อย่างเดิม

     

    “จิ๋วขอโทษ” จิ๋วหันกลับมาเผชิญหน้ากับนิวตรง ๆ  เอ่ยคำขอโทษพร้อมโถมตัวเข้ากอดอีกคนแนบแน่น 

     

    “จิ๋วไม่ผิดหรอก นิวเองที่บีบให้จิ๋วทำแบบนั้น” นิวสวมกอดคนตัวเล็กตอบ รับรู้ได้ถึงแรงสะอื้นจากร่างที่แนบชิดในอ้อมแขน ฝ่ามืออุ่นลูบแผ่นหลังบอบบางแผ่วเบา ปลอบโยนให้คลายเศร้า

     

    “ถ้าจิ๋วไม่เห็นแก่ตัว เราคงไม่ต้องเลิกกัน” เสียงเจือสะอื้นยังพร่ำโทษตัวเองไม่หยุด นิวผละอ้อมกอดออกเพื่อมองหน้าคนตัวเล็กชัด ๆ สองมือกุมไหล่เอาไว้หลวม ๆ

     

    “ไม่เอาน่า เลิกโทษตัวเองได้แล้ว” ปลายนิ้วปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออกไปอย่างอ่อนโยน แต่อีกคนกลับยิ่งร้องไห้หนักขึ้น นิวที่พยายามควบคุมอารมณ์ก็เริ่มน้ำตารื้นขึ้นมาบ้างเหมือนกัน

     

    “จิ๋วขอโทษ..นิว...อื้อ..” คำพูดประโยคถัดไปถูกกลืนหายลงคอด้วยจูบหวาน ๆ จากคนตรงหน้า จูบที่พาให้ล่องลอยเคลิ้มฝัน ความเจ็บปวดที่บีบรัดหัวใจถูกปัดเป่าด้วยความอ่อนโยนจากริมฝีปากอุ่น  อวัยวะในช่องอกกลับมาเต้นแรงจนผิดจังหวะอีกครั้ง คนตัวเล็กตอบสนองจุมพิตดูดดื่มอย่างอ่อนหวานไม่แพ้กัน มือที่ถือกล้องอ่อนแรงแทบปล่อยให้ของในมือร่วงหล่น อารมณ์หวามไหวผลัดเปลี่ยนเข้ามาทำหน้าที่แทนความรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกพัดพาหายไป

     

     

     

     

     

    ก๊อก ๆๆๆ

     

    ก๊อก ๆๆๆ

     

    “อานิวค้าบ ตื่นรึยังค้าบ”

     

     “อานิว ลงไปกิ๋นข้าวตวยกั๋นป๊ะ (อานิว ลงไปกินข้าวกัน)” เสียงเคาะประตูห้องประสานกับเสียงเล็ก ๆ ของหลานชายและหลานสาว เรียกสติทั้งคู่ให้หลุดจากภวังค์อันแสนหวาน ริมฝีปากผละจากกันอย่างรวดเร็ว จิ๋วลนลานยัดกล้องในมือคืนให้นิวอย่างเดิม

     

    “ตอบหลานไปสิ” จิ๋วกระซิบบอกคนที่ยังมองเธอตาปรอยเหมือนสติยังคืนกลับมาไม่สมบูรณ์

     

    ตื่นแล้วๆ อาบน้ำก่อนเน้อเดี๋ยวอานิวตวยลงไป (ตื่นแล้ว ๆ อาบน้ำก่อนเดี๋ยวอานิวลงไปนะ)” นิวตะโกนบอก เด็กน้อยที่รออยู่หน้าห้องขานรับแล้วเงียบไปหลังจากสิ้นเสียงวิ่งลงบันไดตึงตัง 

     

    “อาบด้วยกันนะจะได้เสร็จไว ๆ” นิววางกล้องไว้บนโต๊ะใกล้มือแล้วเดินตามร่างเล็กเข้าไปในห้องน้ำ แต่กลับถูกมือของอีกคนดันตัวเอาไว้

     

    “ไม่เอา จะบ้าเหรอ”

     

    “อาบด้วยกันแหละดีแล้ว ประหยัดเวลาด้วย” นิวขืนตัวไว้จนร่างเล็กกว่าแพ้แรงถอยร่นเข้าไปในห้องน้ำทั้งตัว จากนั้นจึงจัดการปิดประตูแล้วล็อคไว้เสร็จสรรพ

     

    “แค่นี้ก็เรียบร้อย”

     

    จิ๋วมองหน้านิวอย่างขัดใจ ในเมื่อห้ามอีกคนไม่ได้ก็นึกอยากแก้แค้น มือเล็กปลดฝักบัวลงมาแล้วเปิดน้ำเย็นเฉียบพุ่งใส่นิวโดยที่อีกคนไม่ทันรู้ตัว คนถูกเอาคืนสะดุ้งโหยงกระโดดถอยหลังแทบไม่ทัน

     

    “เล่นอย่างงี้ใช่มั้ย คิดว่านิวจะยอมหนาวคนเดียวรึไง” ว่าแล้วก็กระโจนเข้ารวบตัวอีกคนไว้แล้วจัดการเอาคืนในแบบเดียวกัน เสียงหัวเราะคิกคักผสานกับเสียงโวยวายดังอยู่ในห้องน้ำอีกพักใหญ่ก่อนจะเงียบลงเพราะริมฝีปากถูกปิดด้วยจุมพิตเร่าร้อนอีกครั้ง

     

     

     

     
     

    สำหรับฉากโคมไฟในตอนนี้หากใครได้อ่านเวอร์ชั่นเต็มแล้ว… คงรู้สึกว่าไม่หวือหวาหรือร้อนแรงเกินไป 
    พยายามจะไม่ทำให้มันออกมาชัด เอาแค่ลาง ๆ ให้จินตนาการต่อกันเอาเอง

    เป็นคู่ที่เค้าเขียนฉากโคมไฟยากมาก ๆ แล้วก็รู้สึกเขินที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา

    ลบแล้วลบอีกปรับแล้วปรับอีกกว่าจะลงตัว
     

     

    จะเห็นว่าวันที่ในเอกสาร pdf แต่ละตอนไม่เหมือนกัน เพราะเค้าตั้งเป็นวันที่เริ่มแต่งตอนนั้น ๆ

    และวันที่ของไฟล์นี้เป็นของเดือนพฤศจิกายนเพราะเค้าแต่งช็อตนี้เสร็จก่อนเพื่อน

    ช็อตแรก ๆ ที่แต่งนั้นมาเติมเอาทีหลัง ทำให้ตัวเองงงไม่พอยังทำให้คนอื่นงงอีก

    ขยันหาเรื่องจริง ๆ เรา 555
    แต่งของวันที่ 1 มกราคมไว้ล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ นั่งไทม์แมชชีนเขียนเอาขรั่บท่าน


    ตอนที่แล้วลืมบอกสวัสดีปีใหม่คุณผู้อ่าน มาบอกในตอนนี้คงไม่สายไปใช่ไหมคะ 
    ขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งความสุขของทุกคน และเป็นปีของพี่นิวพี่จิ๋วอีกปี 
    Happy new year  2014
    และ Happy New Jiew year ค่ะ อิอิ


    แอบลอกไอเดียแฮปปี้นิวจิ๋วเยียร์มาจากคอมเม้นท์ของคุณ peee คงไม่ว่ากันนะคะ แฮ่ ๆ

     

     

    สำหรับไฟล์ pdf ขและไฟล์ องตอนนี้ก็เช่นเคยค่ะ ใครก็ต้องการโหลดก็คลิกเลย

    V

    V
     

    บทที่ ๒ คืนข้ามปี (2) - ยังรักกันอยู่ไหม (Full shot)

     

     

     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×