คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5
Chapter 5
ยุนอาประคองคนเมาขึ้นมาจนถึงห้องนอน จากนั้นจึงวางร่างคนตัวเล็กกว่าลงบนเตียงอย่างทุลักทุเลเพราะอีกฝ่ายเอาแต่จะโอนอ่อนตามแรงโน้มถ่วงของโลกอยู่ท่าเดียว นี่สร่างเมาลงบ้างแล้วยังเป็นขนาดนี้ ถ้ายังไม่สร่างยุนอาคงเจองานช้างอย่างไม่ต้องสงสัย
“ตัวหนักเหมือนกันนะพี่น่ะ” พูดขณะเท้าแขนคร่อมร่างเจสสิก้าและกำลังจะดันตัวขึ้นจากที่นอน แต่กลับถูกเรียวแขนของอีกฝ่ายยกขึ้นมาเกาะเกี่ยวต้นคอเอาไว้แน่น ซ้ำยังออกแรงรั้งลงมาจนใบหน้าเกือบชิดกัน ยุนอากือบล้มลงไปทาบทับตัวเธอหากไม่ติดแขนทั้งสองข้างที่เท้ากับเตียงยั้งร่างเอาไว้ได้ทัน
“ทำอะไรของพี่น่ะ” คิ้วเรียวขมวดมุ่น ชักสีหน้าเหมือนไม่ค่อยจะพอใจเธอเท่าไหร่นัก เจสสิก้าปรือตาหวานขึ้นมองเมินอาการของอีกฝ่ายที่แสดงออกทางสีหน้า
“ยุนอา พี่อยากอาบน้ำ ช่วยหน่อยนะ” พูดพลางขยับกายเบียดเข้าหา อกนุ่มที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้เดรสสีแดงเพลิงเสียดสีกับกายส่วนหน้าของยุนอาราวกับจงใจยั่วยวน “ช่วยหน่อยสิ” ริมฝีปากบางที่เคลือบด้วยลิปสติกสีอ่อนขยับเปล่งเสียงหวานปนแหบออกมาพร้อมสีหน้าออดอ้อน ลมหายใจเจือกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ปะปนมากับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ สำหรับผู้หญิง
นี่เจสสิก้ากำลังจงใจโปรยเสน่ห์ใส่ยุนอาอยู่หรือว่าทำไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กันแน่?
“พี่ก็อาบเองสิ ฉันจะกลับห้องไปนอนล่ะพรุ่งนี้มีเรียนช่วงเช้า” ยุนอาปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า พยายามแกะมือของเจสสิก้าที่โอบรอบคอของตนออก ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อยมือจากเธอง่ายๆ ยังเกาะเกี่ยวไว้อย่างเหนียวแน่นพร้อมส่ายหน้าช้าๆ เสียงเล็กครางปฏิเสธในลำคออย่างเด็กเอาแต่ใจ
“ไม่เอา... พี่อาบเองไม่ไหวหรอก” เจสสิก้าเบะปากส่งสายตาเว้าวอนไปให้อีกฝ่าย น้ำเลี้ยงในตาที่มีมากกว่าเวลาปกติกำลังหยอกล้อกับแสงไฟในห้องเป็นประกายหวานหยาดเยิ้ม ทำไมถึงมองกันอย่างนั้นล่ะเจสสิก้า เมื่อครู่ตอนลงจากรถยังดูคุยกันรู้เรื่องกว่านี้นี่
“เฮ่อ...” ยุนอาขมวดคิ้วมองก่อนถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างอ่อนใจ “เป็นอะไรของพี่อีกล่ะเนี่ย” บ่นอุบอิบทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“นะยุนอานะ” เจสสิก้ายังคงอ้อนต่อ มือบางเลื่อนลงมาเขย่าปกเสื้อสีอ่อนของยุนอาราวกับเด็กๆ
“ก็ได้ๆ เดี๋ยวฉันช่วย” ยุนอารับปากเพื่อตัดรำคาญ “ตอนนี้พี่ก็ปล่อยฉันได้แล้ว” เจสสิก้าทำหน้ามุ่ยเหมือนขัดใจแต่ก็ยอมปล่อยมือจากยุนอาแต่โดยดี
ยุนอาผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ อย่างโล่งอกแล้วดันตัวขึ้นยืนข้างเตียง มองคนที่นอนระทดระทวยอยู่บนเตียงพลางส่ายศีรษะระอา... เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่กลับดื่มจัดแบบไม่ระวังตัวจนเมามายไม่ได้สติอย่างที่เห็น นี่ถ้าเธอกับแทอุนไม่ไปด้วยก็ไม่อยากจะคิดสภาพหลังจากนี้นัก
“ช่วยหน่อยสิ” ยื่นมือทั้งสองมาข้างหน้ารอให้ยุนอาฉุดให้ลุกขึ้นจากที่นอนพร้อมทำสีหน้าเว้าวอน
“พี่นี่มัน... จริงๆ เล้ย” ยุนอาบ่นพึมพำก่อนยื่นมือไปฉุดเจสสิก้าให้ลุกขึ้นจากเตียง ก่อนที่หญิงสาวจะขยับตัวหันหลังให้ยุนอาพร้อมทั้งรวบผมขึ้นเผยให้เห็นแนวซิบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เดรสที่เธอสวมใส่อยู่
“อะไรของพี่อีกล่ะนั่น?” ยุนอาเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นพร้อมกอดอกมองอย่างไม่เข้าใจ
“ช่วยรูดซิบให้หน่อยสิ” คำตอบนั้นทำเอายุนอาแทบสำลักน้ำลายจนต้องรีบตอบปฏิเสธพัลวัน
“เฮ่ย ไม่เอานะ ตอนใส่ยังใส่เองได้ ตอนถอดก็ถอดเองดิ๊”
“ก็ตอนนี้พี่ไม่มีแรงเลยนี่นา” เจสสิก้าเอี้ยวคอกลับมามองด้วยท่าทางไม่มั่นคงนัก สีหน้ากระเง้ากระงอดนั้นทำให้ยุนอายิ่งอ่อนใจกว่าเดิม นี่สินะที่เค้าเรียกว่าน้ำเปลี่ยนนิสัย พอเมาแล้วขี้อ้อนแถมยังทำตัวเป็นเด็กแบบนี้เองน่ะเหรอ?
“เร็วๆ สิรูดซิบให้หน่อย” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังชักช้าไม่ทันใจจึงต้องเร่งให้รีบทำตามคำขอร้อง
“ก็ได้ๆ” ว่าแล้วก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วยื่นมือไปแตะซิบที่สีกลมกลืนกับเดรสตัวสวย ค่อยๆ รูดมันลงช้าๆ จนสุด เปิดเปลือยผิวขาวผุดผ่องบริเวณแผ่นหลังตัดบราเซียสีดำสนิทที่ซ่อนอยู่ภายใต้เดรสตัวนั้น
“เสร็จแล้วล่ะ” เสียงของยุนอาห่างออกไปพร้อมไออุ่นเมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนตัวออกจากเตียงนุ่ม
“ขอบคุณมากนะ” เจสสิก้าหันกลับไปยิ้มพร้อมพูดขอบคุณแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมอาการซวนเซเล็กน้อย แล้วหลังจากนั้นเดรสที่สวมใส่ก็ค่อยๆ ร่นลงมาจากไหล่บางช้าๆ จนค้างอยู่ตรงช่วงเอว ยังดีที่เจสสิก้าหันหลังให้แต่กระนั้นก็ยังทำให้ยุนอาอ้าปากค้างอยู่หลายวินาที
“ฮ..เฮ่.. พี่ทำอะไรของพี่น่ะ ถอดกันอย่างนี้เลยเหรอ?” หลังจากที่ได้สติก็ร้องถามเสียงหลง
“...” เจสสิก้าเพียงเอี้ยวหน้ามามองเล็กน้อยยกมุมปากขึ้นเหมือนยิ้มและไม่ตอบอะไร กลับเลื่อนเดรสให้หลุดร่วงลงไปกองอยู่แทบเท้าโดยไม่เกรงสายตาของคนข้างหลัง
บอกฉันหน่อยสิถ้าไม่เมา พี่ไม่กล้าทำถึงขนาดนี้ใช่มั้ย!!!!!!!!!
“จะแก้ผ้าทำไมไม่บอกกันก่อนเล่า ฉันจะได้กลับห้อง” ยุนอาเบือนหน้าหนีหลังจากหายจากอาการตกอกตกใจ ทว่าเจ้าของเรือนร่างผุดผ่องภายใต้บรากับชั้นในตัวจิ๋วเสียอีกที่ไม่สะทกสะท้านอะไรเลยซ้ำยังก้าวเดินนวยนาดเข้ามาหายุนอาช้าๆ แล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงมาพิงร่างเธออย่างอ่อนแรง
“พาพี่ไปอาบน้ำหน่อย ไปเองไม่ไหว” กระซิบเสียงหวานเป่ารดซอกคอขาวของยุนอาพร้อมทั้งยกเรียวแขนโอบรอบคอบดเบียดกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่นเข้าหา แม้ยุนอาจะซวนเซไปในวินาทีแรกที่อีกฝ่ายทิ้งตัวมาพิงแต่ก็ทรงตัวเอาไว้ได้ในนาทีต่อมาโดยไม่ล้มลงไปบนพื้นทั้งคู่... มือเรียวยกขึ้นมากุมไหล่บางแล้วดันกายอีกคนออกห่างเล็กน้อยก่อนก้มกระซิบถามเสียงเข้มลอดไรฟัน ใบหน้าขาวของยุนอากำลังขึ้นสีเรื่อ แต่มองไม่ออกว่าเพราะโกรธ หงุดหงิด หรือเพราะอะไรกันแน่
“พี่ก็ไปอาบเองสิ มาแก้ผ้าต่อหน้าฉันแบบนี้ไม่อายบ้างหรือไง?” ดวงตาที่เกือบครึ่งเปิดครึ่งปิดนั้นปรือขึ้นมองยุนอาแล้วแย้มยิ้มทรงเสน่ห์ไม่เดือดร้อนกับถ้อยคำตำหนิติเตียนจากริมฝีปากสีสดเลยสักนิด
“อายทำไมล่ะ ก็เราเป็นผู้หญิงด้วยกันนี่นา” ว่าพลางโคลงศีรษะมองคนตัวสูงกว่าอย่างน่ารัก เนินอกอิ่มที่โผล่พ้นบราสีดำสนิทเผยให้เห็นอยู่รำไร ยุนอาพ่นลมหายใจออกจากจมูกแรงๆ อย่างหงุดหงิด แต่ยังไม่ทันที่จะได้อ้าปากพูดประโยคถัดไปเสียงร้องเรียกจากช็อตตี้ก็ดังขึ้นไม่ไกล ยุนอาหันมองตามทิศทางของเสียงก็พบว่าดวงตาสีฟ้าใสของมันกำลังมองมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว ช็อตตี้นั่งอยู่หน้าประตูโคลงศีรษะมองเหมือนกำลังสงสัย
“อยู่นี่เองเหรอแกน่ะ นึกว่าไปมุดหัวอยู่ไหนซะอีก เข้ามาดูเจ้านายคนใหม่ของแกนี่มา เมาเหมือนแมวเลย” ยุนอาบ่นพึมพำให้แมวสุดรักของตนฟังโดยไม่วายเหน็บคนที่ยืนพิงเธออยู่ ทำให้เจสสิก้านึกฉุนเบะปากแล้วยกมือขึ้นฟาดไปบนไหล่ของยุนอาเบาๆ
“ว่าพี่เหรอ” น้ำเสียงอ้อแอ้เล็กน้อยนั้นกระเง้ากระงอดไม่ต่างจากเด็กสิบขวบเท่าไหร่ ยุนอาละสายตาจากช็อตตี้แล้วหันมาสนใจคนเบียดตัวอยู่แนบชิดกันอีกครั้ง
“ไม่ว่าพี่แล้วจะให้ฉันว่าแมวที่ไหน ว่าช็อตตี้หรือไง” ยุนอากระเซ้าเสียงกลั้วหัวเราะอย่างนึกสนุก อารมณ์ขุ่นเคืองที่อีกฝ่ายปล่อยตัวเกินไปถูกลืมเลือนไปจนสิ้น
“พูดมาก ไปอาบน้ำกัน” เจสสิก้าตัดบท
“โอเคๆ อาบน้ำ ว่าแต่พี่จะให้ฉันอาบน้ำให้ด้วยเลยมั้ยล่ะ?” ยุนอาหรี่ตาลงสบตาคนเมาทีเล่นทีจริงอย่างลองเชิง
“กล้าอาบให้ก็จะให้อาบ” เจสสิก้าระบายยิ้มซุกซนทั่วใบหน้าสวย ทำเอายุนอาผงะไปเล็กน้อย
“จะบ้าเหรอ ฉันพูดเล่น” ยุนอาแทบกลับลำไม่ทัน รีบปฏิเสธเสียงหลง แต่คนที่ขยันทำให้เธอตกใจกลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลยกลับยังยิ้มอยู่ได้หน้าตาเฉย
“พี่ก็พูดเล่นเหมือนกัน....”
“มั้ง” เกือบจะถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอกแล้วเชียวหากไม่ได้ยินคำว่า ‘มั้ง’ ที่ต่อท้ายประโยค ยุนอาส่ายศีรษะจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด สีหน้าไม่ค่อยพอใจกับพฤติกรรมของเจสสิก้าขณะนี้เท่าไหร่
“พี่มาแล้วเป็นแบบนี้กับทุกคนหรือเปล่าเนี่ย ฉันล่ะกลัวแทนพี่จริงๆ” ยุนอาบ่นอย่างหนักใจขณะกวาดดวงตาไปทั่วองค์ประกอบบนใบหน้าของเจสสิก้า มุมปากของอีกฝ่ายกระตุกยิ้มบางๆ ก่อนตอบ
“ไม่หรอก พี่เป็น... เฉพาะกับบางคนเท่านั้นล่ะ” มือบางหยิกแก้มใสแล้วดึงแก้มให้ยืดออกมาเบาๆ นัยน์ตาสีอ่อนเป็นประกายวิบวับหยอกล้อกับแสงจากหลอดไฟในที่ส่องสว่างอยู่ภายในห้อง
“ตลกแล้วพี่น่ะ” ยุนอาแค่นหัวเราะแล้วเบือนหน้าหนีก่อนจะหันกลับมาอีกครั้งหลังจากหยุดขำเสียงแปร่ง “เอาล่ะ เลิกต่อล้อต่อเถียงกันดีกว่า ไปอาบน้ำกันเดี๋ยวฉันพาไป” ว่าพลางพลิกร่างของเจสสิก้าหันหลังให้กับตนเองแล้วโอบไหล่บางประคองอีกคนเข้าไปในห้องน้ำ คนเมาก้าวตามแรงของเธออย่างไม่อิดออด
“ยุนอา... ไปหยิบผ้าคลุมกับผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าให้พี่หน่อยได้มั้ย?” เท้ามือกับอ่างล้างหน้าแล้วเอนร่างกึ่งเปลือยพิงขอบอ่างเพื่อพยุงกาย ยุนอาถอนหายใจเบาๆ เริ่มหน่ายกับความวุ่นวายของเจสสิก้า แต่ก็ยอมพยักหน้ารับอย่างขอไปทีเพื่อตัดปัญหา
“ก็ได้ๆ รออยู่นี่นะ” บอกก่อนผละจากเจสสิก้าออกจากห้องน้ำไป ภายในตู้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ฟุ้งกระจายปะปนกันอยู่หลายกลิ่น ไม่ได้น่าเวียนหัวหากแต่หอมชื่นใจจนต้องสูดกลิ่นเหล่านั้นเข้าปอด เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหลากสีของเจสสิก้าแขวนอยู่บนราวเหล็กในตู้เสื้อผ้า มองลงไปบนชั้นวางเหนือลิ้นชักด้านล่างก็พบกับกองผ้าขนหนูที่พับอย่างเรียบร้อย ยุนอาเลือกหยิบผ้าขนหนูผืนสีชมพูอ่อนขึ้นมาพาดไว้บนท่อนแขนที่งอตั้งฉากรอไว้ก่อนแล้ว จากนั้นจึงเลื่อนสายตาขึ้นมองชุดคลุมที่แขวนไว้บนราวอีกฝั่งของตู้เสื้อผ้าแล้วปลดมันลงมาพาดไว้บนท่อนแขนทับกับผ้าขนหนูผืนเดิม
หัวคิ้วขมวดชิดหยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวไหลหยดลงบนพื้น เจสสิก้าคงอาบน้ำรอกระมัง... แต่ว่า..คงไม่ได้ถอดที่เหลือออกหมดหรอกนะ
ได้แต่ภาวนาในใจขณะก้าวเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง แล้วภาพที่ได้เห็นตรงหน้าก็ไม่ต่างไปจากที่กลัวเท่าไหร่ เป็นอันว่าคำภาวนาของเธอไม่ประสบผล ...ชั้นในสีดำสนิททั้งสองชิ้นกองอยู่บนพื้นห้องน้ำเปียกชื้น แน่นอนว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของเจสสิก้าเวลานี้ไม่เหลือเสื้อผ้าติดกายเลยสักชิ้น
“...” ยุนอาถึงกับอ้าปากค้างเบิกตากว้างอยู่หลายวินาทีเมื่อเห็นเรือนร่างเปล่าเปลือยใต้สายน้ำที่พวยพุ่งออกมาจากฝักบัว... แต่ยังดีหน่อยที่อีกฝ่ายหันหลังให้
“เอ่อ พี่สิก้าฉันเอาผ้าเช็ดตัวพาดไว้ตรงนี้น่ะเดี๋ยวไปรอข้างนอกนะ” รีบบอกเสียงสั่นแล้วพาดชุดคลุมอาบน้ำกับผ้าเช็ดตัวของอีกคนไว้บนราวตากผ้าในห้องน้ำ ก่อนจะรีบถอยฉากออกมาโดยลดสายตาลงต่ำไม่เหลือบขึ้นมองร่างของเจสสิก้าอีกเลย
ถึงจะเป็นผู้หญิงด้วยกันก็เถอะแต่แบบนี้ก็ออกจะเกินไปหน่อยล่ะ
ประตูห้องน้ำปิดลงเสียงดัง ยุนอายืนหันหลังพิงประตูบานนั้นแล้วกรอกตาขึ้นมองเพดานพลางพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอก
.
.
.
แกรก!
ถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกหลังจากฟังเสียงน้ำตกกระทบกับพื้นกระเบื้องเพลินๆ เจสสิก้ามีสีหน้าสดชื่นขึ้นบ้างแล้ว ร่างนั้นอยู่ในชุดคลุมที่ยุนอาเลือกหยิบไปให้ หญิงสาวเดินตรงมาหายุนอาที่เตียงด้วยฝีเท้าที่มั่นคงกว่าเก่า ใช้ผ้าขนหนูซับเรือนผมผมที่เปียกชื้นพลางสะบัดผมไปมาเบาๆ กลิ่นครีมอาบน้ำหอมกรุ่นที่คุ้นเคยโชยมาแตะจมูกยุนอา หอมจนเธอเผลอสูดกลิ่นเข้าเต็มปอด
“ยุนอา ช่วยเช็ดผมให้พี่หน่อย” ขยับมานั่งเบียดแล้วยื่นผ้าขนหนูยัดใส่มือยุนอาหน้าตาเฉย
“อะไรของพี่อีกล่ะนั่น” ขมวดคิ้วมองพลางบ่นอุบอิบ
“น่านะ ยุนอา นะ” ไม่พูดเปล่าเจสสิก้ายังย้ายตัวเองขึ้นมานั่งบนตักของยุนอาทั้งคะยั้นคะยอให้ทำตามความต้องการของตน หนักเข้าก็วางมือโอบรอบคอของยุนอาแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ กระซิบเกือบชิดเรียวปากสีสด นัยน์ตาสีอ่อนมีประกายยั่วเย้าอย่างท้าทาย
ถ้ายุนอาใช่อย่างที่เธอคิด ก็ลองดูแล้วกันจะหักห้ามใจได้สักเท่าไหร่
“โอเคๆ ก็ได้” หยิบผ้าขนหนูที่อยู่ในมือขึ้นมาซับน้ำออกจากเรือนผมให้กับเจสสิก้า แววตาของยุนอาไม่มีสิ่งใดเคลือบแฝงนอกจากความขุ่นเคืองใจ ทำเอาคนจงใจแกล้งยั่วถึงกับใจแป้ว
“ยุนอา คืนนี้อยู่เป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ ไม่ต้องกลับห้องหรอก นอนที่นี่ล่ะ” กระซิบออดอ้อนเสียงหวานพร้อมส่งสายตาเว้าวอนไปให้ เจอแบบนี้ร้อยทั้งร้อยต้องใจอ่อน แต่มันจะใช้กับยุนอาได้ผลหรือเปล่า.. นั่นอีกเรื่อง
มือที่กำลังเช็ดผมให้หยุดชะงัก ดวงตาใสจ้องหน้าสวยนิ่ง... เห็นสีหน้ายุ่งยากของอีกฝ่ายแล้วเจสสิก้าก็ใจไม่ดี หวังจะให้ทำอย่างที่ต้องการยากเหลือเกิน กับยุนอาเธอคาดเดาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
“ทำไมฉันต้องนอนกับพี่ด้วยล่ะ?” เลิกคิ้วถามเพื่อเอาคำตอบอย่างจริงจัง
“ก็อยากให้อยู่ด้วยกันเฉยๆ ไม่ได้เหรอ?” โคลงศีรษะถามกลับ นิ้วเรียวบางเกลี่ยแก้มใสของยุนอาเบาๆ ดวงตาใสเหลือบมองข้างแก้มของตนครู่เดียวก่อนเลื่อนมาจดจ้องใบหน้าสวยดังเดิม
“เหงาหรือไง?”
“ก็มีบ้าง อยู่คนเดียวนี่” หลุบเปลือกตาลงซ่อนแววตาไว้ไม่ให้อีกคนมองเห็น เสียงแผ่วเบาตอบคำถามโดยไม่ต้องหยุดคิด
“พี่ไม่มีแฟนหรอกเหรอ?” ขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย เจสสิก้าส่ายหน้าเร็วๆ ทันทีที่ฟังประโยคนั้นจบ
“ไม่มีหรอก”
“ไม่น่าเชื่อนะสวยๆ อย่างพี่จะโสด”
“ก็มันไม่มีคนถูกใจนี่” ว่าพลางเลื่อนสายตาขึ้นมองสบกับยุนอาตรงๆ เจ้าของนัยน์ตาสีเข้มวางผ้าขนหนูลงบนไหล่บางแล้วเลื่อนมือมาแปะอยู่ตรงช่วงเอวของคนบนตัก
“เลือกมากสินะพี่น่ะ” ยุนอาพูดยิ้มๆ
“คบคนสุ่มสี่สุ่มห้าก็แย่น่ะสิ แล้วยุนอาล่ะ มีแฟนหรือยัง?” เจอคำถามสวนกลับแบบไม่ทันตั้งตัวก็เล่นเอาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบคำถามแบบแบ่งรับแบ่งสู้
“เรียกว่าแฟนไม่ได้หรอก แต่...มีก็เหมือนไม่นั่นล่ะ ไม่อยากมีเท่าไหร่ ช่างมันเถอะอย่าสนใจเลยค่ะ” ท้ายที่สุดจึงบอกปัดเหมือนไม่อยากพูดถึง แม้จะอยากรู้มากกว่านั้นแต่เจสสิก้าก็ไม่กล้าถามให้อีกฝ่ายลำบากใจ
“แบบนี้เค้าเรียกโสดไม่จริงหนิ” กระเซ้าอีกคนแล้วเบะปากใส่ เรียกเสียงหัวเราะจากยุนอาเบาๆ
“ก็คงจะทำนองนั้นล่ะ” จบประโยคของตัดบทง่ายๆ ของยุนอาเจสสิก้าเปลี่ยนเรื่อง
“ยุนยังไม่อาบน้ำเลยนี่ อาบเลยมั้ย ผ้าเช็ดตัวชุดนอนที่ยุนพอจะใส่ได้พี่มีอยู่นะ”
“ฉันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องดีกว่า พี่ไม่ต้องลำบากหรอก” คำตอบของยุนอาทำให้หัวคิ้วเรียวบางของเจสสิก้าขมวดเข้าหากันจนชิด สีหน้าเหมือนเด็กกำลังถูกขัดใจไม่มีผิด
“ไม่เอา อาบที่นี่ล่ะกลับไปทำไมเสียเวลา”
“พี่นี่จริงๆ เลยน้า...” ยุนอาส่ายศีรษะช้าๆ อย่างระอาก่อนตอบตกลงข้อเสนอของเจสสิก้า “โอเคๆ เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”
“เดี๋ยวพี่ไปหยิบชุดมาให้” เจสสิก้ากระถดตัวลงจากตักอุ่นแล้วทำท่าจะกุลีกุจอไปเลือกชุดนอนมาให้ยุนอาแต่ถูกมืออุ่นรั้งข้อมือบางเอาไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องหรอก นั่งอยู่นี่ล่ะ ยังไม่สร่างเมาเท่าไหร่ไม่ใช่เหรอ?” ยุนอากระตุกมือบางจนเซลงมานั่งบนเตียงอย่างง่ายดาย เจสสิก้าพยักหน้ารับหงึกหงัก
“เห็นมั้ยว่าแล้ว ตาเยิ้มๆ แบบนี้ยังไม่สร่างเมาง่ายๆ หรอก” ก้มลงจ้องตากับอีกคนใกล้ๆ แล้วเอ่ยล้อด้วยสีหน้ายิ้มๆ ก่อนยืดตัวตรงเต็มความสูง
“งั้นก็เลือกเอาเลยนะในตู้นั่นล่ะ ยุนคงพอใส่ได้”
“อื้อ” ยุนอาพยักหน้ารับ แล้วอยู่ๆ ก็ลดตัวลงมากระซิบใกล้ๆ โดยที่เจสสิก้าไม่ทันตั้งตัว “แล้วผ้าเช็ดตัว... ฉันใช้ผืนนี้ได้มั้ย?” คนที่แกล้งยั่วคนอื่นเค้าก่อนหน้านี้ถึงกับผงะอ้าปากหวอ มองยุนอาตาปริบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เห็นแววขบขันพราวระยับอยู่ในดวงตาคู่นั้นพร้อมรอยยิ้มเหมือนล้อเลียนนั้นแล้วเจสสิก้าก็ถึงกับทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่ายุนอาพูดจริงหรือพูดเล่น... นี่ถ้าใช้ผ้าขนหนูผืนเดียวกันจริงๆ ก็เท่ากับเพิ่มระดับความใกล้ชิดมากขึ้น คิดแล้วก็รู้สึกเขินอายจนใบหน้าเริ่มร้อนขึ้นมาเฉยๆ
“ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นน่า เหวอเชียว หุบปากลงได้แล้วเดี๋ยวแมงวันบินเข้าไปในนั้นหรอก” ว่าพลางยีผมที่ยังไม่แห้งดีของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยวก่อนผละไปที่ตู้เสื้อผ้า ปล่อยให้อีกคนเขินค้างอยู่อึดใจใหญ่
นี่ไงบทจะเล่นก็ทำเอาไปไม่เป็น บทจะนิ่งก็ทำเอาใจคอไม่ดี ไอ้เด็กบ้า!
.
.
.
ท้องฟ้าภายนอกตัวอาคารสว่างไสวด้วยแสงแดดอ่อนๆ ปลุกชีวิตที่หลับใหลในเวลาค่ำคืนให้ตื่นขึ้นมารับแสงอรุณ การจราจรเริ่มเคลื่อนไหวท้องถนนคลาคล่ำไปด้วยยวดยานพาหนะ หากแต่อีกสองชีวิตบนเตียงนอนนุ่มภายในห้องพักของคอนโดมิเนียมหรูกลับยังไม่มีทีท่าว่าจะได้สติจากนิทราอันยาวนาน เครื่องปรับอากาศยังคงทำงานอย่างเงียบเชียบ แน่ล่ะก็เมื่อคืนกว่าจะได้เอนหลังนอนก็ปาเข้าไปตีหนึ่งเศษๆ ซ้ำอีกคนยังมีแอลกอฮอล์ตกค้างอยู่ในกระแสเลือดอีกต่างหาก จะให้ตื่นอย่างวันปกติก็คงทำได้ยาก
สองร่างนอนเบียดชิดกันใต้ผ้าห่มสีชมพูอ่อนผืนใหญ่ คนตัวเล็กกว่าขยับกายเบียดเข้าหาความอบอุ่น เรือนร่างหอมกรุ่นภายใต้ชุดนอนเนื้อบางที่เลิกขึ้นสูงจนถึงโคนขาขยับกอดก่ายหมอนข้างมีชีวิตที่อยู่แนบชิดโดยไม่รู้ตัว เมื่อปรับท่านอนได้สบายแล้วกายบางจึงหยุดเคลื่อนไหว ลมหายใจอุ่นเป่ารดซอกคอคนคนอ่อนกว่าอย่างไม่เกรงใจเจ้าของ ทั้งเรียวขาขาวก็ก่ายเกยอยู่กับขายาว แขนเรียวพาดอยู่บนช่วงเอวของอีกฝ่าย ทำให้คนที่ถูกเปลี่ยนเป็นหมอนข้างเริ่มรู้สึกตัว
“อือ...” หัวเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปมก่อนที่เปลือกตาจะกระพริบถี่ๆ น้ำหนักที่กดทับลงมาแม้จะไม่มากนักแต่ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดจนนอนต่อไม่ได้ แม้ยังรู้สึกว่านอนไม่พอแต่ถูกรบกวนขนาดนี้แล้วก็จำเป็นต้องตื่นแล้วล่ะ
“อะไรเนี่ย” เหลือบมองสำรวจสิ่งรบกวนเพราะความไม่คุ้นชิน หัวคิ้วขมวดเป็นปมพร้อมสีหน้ายุ่งยากเมื่อเห็นร่างของคนข้างกาย ต้องหรี่ตาลงเพื่อนึกอยู่หลายวินาทีกว่าจะดึงและเรียบเรียงความทรงจำทั้งหมดเมื่อคืนกลับมาได้ แต่จะทำยังไงดีล่ะเมื่อตอนนี้เธอขยับไปไหนไม่ได้เลยเพราะเจสสิก้าเล่นกอดเสียแน่นแบบนี้
“.....” ยุนอาลองยกเรียวแขนที่พาดอยู่กับช่วงเอวออก แต่พอเอาไปวางไว้ในที่ที่มันควรอยู่เจ้าของร่างก็ยกมันมาเกยบนหน้าท้องของเธออีกครั้งพร้อมถอนหายใจฟืดฟาดรดซอกคอเธอเหมือนกำลังขัดใจ
“อยากจะบ้า ชาติก่อนพี่เกิดเป็นตุ๊กแกหรือไงนะ” ยุนอาตบหน้าผากของตนเบาๆ เมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่อยากกวนคนหลับหรอกถึงนอนนิ่งๆ ให้กอดให้ก่ายอย่างนี้ เดี๋ยวตื่นมาจะโวยวายหาว่าเธอกวนเวลานอนอีกจะซวยเอา
“เมื่อไหร่จะตื่นล่ะเนี่ย” นอนนิ่งเป็นหมอนข้างไร้ชีวิตอยู่นานเกือบชั่วโมงจนเหน็บจะกินกว่าเจสสิก้าจะเริ่มขยับพลิกตัวเหมือนจะตื่น ยุนอาแอบถอนหายใจเบาๆ ออกมาอย่างโล่งอก นึกภาวนาให้เจสสิก้าตื่นขึ้นมาจริงๆ เสียที... ก้มลงมองคนที่นอนก่ายอยู่บนร่างของตนอย่างลุ้นระทึก ไม่นานเปลือกตาบางก็ขยับยุกยิกก่อนจะเปิดขึ้นในที่สุด ยุนอาฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจเมื่อชั่วโมงแห่งความทรมานจะผ่านพ้นไปเสียที
“ตื่นแล้วเหรอคะ?” ยุนอากระซิบถาม เจสสิก้าปรือตามองแล้วยกมือขึ้นขยี้ตาขับไล่ความพร่าเบลอ ทำปากยื่นออกมาน้อยๆ พร้อมหลุดเสียงครางเล็กๆ ออกมาจากลำคอ
“อื้อ แต่ยังง่วงอยู่เลย” ตื่นแล้วแทนที่จะขยับหนีกลับวางศีรษะหนุนแขนของยุนอาแล้วกระชับกอดแน่นขึ้น ทำเอายุนอาที่เพิ่งโล่งอกกลับมารู้สึกอึดอัดอีกครั้ง
“เอ่อ พี่สิก้าฉันจะไปอาบน้ำ มีเรียนแต่เช้าน่ะ” ว่าพลางค่อยๆ แกะมือของเจสสิก้าออกอย่างแนบเนียนแต่เจสสิก้าไม่ยอมรามือง่ายๆ ยังกอดก่ายเธอไว้แน่นอย่างเคย
“ไม่มีเรียนหรอก แต่พี่อาบด้วยนะ” เสียงตอบกลับมาแม้จะเบาแต่ทำเอาคนฟังตกใจแทบช็อค
“บ้า อาบได้ไงเล่า”
“พี่ล้อเล่นหรอก โวยวายไปได้” เจสสิก้าพึมพำหน้ามุ่ยเหมือนไม่พอใจ
“ก็ดูพี่พูดเข้าสิ ปล่อยได้แล้วนะ จะไปอาบน้ำ” พยายามแกะมือที่เกาะเกี่ยวเธอเอาไว้แนบแน่นอีกครั้ง
“ปล่อยก็ได้ รีบไปรีบมานะ....” ยกมือขึ้นแนบแก้มยุนอาแล้วคลี่ยิ้มหวาน “พี่รออยู่นะ” ประทับริมฝีปากลงไปบนแก้มใสนั่นหนึ่งทีทิ้งความร้อนวูบวาบจากริมฝีปากไว้บนผิวหน้าของอีกฝ่าย ยุนอาหันมองอย่างอึ้งๆ พร้อมยกมือขึ้นแตะแก้มของตนเบาๆ
“ยังไม่หายเมาอีกเหรอพี่น่ะ” ส่ายศีรษะแล้วดันตัวลุกขึ้นจากเตียง “ไปอาบน้ำล่ะ อยู่กับพี่แล้วจะประสาท อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับคนวัยหมดประจำเดือน” พอตื่นมานิสัยกวนทีนแบบเดิมก็กลับมา บรรยากาศดีๆ โรแมนติกๆ ที่จงใจสร้างก็พังหมดเพราะแบบนี้
เจสสิก้าขว้างหมอนไล่หลังยุนอาไปแล้วกอดอกนอนหันหลังให้ประตูห้องน้ำด้วยใบหน้าบูดบึ้ง...
คราวหลังจะแกล้งให้หนักกว่านี้อีกคอยดู!!
_______________________
กลับมาแล้วๆ มาต่อแล้ว ลืมกันหรือยังเอ่ย
อิอิ คลอดแล้วค่ะ ตอนที่สี่ รอนานกันไหม?
ความคิดเห็น