ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SNSD] Wanted [YoonA x Jessica]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 55


    Chapter 4






    แฟ้มเอกสารถูกรวบไว้ในอ้อมแขนเตรียมจะลุกจากม้าหินอ่อน 
    แต่ต้องชะงักเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างคุ้นตาของใครบางคนเดินออกจากมาตึกคณะบริหาร

    ห่างออกไปไม่กี่สิบเมตร 

    เจสสิก้าวางกองแฟ้มเอกสารที่ใช้สำหรับทำโปรเจ็คไว้บนโต๊ะตามเดิม 
    แล้วเท้าศอกบนแฟ้มเหล่านั้น เพิ่งมองร่างคุ้นตาอยู่เงียบๆ 



    ....
    มากับผู้ชายงั้นเหรอ ท่าทางจะสนิทกันซะด้วย...



    ดวงตาเรียวหรี่ลงอย่างจับผิด คนคนนั้นคือยุนอาไม่ผิดแน่ 
    แต่ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่เดินข้างกันนั่นคือใครล่ะ แล้วยุนอามาที่นี่ได้ยังไง 
    หรือว่าเรียนที่มหาลัยเดียวกันกับเธอบังเอิญเกินไปหน่อยมั้ง 
    หากยุนอาเรียนที่นี่แล้วทำไมถึงไม่เคยเห็นหรือรู้สึกคุ้นหน้าเลยล่ะ 
    แต่ก็อย่างที่ว่าล่ะมหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่แคบๆ นี่นะ... 



    คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นมือของชายร่างสูงเอื้อมไปโอบไหล่ของยุนอา 
    ซ้ำร้ายไปกว่านั้นอีกฝ่ายกลับไม่ปัดป้องเลยสักนิดตรงกันข้ามออกจะเต็มอกเต็มใจด้วยซ้ำ 



    มันยังไงกันแน่? หรือว่าผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนของยุนอา
    เซ้นส์เธอจะพลาดรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอเจสสิก้า 

    หญิงสาวนิ่วหน้าแล้วส่ายศีรษะช้าๆ อย่างไม่อยากเชื่อ 
    มองคนสองคนที่กำลังเดินผ่านทางเชื่อมของตัวอาคารไปจนสุดสายตา 
    ทั้งคู่กอดคอหัวร่อต่อกระซิกกันท่าทางมีความสุข ทำราวกับโลกนี้มีแค่สองเรา 



    ...
    หวานไปมั้ยคะ...



    เจสสิก้าเบ้หน้าแล้วสั่นกำไลให้เลื่อนลงมาจากข้อมือ
    ก่อนหอบแฟ้มเอกสารกองโตนั่นขึ้นมากอดไว้แนบอก 
    เดินไปที่ลานจอดรถด้วยความคิดว้าวุ่น



    .

    .

    .



    ยุนอานั่งเคี้ยวองุ่นอยู่บนโซฟาท่าทางสบายใจเฉิบ 
    บนตักมีช็อตตี้นอนเคยคางหลับสบายไม่ต่างกัน
    ผ่านไปหลายวันทั้งคู่ค่อยๆ คืนดีกันอย่างเงียบๆ 
    รู้อีกทีก็นอนกลิ้งอยู่บนโซฟาด้วยกันทั้งคนทั้งแมวอย่างที่เธอเห็น 



    ยุนอาเองก็ไปๆ มาๆ ระหว่างห้องเธอกับห้องของเจ้าตัวอยู่ประจำเพราะช็อตตี้ยังไม่ยอมกลับห้อง
    ส่วนเจสสิก้าก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนักกลับชอบด้วยซ้ำที่มีแมวไว้เลี้ยงแก้เหงา
    เอ่อ... แถมคนมาให้เลี้ยงด้วยอีกตัว เอ้ย อีกคน



    ยุนอาเด็ดองุ่นจากขั้วแล้วเงยหน้าขึ้น อ้าปากกว้างๆ หย่อนองุ่นสีเขียวสดลงในปาก 
    ก่อนจะเคี้ยวองุ่นลูกนั้นด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย... 
    เจสสิก้าเท้าคางบนหมอนเหลือบตามองคนอ่อนกว่าพลางย่นจมูกใส่ด้วยความหมั่นไส้
    อยากจะโยนก้อนกรวดเข้าไปในปากกว้างๆ นั่นแทนองุ่นเสียจริง 



    พอรู้ว่าเธอหายโกรธ ก็กลับมาซ่าส์ได้เหมือนเดิมราวกับลืมเรื่องนั้นไปแล้ว 
    ...
    ชีวิตนี้มันเคยทุกข์ร้อนอะไรกับคนอื่นเค้าบ้างมั้ยนะ?...



    ช็อต ช็อตตี้” 
    ยุนอาสะกิดแมวบนตักจนมันลืมตาตื่นแล้วหยิบองุ่นมาชูขึ้นให้ช็อตตี้เห็น



    กินป่ะ” 
    ช็อตตี้เหลือบมองแล้วเบือนหน้าหนีราวกับกำลังเอือมระอานิสัยเด็กๆ ของเจ้านายหน้าทะเล้น
    เมื่อเห็นว่ามันไม่สนใจยุนอาก็จับมันอ้าปากบังคับให้เงยหน้าขึ้นแล้วบีบน้ำองุ่นใส่ปากมันหลายหยด
    พร้อมหัวเราะร่วนอย่างพออกพอใจ 



    พอยุนอาปล่อยมันให้เป็นอิสระ มันก็เกิดอาการสำลักไอแค่กๆ 
    แล้วยกขาหนาขึ้นมาสีหูสีตาคงอยากลดอาการแสบคอ



    นี่เล่นอะไรน่ะยุนอา มันสำลักแล้วเห็นมั้ยนั่น” 
    เจสสิก้ามองคนไม่รู้จักโตตาขุ่น หยิบหมอนปาใส่ยุนอาแล้วเอื้อมมือไปอุ้มช็อตตี้มากอดไว้ 
    ลูบศีรษะเล็กๆ ของมันอย่างอ่อนโยน



    เป็นไรมากมั้ยเนี่ย หืม?” 



    ยุนอายักไหล่แล้วยกขาขึ้นนั่งขัดสมาธิบนโซฟา
    โดยไม่เดือดร้อนกับสายตาตำหนิติเตียนที่เจสสิก้าส่งมาให้ 
    ปลิดองุ่นจากขั้วโยนเข้าปากอย่างไม่ใส่ใจ 
    เบ้ปากล้อเลียนอีกฝ่ายขณะเหลือบมองคนโอ๋แมว รู้สึกอาการหมั่นไส้นิดหน่อย 
    เพราะอย่างนิ้สินะมันถึงได้ไม่ยอมกลับห้องกับเธอสักที 

    ไอ้แมวนั่นก็ทรยศเหลือเกิน เห็นคนอื่นดีกว่าเจ้าของ



    พี่ล่ะจะกินองุ่นกับฉันหน่อยมั้ย?” 
    ยื่นองุ่นสีเขียวสดส่งให้อีกฝ่ายพร้อมยักคิ้วกวนๆ 
    ดวงตาเรียวเหลือบมององุ่นในมือยุนอาแล้วเลื่อนไปจ้องหน้าคนกวนประสาท 



    ถ้าพี่กินจะป้อนพี่มั้ยล่ะ” 
    เอียงหน้าถามคิ้วข้างหนึ่งเลิกขึ้นสูง สีหน้ากวนไม่ต่างไปจากอีกฝ่ายเท่าไหร่



    ป้อนเหรอ?” ยุนอาดึงมือกลับเหล่มองอีกฝ่ายสลับกับองุ่นในมือ 
    พี่ล้อเล่นหรือเอาจริงเนี่ย?”



    จะล้อเล่นทำไมล่ะ มือพี่ไม่ว่างเนี่ยเห็นมั้ย?”



    ปล่อยมือจากแมวก็ว่างแล้วไงยุนอาว่าพลางเหล่มองอย่างจับผิด



    ไม่อยากป้อนก็ไม่ต้องป้อน” 
    ย่นจมูกใส่อีกฝ่าย ท่าทางกระเง้ากระงอด 
    ยุนอาเห็นอย่างนั้นแล้วอดที่จะแซวด้วยความคะนองปากไม่ได้



    แก่แล้ว ทำหน้าแบบนั้นมันก็ไม่น่ารักเหมือนเด็กสิบเจ็ดสิบแปดหรอกค่ะพี่สาว” 
    ว่าแล้วก็ระเบิดหัวเราะลั่น เปิดปากกว้างๆ จนคนโดนล้อเกิดอาการเคืองยกใหญ่ 
    มือบางเด็ดองุ่นแล้วขว้างออกไปหมายจะให้เข้าปากกว้างๆ นั่นสักที 
    แต่พลาดเป้าไปโดนแก้มเข้าเต็มแรง



    โอ๊ยยุนอาอุทานลั่น หุบปากหยุดขำแล้วลูบแก้มป้อยๆ 



    เล่นอะไรของพี่เนี่ย เจ็บนะขมวดคิ้วตวัดหางตามองอีกฝ่ายอย่างเคืองๆ 



    สมน้ำหน้าโยนองุ่นอีกลูกใส่ยุนอาจนต้องกระโดดไปหลบหลังโซฟาเป็นพัลวัน



    โอ๊ย พี่มันเจ็บนะ พอแล้ว” 
    ร้องห้ามเสียงหลังแต่อีกฝ่ายไม่ยอมหยุดยังทำสงครามปาองุ่นใส่ยุนอา 
    จนช็อตตี้คงนึกรำคาญเลยกระโดดหนีไปหาที่นอนของมันเงียบๆ 
    ปล่อยให้คนกับคนทะเลาะกันต่อไป พร้อมองุ่นที่หล่นเกลื่อนพื้น....






    โทรศัพท์ในห้องแผดเสียงดังลั่น 
    ขัดจังหวะสองคนที่กำลังกลายร่างเป็นเด็กน้อย 
    หยุดสงครามองุ่นลงชั่วคราว



    พี่ โทรศัพท์มา รับสิ” 
    ยุนอาที่หยิบหมอนมาป้องกันตนเองไว้ชี้ไม้ชี้มือไปที่โทรศัพท์บนโต๊ะ



    เจออีกแน่ อย่าหนีไปไหนแล้วกัน” 
    เจสสิก้าชี้หน้าคาดโทษก่อนขยับไปยกหูโทรศัพท์ขึ้นมารับ 
    ยุนอาเหลือกตาขึ้นกรอกไปมาล้อเลียนอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว



    สวัสดีค่ะ อ้อพี่ซีวอนเหรอคะ” 
    ยุนอายืนกอดหมอนเงี่ยหูฟังบทสนทนาอยู่ใกล้ๆ 



    คืนนี้เหรอคะ? เอ่อ... ดึกมั้ยล่ะ
    สีหน้าคนพูดดูลังเลไม่แน่ใจพลางเหลือบมองยุนอาเหมือนอยากจะขอความช่วยเหลือ



    ไปกันกี่คนคะกรอกเสียงลงไปในสายอีกครั้ง



    งั้นฉันพาน้องไปด้วยได้มั้ยคะ จะได้มีเพื่อน” 
    เจสสิก้าเหลือบตาขึ้นมองยุนอาพลางผุดยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ 
    ทำเอาคนถูกมองเกิดอาการหนาวๆ ร้อนๆ 



    อย่าบอกนะว่าน้องที่ว่าน่ะ หมายถึงเรา... เหอะๆ แบบนั้นก็สนุกไปล่ะ



    ค่ะ แล้วคืนนี้เจอกันค่ะ สวัสดีค่ะวางสายด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย 
    ก่อนจะหันมองยุนอาแล้วปรับสีหน้าให้ดีขึ้นเหมือนมีความหวัง 
    รอยยิ้มหวานหยดถูกส่งมาให้อย่างมีเลศนัย 
    ลืมศึกขว้างองุ่นเมื่อครู่ไปเสียสนิท 
    ยุนอาหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจแล้วขยับออกห่าง 



    อะไรของพี่ล่ะนั่น” 



    ยุนอา...” 
    ยื่นมือไปคว้าแขนเรียวของคนอ่อนกว่ามาเกาะไว้พร้อมเงยหน้ามองตาปริบๆ



    คืนนี้ออกไปข้างนอกเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะเอ่ยขอร้องเสียงหวานอย่างออดอ้อน


    ....
    น่าขนลุกไปนะคะพี่สิก้า...



    ทำไมพี่ไม่ไปคนเดียวล่ะ แฟนโทรมาชวนไม่ใช่เหรอ” 
    ยุนอาห่อไหล่แล้วเบ้หน้าทำท่าจะขยับออกห่าง มองอีกฝ่ายหน้าแหย



    ใครบอกว่าแฟนล่ะ ตานั่นเคยเรียนที่คณะ เป็นรุ่นพี่ของพี่อีกที” 
    ตีไหล่อีกคนไปหนึ่งที ใบหน้าหงิกงอไม่สบอารมณ์ 
    ก็เพราะไอ้คำว่า แฟนที่ยุนอาพูดถึงนั่นล่ะ 
    ซีวอนไม่ใช่แฟนของเธอและไม่มีวันใช่ด้วย 
    ต่อให้ตื๊อจนตายก็ไม่มีทางยอมคบกับหมอนั่นหรอก 

    ผู้ชายหลงตัวเองน่ารำคาญที่สุด



    ไม่ใช่แฟนแล้วใครล่ะ พูดเสียงอ่อนเสียงหวานขนาดนั้น” 
    หลิ่วตาล้อเลียนอีกฝ่ายไม่เลิกจนเจสสิก้าชักเริ่มมีน้ำโห 
    กรอกตาขึ้นมองหน้าอย่างเอาเรื่อง เป็นเชิงว่าให้หยุดฟังเธอพูดบ้าง



    โอเคๆ ไม่ใช่แฟนก็ไม่ใช่ค่ะยิ้มแหยๆ ส่งไปให้



    ไม่รู้ล่ะ ยังไงเราก็ไปเป็นเพื่อนพี่คืนนี้” 
    ยุนอาอ้าปากทำท่าจะตอบปฏิเสธ แต่เจสสิก้าถลึงตาใส่พร้อมยกนิ้วขึ้นชี้หน้า
    นี่คือคำสั่ง ไม่เห็นแก่ที่หลับที่นอนของช็อตตี้กับอาหารอีกหลายๆ มื้อของเราก็แล้วแต่นะ” 
    เริ่มทวงบุญคุณจนยุนอาเถียงไม่ออก หาเรื่องมาบ่ายเบี่ยงไม่ได้ เหมือนคนน้ำท่วมปาก 


    ....
    บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ... แต่ตอนนี้เค้ามีแต่บุญคุณน่ะสิเลยต้องทดแทนกันไปก่อน



    ก็ได้ค่ะ ไปกี่โมงล่ะตอบรับเสียงอ่อยๆ หน้าหมองลงทันตา



    สี่ทุ่ม อย่าลืมล่ะ ห้ามเบี้ยวด้วยเจสสิก้ากำชับหนักแน่น



    ฉันชวนเพื่อนไปอีกคนได้มั้ย? ไปคนเดียวมันยังไงๆ อยู่นะ 
    เพราะฉันก็ไม่รู้จักใครเลยนอกจากพี่ยุนอาส่งสายตาวิงวอนต่อรองกับอีกฝ่าย



    ก็ได้ๆ กี่คนล่ะ” 



    คนเดียวค่ะตอบรับเสียงดังฟังชัดพร้อมฉีกยิ้มกว้าง 



    งั้นก็คงไม่มีปัญหากอดอกยกมือแตะคางทำท่าครุ่นคิดแล้วพยักหน้า ว่าแต่พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง” 



    ยุนอายกมือลูบหน้าผาก กรอกตามองขึ้นไปบนเพดาน
    ครุ่นคิดทบทวนถึงตารางเรียนที่ไม่ค่อยได้จดจำใส่สมองเท่าไหร่ 
    อืม....น่าจะประมาณสิบโมงนะ ถ้าจำไม่ผิดอะ” 
    ว่าพลางเลื่อนมือลงมาถูปลายจมูกตนเองเหมือนไม่แน่ใจ



    งั้นก็ดึกได้สิไม่ต้องตื่นเช้ามาก” 



    ก็ทำนองนั้น” 
    ยุนอาพึมพำพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่ทันไตร่ตรอง ก่อนจะเบิกตาโตเมื่อคิดตามทัน 



    ฮะ? ดึก.. จะไปนานขนาดนั้นเลยเหรอยุนอามีสีหน้าลำบากใจ เอ่ยถามเสียงอ่อน



    ก็คงอย่างนั้นน่ะ พี่ไม่ได้อยากไปหรอก แต่ขัดไม่ได้น่ะสิหญิงสาวถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย



    พี่จะไปผับ บาร์ อะไรทำนองนี้ป่ะ



    อื้อ ไปคลับเจ้าประจำอะไรของเค้าก็ไม่รู้



    แต่.... ฉันดื่มด้วยไม่ได้นะยุนอาสารภาพไปตามตรง 



    อ้าว ทำไมล่ะ



    ก็ ฉันแพ้แอลกอฮอล์น่ะเจสสิก้ามองหน้าคนตัวสูงกว่าอย่างไม่อยากเชื่อ 
    ...
    แพ้แอลกอฮอล์แปลว่าทั้งชีวิตนี้คงแทบไม่ได้แตะมันเลยสินะ...



    แล้วกัน แบบนี้ก็ไปหง่าวเฉยๆ น่ะสิ” 
    คิ้วเรียวขมวดเป็นปมหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตน 
    เริ่มไม่แน่ใจว่าจะชวนยุนอาไปเป็นเพื่อนดีหรือเปล่า 
    หรือเธอจะโทรไปชวนยงฮวาไปแทน.... เอายังไงดีนะ



    ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันมีตัวแทนอยู่แล้ว คนที่ฉันจะชวนไปด้วยน่ะ เค้าดื่มเก่ง” 
    เจสสิก้าได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ค่อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยๆ ยุนอาก็ยังมีเพื่อนนี่นะ



    งั้นไปอาบน้ำเถอะอีกไม่นานจะได้เวลาแล้ว” 
    เจสสิก้ารุนหลังอีกฝ่ายออกไปจากห้องเป็นการบังคับกลายๆ 
    ยุนอาอิดออดเล็กน้อยพอให้ได้ขัดก่อนจะยอมกลับห้องไปอาบน้ำแต่งตัวแต่โดยดี



    ประตูห้องปิดลงแล้ว เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมถามยุนอาเรื่องที่มหาวิทยาลัยวันนี้

    เลยไม่รู้กันว่าอีกฝ่ายเรียนที่นั่นหรือเปล่า 
    และที่สำคัญไปกว่านั้นคือไม่รู้ว่าผู้ชายร่างสูงที่เดินกระหนุงกระหนิงกับยุนอาวันนี้เป็นใคร 



    เฮ่อ... ขี้ลืมจริงๆเท้าสะเอว พ่นลมหายใจแรงๆ อย่างสุดเซ็ง
    แต่เอาเถอะก็ยังต้องเจอกันอีกอยู่แล้ว ค่อยถามตอนยุนอาอาบน้ำเสร็จก็แล้วกัน



    .

    .

    .



    ลานจอดรถเงียบสงบไร้ผู้คน มีเพียงยานพาหนะยี่ห้อหรูหลายคันจอดเรียงรายกันอยู่ 
    ยุนอากับเจสสิก้าเดินเคียงกันออกมาจากตัวตึก 
    คนตัวสูงกว่าเดินพลางชะเง้อคอมองหาคนที่ได้นัดเอาไว้แล้วเมื่อชั่วโมงก่อน 
    ชายหนุ่มร่างสูงยืนโบกไม้โบกมือให้อยู่ไม่ไกล เจสสิก้าเหลือบไปเห็นเข้าเลยชี้ชวนให้อีกฝ่ายดู



    ใช่คนนั้นมั้ยยุนอา” 



    ยุนอามองตามแล้วเบิกตากว้าง

    รอยยิ้มแทบจะฉีกถึงใบหูตะโกนเรียกชื่อผู้ชายคนนั้นเสียงดังก้องลานจอดรถ 



    แทอุน มานานยังอะ” เรียกพลางวิ่งเข้าไปหาเป้าหมาย 
    เจสสิก้านิ่วหน้า สะดุดใจกับท่าทางของผู้ชายคนนั้นอยู่มาก 

    ...
    นี่ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคนที่อยู่กับยุนอาวันนี้นี่ หรือว่าเค้าทั้งสองคนจะเป็นแฟนกันจริงๆ 



    พี่สิก้าไปกันเถอะ
    ยุนอากระตุกมือคนที่ยืนทำสีหน้ายุ่งยากอยู่ที่เดิม เจสสิก้าคืนสติเดินตามอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย



    แทอุนนี่พี่สิก้ายุนอาแนะนำ ผู้ชายที่ชื่อแทอุนค้อมศีรษะให้เจสสิก้าอย่างนอบน้อย 
    ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มดูน่าผูกมิตรไม่ต่างจากยุนอา หญิงสาวจำค้อมศีรษะตอบทั้งที่ยังข้องใจอยู่มาก



    ส่วนนี่ อู แทอุน เพื่อนฉันเองค่ะ” 
    เจสสิก้าแอบผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก

    เมื่อได้ยินประโยคแนะนำผู้ชายตัวสูงจากปากยุนอา 
    แต่ก็ยังเบาใจไม่ได้หรอกเพราะบางคู่อาจจะบอกคนอื่นว่า

    เพื่อนกันแต่แท้ที่จริงแล้วอาจจะคบกันลึกซึ้งกว่านั้น

    ...
    เออ แล้วนี่เรากลายเป็นคนคิดมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย.... 



    ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ



    เช่นกันค่ะเจสสิก้าตอบรับตามมารยาท



    ไปยินดีที่ได้รู้จักกันในรถเหอะ เดี๋ยวเพื่อนพี่สิก้ารอนาน” 
    ยุนอากระตุ้นด้วยคำพูดกวนอารมณ์ที่ติดเป็นนิสัย เดินไปเปิดประตูรถของแทอุนอย่างคุ้นเคย 



    บอกทางผมนะครับ แทอุนเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งหมดอยู่บนรถเป็นที่เรียบร้อย
    โดยมียุนอานั่งเบาะหลังเพียงคนเดียว ส่วนเจสสิก้านั่งข้างคนขับเพราะต้องคอยบอกเส้นทาง



    ค่ะเจสสิก้ารับคำ พร้อมกับรถยุโรปคันหรูเคลื่อนตัวออกไปจากลานจอดรถอย่างนุ่มนวล 
    เสียงเครื่องยนต์เงียบเชียบเหมือนตอนยังไม่ติดเครื่อง... 

    พิจารณาจากการแต่งกายแล้ว แม้ว่าแทอุนจะไม่ได้แต่งตัวหรูหราอะไรมากมาย 
    มีเพียงกางเกงยีนส์สีเข้มกับเสื้อยืดสีขาวทับด้วยแจ็คเก็ตสีเข้ม 
    แต่เสื้อผ้าสบายๆ ที่สวมใส่อยู่นั้นมองใกล้ๆ ก็พอจะรู้ว่ามีราคาไม่น้อย 
    จากภาพรวมคงเป็นลูกหลานผู้มีอันจะกิน



    จำทางได้แน่นะพี่สิก้า ยิ่งเอ๋อๆ อยู่ด้วยพี่น่ะ อย่าพาหลงล่ะ” 
    ยุนอาเปรยขึ้นขณะที่เธอกำลังใช้ความคิด หญิงสาวหันกลับไปส่งค้อนตาคว่ำให้คนปากดี 



    จริงๆ ถ้าอยู่ใกล้กว่านี้มันน่าจะตบให้คว่ำมากกว่า

    เงียบได้ไม่นานคงคันปากสินะถึงได้หาเรื่องกัดคนอื่นไปทั่ว...




    .

    .

    .



    เจสสิก้านั่งเบียดอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันกับยุนอา ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงเรื่อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ 
    เพราะถูกผู้ชายหน้าคมที่ชื่อซีวอนและเพื่อนผู้ชายในกลุ่มคะยั้นคะยอให้ดื่ม 
    ในคลับบรรยากาศดีก็จริง แต่คนร่วมโต๊ะทำให้เธอเกิดอาการหงุดหงิด 
    เสียงเพลงจากเปียโนดังคลอเคล้ากับแสงสลัว

    ถ้าไม่มีผู้ชายพวกนี้ร่วมโต๊ะคงน่าเคลิ้มตามกว่านี้อยู่หรอก 
    ไม่อยากจะคิดหากปล่อยเจสสิก้ามาคนเดียวจะตกอยู่ในสภาพไหน 
    แค่มาได้ไม่ถึงสองชั่วโมงก็คอพับคออ่อนแล้ว



    เจสสิก้าพยายามปฏิเสธแล้วแต่ก็ยังขอร้องแกมบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มพวกนั้น สุภาพบุรุษเกิ๊น!!!!



    น้องยุนอา เบื่อเหรอครับ สักแก้วมั้ยจะได้หายเบื่อ” 
    ทงเฮชูแก้วในมือขึ้นพร้อมกดยิ้มมุมปากในแบบที่คงคิดว่าตนเองเท่ห์ที่สุดมาให้ 
    เกือบเผลอชักสีหน้าใส่แต่แทอุนที่นั่งข้างๆ สะกิดเตือนให้ใจเย็นเอาไว้



    ยุนอาเค้าแพ้แอลกอฮอล์น่ะครับพี่ทงเฮ ดื่มแล้วผื่นขึ้น

    หายใจไม่ค่อยออกด้วย เป็นแล้วน่ากลัวครับ” 
    ยังดีที่แทอุนเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ แล้วชนแก้วกับทงเฮแทน 
    ยุนอานึกขอบใจเพื่อนสนิทอยู่ไม่น้อย หากปล่อยให้จัดการเองคงได้หน้าชากันไปข้างล่ะ 



    จริงเหรอครับ น่าเสียดายจังทงเฮพึมพำแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ
    ของเหลวสีอำพันไหลผ่านริมฝีปากนั้นลงไป ยุนอามองแล้วเบ้หน้าตามพลางกลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอ
    จิบเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ในแก้วของตนแทน 

    แค่ได้กลิ่นก็ขนลุก ไม่รู้ดื่มกันเข้าไปได้ยังไง



    มึนหัวจังเสียงหวานๆ กระซิบข้างหู เอนศีรษะพิงซบไหล่ของยุนอาเหมือนคนอ่อนแรง
    จากที่เบียดกันอยู่แล้วตอนนี้แทบจะขึ้นมานั่งเกยอยู่บนตัก

    ซ้ำยังสอดมือเข้ามาเกาะแขนเธอเอาไว้แน่น 



    อีกแก้วนะครับ

    ซีวอนที่นั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเลื่อนแก้วที่บรรจุของเหลวสีสวยมาให้เจสสิก้าอีกครั้ง 
    ใบหน้าคมเข้มมีรอยยิ้มผุดพรายตรงมุมปาก วางมาดเหมือนกับผู้หญิงทั้งโลกต้องยอมสยบแทบเท้า
    บวกกับคำพูดอวดตัวที่ได้ยินมาตลอดตั้งแต่มาถึง ทำให้ยุนอานึกหมั่นไส้อีกฝ่ายไม่น้อย...


    หล่อตายล่ะค่ะพี่ซีวอน



    น่าจะพอได้แล้วนะคะ พี่สิก้าเค้าไม่ไหวแล้วล่ะ” 
    เอ่ยปรามอีกฝ่ายแบบถนอมน้ำใจมากที่สุด นี่คิดอะไรอยู่ จะมอมเหล้ากันเลยหรือไง บ้าจริง 

    ...
    ฝ่ายนั้นชักสีหน้าเล็กน้อย คงคิดว่ายุนอาไม่เห็น คิดผิดแล้วล่ะ



    สิก้าทำไมเมาเร็วนักล่ะ สมัยที่พี่ยังเรียนอยู่ที่นั่นไม่เป็นแบบนี้นี่ออกจะดื่มเก่ง
    ซีวอนเมินยุนอาแล้วหันไปกระเซ้าเจสสิก้าด้วยความคะนองปาก



    ก็ไม่ได้ดื่มนานแล้วนี่เมื่อสติเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย

    น้ำเสียงที่เปล่งออกไปจึงฟังดูห้วนจัด มารยาทที่ควรรักษาก็ถูกลืมไปจนหมด

    มือบางละจากแขนของยุนอาแล้วสอดเข้าไปโอบเอวอีกฝ่ายเต็มรัก 
    เลื่อนใบหน้าไปซบซอกคอคนข้างๆ

    ลมหายใจกรุ่นกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ เป่ารินรดจนยุนอารู้สึกร้อนตาม

    เมาแล้วเลื้อยอย่างนี้นี่เองถึงไม่น่าปล่อยให้มาเที่ยวกับพวกเสือสิงห์กระทิงแรดแถวนี้เพียงลำพัง 
    คิดถูกแล้วจริงๆ ที่ตามมาด้วย



    ยุน ฉันว่าเราชิ่งก่อนดีป่ะ พี่สิก้าจะไม่ไหวเอานะ ฉันก็ด้วย พวกนี้แม่มคอแข็งชะมัด
    แทอุนเอียงหน้ามากระซิบข้างหู

    พลางเหลือบตามองกลุ่มเพื่อนของซีวอนที่ยังนั่งกระดกเหล้าเข้าปากไม่หยุด
    ชายหนุ่มหน้าแดงไม่ต่างไปจากเจสสิก้า

    แต่ดีกว่าหน่อยเพราะแค่รู้สึกมึนแต่ยังไม่เมาเหมือนคนที่กำลังลวนลามยุนอาอยู่(?)



    เอ่อ พี่คะ พวกเราขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีกว่าพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าน่ะค่ะ” 
    ยุนอาโพล่งขึ้นทำเอาคนทั้งกลุ่มเงียบกริบ
    แน่นอนว่าต้องไม่พอใจกันอยู่แล้วที่มีมารอย่างยุนอากับแทอุนมาขวาง



    ยังไม่ตีหนึ่งเลยนะครับ จะรีบไปไหนทงเฮท้วง 
    อยากประวิงเวลาไว้ให้อยู่กับสองสาวนานอีกหน่อย เผื่อจะเกี้ยวยุนอาติด 



    ก็มีเรียนเช้าน่ะค่ะ ทั้งฉันทั้งพี่สิก้า แทอุนก็ด้วย จริงมั้ย?” 
    หันไปขอความเห็นจากแทอุน ชายหนุ่มรู้เท่าทันความคิดของยุนอาจึงพยักหน้ารับสมอ้าง



    ใช่ครับ พวกผมต้องไปพรีเซนต์งานด้วย ขาดไม่ได้แทอุนเสริม 
    แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความจริง เพราะยุนอากับเขาไม่ได้เรียนที่เดียวกัน 
    ส่วนเจสสิก้าพรุ่งนี้ก็ไม่มีเรียนด้วยซ้ำ



    ใช่ ต้องพรีเซ้นต์เจสสิก้าพยักหน้าตามแล้วทวนคำเหมือนคนไร้สติ 
    ทิ้งน้ำหนักลงมาพิงร่างยุนอาทั้งตัว เดือดร้อนยุนอาต้องทรงตัวไว้ให้มั่นคง
    พร้อมโอบเอวบางกันไม่ให้ไถลลงไปฟุบกับโต๊ะตรงหน้า



    เฮ่อ.. เอาเถอะครับ โอกาสหน้ายังมี แล้วเจอกันใหม่ครับ” 
    ซีวอนตอบแบบขอไปที สีหน้าไม่พอใจแสดงออกมาอย่างชัดเจนโดยไม่ปิดบัง 
    ยุนอาแอบค่อนขอดในใจ มันคงไม่มีโอกาสหน้าอีกแล้วล่ะ 
    ไม่มีทางที่จะออกมาเจอกับคนพวกนี้แน่ 
    ถ้าเจสสิก้าจำเป็นต้องมาคนเดียวเธอก็จะขวางไว้ให้ถึงที่สุด 




    อย่าหวังไอ้พวกหน้าหม้อ!



    .

    .

    .



    ยานพาหนะคู่ใจของแทอุนจอดนิ่งสนิท ยุนอาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ 



    เฮ่อ... กว่าจะถึง ขอบใจมากนะแทอุน ถ้าไมได้แกฉันแย่เลย” 
    ยุนอาบอกกับเพื่อนสนิทสบตากันผ่านกระจกมองหลัง 
    ด้วยเธอต้องนั่งประคองคนเมาเอาไว้ที่เบาะนั่งด้านหลัง จะปล่อยให้นั่งคนเดียวก็ไม่ได้อีก 



    ไม่เป็นไรหรอก ถ้าฉันไม่ไปด้วยนี่แกกับพี่สิก้าจะรับมือกันยังไง พวกนั้นมันเสือชัดๆ” 
    แทอุนบ่นอุบ ดูเหมือนเขาก็ไม่พอใจพวกของซีวอนเช่นเดียวกัน



    นั่นสิ ไม่อยากจะคิดถ้าปล่อยพี่แกไปคนเดียวคงโดนพวกมันขย้ำ” 
    ยุนอาส่ายหน้าพลางถอนหายใจยาว เหลือบมองกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มของคนที่อาศัยพิงร่างเธอจนหลับ
    ก่อนออกแรงเขย่าร่างนั้นเพื่อปลุกให้ตื่นแล้วลงไปจากรถ



    พี่สิก้า ถึงแล้ว ตื่นได้เถอะเจสสิก้าขยับตัว 
    ปรือตาขึ้นแล้วเงยหน้ามองเจ้าของร่างที่ให้ยืมพิงมานานหลายสิบนาที 
    หรี่ตามองให้ชัดๆ ก่อนดันตัวไปพิงกับประตูรถอีกด้าน 
    มือบางยกขึ้นนวดคลึงขมับเพื่อคลายอาการวิงเวียนศีรษะที่เกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ 
    สูดจมูกแรงๆ หวังจะให้อาการมึนเมาบรรเทาลง 



    โทษที พี่หลับมาตลอดเลยเหรอเสียงไม่อ้อแอ้เหมือนเมื่อครั้งที่อยู่ในคลับ



    ก็เกือบชั่วโมงเลยล่ะยุนอาตอบขณะที่แทอุนเปิดประตูลงไปยืนรอนอกตัวรถ 
    เจสสิก้าเหลือบมองตามเสียงเปิดปิดประตูนั่นเล็กน้อย



    ขอบคุณนะที่ลำบากไปนั่งเป็นเพื่อน” 



    ไม่เป็นไรหรอก ถ้าปล่อยพี่ไปคนเดียวสิยิ่งน่าห่วง” 
    ยุนอาหันไปคลี่ยิ้มอ่อนๆ ให้เจสสิก้า เป็นอีกครั้งที่ยุนอาไม่กวนประสาทเธอ

    ควรจะบันทึกไว้ในเมมโมรี่เลยสินะ 



    พี่ปวดหัวมั้ยยุนอาขยับเข้าใกล้ ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ 
    คนที่ไม่ทันตั้งตัวตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เล่นเอาตาสว่างจนแทบสร่างเมา 
    เจสสิก้าไม่มีทางขยับไปไหนได้อีกเพราะแผ่นหลังก็แนบชิดติดอยู่กับประตูรถ 
    เกิดอาการหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาอย่างฉับพลัน 
    เผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ ....ดูเอาเถอะบทจะรุกก็ล่นซะใจหายใจคว่ำ



    ดวงตาสีอ่อนปิดลงอีกครั้งเหมือนรอคอยสัมผัสจากอีกฝ่าย...... 
    ลมหายใจอุ่นของยุนอาเป่ารดข้างแก้ม ก่อนจะผ่านเลยไป



    แกรก...



    พี่สิก้า ลงไปสิ ง่วงไม่ใช่เหรอ จะได้รีบไปนอน
    เสียงยุนอาดังอยู่อีกฟากของเบาะนั่ง ห่างจากเธอเป็นเมตร... หมายความว่ายังไงกัน.. ?



    เจสสิก้าเปิดเปลือกตาขึ้นมองหน้ายุนอาอย่างงุนงงก่อนเอี้ยวคอมองไปข้างหลังตามสายตาของยุนอา
    ....
    ประตูรถถูกเปิดอ้าไว้ ถ้างั้นเสียงเมื่อกี๊นี้ก็คงเป็นเสียงเปิดประตูรถสินะ 
    ยุนอาแค่โน้มตัวมาเปิดประตูให้ ไม่ได้คิดจะทำอะไรมากกว่านั้น...เธอเองที่คิดเกินเลย

    งามไส้มั้ยล่ะเจสสิก้า



    ..อื้อ ก็ง่วงแล้วล่ะ มึนหัวด้วยเจสสิก้าแกล้งยกมือนวดขมับแก้เก้อ 
    ทั้งยังช่วยปิดบังใบหน้าแดงเรื่อด้วยความอับอายให้พ้นจากสายตาของยุนอา 



    หวังว่าเด็กนี่คงไม่รู้หรอกนะว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ก่อนหน้านี้



    เจสสิก้าก้าวลงไปจากรถอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย

    โดยมีสายตาเป็นห่วงเป็นใยของยุนอามองตามไปไม่ห่าง
    ก่อนที่เจ้าตัวจะขยับลงมาจากประตูรถอีกด้านแล้วปิดมันไว้ดังเดิม 



    ดึกแล้ว แทอุนแกกลับไปเหอะ ฉันกับพี่สิก้าเดินกลับห้องได้ ใกล้แค่นี้เอง
    ยุนอาพยักพเยิดไปทางประตูทางเข้าตัวอาคาร 
    แทอุนยกมือขึ้นเกาหัวแล้วหันมองหน้าเพื่อนสนิทสลับกับบานประตูอย่างลังเล



    เอางั้นเหรอ?”



    ไม่ต้องห่วงหรอกแทอุน นะ เชื่อพี่” 
    เจสสิก้าที่ยืนหันหลังพิงตัวรถอยู่เสริมกับแทอุนอีกแรงจนชายหนุ่มยอมรับเหตุกลับเข้าไปในรถอีกครั้ง



    งั้นผมกลับล่ะครับ แล้วเจอกันใหม่ครับแทอุนเลื่อนกระจกรถลงแล้วโบกมือลาสองสาว 
    รถเคลื่อนตัวออกไปจากลานจอดรถจนลับหายไปจากสายตา
    ยุนอาขยับเข้าไปประคองร่างคนที่ยังไม่สร่างเมาเอาไว้ มือหนึ่งแตะเอวบางอีกมือเลื่อนขึ้นไปโอบไหล่



    ไปนอนกันเถอะเรา” 
    กระซิบบอกใกล้ๆ หู ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมทำตามแต่โดยดี ในสมองครุ่นคิดเรื่องที่ผ่านมาให้วุ่น



    ...
    กี่ครั้งแล้วที่เสียเซล์ฟเพราะยุนอา เราคิดมากไป หรือว่าไอ้เด็กนี่มันคิดน้อยไปกันแน่นะ...






    ****************************************





    แขกรับเชิญ Woo Taewoon วง coed ค่ะ 
    บางคนอาจไม่รู้จักหน้าค่าตา อยากรู้เชิญจิ้มค่ะ >>click<<



    อิอิ คลอดแล้วค่ะ ตอนที่สี่ รอนานกันไหม? 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×