คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 9 : งอน vs ง้อ
งอน VS ง้อ
January 11, 2014 | (SAT)
นิวและลูกน้องมาถึงผับอันเป็นที่หมายในเวลาสามทุ่มเศษ โต๊ะที่จองไว้อยู่ด้านหน้าสุดชิดกับเวทีเตี้ย ๆ ที่ยกเหนือพื้น ทุกคนที่มากับนิวต่างก็พบกับความประหลาดใจไปเมื่อรู้ว่าแขกรับเชิญของค่ำคืนนี้คือใคร และตอนที่ชวนคุณบอสตัวดีก็ไม่ยอมปริปากบอกสักคำ ทำให้อ๊อดที่ปลาบปลื้มในตัวนักร้องสาวเป็นพิเศษถึงกับมองค้อนนิวอยู่หลายตลบ เพราะเขาไม่มีโอกาสได้เตรียมตัวก่อนจะมาเจอนักร้องในดวงใจ
บนโต๊ะมีสมาชิกทั้งหมดสี่คนรวมถึงนิว จะขาดก็แต่พี่ใหญ่อย่างท็อปที่ขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะต้องไปทำงานนอกที่รับไว้
“เลี้ยงเหล้าเท่ากับแช่ง พี่นิวรู้มั้ย” อ๊อดพูดขึ้น ทำให้คนในโต๊ะกระตุกยิ้มหยัน ตวัดสายตามองอย่างไม่อยากเชื่อว่าคำนี้จะหลุดจากปากเขา
“จะไม่กินว่างั้น?” นิวเหล่มอง
“แต่ผมยอมให้พี่แช่งบ่อย ๆ เลยคร้าบ” อ๊อดตบมุกจนจบ ทุกคนทำหน้าเหม็นเบื่อใส่เมื่อได้ฟัง
“เหอะ มีหน้ามาพูดดี โจรอย่างแกไม่มีทางกลับใจง่าย ๆ หรอกบักฮวก” (ฮวก = ลูกอ๊อด) ขิงหยิบกับแกล้มในจานปาใส่เพื่อนร่วมงานติด ๆ กันหลายชิ้นอย่างหมั่นไส้
“โอ๊ย อิมะขวิด กูเจ็บ”
“เฮ่ย! อย่าเพิ่งกัดกัน พวกเอ็งเป็นหมารึไง” เหน่งเป็นคนห้ามทัพแทนนิวที่นั่งเท้าคางมองสองคนสลับกันอย่างเอือมระอา กระทั่งสงครามย่อม ๆ สงบลงเมื่อถูกดุ
“พี่นิวอยากดูจิ๋วร้องเพลงเหรอถึงได้มาที่นี่วันนี้อะ” ขิงหันมาถามอย่างสงสัย ร้อยวันพันปีนิวไม่มีทีท่าว่าจะสนใจนักร้องคนไหนเป็นพิเศษ แม้แต่จิ๋วเองก็เถอะ
“คงงั้น ก็เค้าร้องเพลงเพราะอะ” นิวตอบหน้าตาซื่อทั้งที่ในใจกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องกับแผนอำลูกน้องที่คิดขึ้นมาสด ๆ ไม่มีใครรู้ว่านิวและจิ๋วสนิทกัน แม้แต่เหน่งที่รู้จักเธอมานานกว่าอีกสองคนที่เหลือ
“ผมชอบเค้ามากเลยนะพี่นิว อยากได้ลายเซ็นอยู่พอดี แต่ทำไมพี่นิวไม่บอกว่าเค้าจะมา ผมเลยไม่ได้เอาซีดีมาด้วยเลยอะ” อ๊อดยังไม่วายบ่นกระปอดกระแปดอย่างแสนเสียดาย
“ก็หากระดาษแถวนี้ไปให้เค้าเซ็นสิจะยากอะไร ถ้าไม่กล้าพี่ขอให้ก็ได้”
“จริง ๆ ไอ้ลายเซ็นมันก็อยากได้นะครับพี่ แต่ผมมีอย่างอื่นที่อยากได้มากกว่า” อ๊อดทำท่าขวยเขินซึ่งขัดหูขัดตาเพื่อนร่วมโต๊ะเหลือเกิน ดูจากสายตาแล้วคงอยากจะประเคนบาทาให้สักคนละทีสองที
“อะไรวะอ๊อด” เหน่งถามแทนนิวเพราะทนมองไม่ไหว
“ผม.. ผมอยากได้ไลน์พี่จิ๋วอะครับ” คำตอบของอ๊อดทำให้ฝ่ามือของเหน่งฟาดลงไปบนศีรษะเขาดังปั๊ก ต่างพร้อมกันส่ายหัวทันทีที่ฟังจบ
“โอ๊ยพี่ ผมเจ็บ” อ๊อดลูบศีรษะป้อย ๆ
“ไอ้คนใฝ่สูงอย่างแกมันต้องโดน” ขิงพูดอย่างสะใจ แต่นิวกลับอมยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะเพิ่งนึกเรื่องสนุก ๆ ออกอีกเรื่อง
“อ๊อด… ถ้าพี่ขอมาให้แกได้ล่ะจะว่าไง”
“เฮ่ย! เค้าจะให้เหรอพี่นิว” ขิงถามเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อ
“เอางี้ ถ้าพี่ทำได้แกมีอะไรมาแลกป่ะล่ะอ๊อด” นิวท้าพนัน
“ถ้าผมได้ไลน์พี่จิ๋วนะ ผมยอมขึ้นไปเป็นแดนเซอร์ให้พี่จิ๋วทั้งคืนเลยอะ” อ๊อดลั่นวาจาออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจ เพราะคิดว่านิวไม่มีทางทำอย่างที่เขาต้องการได้แน่ ๆ
“จำคำพูดแกไว้นะอ๊อด” นิวกระดกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่มเพื่อซ่อนรอยยิ้ม คิดไว้แล้วว่าเหยื่อต้องติดกับ
“พี่นิวครับ ที่ที่เราจะไปกันพรุ่งนี้ มันอยู่ส่วนไหนของนครศรี ฯ อะพี่” เหน่งถามขึ้นเมื่อมีโอกาส เพราะนิวเพิ่งแจ้งกับลูกน้องก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน หลังจากที่ได้ยินบ่น ๆ ว่ากังวลเรื่องการชุมนุมทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 13 มาหลายวัน ทางสตูดิโออาจจะได้รับผลกระทบจากการชุมนุมบ้างไม่มากก็น้อย และเหตุผลสำคัญก็คือนิวอยากจะพาลูกน้องไปพักผ่อนยาว ๆ ที่นั่นสักครั้ง
“ขนอมไง เคยไปมาแล้วนี่ ใช่มะ” เป็นโปรแกรมที่นิววางไว้ล่วงหน้านานแล้วตั้งแต่ก่อนปีใหม่ เพียงแต่ยังไม่ได้บอกใครแม้กระทั่งจิ๋วกับเจนรบ ถ้าบอกจิ๋วก่อนแต่เนิ่น ๆ มีหวังโดนห้ามไม่ให้ขับรถไปปักษ์ใต้อย่างแน่นอน ตั้งใจจะบอกให้รู้ในทีเดียวคืนนี้ อาจจะโดนโกรธบ้างแต่ก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว
“จะไปนานขนาดไหนอะพี่นิว” ขิงถามอย่างเป็นกังวล
“ไปยาวเลย จนกว่าเหตุการณ์ทางนี้จะสงบ”
“ยาวมากก็ไม่ไหวนะพี่นิว ตังค์พวกผมไม่ค่อยจะมี” อ๊อดบ่น
“เฮ้ย จะห่วงอะไร ที่นั่นมีงานให้ทำ เราจะย้ายสตูดิโอไปกลางแจ้งเลย เสี่ยเค้าเตรียมการทุกอย่างไว้รอพวกเราแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะขาดรายได้หรอกนะ กลับไปนี่ก็เตรียมของซะ สิบโมงเจอกัน”
“ค่อยยังชั่วหน่อย” ขิงถอนหายใจยาว
เมื่อได้ยินคำว่า “เสี่ย” ออกจากปากนิวก็เหมือนเป็นเครื่องการันตีแล้วว่าทุกคนจะไม่อดตาย ทำให้ลูกน้องนิวต่างโล่งอกไปตาม ๆ กัน
หลังจากจบเรื่อง บนโต๊ะก็มีหัวข้อสนทนาอื่น ๆ อีกสัพเพเหระที่ยกขึ้นมาพูดคุยเพื่อฆ่าเวลา จนกระทั่งถึงช่วงสำคัญที่หลายคนรอคอย
พิธีกรบนเวทีเกริ่นนำเล็กน้อยเพื่อเปิดตัวนักร้องรับเชิญของค่ำคืนนี้ อินโทรเพลงยอดนิยมดังขึ้นก่อนที่ร่างเล็ก ๆ แต่พลังเสียงเกินตัวจะปรากฏขึ้นบนเวที เสียงใสกล่าวทักทายแขกในร้านเรียกเสียงกรี๊ดดังก้องสถานบันเทิงอันคับแคบ ดวงหน้าหวานระบายยิ้มกว้าง สอดส่ายสายตาค้นหาใครบางคนท่ามกลางลูกค้าในร้านที่จองโต๊ะไว้จนเต็มเอี๊ยด ก่อนจะสะดุดกับเป้าหมายที่นั่งยิ้มหน้าบานอยู่ที่โต๊ะติดขอบเวที จิ๋วเกือบหลุดอุทานด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่านิวจะเลือกจองโต๊ะหน้าสุดเอาไว้
ตลอดเวลาที่จิ๋วร้องเพลงอยู่บนเวทีก็ถูกสายตาวามวาวของนิวจ้องเอา ๆ จนเธอต้องเบือนหน้าหนีอยู่บ่อยครั้ง จ้องตอบเข้าหน่อยเป็นไม่ได้ ฝ่ายนั้นจะต้องส่งรอยยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ตลอด ชักไม่แน่ใจแล้วว่านิวอยากจะมาให้กำลังใจหรือมาก่อกวนสมาธิของเธอกันแน่
แต่ถึงอย่างนั้นนิวก็พอจะทำตัวให้เป็นประโยชน์อยู่บ้าง ด้วยการคอยกันลูกค้าบางรายที่เมาจนครองสติไม่อยู่แล้วมาทำรุ่มร่ามกับเธอ บางคนยื่นแก้วเหล้าให้เป็นเชิงบังคับให้เธอดื่ม บางคนก็ทำท่าจะแตะเนื้อต้องตัวกันเกินขอบเขต แต่วิธีการของนิวก็เป็นไปอย่างแนบเนียน ชนิดที่คนเหล่านั้นไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกกันท่า
“มีใครอยากจะขอเพลงอะไรก็เขียนใส่กระดาษมาได้เลยนะคะ มีมั้ยเอ่ย” จิ๋วประกาศในช่วงพักเบรกหลังจากร้องเมดเล่ย์ต่อกันหลายเพลง
“อ่ะ มาแล้ว”
จิ๋วเห็นลายมือคุ้นเคยเขียนอยู่บนกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือใคร
“ขอใจเธอแลกเบอร์โทร…. ใครขอเพลงนี้คะ ถ้าอยากให้ร้องก็มาเป็นหางเครื่องให้หน่อยมา เดี๋ยวจิ๋วจะร้องให้จนจบเพลงเลย” จิ๋วแกล้งกระเซ้าคืนบ้าง ทำให้เจ้าของลายมือหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ ก่อนจะลุกจากเก้าอี้มาเกาะขอบเวทีแล้วกวักมือเรียกจิ๋ว
“ช่วยเซ็นให้นิวหน่อย ลูกน้องนิวมันอยากได้น่ะ”
“ลายเซ็นเหรอคะ ได้ ๆ มาเลย ๆ” จิ๋วพูดออกไมค์เหมือนคุยกับลูกค้าคนอื่น ๆ ในร้าน
“เอ้อ แล้วเขียน ID line ให้มันด้วยนะ”
“เฮ่ย! เอาไปทำไม” จิ๋วตกใจตาโตหลังจากฟังนิวพูดจบ รีบดึงไมค์ออกจากปากแทบไม่ทัน แต่ยังคงรักษารอยยิ้มไว้ไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต ทั้งที่กำลังกัดฟันพูดอยู่กับนิว
“น่านะจิ๋ว แล้วมันจะเป็นแดนเซอร์ให้ มันไม่วุ่นวายอะไรหรอก นิวรับรองได้ แต่ว่า.. เขียนแค่ครึ่งนึงพอนะ ถ้ามันไม่กล้าขึ้นไปจิ๋วก็ไม่ต้องเซ็นที่เหลือให้มัน โอเคนะ” นิวพูดเองเออเองเสร็จสรรพ
“นี่ไปตกลงอะไรกันไว้เนี่ย” จิ๋วอ่อนใจ ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดทำให้ต้องรีบตัดสินใจเขียนให้นิว
“ขอบคุณมากค่ะที่รัก” นิวยิ้มแป้นอย่างสมใจ แอบส่งจุ๊บเล็ก ๆ ไปให้คนบนเวทีแล้วหันไปส่งสัญญาณว่าทำสำเร็จให้กับลูกน้อง
“เฮ่ย! ได้จริงอะพี่นิว” อ๊อดผู้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกแกล้งก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด
“ของจริงป่ะเหอะ” ขิงแย้งอย่างไม่เชื่อ
“จริงไม่จริงก็ไม่รู้ล่ะเค้าเขียนให้เองนี่นา แต่ได้ไม่ครบนะ เค้าบอกมาว่าถ้าแกกล้าไปเป็นแดนเซอร์ให้เค้าซักสองสามเพลงเค้าจะยอมเขียนตัวที่เหลือให้แกเองกับมือ ถ้าแกตกลงก็ถือนี่ขึ้นไปบนเวทีด้วย” นิวยื่นกระดาษในมือให้อ๊อด ในใจเชื่อไปแล้วกว่าครึ่งว่าเป็น ID Line ของจิ๋วจริง ๆ เขาจ้องกระดาษที่มีลายเซ็นของนักร้องคนโปรดและตัวอักษรภาษาอังกฤษสามสี่ตัวอย่างคิดหนัก
“น่าสนนะแก ได้ใกล้ชิดกับเค้าด้วย” ขิงยุ
“นักร้องขวัญใจแกทั้งคนนะเว้ย ไม่เสี่ยงหน่อยเหรอ” เหน่งสำทับ ส่วนนิวนั่งสังเกตปฏิกิริยาของอ๊อดเงียบ ๆ ทั้งที่กำลังกลั้นขำแทบตาย งานนี้ถ้าอ๊อดยอมก็คงได้มีอะไรสนุก ๆ ดูกันอีกนาน
“เอาก็เอาวะ” อ๊อดตัดสินใจได้ในที่สุด มือหนึ่งยกแก้วที่ยังมีเหล้าอยู่เต็มขึ้นกระดกจนหมดเพื่อย้อมใจ มือหนึ่งถือกระดาษไว้มั่นก่อนผุดลุกขึ้นพรวดพราด สีหน้ามั่นอกมั่นใจอย่างที่สุด
“เยี่ยม ๆ เป็นลูกผู้ชายมันต้องอย่างนี้” นิวปรบมือเปาะแปะแล้วยกนิ้วให้ เป็นจังหวะเดียวที่จิ๋วประกาศตามตัวอาสาสมัครที่จะขึ้นไปโชว์เสต็ปบนเวทีเคียงข้างกับเธอ
“มีใครสนใจมั้ยคะ อยู่บนนี้คนเดียวมันเหงานะ มาเต้นด้วยกันหน่อยมา” พออ๊อดก้าวอย่างประหม่าขึ้นไปบนเวทีเสียงเฮก็ดังลั่นร้าน และดังเป็นพิเศษจากโต๊ะของนิวกับลูกน้อง
“เอาล่ะ ค่ำคืนนี้เรามีผู้กล้าแล้ว ดนตรีจัดมา!”
ระหว่างที่อ๊อดเต้นเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บนเวทีข้างจิ๋ว นิวก็ยกกล้องขึ้นมาบันทึกวิดีโอไว้เผื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากมันในภายหลัง จิ๋วเองก็ใช้งานลูกน้องของนิวได้อย่างคุ้มค่า คอยยุคอยกระตุ้นให้อ๊อดวาดลวดลายจนเวทีสะเทือน ไมว่าจิ๋วจะบอกให้ทำอะไรอ๊อดก็ทำตามหมดทุกอย่าง เรียกได้ว่าสู้ตายถวายหัวกันเลยทีเดียว
“คมชัดระดับ HD เลยอ๊อดเอ๊ย” นิวพึมพำแล้วหัวเราะกับอีกสองคนที่เหลือ หลังจากนี้นิวก็จะทำการแจกจ่ายคลิปวิดีโอนี้ให้คนที่รู้จักกันได้ดูกันฟรี ๆ แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
"พี่นิว ไรท์ให้หนูแผ่นนึงนะ” ขิงบอก
“ให้ผมด้วยพี่นิว”
.
.
.
นิวพารถคู่ใจเข้ามาจอดภายในอาณาเขตของบ้านหลังน้อย ถือวิสาสะใช้กุญแจที่เพิ่งได้มาหยก ๆ ไขประตูบ้านเข้าไปเพราะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านแล้วตั้งแต่อยู่ในผับ หลังจากเคาะห้องเบา ๆ สองสามทีจิ๋วก็เปิดประตูให้โดยไม่ต้องรอนาน ร่างเล็กอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำคุ้นตา กลิ่นหอมเย็น ๆ ของครีมอาบน้ำโชยมาแตะจมูก ผมยาวสลวยที่ยังเปียกหมาด ๆ บ่งบอกว่าเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จไม่นาน
นิวฉีกยิ้มกว้างให้ ทำใจดีสู้แม่เสือสาว เพราะรู้ว่าต่อจากนี้โดนสวดยับแน่ ๆ
“ไปส่งลูกน้องมาเหรอ?”
“ค่ะ”
“ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ เล่นอะไรแผลง ๆ ล่ะตอนอยู่ที่ผับ” จิ๋วปรายตามองก่อนหมุนตัวเดินกลับไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ใช้ผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนไหล่ซับน้ำออกจากเรือนผมสีน้ำตาลไหม้ ทำเป็นเมินไม่สนใจอีกคน
“โถ่.. ก็แค่แกล้งลูกน้องมันเล่นนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเอง” นิวเดินเข้าไปวางมือบนไหล่บางก่อนแย่งเอาผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้จิ๋วอย่างประจบประแจง เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ว่าอะไรนิวจึงปรนนิบัติต่อได้อย่างสบายใจ
“อาบน้ำรอเค้าเหรอคะที่รัก” นิวพยายามสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายด้วยการพูดหยอกล้อตามนิสัย
“ไม่ขำ” จิ๋วตัดบทเสียงเข้ม
“ตัวก็นิดเดียว แต่ทำไมดุจังเลยอะ” นิวยังไม่หยุดล้ออีกคน พยายามทำหน้าทะเล้นส่งยิ้มให้ผ่านกระจก แต่จิ๋วกลับทำหน้านิ่งก่อนจะยึดผ้าขนหนูคืน
“ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวเช็ดเอง”
“โอ๋…อย่างอนเค้าเลยนะคนดี” นิวก้าวไปนั่งลงกับพื้นข้างเก้าอี้ตัวเล็กหน้ากระจกที่จิ๋วใช้ประจำ เงยหน้าขึ้นมองจิ๋วด้วยสายตาเว้าวอน สองมือเขย่าขาเธอเหมือนเด็ก ๆ จิ๋วถอนหายใจเบา ๆ อ่อนใจกับความใจอ่อนของตน
“ไปนั่งอะไรตรงนั้น ลุกขึ้นมาได้แล้ว”
ถึงจิ๋วจะบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงแต่นิวก็ยังไม่ยอมลุกขึ้นมาอยู่ดี
“คือ…. นิวมีเรื่องจะบอกจิ๋ว” นิวก้มหน้ามองพื้นอ้ำอึ้ง
มือที่กำลังเช็ดผมหยุดลงแล้วเลื่อนเก้าอี้ห่างจากกระจกเล็กน้อยเพื่อให้คุยกับนิวได้ถนัด
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“พรุ่งนี้… นิวจะพาลูกน้องหนีม็อบลงใต้แต่เช้า จิ๋วกลับจากเชียงใหม่แล้วลงไปหานิวที่นั่นนะ” นิวพูดไปก็ส่งยิ้มแหยๆ ไปเพราะกลัวความผิด ดวงตาของจิ๋ววาววับขึ้นมาทันทีด้วยความไม่พอใจ นั่นยิ่งทำให้เธอใจคอไม่ดี
แต่ที่น่ากลัวกว่าคือจิ๋วไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากนั้น เพียงเหลือบมองนิวด้วยสายตานิ่งเรียบและสีหน้าที่อ่านไม่ออก นิวเปลี่ยนมายืนข้างหลังจิ๋วแล้วโน้มตัวลงไปโอบร่างเล็กเอาไว้หลวม ๆ เปล่งเสียงนุ่มถามข้างหูแผ่วเบา
“ขอโทษนะที่นิวไม่ได้บอกก่อน มัวแต่ยุ่งเรื่องอื่นจนลืมไปเลย”
“….” ดวงตากลมที่มองสบผ่านกระจกเงายังคงมีแววขุ่นเคือง
“แต่นิวอยากให้จิ๋วไปพักผ่อนด้วยกันที่นั่นจริง ๆ นะ คิวงานจิ๋วก็ไม่ค่อยมีแล้วด้วยช่วงนี้ อยู่ที่นี่นิวเป็นห่วง”
“….” นิวพยายามอ่านความรู้สึกจากแววตาคู่นั้น เบาใจขึ้นมาบ้างที่เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอ่อนแสงลง นิวอาศัยโอกาสนี้พูดต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลสม่ำเสมอ “จะยังโกรธนิวอยู่ก็ได้ แต่ไปด้วยกันนะคนดี ไปที่ใหม่ ๆ จะได้ไม่จำเจ ถือซะว่าไปเพื่อคลายเครียดแล้วกันนะ” คางมนค่อย ๆ วางเกยบนไหล่เล็กเบา ๆ ขยับริมฝีปากไปกระซิบชิดริมหูจนคนถูกกล่อมต้องย่นคอหนีเพราะไอร้อนจากเรียวปากบาง
“จะไปที่ไหนล่ะ” นิวก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อซ่อนรอยยิ้มพอใจเมื่อจิ๋วเอ่ยปากถามในที่สุด
“ทะเลขนอมน่ะ นิวมีกุญแจบ้านพักตากอากาศของลุงเกื้ออยู่ ไม่มีปัญหาเลยเรื่องที่พัก”
“ลุงเกื้อ?” จิ๋วขมวดคิ้ว นึกคุ้นกับชื่อนี้อยู่แต่ยังไม่มั่นใจ
“ลุงเกื้อที่มาเยี่ยมบ้านนิวตอนปีใหม่ไง เค้าเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อและมีบุญคุณกับนิวมาก ลุงเค้าไม่มีลูกเลยรักนิวกับพี่หนุ่มเหมือนลูก นิวมีสตูดิโอนี้ได้ก็เพราะลุงเกื้อนั่นแหละที่ช่วยเหลือทุกอย่าง”
ขณะที่ฟังนิวอธิบายจิ๋วก็พยักหน้ารับเบา ๆ เป็นเชิงว่าเข้าใจ
“เรื่องสำคัญขนาดนี้นิวลืมบอกจิ๋วจริง ๆ เหรอ” คำถามหยั่งเชิงที่จิ๋วยิงใส่ทำให้เป้าหมายแอบสะดุ้งเบา ๆ อาการหลบสายตาของนิวทำให้จับพิรุธได้อย่างง่ายดาย
“คือ… มันก็ไม่เชิงหรอกนะ นิวแค่… แค่กลัวจิ๋วว่าเรื่องขับรถไปเอง จะยกเลิกก็ไม่ได้ นิวเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว”
คำอธิบายนั้นทำให้คนฟังหน้าตึงขึ้นมาอีกครั้ง กรุ่น ๆ ทั้งอารมณ์โกรธและน้อยใจปะปนกัน และนิวเองก็ไม่กล้าเงยหน้ามาสบตาเธอในกระจก มีเพียงอ้อมกอดอุ่นที่โอบรอบกายไว้ไม่ยอมปล่อย
“ทำไมไม่บอกซะพรุ่งนี้เลยล่ะ” เสียงหวานติดประชดประชันถูกกดให้ต่ำลงกว่าปกติ เพื่อข่มความรู้สึกภายในที่กำลังจะล้นออกมาให้อีกคนได้รับรู้ เธอขืนตัวออกจากอ้อมแขนก่อนสะบัดผ้าขนหนูที่เช็ดผมอยู่คลุมศีรษะของนิว กดมือลงไปแรง ๆ บนผืนผ้าเพื่อระบายความหงุดหงิด จนสาแก่ใจแล้วจึงลุกหนีจากตรงนั้นไปที่เตียงนุ่ม ทิ้งตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้กับอีกคนเพื่อตัดทุกบทสนทนา
นิวดึงผ้าขนหนูออกจากศีรษะแทบจะทันทีหลังจากที่จิ๋วเดินหนีไป ผมเผ้ายุ่งเหยิงล้อมกรอบสีหน้ากลัดกลุ้ม หัวคิ้วขมวดยุ่งเมื่อเหลือบไปเห็นอาการของคนบนเตียงนอน ไม่มีทางอื่นนอกจากการง้อขอคืนดี หากปล่อยปัญหานี้ทิ้งไว้จนตกตะกอนอยู่ในใจย่อมไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเวลานี้จิ๋วไม่อยากจะฟังคำแก้ตัวใด ๆ ก็ตามที
“จิ๋ว เค้าขอโทษ” เสียงที่กระซิบอยู่ข้างหูบอกว่านิวรู้สึกผิดจริง ๆ
เตียงด้านที่ว่างยุบยวบตามน้ำหนักตัวที่ทิ้งลงมา วงแขนวาดมาเกี่ยวเอวบางเอาไว้จากข้างหลังแล้วดึงเข้ามากอดจนชิด ไออุ่นถูกถ่ายทอดให้กันและกันจากกายที่แนบสนิท
“ไปด้วยกันนะ… นิวอยากให้จิ๋วไปพักผ่อน ยังไม่ต้องยกโทษให้นิวก็ได้” น้ำเสียงของนิวแผ่วลงทุกทีเพราะความมั่นใจถูกลดทอนด้วยความเงียบจากอีกคน แต่ถึงอย่างนั้นนิวก็ไม่ยอมแพ้ให้กับความมึนตึงที่เกิดขึ้นระหว่างกัน
“คราวหลังถ้าต้องเดินทางไกลอีกนิวสัญญาว่านิวจะบอกจิ๋วก่อนแต่เนิ่น ๆ เลย”
“สัญญาแล้วมั่นใจเหรอว่าจะทำได้” คำถามเรียบ ๆ ที่แทรกขึ้นทำให้นิวใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง
“มั่นใจสิ นิวไม่ยอมให้ทุกอย่างมันซ้ำรอยเดิมหรอกนะ” นิวย้ำคำหนักแน่นด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย พร้อมปลายนิ้วที่สอดประสานกับนิ้วเรียวเล็กแล้วบีบกระชับส่งให้คำพูดนั้นน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
“ถ้าทำได้อย่างที่พูดมันก็ดี…” จิ๋วถอนหายใจเบา ๆ เหมือนไม่แน่ใจนัก ซึ่งนิวก็เข้าใจดี
“จิ๋วอาจจะยังไม่เชื่อนิวในตอนนี้ แต่นิวจะพิสูจน์ให้จิ๋วเห็นว่านิวทำได้อย่างที่พูดจริง ๆ” ท่ามกลางความลังเลนั้นหัวใจก็พลันชุ่มชื้นขึ้นมาเพราะคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของนิว แต่เธอไม่ให้นิวรู้ตอนนี้หรอกว่าเธอรู้สึกยังไง จึงกลบเกลื่อนด้วยการไล่อีกคนไปอาบน้ำ
“ไปอาบน้ำนอนได้แล้วนิว เหม็นเหล้า” บอกพร้อมกับดันตัวออกจากอ้อมกอดของคนข้างหลัง แต่นิวกลับขยับเข้ามาชิดกันอีกครั้ง ซ้ำยังแกล้งจิ๋วด้วยการจับพลิกร่างเธอขึ้นนอนหงาย แล้วโน้มใบหน้าลงซุกจมูกโด่งไซ้ซอกคอขาว สูดกลิ่นกายหอมกรุ่นอย่างถือวิสาสะ จนผู้ถูกกระทำเกิดอาการขนลุกซู่
“ไม่เหม็นนะ นิวตัวหอมออก” นิวกระซิบเสียงอู้อี้ ลมหายใจร้อนจากริมฝีปากอุ่นเป่ารดผิวเนื้ออ่อนให้รู้สึกวูบวาบตรงช่องท้อง สิ่งที่นิวทำกับคำพูดที่หลุดจากปากมันไปคนละทางกันชัด ๆ มีอย่างที่ไหนกำลังดมกลิ่นคนอื่นอยู่กลับบอกว่าตัวเองตัวหอม ถ้าไม่เมามากก็คงจะเพี้ยนจัด
“นิว... พอแล้ว ไปอาบน้ำ ถ้ายังเล่นอะไรบ้า ๆ อีกจะไล่ไปนอนนอกห้องเลยคอยดู” จิ๋วรั้งใบหน้าของนิวออกจากซอกคอของตนจนสำเร็จ สบตากับคนที่คร่อมร่างตนเองอยู่ด้วยแววตาดุ ๆ เพื่อขู่ให้กลัวเสียบ้าง ทว่าแก้มขาวยังคงเจือสีระเรื่อจากฝีมือของนิวเมื่อครู่
“โอเค ๆ ไปแล้วค่ะ แต่รอเค้าก่อนนะอย่าเพิ่งหลับ”
“มันดึกแล้ว จะให้รออีกทำไม ง่วง” จิ๋วแย้ง
“รอให้นิวกลับมา goodnight kiss ก่อนนอนยังไงล่ะ”
สิ้นคำตอบที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มและแววตาหวานซึ้ง จิ๋วก็ต้องพลิกตัวหนีไปอีกทางเพราะทนสบสายตานิวไม่ไหว ใบหน้าเริ่มร้อนฉ่าขึ้นมาอีกรอบ แม้ไม่ได้เห็นสีหน้าของนิวแต่เสียงหัวเราะที่ดังอยู่ในลำคอก็ทำให้เธอเดาอารมณ์อีกคนได้ไม่ยาก คงสมใจแล้วสิที่ได้ไล่ต้อนเธอจนตกเป็นรองได้ขนาดนี้
“ถ้าหลับก่อนระวังจะโดนลักหลับนะ ฮ่า ๆ”
เป็นอีกครั้งที่จิ๋วต้องห้ามมือของตนไม่ให้เขวี้ยงหมอนใส่ใบหน้าทะเล้นของคนรัก
ความคิดเห็น